Supersense: ทำไมเราถึงเชื่อในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ

supersense ทำไมเราเชื่อในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ

Bruce M. Hood

สารบัญอารัมภบท: ทำไมเราถึงทำลายบ้านชั่วร้าย?------------------

หนึ่งในความลับอะไร John McEnroe และ David Beckham แบ่งปัน?--------

สองคุณสามารถสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม-------------------------

สามที่สร้างสิ่งสร้างสรรค์?.--------------------------------

เด็กสี่คนกำลังเบ่งบานและคึกคัก--------------------------------

ห้าใจอ่าน 101--------------------------------------107 อุบัติเหตุประหลาดหกครั้ง----------------------------------------135 เซเว่นคุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?---167 แปดทำไมพนักงานขายเดินทางนอนกับตุ๊กตาหมี?------------197 เก้าชีววิทยาแห่งความเชื่อ-------------------------------------223 สิบคุณจะปล่อยให้ภรรยาของคุณนอนกับ Robert Redford หรือไม่?------------249

บทส่งท้าย----------------------------------------------255 กิตติกรรมประกาศ--------------------------------------257 แหล่งที่มา------------------------------------------259 ดัชนี-------------------------------------------------289 เกี่ยวกับเครดิตผู้เขียนครอบคลุมลิขสิทธิ์เกี่ยวกับผู้จัดพิมพ์

อารัมภบท: ทำไมเราถึงทำลายบ้านชั่วร้าย?

บ้านที่ 25 Cromwell Street, Gloucester ประเทศอังกฤษไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไปในเดือนตุลาคม 2539 สภาเทศบาลเมืองสั่งให้ถอนร่องรอยทางกายภาพทั้งหมดของบ้านของเวสต์ซึ่งหญิงสาวถูกข่มขืนทรมานและสังหารโดยเฟร็ดและโรสแมรี่ในช่วงปี 1970เฟร็ดใช้ทักษะของผู้สร้างเพื่อปกปิดร่างกายที่บ้านสามชั้นของครอบครัวครั้งแรกที่เขาฝังพวกเขาไว้ใต้ห้องใต้ดิน แต่เมื่อเขาวิ่งออกจากอวกาศเขาก็หันไปที่สวนเฮเทอร์ลูกสาววัยสิบหกปีของเขาถูกฝังอยู่ใต้ลานบ้านที่เพิ่งวางใหม่ในระหว่างการสอบสวนมีข่าวลือว่าหินปูหินบางก้อนถูกขโมยจากที่เกิดเหตุชาวบ้านที่ไร้ยางอายได้กู้แผ่นพื้นและผู้อยู่อาศัยที่ไม่รู้ตัวตอนนี้กลายเป็นเจ้าของบาร์บีคิวที่ทำจากหินที่ใช้ซ่อนความน่ากลัวที่ถนนครอมเวลล์ 1 นิคเจ้าของบ้านข่าวลือเป็นตำนานเขาอยู่ที่นั่นสภาได้ลบอิฐทุกครั้งสิ่งเหล่านี้ถูกบดเป็นฝุ่นแล้วกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ดินแดนในสถานที่ที่ไม่มีเครื่องหมายในแสงแดดอันไพเราะของ Holy Thursday, เมษายน 2007 ฉันยืนอยู่ในจุดที่แน่นอนซึ่งมีการฝังศพหลายแห่งนิคช่วยฉันค้นหาสิ่งนี้ตอนนี้เป็นทางเดินระหว่างบ้านแถวที่เหลือและโบสถ์มิชชั่นวันที่เจ็ดฉันไม่รู้เกี่ยวกับความแปลกประหลาดของการวางแผนถนนและรู้สึกตกใจกับความใกล้ชิดของสวรรค์สู่นรกบนโลกประชาคมสามารถจินตนาการได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับประตูถัดไปเมื่อพวกเขาสวดอ้อนวอน?ความใกล้ชิดกับคริสตจักรนี้ทำให้ความรู้สึกต่ำช้าของเวสต์เพิ่มความชั่วช้าหรือไม่?ฉันดูครึ่งชั่วโมงเป็นเด็กของกลอสเตอร์ใช้ทางเดินที่สะดวกสบายเพื่อไปยังที่ใดก็ตามที่พวกเขาไปส่วนใหญ่มุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะใกล้เคียงเดือนเมษายนที่ร้อนแรงอย่างไม่สมควร

กีดขวาง

วันได้นำเสื้อผ้าฤดูร้อนที่หลวมเสียงหัวเราะไร้กังวลและฤดูใบไม้ผลิในขั้นตอนของเยาวชนผิดปกติมากสำหรับเมืองอังกฤษที่น่ากลัวนี้ผ่านนายกขณะที่พวกเขาเดินผ่านศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มีการแต่งตัวเกินจริงซึ่งดูเหมือนจะหมกมุ่นอยู่กับทางเดินอย่างแปลก ๆ พวกเขาก็ไม่สนใจความทุกข์ทรมานของมนุษย์และความโหดร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อสามสิบปีก่อนและทำไมไม่?มันเป็นเพียงพื้นที่ว่างทำไมเราถึงทำลายและลบบ้านที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมที่น่ากลัว?สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับอพาร์ทเมนท์ออกซ์ฟอร์ดในมิลวอกีรัฐวิสคอนซินที่ซึ่งเจฟฟรีย์ดาห์เมอร์อาศัยอยู่และบ้านที่เอียนฮันท์ลีย์ฆ่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนในโซแฮมประเทศอังกฤษสถานที่ของ Dahmer ตอนนี้เป็นที่จอดรถและมีการปิดวิทยาลัย 5 แห่งที่สนามหญ้าบ้านที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมที่โด่งดังนั้นแตกต่างกันในการขายต่อบ้านโคโลราโดที่พบศพเด็กจอนเบนเมย์แรมซีย์อยู่ในและนอกตลาดขายต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเสมอนายหน้าของสหรัฐอเมริกาเรียกคุณสมบัติเหล่านี้ว่า“ บ้านที่ถูกตีตรา” และพวกเขานำเสนอความท้าทายทางการตลาดอย่างมากกฎหมายการเปิดเผยข้อมูลแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐในรัฐแมสซาชูเซตส์หากคุณไม่ถามพวกเขาไม่จำเป็นต้องบอกในโอเรกอนผู้ขายไม่จำเป็นต้องเปิดเผยอะไรเลยนายหน้าชาวฮาวายถูกต้องตามกฎหมายเพื่อเปิดเผยทุกสิ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของทรัพย์สินรวมถึงผี 2 ในสหราชอาณาจักรคุณต้องประกาศว่าคุณได้หลุดพ้นจากเพื่อนบ้านในข้อพิพาทหรือไม่แต่ไม่มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่จะบอกผู้ซื้อที่คาดหวังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การฆาตกรรมของบ้านการหลอกลวงเป็นเรื่องปกติเนื่องจากคนส่วนใหญ่ต้องการเห็นสถานที่เหล่านี้ถูกกำจัดจากการดำรงอยู่และความทรงจำคุณสามารถอาศัยอยู่ในบ้านที่มีการฆาตกรรมครั้งหนึ่งได้หรือไม่?คุณเป็นคนที่จะข้ามถนนเพื่อหลีกเลี่ยงการยืนอยู่ในจุดที่ความชั่วร้ายเกิดขึ้นหรือคุณจะเพลิดเพลินกับความตื่นเต้น?ทำไมเราถึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไรบางอย่างโดยไม่มีอะไร?อาคารทางกายภาพเป็นเครื่องเตือนใจที่ทรงพลังที่สามารถกระตุ้นความทรงจำและอารมณ์ที่เจ็บปวดบางทีฉันอาจจะไม่ดีไปกว่าเส้นทางของผู้ชมที่น่ากลัวไปยังถนนครอมเวลล์ที่นิคได้เห็นมานานหลายปีหากไม่มีอะไรให้ดูนั่นก็ไม่ควรทำให้สิ่งแปลกประหลาดอยู่ห่างออกไป?อย่างน้อยการลบการเตือนความจำที่มองเห็นทำให้ชุมชนสามารถรักษาและลืมได้ง่ายขึ้นแต่ทำลายอาคารบดขยี้ซากปรักหักพังเป็นฝุ่นและ

อารัมภบท: ทำไมเราถึงทำลายบ้านชั่วร้าย?

VII

รูปที่.1: The Passageway ที่ 25 Cromwell Street ที่ Wests ฝังไว้มากมาย

ของเหยื่อของพวกเขา

ภาพของผู้แต่ง

นำมันไปยังสถานที่ลับโดยมีผู้ทำลายล้างภายใต้คำสาบานที่จะไม่เปิดเผยที่ใดที่ดูเหมือนว่าจะมากเกินไปเล็กน้อย 3 สิ่งที่กระตุ้นให้นักล่าของที่ระลึกต้องการเป็นเจ้าของอิฐหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับฆาตกร?เช่นเดียวกันกับวัตถุเช่นของที่ระลึกของนาซีเว็บไซต์ประมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ eBay ได้ห้ามการขายรายการเหล่านี้และอะไรก็ตามที่ความเกลียดชังความรุนแรงหรือการแพ้แต่สิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้พวกเขาในสถานที่แรก?อาจจะเป็นไฟล์

VIII

กีดขวาง

ความตื่นเต้นของการถูกโค่นล้มผู้ปกครองคนใดที่มีวัยรุ่นที่ดื้อรั้นรู้ว่า Macabre เป็นแหล่งที่มาของความหลงใหลสำหรับผู้ใหญ่เหล่านี้ส่วนหนึ่งของการเติบโตขึ้นคือความจำเป็นในการแสดงความเป็นปัจเจกบุคคลผ่านคำแถลงของการกบฏโดยธรรมชาติของพวกเขาหัวข้อข้อห้ามวางอุบายของเด็กที่ต้องการจะอุกอาจในความพยายามที่จะตกใจสิ่งที่เกี่ยวกับนักสะสมของความทรงจำที่ร้ายกาจน้อยกว่าล่ะ?ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ใหญ่จะจ่ายเงินที่ดีสำหรับรายการส่วนตัวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของคนที่มีชื่อเสียงบางคนเป็นเพียงวัตถุทั่วไป แต่นักสะสมต้องการพวกเขาเพราะการเชื่อมต่อกับคนดังทำไมคนอื่นจะเสนอราคาบนอีเบย์สำหรับชิ้นส่วนของผ้าลินินเตียงที่ครั้งหนึ่งเคยนอนหลับโดย Elvis Presley?ทำไมต้องจ่าย $ 2,000 สำหรับผ้าเช็ดปากที่นำมาจากชุดแต่งงานของ Princess Diana?4 เว็บไซต์การกุศล www.clothesoffourback.com เริ่มต้นโดย“ Malcolm in the Middle” แม่ Jane Kaczmarek และนักแสดง“ West Wing” Bradley Whitford นักแสดงการประมูลเสื้อผ้าที่สวมใส่โดยคนดังเพื่อประโยชน์ขององค์กรการกุศลสำหรับเด็กรายการเหล่านี้จำนวนมากถูกสวมใส่ในพิธีมอบรางวัลเช่นรางวัลออสการ์หรือเอ็มมี่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นภายใต้แสงจ้าของสื่อสปอตไลท์และแม้แต่ดวงดาวที่น่าจะชนะมากที่สุดก็ต้องเหงื่อออกเล็กน้อยในความคาดหมายเมื่อซองจดหมายเปิดออกอย่างไรก็ตามชุดทักซิโด้และชุดสกปรกของพวกเขานั้นเป็นที่ต้องการอย่างมากต่อประชาชนทั่วไปองค์กรการกุศลที่ใช้ในการเสนอตัวเลือกการทำความสะอาดแบบแห้งให้กับผู้ประมูลประมูลที่ประสบความสำเร็จ แต่ในที่สุดก็ทิ้งบริการเนื่องจากไม่มีใครต้องการล้างเสื้อผ้าบางทีผู้ประมูลคิดว่าพวกเขาสามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ในราคาถูกมากขึ้นอย่างไรก็ตามสิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่น่าเป็นไปได้ถ้าเงินมีไว้เพื่อการกุศลทำไมไม่ทำความสะอาดเสื้อผ้ามือสอง?ท้ายที่สุดเรามักจะล้างเสื้อผ้าของเราเองเมื่อพวกเขาเหงื่อออกฉันคิดว่าคำตอบที่แท้จริงอาจเป็นไปได้ว่านักสะสมไม่ต้องการสวมใส่พวกเขาพวกเขาต้องการเป็นเจ้าของสิ่งที่ใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวกับไอดอลและการเชื่อมต่อมากขึ้นมันเป็นเครื่องรางในการใช้คำดั้งเดิม: ความเชื่อที่ว่าวัตถุมีพลังเหนือธรรมชาติ 5 นักสะสมของที่ระลึกและผู้ที่มีเครื่องรางของวัตถุมีพฤติกรรมที่แปลกประหลาดมากพวกเขามีสาเหตุมาจากวัตถุทางกายภาพที่มองไม่เห็นคุณสมบัติที่ทำให้พวกเขาไม่เหมือนใครและไม่สามารถถูกแทนที่ได้ความคิดแบบนี้เข้าใจผิดสำหรับสิ่งหนึ่งวัตถุที่มีนัยสำคัญสามารถปลอมได้อิฐนั่นคือทักซิโด้หรือผ้าปูที่นอนเตียงนั้น

อารัมภบท: ทำไมเราถึงทำลายบ้านชั่วร้าย?

ทรงเครื่อง

อาจเป็นการปลอมแปลงในยุคกลางมีการค้าขายคำรามของคริสเตียนพระธาตุเพื่อรองรับพยุหเสนาของผู้แสวงบุญเดินทางข้ามยุโรปจากศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์หนึ่งไปยังอีกพระธาตุอาจเป็นวัตถุใด ๆ ที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับคนดังทางศาสนากระดูกที่เป็นของนักบุญและผู้พลีชีพได้รับความนิยมเป็นพิเศษเช่นเดียวกับรายการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระเยซูบิตของไม้กางเขนหรือชิ้นเล็กชิ้นน้อยของผ้าห่อศพนั้นง่ายต่อการปลอมและการค้าก็เร็วหากชิ้นส่วนทั้งหมดของไม้กางเขน Cruci ﬁ xion ถูกนำกลับมารวมกันอาจจะมีเพียงพอที่จะสร้างหีบเจมส์แรนดี้ผู้สงสัยอย่างมืออาชีพเล่าถึงวิธีการที่เด็กชายที่เติบโตขึ้นมาในมอนทรีออลเขาไปเยี่ยมศาลเจ้ากล่าวเกี่ยวกับศาลเจ้าBrother Andre ’เป็นที่รู้จักกันในนาม Miracle-Worker of Mount Royalผู้แสวงบุญจะไปที่ศาลเจ้าเพื่อแสวงหาการรักษาเหนือธรรมชาติสำหรับความเจ็บป่วยทุกรูปแบบและสามารถเอื้อมมือไปสัมผัสขวดที่มีหัวใจที่เก็บรักษาไว้ของพระสงฆ์ซึ่งอยู่ด้านหลังตะแกรงโลหะในตู้ที่หรูหราRandi จำได้ว่าพ่อและเจ้าพ่อของเขาถูกถามโดยเจ้าของวันหนึ่งของนักบุญโจเซฟเพื่อตัดผ้าสีดำม้วนที่ซื้อจากร้านค้าในท้องถิ่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆสิ่งเหล่านี้ถูกขายในร้านขายของที่ระลึกเป็นชิ้นส่วนของเสื้อคลุมจริงของ Andre Andre สวมใส่บนเตียงมรณะของเขาบางทีประสบการณ์ในช่วงต้นนี้อาจมีความลึกซึ้งในการแรนดี้กลายเป็นคนขี้ระแวง 6 แม้ว่าวัตถุจะไม่น่าไว้วางใจ แต่หลายคนก็ปฏิบัติต่อสิ่งของดังกล่าวราวกับว่าพวกเขามีทรัพย์สินบางอย่างที่สืบทอดมาจากเจ้าของคนก่อนคุณสมบัติที่กำหนดมาตรการทางวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าวัตถุดังกล่าวมีความเป็นจริงภายในหรือสาระสำคัญที่ทำให้พวกเขาไม่เหมือนใครและไม่สามารถถูกแทนที่ได้ใช่บ้านและวัตถุเหล่านี้มีประวัติและใช่พวกเขาอาจเตือนเราถึงเหตุการณ์และผู้คน แต่หลายคนเชื่อหรือที่สำคัญกว่านั้นก็คือราวกับว่าแก่นแท้เหล่านี้เป็นความจริงทางกายภาพและเป็นรูปธรรมสิ่งที่ต้องสัมผัสหรือสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงแต่แน่นอนพวกเขาไม่ใช่เหงื่อและเลือดอาจมี DNA แต่ไม่ใช่อิฐและปูนจากบ้านค่อนข้างมีอย่างอื่นที่เรารู้สึกในวัตถุเหล่านี้สิ่งเหนือธรรมชาติSupersense หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของความเชื่อเหนือธรรมชาติทำไมพวกเขาถึงเป็นเรื่องธรรมดาและทำไมพวกเขาถึงแตกต่างกันมากในการกำจัดฉันเชื่อ

กีดขวาง

คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้แต่ละข้อสามารถพบได้ในธรรมชาติของมนุษย์และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตใจที่กำลังพัฒนาของเด็กมนุษย์มีแนวโน้มที่จะมีต่อความเชื่อเหนือธรรมชาติบุคคลที่มีการศึกษาสูงและชาญฉลาดจำนวนมากประสบกับความรู้สึกที่ทรงพลังว่ามีรูปแบบกองกำลังพลังงานและหน่วยงานที่ดำเนินงานในโลกที่ถูกปฏิเสธโดยวิทยาศาสตร์เพราะพวกเขาไปไกลกว่าขอบเขตของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เราเข้าใจในปัจจุบันที่สำคัญกว่านั้นประสบการณ์ดังกล่าวไม่ได้รับการพิสูจน์จากหลักฐานที่เชื่อถือได้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นเหนือธรรมชาติและไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์ความโน้มเอียงหรือความรู้สึกว่าพวกเขาอาจเป็นจริงคือความเหนือกว่าของเราทำไมมนุษย์ถึงเต็มใจที่จะสร้างความบันเทิงให้กับความเป็นไปได้ของเหนือธรรมชาติ?อย่างที่เราจะเห็นคนส่วนใหญ่เชื่อเพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขามีประสบการณ์เหตุการณ์เหนือธรรมชาติเป็นการส่วนตัวหรือพวกเขาเคยได้ยินคำให้การที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติจากสิ่งที่พวกเขาไว้วางใจฉันขอยืนยันว่าเราตีความประสบการณ์ของเราและรายงานของผู้คนอื่น ๆ ภายในกรอบเหนือธรรมชาติเพราะกรอบนั้นเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดอย่างสังหรณ์ใจมันสะท้อนกับวิธีที่เราคิดว่าโลกทำงานด้วยโครงสร้างและกลไกที่ซ่อนอยู่ทุกรูปแบบหากสิ่งนี้เป็นจริงเราต้องถามว่า Supersense นี้มาจากไหน?บางคนแย้งว่าต้นกำเนิดที่ชัดเจนที่สุดสำหรับความเชื่อเหนือธรรมชาติมาจากรูปแบบต่าง ๆ ของศาสนา - จากอุดมการณ์ที่จัดระเบียบดั้งเดิมไปจนถึงเวทย์มนต์ยุคใหม่ประเภทต่าง ๆ ที่ดึงดูดความสนใจของเทพเจ้าเทวดาปีศาจผีหรือวิญญาณแต่ละศาสนาที่จัดตั้งขึ้นในโลกแสดงความเชื่อเกี่ยวกับหน่วยงานที่มีพลังเหนือธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นนักบวชที่เทศนาในการเทศน์หรือคนนอกรีตที่อยู่บนทุ่งหญ้าทุกศาสนารวมถึงความเชื่อเหนือธรรมชาติบางรูปแบบ7 แต่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นศาสนาหรือจิตวิญญาณเพื่อยึดครองสำหรับผู้ที่ไม่นับถือศาสนาอาจเป็นความเชื่อเกี่ยวกับความสามารถเหนือธรรมชาติพลังจิตพลังจิตหรือปรากฏการณ์ใด ๆ ที่ท้าทายกฎหมายธรรมชาติผู้ที่ไม่ได้สวดอ้อนวอนในวัดหรือคริสตจักรอาจต้องการปรับเป็นหนึ่งในช่องเคเบิลทีวีจำนวนมากที่อุทิศให้กับการสอบสวนอาถรรพณ์หรือโทรหาหนึ่งในเครือข่ายโทรศัพท์จิตที่ต้องการคำตอบแม้แต่ความเชื่อเกี่ยวกับโชคเก่า ๆ โชคชะตาและโชคชะตาที่ได้รับการสนับสนุนจากความเหนือกว่าของเราทำไมหนังสือพิมพ์ถึงพิมพ์คำทำนายดวงชะตาหากผู้อ่านของพวกเขาไม่สนใจ

อารัมภบท: ทำไมเราถึงทำลายบ้านชั่วร้าย?

พวกเขา?ศาสนากิจกรรมอาถรรพณ์และการคิดที่ปรารถนาเป็นสามคะแนนในการคิดอย่างต่อเนื่องคุณอาจสร้างความบันเทิงให้กับอาณาจักรแห่งความเชื่อที่แตกต่างกันทั้งสามหรือทั้งสาม แต่พวกเขาทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเป็นจริงว่าพวกเขาเป็นจริงSupersense นั้นอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมแปลก ๆ หรือความเชื่อโชคลางที่เราพยายามควบคุมผลลัพธ์ผ่านเหนือธรรมชาติใน ﬂ uenceเมื่อกลุ่มทำหน้าที่เกี่ยวกับไสยศาสตร์เหล่านี้เราเรียกพวกเขาว่าพิธีกรรมพิธีกรรมเมื่อพวกเขาเป็นส่วนตัวเราเรียกพวกเขาว่าเป็นนิสัยใจคอศาสนาเต็มไปด้วยพิธีกรรมเพื่อเอาใจพระเจ้า แต่นอกโบสถ์หรือวัดมีพิธีกรรมทางโลกทุกประเภทที่ผู้คนใช้เพื่อควบคุมชีวิตของพวกเขาช่วงเหล่านี้มีตั้งแต่ไสยศาสตร์ที่เรียบง่ายส่งผ่านวัฒนธรรมเช่นการเคาะไม้ไปจนถึงพิธีกรรมส่วนตัวที่แปลกประหลาดที่แปลกประหลาดที่เรามีส่วนร่วมเพื่อนำโชคมาให้เราตัวอย่างเช่นหนึ่งในอดีตนายกรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีโทนี่แบลร์ที่มีความเชื่อโชคลางของโทนี่แบลร์คือการสวมรองเท้าคู่เดียวกันเสมอเมื่อยืนขึ้นในรัฐสภาเพื่อตอบคำถามของนักการเมือง 8 ในสหรัฐอเมริกาวุฒิสมาชิกจอห์นแมคเคนเปิดเผยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับแคตตาล็อกของเขาถือขนนกโชคดีและเข็มทิศที่โชคดีเสมอนอกจากนี้เขายังถือเพนนีโชคดีนิกเกิลที่โชคดีและโชคดีเมื่อคุณเริ่มที่จะเกาพื้นผิวคุณก็มีพวกเราหลายคนรวมถึงผู้นำระดับชาติของเรามีความสูงในกรณีของจอห์นแมคเคนมีจำนวน 31“ ซูเปอร์เซ็นต์” ในกระเป๋าของเขา 9 ในทางกลับกันประธานาธิบดีบารัคโอบามาพึ่งพาการเล่นบาสเก็ตบอลในวันเลือกตั้งเพื่อพาเขาไปที่ทำเนียบขาวบางครั้ง Supersense ของเราไม่ชัดเจนมันสามารถแฝงตัวอยู่ในใจของเรากระซิบข้อสงสัยและเตือนให้เราระวังอาจเป็นความรู้สึกอึดอัดที่เราได้สัมผัสเมื่อเราเข้าไปในห้องหรือความเชื่อมั่นว่าเรากำลังมองหาดวงตาที่มองไม่เห็นเมื่อไม่มีใครอยู่ที่นั่นมันอาจเป็นความไม่สบายใจของเราในการสัมผัสวัตถุบางอย่างหรือเข้าสู่สถานที่บางแห่งที่เรารู้สึกว่ามีการเชื่อมต่อกับคนที่ไม่ดีมันอาจเป็นอาหารและยาที่เรากินได้ซึ่งเราคิดว่าจะเปลี่ยนร่างกายและจิตใจของเราผ่านพลังเวทย์มนตร์มันอาจเป็นคุณค่าของอารมณ์อ่อนไหวที่เราวางไว้บนวัตถุไร้ค่าซึ่งทำให้มันเป็นเอกลักษณ์และไม่สามารถถูกแทนที่ได้Supersense เป็นเรื่องเกี่ยวกับทั้งหมดข้างต้นและอื่น ๆในหนังสือเล่มนี้ฉันเปิดเผยความเชื่อและพฤติกรรมของมนุษย์ที่หลากหลาย

XII

กีดขวาง

นอกเหนือจากแนวคิดดั้งเดิมของอภินิหารหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เกี่ยวกับผีและผีปอบค่อนข้างเกี่ยวกับการคิดและพฤติกรรมเหนือธรรมชาติในกิจกรรมของมนุษย์ในชีวิตประจำวันด้วยวิธีนี้ฉันหวังว่าจะแสดงให้คุณเห็นว่าเรามักจะอนุมานการปรากฏตัวของแง่มุมที่ซ่อนอยู่ของความเป็นจริงและฐานพฤติกรรมของเราในสมมติฐานที่จะต้องเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติที่จะเป็นจริงเมื่อใดก็ตามที่ความเชื่อของเราดึงดูดกลไกและปรากฏการณ์ที่เกินกว่าความเข้าใจตามธรรมชาติเรากำลังเข้าสู่ดินแดนแห่งความเชื่อเหนือธรรมชาติแน่นอนว่ามีหลายสิ่งที่เราไม่สามารถอธิบายได้ แต่ไม่เข้าใจพวกเขาไม่ได้ทำให้พวกเขาเหนือธรรมชาติตัวอย่างเช่นพิจารณาปัญหาที่เราประสบทุกช่วงเวลาที่ตื่นจิตใจของเราควบคุมร่างกายของเราได้อย่างไร?สิ่งที่ไม่มีมิติทางกายภาพในสิ่งที่ร่างกายเหมือนร่างกายได้อย่างไร?นี่คือปัญหาร่างกายจิตใจที่เราจะพูดถึงในบทที่ 5 วิทยาศาสตร์อาจยังไม่เข้าใจปัญหาจิตใจและจิตใจและอาจไม่เคย แต่นั่นไม่ได้ทำให้มันเหนือธรรมชาติเพราะเราสามารถตรวจสอบจิตใจด้วยการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เพื่อทดสอบว่าผลลัพธ์ที่มีการคาดการณ์ในทางตรงกันข้ามหลักฐานสำหรับสิ่งเหนือธรรมชาตินั้นเข้าใจยากเมื่อคุณพยายามรวบรวมหลักฐานสำหรับสิ่งเหนือธรรมชาติมันก็หายไปในอากาศมันมักจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ , ทีละน้อยหรืออ่อนแอมากจนแทบจะลงทะเบียนว่าอยู่ที่นั่นจริงๆการทดลองเกี่ยวกับอภินิหารเหนือธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อมิฉะนั้นเราจะเขียนตำราวิทยาศาสตร์ใหม่ด้วยกฎหมายและข้อสังเกตใหม่นั่นเป็นเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วไปส่วนใหญ่ไม่กังวลที่จะทำการวิจัยเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติแต่การขาดความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์นั้นไม่ค่อยมีความเชื่อ - พวกเราส่วนใหญ่มีความเหนือกว่าบอกเราว่าหลักฐานอยู่ที่นั่นจริง ๆ และเราควรเพิกเฉยต่อวิทยาศาสตร์และเปิดใจปัญหาเกี่ยวกับใจที่เปิดกว้างคือทุกสิ่งที่เกิดขึ้น - รวมถึงเหตุผลของเราหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความเชื่อของเรา - ไม่ว่าความเชื่อเหล่านี้เป็นจริงหรือไม่ควรเปลี่ยนวิธีที่คุณตัดสินคนอื่นเมื่อคุณเข้าใจถึงความเหนือกว่าคุณจะเข้าใจทั้งความเชื่อของคุณเองและที่สำคัญกว่านั้นทำไมคนอื่นถึงมีความเชื่อเหนือธรรมชาติควรให้ข้อมูลเชิงลึกแก่คุณมันอาจทำให้คุณดูศาสนาและต่ำช้าในรูปแบบใหม่และตระหนักว่าทุกคนมีความอ่อนไหวต่อความเชื่อเหนือธรรมชาติฉันจะแสดงให้เห็นว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติทั่วไปดำเนินการในการให้เหตุผลในชีวิตประจำวัน

อารัมภบท: ทำไมเราถึงทำลายบ้านชั่วร้าย?

XIII

ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างมีเหตุผลและมีเหตุผลเพียงใดบางทีฉันควรอ้างว่าหนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนชีวิตและทัศนคติของคุณต่อความเชื่อ แต่ฉันก็ไม่แน่ใจเพราะสิ่งที่ฉันกำลังจะบอกคุณว่าจะเข้าไปในหูข้างหนึ่งและออกไปข้างนอกนั่นคือธรรมชาติของความเชื่อมันแตกต่างกันอย่างแท้จริงในการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผลความคิดที่ดื้อรั้นดังกล่าวมาจากที่ไหนในสถานที่แรก?ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของมนุษย์เราหมกมุ่นอยู่กับการเล่าเรื่องจนเป็นเรื่องง่ายที่จะคิดว่าความเชื่อทั้งหมดมาจากคนอื่น ๆ ที่บอกเราว่าจะคิดอย่างไรนี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึงสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรงเราเชื่อว่าสิ่งที่เราได้รับการบอกกล่าวบนพื้นฐานของความไว้วางใจอย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้มีคำอธิบายที่เป็นไปได้อีกประการหนึ่งว่าทำไมเราถึงเชื่อในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อและฉันคิดว่าเราต้องมองหาเด็ก ๆ เพื่อรับคำตอบมุมมองทางเลือกสำหรับต้นกำเนิดของความเชื่อเหนือธรรมชาติที่ฉันต้องการเสนอคือสิ่งที่เป็นธรรมชาติวิทยาศาสตร์ตามการออกแบบจิตใจโดยการออกแบบฉันหมายถึงวิธีการจัดระเบียบวิธีการตีความโลกเนื่องจากวิธีการทำงานของสมองของเราใช่วัฒนธรรมเลี้ยงดูเด็กแต่ละคนด้วยเรื่องราว แต่มีความเชื่อมากกว่าเพียงแค่กระจายความคิดในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ฟรานซิสเบคอนกล่าวว่าเราชอบที่จะเชื่อในสิ่งที่เราชอบที่จะเป็นจริงฉันจะเสริมว่าสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นจริงอาจมาจากวิธีการมองโลกในฐานะเด็กกล่าวอีกนัยหนึ่งกรอบของจิตใจภายในเด็กทุกคนทำให้เขาหรือเธอเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติหาก Supersense เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการทำความเข้าใจโลกตามธรรมชาติของเรามันจะยังคงปรากฏขึ้นอีกครั้งในเด็กทุกคนที่เกิดมาพร้อมกับกรอบความคิดนี้ถ้าเป็นเช่นนั้นดูเหมือนว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่ความพยายามใด ๆ ที่จะกำจัดสิ่งเหนือธรรมชาติจะประสบความสำเร็จอย่างน้อยที่สุดมันจะเป็นการต่อสู้ที่ยากมากที่จะชนะมันจะอยู่ที่นั่นเสมอในใจของเราแม้แต่ผู้ที่มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ก็ยังคงยังคงมีความคิดเด็ก ๆ ที่ฝังลึกอยู่ในใจของพวกเขาเราควรพยายามกำจัดพวกเขาหรือไม่?คุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์อาจต้องการความต้องการมากกว่าเพียงเพราะมันสัญญาอะไรมากกว่าที่มีอยู่ในชีวิตนี้เช่นผ้าห่มรักษาความปลอดภัยของความมั่นใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ

XIV

กีดขวาง

เราเมื่อเราตาย แต่เป็นเพราะ Supersense ช่วยให้เราชื่นชมคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ 10 เราทุกคนต้องการคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตของเราค่าศักดิ์สิทธิ์ของเราสามารถอาศัยอยู่ในวัตถุสถานที่หรือแม้แต่บุคคลเราอาจเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในคำหรือการกระทำหากคุณเป็นคนเคร่งศาสนาโลกของคุณเต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ - สถานที่ที่คุณต้องไปวัตถุที่คุณต้องเคารพคนที่คุณต้องนมัสการคำพูดที่คุณต้องพูดและการกระทำที่ต้องทำตามพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์แต่ถ้าคุณไม่ใช่ศาสนาล่ะ?คุณมีภูมิคุ้มกันจากค่าศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?ฉันไม่แน่ใจมนุษย์เป็นสัตว์สังคมและมีส่วนร่วมในสังคมเราต้องแบ่งปันการประชุม: สิ่งที่เราทุกคนเห็นด้วยมีคุณค่าร่วมกันนี่คือสิ่งที่สามารถจัดกลุ่มด้วยกันได้อนุสัญญาบางแบบเป็นทุกวันและทางโลกเช่นการประชุมเงินของการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนกระดาษหรือก้อนโลหะสำหรับสินค้าคนอื่น ๆ ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเอกสารบางอย่างเช่นการประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกาหรือ Magna Carta เป็นมากกว่ากระดาษพวกเขาเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์พวกเขาเป็นตัวแทนของประเด็นสำคัญในอารยธรรม แต่เราเคารพพวกเขาเป็นวัตถุในตัวเองมีบางอย่างสำหรับพวกเขามากกว่าเพียงแค่คำที่เขียนไว้บนพวกเขาหรือรายการศักดิ์สิทธิ์อาจเป็นหนังสือหรือภาพวาดต้นฉบับ Mozart หรือ Vermeer ดั้งเดิมทั้งสองสามารถคัดลอกและทำซ้ำได้ แต่เป็นต้นฉบับที่เราให้ความสำคัญกับมากที่สุดในทำนองเดียวกันอาคารหรือที่ตั้งอาจศักดิ์สิทธิ์ศาลเจ้าและโบสถ์เห็นได้ชัดว่าศักดิ์สิทธิ์ต่อผู้ศรัทธาทางศาสนา แต่เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในความรู้สึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับคุณค่าของสถานที่หากคุณเป็นแฟนเบสบอล Chicago Cubs นั่นคือ Wrigley Fieldหากคุณสนับสนุนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมันคือ Old Traffordสนามกีฬาเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่กีฬาสำหรับแฟน ๆ พวกเขาเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์มากเท่ากับวัด 11 สังคมต้องการคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ - ทุกสิ่งที่เรามีความพิเศษและไม่เหมือนใครเกินกว่าที่กำหนดไว้คุณไม่สามารถวางราคาไว้ในมูลค่าศักดิ์สิทธิ์หรืออย่างน้อยคุณก็ไม่ควรทำอย่างเต็มใจเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถลดลงไปที่นักวิทยาศาสตร์หรือการวิเคราะห์เหตุผลค่าศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นตัวแทนของชุดของความเชื่อร่วมกันที่ผูกมัดสมาชิกทั้งหมดของกลุ่มและนำไปใช้กับพวกเขาทั้งหมดหากปราศจากคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์สังคมก็จะเสื่อมสภาพเป็นอิสระซึ่งบุคคลนั้นออกมาเพื่อตัวเองเท่านั้นเมื่อสังคมของเรามีค่าศักดิ์สิทธิ์เราทุกคนต่างก็ต้องรับทราบ

อารัมภบท: ทำไมเราถึงทำลายบ้านชั่วร้าย?

และสอดคล้องกับฉันทามติของกลุ่มว่ามีบางสิ่งที่ไม่ควรซื้อเป็นเจ้าของหรือควบคุมโดยสมาชิกกลุ่มอื่นค่านิยมศักดิ์สิทธิ์ทำให้เราเต็มใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มและแบ่งปันความเชื่อแม้ว่าความเชื่อดังกล่าวจะไม่มีหลักฐานที่ดีในบทที่กำลังจะมาถึงฉันหวังว่าจะแสดงให้คุณเห็นว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติของเราสามารถเข้าใจคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ของเราได้อย่างไรอย่าใช้คำพูดของฉันนั่นจะเป็นการเล่าเรื่องแต่คุณผู้อ่านจำเป็นต้องมีความคิดเห็นของคุณเองตามหลักฐานที่นำเสนอในหน้าต่อไปนี้เพื่อให้คุณสามารถนำทางเส้นทางไปข้างหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้นให้ฉันแสดงแผนงานให้คุณในบทเปิดตัวฉันเริ่มต้นด้วยความคิดของ "การออกแบบจิตใจ" - บางสิ่งบางอย่างในวิธีที่เราตีความโลกรอบตัวเรา - และวิธีการสร้างความเชื่อที่น่าประหลาดใจพวกเราส่วนใหญ่เต็มใจยอมรับว่าจิตใจของเราสามารถทำผิดพลาดได้ แต่เราทุกคนคิดว่าเราสามารถเอาชนะข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้หากได้รับข้อมูลที่ถูกต้องนั่นเป็นเพราะเราทุกคนคิดว่าเรามีเหตุผลคุณเคยได้ยินใครยอมรับว่าเขาหรือเธอไม่มีเหตุผลหรือไม่?แม้จะมีความเชื่อมั่นในเหตุผลของเรา แต่บางครั้งความสามารถของเราที่จะมีเหตุผลก็ถูกทำลายโดยปฏิกิริยาทางเดินอาหารของเราซึ่งสามารถเตะได้อย่างรวดเร็วจนยากที่จะนำพวกเขามาใช้ใหม่ด้วยเหตุผลยกตัวอย่างของความชั่วร้ายและความเชื่อของเราว่ามันอาจเป็นจริงทางร่างกายหากคุณไม่เชื่อฉันลองพิจารณาว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณต้องจับมือกับฆาตกรจำนวนมากเช่นฉันพูดคุยในบทที่ 2 ทำไมเราถึงหดตัวตามความคิดทำไมเราถึงปฏิบัติต่อความชั่วร้ายของพวกเขาเป็นสิ่งที่ติดต่อได้?จากนั้นฉันต้องการหันมาสนใจต้นกำเนิดการติดตามหลักฐานแรกของความเชื่อเหนือธรรมชาติไปสู่จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมฉันแสดงให้เห็นว่าในขณะที่วิทยาศาสตร์ได้ก้าวไปอย่างมากในช่วงสี่ร้อยปีที่ผ่านมาอภินิหารยังคงเป็นเรื่องธรรมดามากจากนั้นฉันต้องการให้คุณพิจารณาต้นกำเนิดภายในบุคคลและการพัฒนาความเชื่อในเด็กที่กำลังเติบโตหนึ่งในประเด็นหลักที่ฉันต้องการทำในหนังสือเล่มนี้คือเหตุผลที่เด็ก ๆ มีเหตุผลเกี่ยวกับแง่มุมที่มองไม่เห็นของโลกของพวกเขาและบางครั้งก็นำพวกเขาไปสู่ความเชื่อที่เป็นพื้นฐานของความคิดเหนือธรรมชาติของผู้ใหญ่ในภายหลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการที่เด็กเล็กมีเหตุผลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและเกี่ยวกับสิ่งที่จิตใจและสามารถแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงจุดเริ่มต้นของความคิดที่กลายเป็น

XVI

กีดขวาง

พื้นฐานสำหรับความเชื่อเหนือธรรมชาติของผู้ใหญ่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมานานก่อนที่เด็กจะได้รับการบอกกล่าวว่าจะคิดอย่างไรซึ่งทำให้ฉันกลับไปที่หนึ่งในธีมหลักของหนังสือเล่มนี้: ความเชื่อเหนือธรรมชาติเป็นผลมาจากการคิดตามธรรมชาติในสองสามบทถัดไปฉันตรวจสอบความคิดตามธรรมชาตินี้และวิธีที่เด็ก ๆ จัดระเบียบโลกให้เป็นหมวดหมู่ที่แตกต่างกันในการทำเช่นนั้นพวกเขาจะต้องคิดว่าโลกทางกายภาพนั้นอาศัยอยู่ในสิ่งที่มองไม่เห็นหรือแก่นแท้วิทยาศาสตร์อาจสามารถสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับสิ่งของจริงที่ประกอบขึ้นไปทั่วโลกเช่น DNA และอะตอม แต่การใช้เหตุผลที่จำเป็นสำหรับเด็กของเรายังคงดำเนินต่อไปในแบบที่เราให้เหตุผลและประพฤติตนเป็นผู้ใหญ่สิ่งนี้ไม่ชัดเจนไปกว่าในกรณีของทัศนคติของเราที่มีต่อวัตถุศักดิ์สิทธิ์วัตถุศักดิ์สิทธิ์ถือว่าเป็นพิเศษโดยอาศัยความสำคัญของแก่นแท้ที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาซึ่งผู้คนเชื่อว่าเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับคนอื่น ๆสิ่งเหล่านี้อาจเป็นพ่อแม่ผู้รักป๊อปสตาร์นักกีฬากษัตริย์หรือวิสุทธิชน - ใครก็ตามที่เรารู้สึกว่าจำเป็นต้องเชื่อมต่อบทที่เหลือของหนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นไปที่ความเชื่อมั่นและความกลัวที่ไม่มีเหตุผลซึ่งเราสามารถตรวจจับได้อย่างง่ายดาย แต่มักจะไม่สามารถรับรู้ได้ในการให้เหตุผลของเราเองก่อนที่จะสรุปหนังสือเล่มนี้ฉันตรวจสอบความคิดล่าสุดเกี่ยวกับพื้นฐานของสมองสำหรับความแตกต่างของแต่ละบุคคลใน Supersenseบางคนเต็มใจที่จะสร้างความเชื่อมั่นเหนือธรรมชาติมากขึ้นแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการศึกษาสูงเราจะเข้าใจสิ่งนี้ได้อย่างไร?ที่นี่เราพิจารณากลไกสมองที่อาจรับผิดชอบในการสร้างและควบคุมความเชื่อและวิธีการเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดช่วงชีวิตหรือในระหว่างการเจ็บป่วยเมื่อถึงจุดสิ้นสุดของหนังสือเล่มนี้ฉันหวังว่าคุณจะชื่นชมว่าการพัฒนาจิตใจของเด็กเข้าสู่ผู้ใหญ่ไม่ได้เป็นเพียงกรณีของการเรียนรู้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกนอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่จะเพิกเฉยต่อความเชื่อแบบเด็ก ๆ ซึ่งต้องใช้ความพยายามทางจิตการศึกษาช่วยได้ แต่ไม่ใช่เรื่องทั้งหมดเราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมความเชื่อแบบเด็ก ๆ ของเราฉันยังพิจารณาว่าทำไมอาจมีการเชื่อมต่อระหว่างความรุนแรงและความคิดสร้างสรรค์บางทีความคิดสร้างสรรค์ขึ้นอยู่กับความสามารถของเราในการกระโดดข้ามตรรกะและสร้างวิธีการใหม่ในการดูปัญหาเก่า ๆในกรณีนี้ความคิดสร้างสรรค์และ supersense อาจจะแข็งแกร่งขึ้นในพวกเราที่ยึดติดกับความเป็นจริงน้อยกว่าและอื่น ๆ

อารัมภบท: ทำไมเราถึงทำลายบ้านชั่วร้าย?

XVII

มีแนวโน้มที่จะสัมผัสกับรูปแบบและการเชื่อมต่อที่พวกเราที่เหลือพลาดหรือเพียงแค่เลิกพวกเขาอยู่ที่นั่นเสมอในพื้นหลังของจิตใจของเราผลักเราไปสู่สิ่งเหนือธรรมชาติในหน้าเว็บฉันนำปัญหาเหล่านี้มารวมกันและกลับไปสู่ความสูงและความคิดของค่านิยมศักดิ์สิทธิ์พร้อมคำอธิบายว่าทำไมสังคมมนุษย์ถึงต้องเชื่อว่ามีบางสิ่งในชีวิตที่ต้องพิจารณาเป็นเอกลักษณ์และลึกซึ้งไม่เพียง แต่มีที่ว่างสำหรับความเชื่อในใจสมัยใหม่ แต่พวกเขาอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้สิ่งที่ผู้คนเลือกที่จะทำด้วยความเชื่อของพวกเขาคืออีกเรื่องหนึ่งไม่ว่าศาสนาจะดีหรือไม่ดีเป็นการถกเถียงกันอย่างดุเดือดที่ฉันจะทิ้งไว้ให้ผู้อื่นฉันแค่คิดว่าความเชื่อเหนือธรรมชาตินั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างน้อยก็รู้ว่าพวกเขามาจากไหนและทำไมเราถึงให้พวกเขาทำให้เข้าใจความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ได้ง่ายขึ้นดังนั้นเริ่มต้นกันเถอะว่าการค้นหาทางวิทยาศาสตร์

บทที่หนึ่ง

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

สิ่งแปลก ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาเมื่อหลายปีก่อนก่อนที่เราจะแต่งงานคิมและฉันเดินทางไปลอนดอนมันเป็นการเดินทางครั้งแรกของเราไปยังเมืองหลวงและเราตัดสินใจใช้ใต้ดินระบบรถไฟใต้ดินของลอนดอนขนส่งผู้โดยสารมากกว่าสามล้านคนทุกวันและดังนั้นเราจึงรู้สึกโล่งใจที่จะมีสองที่นั่งด้วยกันภายในหนึ่งในรถม้าที่แออัดในขณะที่เราตัดสินฉันมองขึ้นไปอ่านโฆษณาต่าง ๆ เช่นเดียวกับที่จะหลีกเลี่ยงการสบตาโดยตรงกับผู้โดยสารเพื่อน แต่ฉันสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มนั่งตรงข้ามดูเหมือนจะคุ้นเคยอย่างคลุมเครือฉันสะกิดคิมและบอกว่าชายคนนั้นดูน่าทึ่งเหมือนพี่ชายของเธอซึ่งเราได้ยินครั้งสุดท้ายคือการเดินทางในอเมริกาใต้เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราเห็นเขาครั้งสุดท้ายคิมจ้องมองชายคนนั้นและในทันทีที่ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองจากกระดาษที่เขากำลังอ่านและกลับมาจ้องมองสำหรับสิ่งที่ดูเหมือนเป็นเวลานานมากทั้งสองจับจ้องของกันและกันก่อนที่การแสดงออกที่แปลกประหลาดบนใบหน้าของผู้ชายหันมายิ้มและเขาก็พูดว่า“ คิม?”พี่ชายและน้องสาวไม่สามารถเชื่อได้ว่ามีโอกาสพบพวกเราส่วนใหญ่มีประสบการณ์ที่คล้ายกันในงานเลี้ยงอาหารค่ำแขกแลกเปลี่ยนเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลก ๆ และความบังเอิญที่เกิดขึ้นกับพวกเขาหรือโดยทั่วไปแล้วกับคนอื่นที่พวกเขารู้พวกเขาพูดถึงเหตุการณ์ที่แปลกประหลาด

กีดขวาง

หรือดูเหมือนคำอธิบายที่สมเหตุสมผลพวกเขาอธิบายตัวอย่างของการรู้หรือตรวจจับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะเกิดขึ้นหรือในระยะเวลาอันยิ่งใหญ่ของเวลาและพื้นที่พวกเขาพูดถึงความรู้สึกพลังงานหรือรัศมีที่เกี่ยวข้องกับผู้คนสถานที่และสิ่งต่าง ๆ ที่ให้ความรู้สึกที่น่าขนลุกแก่พวกเขาพวกเขาพูดถึงผีและรู้สึกถึงความตายมันเป็นเพราะประสบการณ์เหล่านี้แปลกมากที่พวกเขาถูกนำขึ้นมาในการสนทนาPierre le Loyer จับความคิดนี้ได้ดีเมื่อสี่ร้อยปีก่อนในการเขียนเกี่ยวกับวิญญาณและสิ่งเหนือธรรมชาติเมื่อเขากล่าวว่า:“ มันเป็นหัวข้อที่ผู้คนพูดคุยกันมากที่สุดและพวกเขาก็ยาวนานที่สุดเพราะตัวอย่างมากมายNE และที่น่าพอใจและการอภิปรายน่าเบื่อน้อยที่สุดที่สามารถพบได้”1 พวกเราส่วนใหญ่มีประสบการณ์ที่แปลกประหลาดเหล่านี้คุณเคยเจอเพื่อนที่หายไปนานในสถานที่ที่ไม่น่าเป็นไปได้มากที่สุดหรือไม่?คุณคิดว่ามีใครบางคนที่จะได้รับโทรศัพท์จากบุคคลนั้นออกมาจากสีน้ำเงินบ่อยแค่ไหน?บางครั้งดูเหมือนว่าความคิดเป็นสิ่งที่สามารถกระโดดจากจิตใจหนึ่งไปยังอีกใจหนึ่งบ่อยแค่ไหนที่คนสองคนงงงวยและพูดว่า“ ฉันแค่คิดแบบเดียวกัน!”พวกเราหลายคนรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้นมนุษย์ปรากฏตัวในบางครั้งราวกับว่าพวกเขาเข้าร่วมด้วยพันธบัตรที่มองไม่เห็นพวกเราบางคนมีความรู้สึกว่ามีกองกำลังลึกลับปฏิบัติการในโลกทำหน้าที่เชื่อมโยงเราเข้าด้วยกันซึ่งไม่สามารถอธิบายได้เราจะเข้าใจประสบการณ์ทั่วไปเหล่านี้ได้อย่างไร?หลายคนเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นข้อพิสูจน์ถึงสิ่งเหนือธรรมชาติความเชื่ออาจกลายเป็นจริงหรือเท็จ แต่ความเชื่อเหนือธรรมชาติเป็นพิเศษเพื่อเป็นจริงพวกเขาจะละเมิดกฎหมายธรรมชาติที่ควบคุมโลกของเราดังนั้นพวกเขาจึงเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติตัวอย่างเช่นฉันอาจเชื่อว่าหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษสังหารเจ้าหญิงไดอาน่าในอุบัติเหตุรถชนในปารีสความเชื่อนั้นอาจเป็นจริงหรือเท็จบางทีพวกเขาอาจจะทำและบางทีพวกเขาก็ไม่ได้มันเป็นไปไม่ได้เพื่อเป็นจริงความเชื่อของฉันจะต้องไม่ละเมิดกฎหมายธรรมชาติใด ๆสิ่งที่ต้องการทั้งหมดคือแผนและการปกปิดที่ซับซ้อนมากดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่ารองผู้อำนวยการฝ่ายลับของอังกฤษสังหารเจ้าหญิงไดอาน่า - แต่ไม่น่าเป็นไปได้อย่างไรก็ตามถ้าฉันเชื่อว่าใครบางคนสามารถสื่อสารกับเจ้าหญิงที่ตายแล้วนั่นจะเป็นความเชื่อเหนือธรรมชาติเพราะมันเป็นการละเมิดความเข้าใจตามธรรมชาติของเราเกี่ยวกับวิธีการสื่อสารระหว่างสอง

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

คนทำงานพวกเขามักจะต้องมีชีวิตอยู่ดังที่ Michael Shermer กล่าวว่า“ เราทุกคนสามารถคุยกับคนตายได้มันทำให้พวกเขาพูดคุยกลับมาซึ่งเป็นส่วนที่ยาก” 2 คนสามารถตระหนักได้อย่างเต็มที่ว่าความเชื่อของพวกเขานั้นเหนือธรรมชาติและพวกเขายังคงเชื่อทำไมผู้คนถึงเชื่อในสิ่งที่ขัดต่อกฎหมายธรรมชาติ?มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ความไม่รู้คำตอบคือหลักฐานเหตุผลอันดับหนึ่งที่กำหนดโดยผู้ที่เชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติคือประสบการณ์ส่วนตัว 3 แน่นอนคนอื่น ๆ ในสิ่งที่เราคิด แต่ประสบการณ์ ﬁ rsthand ทำให้เรามีเหตุผลอันทรงพลังที่จะเชื่ออย่างที่พวกเขาพูดว่า“ การเห็นคือการเชื่อ” และเมื่อมันเกิดขึ้นกับคุณมันจะพิสูจน์สิ่งที่คุณสงสัยมาตลอดสำหรับผู้ศรัทธาตัวอย่างของสิ่งเหนือธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์และน่าเชื่อถือว่าการเพิกเฉยต่อหลักฐานทั้งหมดคือการฝังหัวของเราในทรายแต่มีตัวอย่างมากมายของสิ่งเหนือธรรมชาติหรือไม่?ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งคือเราไม่ค่อยดีในการประเมินความน่าจะเป็นของสิ่งที่แปลก ๆ เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนเรามักจะประเมินค่าความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่หายากมากเช่นถูกฆ่าตายในอุบัติเหตุเครื่องบินตกในเวลาเดียวกันเราประเมินความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่ค่อนข้างธรรมดาตัวอย่างเช่นความเป็นไปได้ของคนแปลกหน้าสองคนในงานปาร์ตี้ที่แบ่งปันวันเกิดเดียวกันคืออะไร?สมมติว่าคุณเป็นคนที่เป็นกันเองและเข้าร่วมปาร์ตี้ประมาณสัปดาห์ละครั้งลองเดาดูว่ามีกี่คนที่ต้องอยู่ในงานปาร์ตี้สำหรับพวกเขาสองคนเพื่อแบ่งปันวันเกิดครึ่งหนึ่งของปาร์ตี้ที่คุณเข้าร่วมตลอดทั้งปีคุณคิดว่าคุณต้องการหมายเลขใดฉันจินตนาการว่าพวกคุณส่วนใหญ่คิดเป็นจำนวนมากแต่คุณจะเชื่อหรือไม่ว่านักสถิติบอกเราว่าหมายเลขขั้นต่ำเพียงยี่สิบสาม!หากคุณไปงานปาร์ตี้ที่แตกต่างกันในแต่ละสัปดาห์โดยมีคนใหม่อย่างน้อยยี่สิบสามคนในแต่ละคนโดยเฉลี่ยสองคนจะมีวันเกิดครึ่งเวลาเท่ากันหรือเพื่อให้เป็นอีกวิธีหนึ่งในบรรดาสามสิบประเทศที่มีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 ในแอฟริกาใต้ครึ่งหนึ่งของทีมสมาชิกยี่สิบสามคนที่มีส่วนร่วมจะรวมถึงผู้เล่นสองคนที่มีวันเกิดเดียวกัน?ตอนนี้คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากแค่ไหนสำหรับคนสองคนที่จะแบ่งปันสัญญาณโหราศาสตร์เดียวกันเมื่อมีเพียงสิบสองคนเมื่อเทียบกับ 365 วันเกิดที่แตกต่างกันในปีผู้คนดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น

กีดขวาง

ประหลาดใจที่ได้พบกับใครบางคนที่มีป้ายทางโหราศาสตร์เดียวกันและมักจะพิจารณาเรื่องบังเอิญที่เป็นเวรเป็นกรรมจิตใจของเราไม่พร้อมที่จะคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้อย่างแม่นยำมากดังนั้นเราจึงตีความความบังเอิญเหล่านี้ราวกับว่ามีสิ่งเหนือธรรมชาติที่เกี่ยวข้องเมื่อเราได้ยินตัวอย่างที่ดูแปลกประหลาดเราถือว่าพวกเขาเป็นมงคลสิ่งที่เกี่ยวกับความบังเอิญคือพวกเขาไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่เป็นกฎดังที่ Martin Plimmer และ Brian King ได้สังเกต: เรา frisk กันและกันเพื่อหาลิงค์เราชอบนักว่ายน้ำที่ซิงโครไนซ์ในการค้นหากิจวัตรประจำวันเราเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อและเราเป็นสายพันธุ์ที่เชื่อมต่อสูงหากเป็นไปได้ที่จะแมปกิจกรรมของมนุษย์ทั้งหมดการวาดเส้นแบ่งระหว่างเพื่อนและญาติการออกเดินทางและการมาถึงข้อความที่ส่งและรับความปรารถนาและวัตถุคุณจะมีเส้นที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ.5 เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดคั่นชีวิตของเรา แต่พวกเขาดูเหมือนผิดปกติและเกินกว่าคำอธิบายเราปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างมีนัยสำคัญและลึกซึ้งทำให้พวกเราหลายคนเชื่อว่าจะต้องมีพลังเหนือธรรมชาติในที่ทำงานพวกเราส่วนใหญ่ให้ความบันเทิงความเชื่อเหล่านี้แม้ว่าเราอาจปฏิเสธพวกเขาฉันจะแสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลมีการศึกษาและการเชื่อโชคลางมากขึ้นในหมู่พวกเรามีพฤติกรรมราวกับว่ามีกองกำลังเหนือธรรมชาติและพลังงานที่มองไม่เห็นในโลกตลอดระยะเวลาของหนังสือเล่มนี้ฉันจะนำเสนอทฤษฎีที่อธิบายว่าทำไมเราถึงเชื่อและทำไมพวกเราบางคนถึงมีแนวโน้มที่จะเชื่อมากกว่าคนอื่น ๆฉันจะมุ่งเน้นไปที่แต่ละบุคคลมากกว่าวัฒนธรรมเพราะฉันคิดว่าคำตอบสามารถพบได้ภายในเราแต่ละคนสิ่งที่มากกว่าความเป็นจริงนักปรัชญาชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่และนักจิตวิทยายุคแรกวิลเลียมเจมส์เขียนมากกว่าหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมาว่าคนธรรมดามักจะเชื่อไม่เพียง แต่ในความเป็นจริงของการดำรงอยู่ แต่ต่อหน้า "บางสิ่งบางอย่าง" - สิ่งที่จับต้องไม่ได้อนุมานมากกว่าสิ่งที่ความรู้สึกปกติของเราตรวจพบ

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

แต่การจัดเรียงทั้งหมดของอินสแตนซ์ของเรานำเราไปสู่ข้อสรุปบางอย่างเช่นนี้: ราวกับว่ามีอยู่ในจิตสำนึกของมนุษย์ในความรู้สึกของความเป็นจริงความรู้สึกของการมีวัตถุประสงค์การรับรู้ของสิ่งที่เราอาจเรียกว่า "บางสิ่งบางอย่างที่นั่น" มากขึ้นลึกและทั่วไปมากกว่า "ความรู้สึก" พิเศษและโดยเฉพาะอย่างยิ่งซึ่งจิตวิทยาปัจจุบันคิดว่าความเป็นจริงที่มีอยู่เดิมที่จะเปิดเผยในตอนแรก 6 เจมส์กำลังบอกเราว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะคิดว่ามีบางสิ่งที่มากกว่าความเป็นจริงสิ่งนี้ไม่เป็นที่รู้จักมองไม่เห็นและไม่สามารถวัดได้และเกินกว่าคำอธิบายตามธรรมชาติมันเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติยิ่งไปกว่านั้นความรู้สึกของบางสิ่งที่มากกว่านี้เป็นพื้นฐานของศาสนาทั้งหมดของโลกซึ่งทุกคนยอมรับว่า "มากขึ้น" มีอยู่จริงแม้ว่าบางคนจะมีอยู่ในรูปของพระเจ้าหรือเทพเจ้าส่วนตัวในขณะที่คนอื่น ๆ ก็พอใจที่จะเข้าใจว่ามันเป็นกระแสของแนวโน้มในอุดมคติที่ฝังอยู่ในโครงสร้างนิรันดร์ของโลกพวกเขาทั้งหมดเห็นด้วยว่ามันทำหน้าที่และมีอยู่จริงและมีบางสิ่งที่ได้รับผลกระทบที่ดีกว่าเมื่อคุณโยนชีวิตของคุณลงไปในมือของมัน 7 ทำไมผู้คนถึงคิดแบบนี้?ทำไมเราถึงเชื่อว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างกับธรรมชาติมากกว่าที่จะวัดได้?ความคิดเหล่านี้มาจากไหน?เราจะได้รับความเชื่อเหนือธรรมชาติของเราจากที่ไหน?มีสองโรงเรียนแห่งความคิดที่นี่: สิ่งเหล่านี้เป็นความคิดที่เราได้ยินจากคนอื่นหรือพวกเขาเป็นความคิดที่มาจากภายในตัวเรามาตรวจสอบข้อเสนอทั้งสองกันเถอะอันดับแรกเราอาจเกิดมาเพื่อเชื่อทุกสิ่งและทุกสิ่งที่ผู้อื่นบอกดังนั้นความเชื่อจึงเป็นเพียงเรื่องราวที่เราบอกกันและโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูก ๆ ของเราอีกทางเลือกหนึ่งเราอาจเกิดมาเพื่อเชื่อและสิ่งที่เราคิดว่าอาจเป็นไปได้คือวิธีการมองโลกของเราเองพิจารณาคำอธิบายครั้งแรกเด็กเชื่อในสิ่งที่ผู้ใหญ่บอกเราชอบที่จะบอกพวกเขาเกี่ยวกับแฟนตาซีเช่นซานตาคลอสนางฟ้าฟันและแม้แต่โบกี้แมนถ้าพวกเขาประพฤติตัวไม่เหมาะสม:“ ถ้าคุณดีซานต้าจะพาคุณเล่น PlayStation” หรือ“ ถ้าคุณประพฤติตัวไม่เหมาะสมโบกี้แมนจะพาคุณไป”

กีดขวาง

เทพนิยายมีมานานแล้วในการสอนลูก ๆ ของเราว่าจะประพฤติตนอย่างไรตัวละครทั้งหมดในเรื่องราวเหล่านี้มีมนต์ขลัง - แคทที่สามารถพูดคุยแม่มดที่สามารถ ﬂ y และอื่น ๆตัวละครที่มีพลังเหนือธรรมชาติเป็นที่เข้าใจกันว่าเป็นพิเศษและได้รับการจดจำได้ง่ายขึ้นเพราะพวกเขาผิดปกติมากพวกเขาทำงานมันเป็นเรื่องน่าขันที่เราจะดื่มด่ำกับลูก ๆ ของเราด้วยความเชื่อในฐานะเด็กก่อนวัยเรียนเพียงเพื่อบอกให้พวกเขาละทิ้งความคิดที่โง่เขลาและ“ เติบโตขึ้น” เมื่อพวกเขามาถึงวัยเรียน?นักจิตวิทยา Stuart Vyse ให้เหตุผลว่าวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อพูดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ:“ เราไม่ได้เกิดมาจากการเคาะไม้เราเรียนรู้ที่จะทำเช่นนั้นเราไม่ได้เป็นผู้เชื่อในโหราศาสตร์เรากลายเป็นผู้ศรัทธา” 8 ฉันเห็นด้วยบางส่วนพิธีกรรมมากมายถูกส่งผ่านเป็นประเพณีและประเพณีบางคนแก่มากจนลืมไปว่าทำไมเราถึงทำทุกปีในตะวันตกเด็ก ๆ มีส่วนร่วมในพิธีโบราณและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับฮัลโลวีนและคริสต์มาสซึ่งส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงต้นกำเนิดที่แท้จริงของพวกเขา 9 ในทุกวันของฮอลโลว์การฝึกฝนการแต่งตัวในชุดที่น่ากลัว.การจูบภายใต้มิสเซิลโทและแสงไฟบันทึกเทศกาลคริสต์มาสเดิมเป็นพิธีกรรมการเจริญพันธุ์ของคนนอกรีตซึ่งกลายเป็นกิจกรรมคริสต์มาสวันนี้เราสังเกตพิธีกรรมเหล่านี้เพราะพวกเขากลายเป็นประเพณีที่ส่งมาให้เราผ่านทางวัฒนธรรมของเราแต่คำอธิบายทางวัฒนธรรมล้วนๆหายไปจุดสำคัญทำไมเราถึงมีส่วนร่วมในพิธีและพิธีกรรม?ผู้คนอาจปฏิบัติต่อเทศกาลเหล่านี้เป็นเรื่องสนุก แต่หลายคนก็ยังเชื่อในปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่แท้จริงทำไมคนถึงยอมรับสิ่งเหนือธรรมชาติในสถานที่แรก?คำตอบที่ชัดเจนคือมีประโยชน์อย่างแท้จริงในการเชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกคุณการสื่อสารและแบ่งปันความคิดกับผู้อื่นจะขยายความรู้ของคุณเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องค้นพบทุกสิ่งด้วยตัวเองและใครที่ดีที่สุดที่จะเรียนรู้จากสมาชิกที่มีอายุมากกว่าและฉลาดกว่าของเผ่า?หากพวกเขาบอกว่าพืชบางชนิดมีพลังการรักษาหรือถ้ำบางแห่งเป็นอันตรายมันก็สมเหตุสมผลที่จะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูดด้วยวิธีนี้ความเชื่อสามารถผ่านจากรุ่นหนึ่งไปยังรุ่นต่อไปได้อย่างง่ายดายหากวัฒนธรรมและสังคมแพร่กระจายความเชื่อเราควรระวังสิ่งที่เราบอกลูก ๆ ของเราหากนี่เป็นรากฐานของการคิดเหนือธรรมชาติบางทีเราควรรับผิดชอบในการแจ้งให้ทราบถึงความไร้เดียงสาและเด็กที่ยังไม่ทราบ

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

นี่คือเหตุผลที่นักชีววิทยา Richard Dawkins คิดว่าศาสนาเป็นรูปแบบของการทารุณกรรมเด็กเขาต้องการโลกที่ไม่มีพระเจ้าศาสนาหรือรูปแบบใด ๆ ของการเหนือธรรมชาติมีเพียงห้องสำหรับวิทยาศาสตร์เท่านั้นเขายืนยันเมื่อมันมาถึงการทำความเข้าใจธรรมชาติดอว์คินส์กล่าวหาว่าคริสตจักรของการปลูกฝังเยาวชนของเราด้วยความเชื่อทางไสยศาสตร์เด็ก ๆ เป็น“ ตัวหนอนข้อมูล” ที่มี“ หูและดวงตาที่เปิดกว้างและอ้าปากค้างไว้วางใจจิตใจที่ดูดภาษาและความรู้อื่น ๆ ”พวกเขาทำให้เกิดข้อเท็จจริงใด ๆ เพราะความโน้มเอียงที่พัฒนาขึ้นเพื่อไว้วางใจสิ่งที่พ่อแม่และผู้สูงอายุของพวกเขาบอกพวกเขา 10 สิ่งนี้นำฉันไปสู่คำอธิบายที่สองสำหรับความเชื่อที่ฉันต้องการดึงดูดความสนใจของคุณปัญหาเกี่ยวกับมุมมองที่ไร้เดียงสาคือนักวิจัยส่วนใหญ่ที่ศึกษาการพัฒนาของจิตใจไม่ถือว่ามนุษย์เป็นชนวนที่ว่างเปล่าสำหรับความคิดหรือความเชื่อใด ๆค่อนข้างงานจำนวนมากเกี่ยวกับความคิดของเด็กเล็กแสดงให้เห็นว่าก่อนที่พวกเขาจะมีความสามารถในการสอนเด็กก่อนวัยเรียนมีความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งต่อความเข้าใจผิดจำนวนมากฉันคิดว่าความเข้าใจผิดเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดที่แท้จริงของความเชื่อเหนือธรรมชาติของผู้ใหญ่ใช่วัฒนธรรมและคริสตจักรมีบทบาทในความเชื่อเหนือธรรมชาติ แต่พวกเขาไม่ได้ทำคนเดียวแต่พวกเขาให้กรอบเพื่อทำความเข้าใจความเชื่อของเราเองที่เราคิดขึ้นมาด้วยตัวเองแม้ว่าความคิดจะถูกส่งผ่านทางวัฒนธรรมเรายังต้องตอบคำถามพื้นฐานสองข้อ: ความคิดเหนือธรรมชาติครั้งแรกเกิดขึ้นที่ไหน?และทำไมวัฒนธรรมที่โดดเดี่ยวจำนวนมากจึงมีความเข้าใจผิดขั้นพื้นฐานเหมือนกัน?ประเภทของความเชื่อทั่วไปและการใช้เหตุผลที่ใช้ร่วมกันโดยวัฒนธรรมที่ห่างไกลแยกออกจากกันในเวลาและไกลออกไปทางภูมิศาสตร์แนะนำสิ่งที่แท้จริงกับวิธีที่มนุษย์คิดตัวอย่างเช่นเกือบทุกวัฒนธรรมมีตำนานการสร้างเพื่ออธิบายต้นกำเนิดของโลกและความหลากหลายของชีวิตที่มักจะเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าเทพเจ้าและตัวแทนทางจิตวิญญาณยังรับผิดชอบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเมื่อใดก็ตามที่เรามีความเชื่อและพฤติกรรมสากลเช่นนี้เราควรเริ่มมองหาเหตุผลว่าทำไมคำอธิบายของต้นกำเนิดและเหตุการณ์เหล่านี้จึงคล้ายกันเช่นเดียวกับสัญชาตญาณของภาษาที่พบในทุกสังคมตั้งแต่จุดเริ่มต้นของอารยธรรมเป็นไปได้หรือไม่ที่ Supersense เป็นส่วนหนึ่งของการบริจาคของมนุษย์ด้วย?เราทุกคนเริ่มต้นด้วยความโน้มเอียงตามธรรมชาติต่อสิ่งเหนือธรรมชาติที่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ทำได้

กีดขวาง

เอาชนะ?เหตุใดจึงยากที่ผู้คนจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ในความคิดของพวกเขา?ฉันคิดว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติทำงานได้ดีมากเพราะพวกเขาดูเป็นไปได้และพวกเขาดูเหมือนจะเป็นไปได้เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่กับสิ่งที่เราต้องการเชื่อและคิดว่าเป็นไปได้แล้วพวกเขายังเข้าใจถึงเหตุการณ์แปลก ๆ และแปลกประหลาดทั้งหมดที่ทำให้ชีวิตของเราพริกไทยความคิดและความเชื่ออาจถูกส่งผ่าน แต่เฉพาะผู้ที่สะท้อนกับสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปได้นี่เป็นจุดสำคัญที่มักถูกมองข้ามเราอาจยอมรับความคิดหรือปฏิเสธพวกเขา แต่เราไม่ค่อยพิจารณาว่าทำไมความคิดต้องใช้กับสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วมิฉะนั้นพวกเขาไม่สมเหตุสมผลเพื่อพิสูจน์สิ่งนี้ให้ฉันให้ความคิดใหม่ที่ฉันต้องการให้คุณเชื่อมันไม่ใช่สิ่งเหนือธรรมชาติ แต่มันทำให้ประเด็นเกี่ยวกับความคิดที่ทำงานถ้าฉันบอกคุณว่า“ ไอเดียสีเขียวที่ไม่มีสีนอนหลับอย่างดุเดือด” คุณจะเชื่อฉันไหม?ลองคิดดูสักครู่แล้วพยายามที่จะนำความคิดบนกระดานตอนแรกมันฟังดูโอเค แต่ในที่สุดคุณก็เห็นว่าความคิดนั้นไม่มีความหมายคำแถลงนี้เป็นประโยคที่มีชื่อเสียงในหมู่นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาภาษาและความคิดในปี 1957 นักภาษาศาสตร์ Noam Chomsky ได้สร้างวลีไวยากรณ์ที่สมบูรณ์แบบ แต่ไม่มีความหมายอย่างสมบูรณ์เพื่อแสดงให้เห็นว่าโครงสร้างประโยคเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะถ่ายทอดความคิด 11 เนื้อหาของประโยคเป็นไปตามกฎของภาษาทั้งหมด แต่เป็นประโยคที่ไม่ได้คำนวณในของเราจิตใจมันไม่มีความหมายเพราะสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วเกี่ยวกับสีความคิดการนอนหลับและความโกรธบางสิ่งบางอย่างไม่สามารถเป็นสีเขียวและไม่มีสีได้ความคิดไม่ได้นอนการนอนหลับไม่ได้เป็นเรื่องปกติสิ่งเหล่านี้เป็นแนวคิดที่มีอยู่แล้วในใจของเราและเนื่องจากพวกเขาขัดแย้งกันพวกเขาจึงกำหนดว่าคำพูดของ Chomsky ไม่สมเหตุสมผลดังนั้นความคิดใหม่ ๆ ใด ๆ ที่ต้องใช้ในกรอบความรู้ที่มีอยู่นี่คือเหตุผลที่ความคิดบางอย่างสามารถเข้าใจได้ยกตัวอย่างเช่นวิทยาศาสตร์เต็มไปด้วยความคิดที่ดูแปลกประหลาดเพียงเพราะเราไม่คุ้นเคยกับพวกเขาไม่ใช่ว่าคนโง่เมื่อพูดถึงวิทยาศาสตร์แต่ความคิดทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากนั้นแตกต่างกันมากเกินไปสำหรับพวกเราหลายคนที่จะได้รับหัวของเราในทางกลับกันความเชื่อพื้นบ้านเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติดูเหมือนจะเป็นไปได้มากนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการจินตนาการถึงผีจะง่ายกว่าคลื่นแสงที่สร้างขึ้นจากโฟตอนเราไม่เคยเห็น

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

แต่ผีดูเป็นไปได้ในขณะที่โครงสร้างของแสงไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถพิจารณาได้อย่างง่ายดาย 12 การออกแบบจิตใจการออกแบบจิตใจเป็นเหตุผลว่าทำไมความคิดบางอย่างจึงชัดเจนในขณะที่คนอื่น ๆ คลุมเครือโดยการออกแบบใจฉันหมายถึงวิธีการที่สมองของเรามีความมุ่งมั่นที่จะเข้าใจและตีความโลกสมองเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกายมนุษย์มีการพัฒนามานานหลายล้านปีมือของคุณได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการกับวัตถุขาของคุณได้รับการออกแบบมาสำหรับการเคลื่อนไหวแบบสองด้านตับของคุณได้รับการออกแบบให้ทำงานทุกประเภทในทำนองเดียวกันสมองของคุณได้รับการออกแบบในบางวิธีผ่านกระบวนการวิวัฒนาการนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าสมองมีกลไกที่มีความเชี่ยวชาญหลายอย่างในตัวซึ่งทำให้เราสามารถประมวลผลโลกแห่งประสบการณ์ได้กลไกเหล่านี้ไม่ได้เรียนรู้หรือสอนโดยผู้อื่นพวกเขาสร้างแพ็คเกจของเครื่องมือทางจิตที่เราแต่ละคนติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบจิตใจของเราแต่การออกแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีนักออกแบบคุณไม่ต้องการพระเจ้าเพื่ออธิบายว่าการออกแบบมาจากไหนเป็นเพียงวิธีการปรับระบบชีวภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไปผ่านกระบวนการวิวัฒนาการทำให้เกิดการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนการคัดเลือกโดยธรรมชาติคือนักออกแบบของเราสมองไม่ได้หลุดออกมาจากท้องฟ้าพร้อมที่จะจัดการกับโลก 13 แต่สมองของเราค่อยๆพัฒนาไปเรื่อย ๆ เพื่อแก้ปัญหาที่เผชิญกับบรรพบุรุษของเราสมองสมัยใหม่ที่ซับซ้อนของเราได้เกิดขึ้นจากการสะสมการเปลี่ยนแปลงขนาดเล็กที่ลึกซึ้งในโครงสร้างของมันส่งผ่านจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งนี่คือจิตวิทยาวิวัฒนาการและเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของมันคือ Steven Pinker ใส่ไว้อย่างย่อใจจิตใจคือสิ่งที่สมองทำจิตใจของเรามีความกระตือรือร้นอย่างต่อเนื่องพยายามทำความเข้าใจกับโลกโดยใช้วิธีการทำงานนี่เป็นเพราะโลกมีความซับซ้อนสับสนและมีข้อมูลที่ขาดหายไปเราแต่ละคนเป็นนักสืบที่พยายามทำให้ปริศนาเสร็จสมบูรณ์ผู้กระทำผิดและแก้ปัญหาอาชญากรรมเมื่อมันมาถึงความเข้าใจสิ่งที่เราทำตามธรรมชาติและตามธรรมชาติในระดับพื้นฐานที่สุดคือดูอย่างต่อเนื่องสำหรับรูปแบบจินตนาการที่ซ่อนแรงและสาเหตุแม้แต่วิธีที่เราเห็นโลกถูกจัดระเบียบโดยกลไกสมองที่กำลังมองหารูปแบบในช่วงเปลี่ยนของยี่สิบ

กีดขวาง

ศตวรรษนักจิตวิทยา Gestalt ชาวเยอรมันแสดงให้เห็นว่ามนุษย์เห็นรูปแบบตามธรรมชาติโดยการจัดระเบียบอินพุตด้วยกฎที่ไม่ได้เรียนรู้บางอย่างสิ่งที่นักจิตวิทยายุคแรก ๆ เหล่านี้ตระหนักได้คือโลกเต็มไปด้วยการป้อนข้อมูลที่มักจะรกไม่ชัดเจนหรือหายไปวิธีเดียวที่จิตใจสามารถแยกแยะความยุ่งเหยิงนี้ได้โดยการคาดเดาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

รูปที่.2: ทั้งทารกและผู้ใหญ่เห็นภาพลวงตาสีขาว

สแควร์ใน Kaniza ทั่วไป

ภาพของผู้แต่ง

ตัวอย่างเช่นรูปแบบที่ประกอบขึ้นเป็นสี่พายที่มีชิ้นที่นำออกมาจากแต่ละอันมักจะถูกมองว่าเป็นสี่เหลี่ยมสีขาวนั่งอยู่ด้านหน้าของม่วงสี่วงจิตใจของเราแม้กระทั่งในขอบที่หายไปของจัตุรัสระหว่างพายแต่สี่เหลี่ยมไม่ได้มีอยู่จริงสมองของเราได้สร้างบางสิ่งบางอย่างโดยไม่มีอะไรมากขึ้นเราสามารถวัดกิจกรรมในพื้นที่เหล่านั้นของสมองที่จะใช้งานได้ถ้าสี่เหลี่ยมมีอยู่จริง!บริเวณนี้เรียกว่าเยื่อหุ้มสมองที่มองเห็นเป็นชั้นสามมิลลิเมตรเกี่ยวกับขนาดของบัตรเครดิตของคุณที่อยู่ด้านหลังศีรษะของคุณโดยตรงตรงกันข้ามกับความเข้าใจผิดที่เป็นที่นิยมไม่ใช่ดวงตาของคุณ แต่สมองของคุณที่มองเห็นเซลล์สมองในภูมิภาคนี้ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการมองเห็นในบางรูปแบบหรืออื่น ๆดังนั้นในภูมิภาคนี้สมองจะลงทะเบียนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในโลกได้ตัดสินใจ

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

เกี่ยวกับสิ่งที่ควรออกไปที่นั่นแล้วสร้างกิจกรรมสมองของตัวเองราวกับว่าสิ่งที่ได้ตัดสินใจควรจะออกไปที่นั่นจริง ๆ 14 แม้ว่าการรับรู้เป็นกลอุบายของจิตใจกระบวนการนี้แสดงให้เห็นว่าสมองของเรามีสายเพื่อให้เข้าใจถึงข้อมูลที่ขาดหายไปได้อย่างไรทารกสี่เดือนยังเห็นสแควร์ที่น่ากลัวนี้ 15 เรารู้เรื่องนี้จากพฤติกรรมง่ายๆ: เด็กทารกเบื่อเมื่อแสดงรูปแบบเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำอีกคุณจะไม่?ดังนั้นหากคุณนำเสนอเด็กทารกที่มีสแควร์ที่น่ากลัวในที่สุดพวกเขาก็หยุดดูมันหากคุณแสดงให้พวกเขาเห็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสจริงพวกเขายังคงเบื่อในขณะที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นและตื่นเต้นถ้าคุณแสดงให้พวกเขาเห็นอย่างอื่นเช่นวงกลมกล่าวอีกนัยหนึ่งพวกเขาจะต้องได้เห็นจัตุรัสลวงตาในที่สุดก็เบื่อที่จะมองมันและพบว่าสี่เหลี่ยมจัตุรัสเหมือนกันกับจินตนาการที่จิตใจของพวกเขาสร้างขึ้นจากสิ่งใดการศึกษาดังกล่าวบอกเราว่าสมองทารกได้รับการออกแบบมาสำหรับข้อมูลที่ขาดหายไปและทำความเข้าใจกับโลกในขณะที่เพื่อนร่วมงานของฉันริชาร์ดเกรกอรี่แย้งภาพลวงตาเหมือนรูปแบบที่ขาดหายไปของสแควร์เปิดเผยว่าจิตใจไม่ขี้เกียจจิตใจของเรากำลังพยายามทำความเข้าใจโลกด้วยการคิดถึงคำอธิบายที่ดีที่สุดตัวอย่างเช่นหากมีคนหยิบเมล็ดกาแฟจำนวนหนึ่งและกระจัดกระจายไปตามโต๊ะข้างหน้าคุณคุณจะเห็นรูปแบบทันทีถั่วบางตัวจะรวมกลุ่มเข้าด้วยกันเป็นกลุ่มทันทีในขณะที่คุณมองไปที่อาร์เรย์คุณเคยดูเมฆในวันฤดูร้อนกลายเป็นใบหน้าและสัตว์หรือไม่?คุณไม่สามารถหยุดตัวเองได้เพราะจิตใจของคุณมีวิวัฒนาการในการจัดระเบียบและดูโครงสร้างความสะดวกที่เราเห็นใบหน้าโดยเฉพาะได้นำไปสู่ความคิดที่ว่าเรามีแนวโน้มที่จะเห็นตัวละครเหนือธรรมชาติที่หมวกลดลงในแต่ละปีเบเกิล, muf ﬁ n, ขนมปังปิ้งเผา, มันฝรั่งทอดหรือแม้แต่อัลตร้าซาวด์ของทารกในครรภ์ที่แสดงใบหน้าของเทพบางแห่งก็เป็นหลักฐานสำหรับปาฏิหาริย์ศักดิ์สิทธิ์นอกจากนี้เรายังค้นหารูปแบบในเหตุการณ์การออกแบบใจของเราบังคับให้เราเห็นองค์กรที่อาจไม่มีเมื่อสิ่งที่ผิดปกติหรือไม่คาดคิดเกิดขึ้นเราจะมองหาคำสั่งซื้อและสาเหตุทันทีเราไม่สามารถจัดการกับความเป็นไปได้ที่สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นแบบสุ่มโดยบังเอิญอาจเป็นไปไม่ได้ที่จิตใจจะคิดในรูปแบบหรือเหตุการณ์แบบสุ่มถ้าฉันขอให้คุณสร้างรูปแบบการสุ่มคุณจะทำสิ่งนี้ยากอย่างไม่น่าเชื่อลองด้วยตัวคุณเองที่แป้นพิมพ์ล้างไฟล์

กีดขวาง

ใจและกดปุ่ม“ 1” หรือ“ 0” เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่ามันสุ่มที่สุดเท่าที่จะทำได้ตัวอย่างเช่นนี่คือความพยายามของฉันด้วยการกดปุ่มสี่สิบแปด1001100101000111001001011011001 01011010010110011 ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังสุ่มและเมื่อมองอย่างรวดเร็วครั้งแรกรูปแบบก็ดูไม่เป็นระเบียบหากคุณนับจำนวนครั้งที่ฉันพิมพ์“ 1” ฉันก็ทำได้ค่อนข้างดีกับครึ่งหนึ่ง (ยี่สิบสี่)ตอนนี้พิจารณาการกดคีย์ตามลำดับเดียวกันในกลุ่มที่สอง10 01 10 01 01 00 01 11 00 10 01 01 10 11 00 10 10 11 01 00 10 11 00 11 มีคู่ 00 คู่, เจ็ด 01 คู่, เจ็ด 10 คู่, และ 11 คู่หากลำดับนั้นสุ่มอย่างแท้จริงคู่เหล่านี้ควรเท่ากัน แต่ฉันมีแนวโน้มที่จะสลับกันมาก (สิบสี่ครั้งด้วยการกดปุ่ม 10 หรือ 01) มากกว่าที่จะกดปุ่มเดียวกันสองครั้ง (สิบครั้งด้วย 00 หรือ 11)ความแตกต่างอาจดูเล็ก แต่มันก็มีความสำคัญสูงกว่าการทดลองที่มากขึ้นหากคุณแบ่งลำดับออกเป็นแปดสามเท่าที่เป็นไปได้รูปแบบจะชัดเจนยิ่งขึ้นสมองของเรามีจังหวะตามธรรมชาติที่ชอบนี่คือวิธีที่ผู้เล่นกระดาษร็อคที่ดีที่สุดประสบความสำเร็จเพื่อเตือนคุณมันเป็นเกมระหว่างผู้เล่นสองคนซึ่งหลังจากนับสามผู้เล่นแต่ละคนจะต้องผลิตหิน (ﬁ st) กระดาษ (เปิดมือ) หรือกรรไกร (เปิดสองครั้งแรก)กรรไกรชนะกระดาษซึ่งเต้นร็อคซึ่งจะเต้นกรรไกรเป้าหมายของเกมคือการคาดเดาสิ่งที่คู่ต่อสู้ของคุณจะผลิตเพื่อให้ประสบความสำเร็จคุณจะต้องสุ่มในสามตัวเลือกให้มากที่สุดผู้เล่นแชมป์โลก (ใช่พวกเขามีอยู่จริง) ไม่ใช่จิต 16 พวกเขามีความเชี่ยวชาญในการตรวจจับรูปแบบและสร้างลำดับแบบสุ่มของตัวเอง แต่ทักษะนี้ต้องการพลังงานจิตมากมายโดยเฉพาะจากส่วนด้านหน้าของสมองที่ควบคุมการวางแผน17 มันเป็นเพียงการคิดและทำแบบสุ่มโดยความพยายามที่จะรับรู้ถึงโลกที่สุ่มเนื่องจากจิตใจของเราได้รับการออกแบบให้มองโลกที่เป็นระเบียบเราจึงตรวจจับรูปแบบที่ไม่ได้มีอยู่จริงนี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราเชื่อ

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

รูปแบบนั้นควรอยู่ที่นั่นในสถานที่แรกดังนั้นคนที่เชื่อว่ากองกำลังเหนือธรรมชาติทำงานในโลกกำลังมองหาตัวอย่างของปรากฏการณ์แปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้และไม่สนใจเหตุการณ์ทางโลกทางโลกที่ไม่ได้ตีความนี้เราลืมโทรศัพท์ทั่วไปทุกครั้ง แต่จดจำสิ่งที่ไม่คาดคิดเพราะมันดึงดูดความสนใจของเราด้านการออกแบบใจคือเราก็ล้มเหลวที่จะตระหนักว่าเหตุการณ์ที่เราคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้สูงในความเป็นจริงไม่น่าเป็นไปได้การพบปะผู้คนในงานปาร์ตี้ที่มีวันเกิดเดียวกันดูเหมือนจะไม่น่าเป็นไปได้ด้วยความเอนเอียงนี้ต่อการตรวจจับรูปแบบคนที่มีแนวโน้มที่จะเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติมีโอกาสเพียงพอที่จะเห็นหลักฐานสำหรับเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญของเหตุการณ์ที่ไม่มีนี่คือผลิตภัณฑ์ของการออกแบบจิตใจของเราและมีหลักฐานที่ดีว่าเราทุกคนต่างกันในขอบเขตที่เราเห็นคำสั่งหรือความวุ่นวายในโลกต่อมาฉันตรวจสอบความคิดที่ว่าความแตกต่างระหว่างผู้ศรัทธาและผู้ที่ไม่เชื่ออาจเป็นเพราะวิธีการตีความโลกมากกว่าสิ่งที่พวกเขาได้รับคำสั่งให้เชื่อนอกเหนือจากการจัดระเบียบโลกให้เป็นรูปแบบการออกแบบจิตใจทำให้เราแสวงหาสาเหตุที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและซ่อนเร้นในโลกสิ่งที่ควบคุมโลกส่วนใหญ่ถูกซ่อนอยู่จากมุมมองโดยตรงและจิตใจของเราได้พัฒนาขึ้นเพื่ออนุมานการมีอยู่ของสิ่งที่เรามองไม่เห็นเราพยายามอย่างหนักที่จะเข้าใจผลลัพธ์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วและเราไม่ได้เป็นส่วนตัวตัวอย่างเช่นลองจินตนาการว่าคุณกลับถึงบ้านเพื่อทำจานที่หักบนห้องครัว ﬂ oorมันเกิดขึ้นได้อย่างไร?คุณถามตัวเองคุณเริ่มสร้างลำดับเหตุการณ์ใหม่จานอยู่บนโต๊ะเมื่อคุณออกจากเช้าวันนั้นมีคนอื่นอยู่ในบ้านหรือไม่?มีแผ่นดินไหวหรือไม่?เช่นเดียวกับนักสืบคุณทำงานย้อนเวลากลับไปในเวลาที่พยายามสร้างใหม่ว่าทำไมมีบางสิ่งเกิดขึ้นนี่คือวิธีที่เราตีความและเข้าใจเหตุการณ์ต่าง ๆอย่างไรก็ตามการใช้เหตุผลดังกล่าวอาจนำไปสู่ความผิดพลาดจิตใจมนุษย์ที่เชื่อมโยงเหตุการณ์ในลักษณะนี้มักจะตกอยู่ในอันตรายจากการกระทำผิดพลาดของโพสต์เฉพาะกิจ, เออร์โก Propter Hoc:“ หลังจากนี้เพราะสิ่งนี้” ซึ่งหมายความว่าเรามักจะจัดกลุ่มเหตุการณ์เข้าด้วยกันอย่างเป็นสาเหตุเราเห็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่ทำให้เกิดครั้งที่สองมีสองปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนอื่นเราอนุมานการกระทำของกองกำลังที่อาจไม่มีและประการที่สองเรามักจะเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องจริง ๆ

กีดขวาง

โดยการเชื่อมโยงเหตุการณ์เข้าด้วยกันเราจะเห็นลำดับในแง่ของสาเหตุและผลกระทบตัวอย่างเช่นพิจารณาเหตุการณ์ที่ง่ายมากที่เกี่ยวข้องกับวัตถุที่ชนกันลองนึกภาพการดูเกมบิลเลียดหรือสระว่ายน้ำหากเราเห็นลูกบอลสีขาวโจมตีลูกบอลสีแดงเราจะเห็นเหตุการณ์หนึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์อีกครั้งมันเหมือนกันสำหรับเด็กทารกหากคุณแสดงเหตุการณ์การชนที่คล้ายกันของเด็กอายุเจ็ดเดือนพวกเขาตีความลูกบอลครั้งแรกว่าเป็นครั้งที่สองที่จะย้ายเพราะถ้าคุณย้อนกลับลำดับพวกเขาจะปฏิบัติต่อเหตุการณ์ย้อนกลับเป็นสิ่งที่แตกต่างกัน 18 เหมือนผู้ใหญ่พวกเขาเห็นลูกบอลสีแดงเปิดตัวสีขาวคุณอาจคิดว่าไม่มีอะไรแปลก ๆในความเป็นจริงคุณอาจพูดว่านี่เป็นวิธีที่สมเหตุสมผลในการตีความโลกอย่างไรก็ตาม David Hume นักปรัชญาชาวสก็อตที่สิบเจ็ดของศตวรรษที่สิบเจ็ดบอกเราว่าสัญชาตญาณดังกล่าวเป็นภาพลวงตาเพราะคุณไม่สามารถเห็นสาเหตุได้โดยตรงคุณไม่สามารถเห็นกองกำลังในที่ทำงานได้คุณจะเห็นเหตุการณ์เดียวเท่านั้นและจากนั้นก็มีเหตุการณ์อื่นสิ่งนี้อาจดูเหมือนจะไกลออกไปจนกว่าคุณจะพิจารณาภาพเคลื่อนไหวการ์ตูนเมื่อเราสังเกตบอลการ์ตูนที่โดดเด่นอีกครั้งเราอนุมานแรงสาเหตุเดียวกัน แต่แน่นอนว่าไม่มีการ์ตูนเป็นเพียงชุดของภาพวาดจิตใจของเราตีความลำดับราวกับว่าลูกบอลหนึ่งชนกับอีกลูกหนึ่งมันเป็นภาพลวงตาที่ช่วยให้เราเข้าใจโลกในแง่ของกองกำลังที่แท้จริงเพราะเรามักจะไม่ได้หรือไม่สามารถสังเกตพวกเขาในที่ทำงานได้ดังนั้นการออกแบบจิตใจของคุณบังคับให้คุณเห็นรูปแบบและคิดว่าบางสิ่งบางอย่างทำให้รูปแบบเกิดขึ้นคุณอนุมานได้ว่าสิ่งที่อาจเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์เชื่อมต่อกันในทางใดทางหนึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากซึ่งกันและกันดูเหมือนจะเกิดจากกองกำลังที่อาจไม่มีอยู่ทั้งหมดนี้เป็นจริงมากขึ้นเมื่อผลลัพธ์ไม่สามารถคาดเดาได้เช่นเดียวกับในเกมที่มีโอกาสเมื่อสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นคุณจะมองหาสิ่งที่เกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณการคิดประเภทนี้อธิบายพฤติกรรมที่ไสยศาสตร์: การกระทำซ้ำหรือมีส่วนร่วมในพฤติกรรมบางอย่างในความพยายามที่จะควบคุมผลลัพธ์ตัวอย่างเช่นหากคุณมีวันที่ประสบความสำเร็จเป็นพิเศษในสนามเทนนิสหรือที่โต๊ะโป๊กเกอร์คุณอาจรู้สึกว่าต้องทำซ้ำสิ่งที่คุณทำในวันนั้นเพื่อพยายามทำซ้ำความสำเร็จมันอาจจะสวมใส่เสื้อผ้าชิ้นเฉพาะหรือนั่งในที่นั่งโปรดในไม่ช้าพฤติกรรมเหล่านี้อาจกลายเป็นกิจวัตรและความหลงไหลที่สำคัญนักกีฬามีชื่อเสียงในเรื่องพิธีกรรมไสยศาสตร์ของพวกเขา 19 พิธีกรรมมักจะเริ่มเป็นนิสัยที่ไร้เดียงสา - สิ่งที่เราทุกคนมี - แต่

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

เนื่องจากพวกเขาเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ที่สำคัญ (เช่นการชนะเกม) พวกเขาจึงสามารถใช้ชีวิตของแต่ละบุคคลได้นักเทนนิส Ace Jelena Dokic น่าจะซับซ้อนที่สุดในพิธีกรรมของเธอหรืออย่างน้อยก็ซื่อสัตย์ที่สุดและเปิดกว้างเกี่ยวกับพวกเขาก่อนอื่นเธอหลีกเลี่ยงการยืนอยู่บนเส้นสีขาวบนศาล(John McEnroe ทำเช่นเดียวกัน) เธอชอบที่จะนั่งทางด้านซ้ายของผู้ตัดสินก่อนที่เธอจะรับใช้ครั้งแรกเธอเด้งลูกบอลครั้งและก่อนที่เธอจะรับใช้ครั้งที่สองเธอเด้งมันสองครั้งในขณะที่รอให้บริการเธอจะระเบิดมือขวาของเธอเด็กชายและเด็กหญิงบอลต้องส่งลูกบอลให้เธอด้วยการโยนใต้วงแขนเสมอDokic ทำให้แน่ใจว่าเธอไม่เคยอ่านแผ่นงานมากกว่าหนึ่งรอบในแต่ละรอบในที่สุด - และรับสิ่งนี้ในใจนักสะสมของที่ระลึกกีฬา - เธอมักจะสวมเสื้อผ้าเดียวกันตลอดการแข่งขันPheweee!Jelena ไม่ได้อยู่คนเดียวทุก ๆ ปีเมื่อฉันตรวจสอบการสอบฉันเห็นคนหนุ่มสาวอัจฉริยะจำนวนมากที่มีส่วนร่วมในกิจวัตร (หนึ่งต้องเดินไปรอบ ๆ โต๊ะของเธอสามครั้ง) หรือผลิตเสน่ห์โชคดีมากมายและ "gonks" (ของเล่นนุ่ม) ที่พวกเขาเชื่อว่าจะปรับปรุงประสิทธิภาพของพวกเขา.แม้ว่าคุณจะไม่เชื่อในพิธีกรรมและเสน่ห์เหล่านี้ก็ตามไม่มีใครเว้นแต่พวกเขาจะเข้ายึดครองชีวิตของคุณและป้องกันไม่โต๊ะและดินสอสำรองของฉันและ Gonk สนับสนุนของฉันและหมากฝรั่งเคี้ยวของฉันและปากกาพิเศษของฉันและโปโลพิเศษของฉันและ Gonk ผู้โชคดีของฉันและเครื่องเหลาดินสอของฉันมีรูปร่างเหมือนแครกเกอร์ครีมและอีกสาม gonks ที่มีแพ็คเก็ตของโปโลและนำไปสู่ดินสอที่พับเก็บได้ของฉันและดินสอที่พับเก็บได้ของฉันและสารตะกั่วสำรองสำหรับดินสอที่พับเก็บได้ของฉันและการเคี้ยวหมากฝรั่งและดินสอและปากกาและ gonks อื่น ๆ และผู้ชายคนนั้นกล่าวว่า“ หยุดเขียนได้โปรด” 20 ไสยศาสตร์เป็นเรื่องธรรมดาในสถานการณ์ที่ปัจจัยที่ควบคุมผลลัพธ์นั้นไม่สามารถคาดเดาได้หรือผลที่ตามมาของสิ่งที่ผิดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างไรก็ตามพิธีกรรมก็เป็นเรื่องธรรมดาในหมู่บุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงหลายคนในสถานการณ์

กีดขวาง

การใส่ใจในรายละเอียดอาจนำไปสู่ความสำเร็จHarrison Ford, Woody Allen, Michelle Pfeiffer และ Winona Ryder เป็นเพียงคนดังเพียงไม่กี่คนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในพฤติกรรมพิธีกรรมในการสัมภาษณ์ทางทีวีเมื่อเร็ว ๆ นี้ดาราฟุตบอลเดวิดเบ็คแฮมอธิบายพิธีกรรมที่ผิดปกติของเขา: ฉันมีความผิดปกตินี้ซึ่งฉันต้องมีทุกอย่างเป็นเส้นตรงหรือทุกอย่างต้องเป็นคู่ฉันจะใส่กระป๋องเป๊ปซี่ของฉันในตู้เย็นและถ้ามีมากเกินไปฉันจะใส่ลงในตู้อื่นที่ไหนสักแห่งฉันจะเข้าไปในห้องพักของโรงแรมและก่อนที่ฉันจะผ่อนคลายฉันต้องย้ายหนังสือและหนังสือทั้งหมดและวางไว้ในลิ้นชัก 22 พฤติกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากรายละเอียดอาจเป็นกรณีที่ผู้ที่มีบุคลิกที่โดดเด่นด้วยความต้องการวินัยและการควบคุมมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จอย่างมืออาชีพในการพยายามอย่างสมบูรณ์แบบบุคคลดังกล่าวสามารถพบได้ในทุกช่วงชีวิตเราทุกคนรู้จักคนที่ดูเหมือนจะใส่ใจในรายละเอียดและการสั่งซื้อมากเกินไปในประมาณสองในทุก ๆ ร้อยสมาชิกของประชาชนทั่วไปพฤติกรรมพิธีกรรมที่ควบคุมชีวิตของแต่ละบุคคลกลายเป็นปัญหาทางการแพทย์ของความผิดปกติที่ครอบงำผู้ประสบภัยเหล่านี้ต้องมีส่วนร่วมในพฤติกรรมพิธีกรรมและไม่สามารถแยกตัวออกจากกิจวัตรของพวกเขาได้พวกเขาตระหนักดีว่าพฤติกรรมของพวกเขาแปลก แต่ความรู้นั้นไม่ได้ช่วยอะไรประชดคือถ้าป้องกันไม่ให้ทำพิธีกรรมของพวกเขาพวกเขาอาจไม่แสดงเช่นกันเพราะความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาซึ่งตอนนี้พวกเขาโชคไม่ดีพิธีกรรมเหล่านี้ให้ความรู้สึกควบคุมในสถานการณ์ที่การควบคุมมีความสำคัญดังนั้นผู้ที่มีความผิดปกติที่ครอบงำไม่ได้ไม่จำเป็นต้องไม่มีเหตุผลเนื่องจาก "ภาพลวงตาของการควบคุม" นี้เป็นความสะดวกสบายทางจิตวิทยาเมื่อเปรียบเทียบกับการควบคุมไม่ได้เลย 22 อย่างไรก็ตามความเชื่อที่ว่าการทำงานของพิธีกรรมนั้นเหนือธรรมชาติเราอาจปฏิเสธว่าพิธีกรรมนั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อเหนือธรรมชาติและอ้างว่าพวกเขาหลายคนเช่นการขว้างเกลือเหนือไหล่ของคน ๆ หนึ่งเมื่อมันหกอยู่บนโต๊ะนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าประเพณีดั้งเดิมที่ไม่เป็นอันตรายกล่าวถึงก่อนหน้านี้แต่ถ้าเราคิดว่าไม่มีอะไรสำหรับพวกเขาทำไมเราถึงเห็นพฤติกรรมที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาของวิกฤต?

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

ในช่วงสงครามอิรักครั้งแรกในปี 2534 ซัดดัมฮุสเซนขีปนาวุธสกั๊ดสีแดงเข้าสู่เทลอาวีฟอะไรจะเกิดความเครียดมากกว่าการพักพิงในระหว่างการโจมตีทางอากาศไม่รู้ว่าครอบครัวของคุณกำลังจะถูกฆ่าหรือไม่?ในการสัมภาษณ์ครั้งต่อไปผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุดถูกถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาและพบว่าในระหว่างการสนทนาพวกเขา“ ล้มลงบนไม้” มีความหมายมากกว่าพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำยังไม่ชัดเจนว่าการฝึกซ้อมบนไม้เพื่อป้องกันโชคร้ายมาจากไหนมันอาจเชื่อมโยงกับการฝึกฝนคนนอกรีตของการแตะบนต้นไม้เพื่อส่งสัญญาณการปรากฏตัวของวิญญาณไม้หรืออาจเป็นการอ้างอิงถึงคริสเตียนครอสใครจะรู้?ไม่ว่าต้นกำเนิดของมันจะเป็นภัยคุกคามจากอันตรายที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมไสยศาสตร์ [24 เราอาจปฏิเสธความรุนแรง แต่ก็ยังคงอยู่ในพื้นหลังของจิตใจของเรารอโอกาสที่จะได้ปรากฏตัวของแขกในช่วงเวลาที่เกิดความเครียดละทิ้งเราความเชื่อที่อยู่เบื้องหลังการปฏิบัติที่ไสยศาสตร์อาจเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่นี่คือประเด็นที่น่าสนใจ: พวกเขาทำงานเพื่อลดความเครียดที่เกิดจากความไม่แน่นอนพิธีกรรมสร้างความรู้สึกควบคุมหรืออย่างน้อยความเชื่อที่ว่าเราสามารถควบคุมได้แม้ว่าเราจะไม่ได้ก็ตามภาพลวงตาของการควบคุมเป็นกลไกที่ทรงพลังอย่างมากในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่สามารถคาดเดาได้ไม่เพียง แต่เราจะคิดแบบสุ่ม แต่เราไม่ชอบการลงโทษที่คาดเดาไม่ได้เราทุกคนรู้ว่าการรอสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นเราแค่ต้องการที่จะได้รับมันและทำโดยเร็วที่สุดในฐานะเด็กที่เติบโตขึ้นมาในสกอตแลนด์ฉันจำได้ว่านั่งอยู่นอกอาจารย์ใหญ่ที่รอการ“ รัด” สำหรับการเล่นในสนามเด็กเล่นฉันคิดว่ามันเป็นสำเนียงต่างประเทศของฉันที่ทำให้ฉันเป็นจุดสนใจเมื่อถึงยุคนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับ Bogeyman นั้นไม่มีประสิทธิภาพอีกต่อไปและการลงโทษทางร่างกายก็ถือว่าเป็นตัวยับยั้งที่ดีที่สุดสายรัดเป็นเข็มขัดหนังป่าเถื่อนที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการตีมือ - การฝึกฝนที่ผิดกฎหมายมันไม่ได้เป็นความเจ็บปวดจากการถูกมัดซึ่งทนไม่ได้อย่างไรก็ตามมากพอ ๆ กับการรอคอยและความรู้สึกของการไร้ประโยชน์ฉันไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้การศึกษาเกณฑ์ความเจ็บปวดเผยให้เห็นว่ามนุษย์สามารถทนต่อแรงกระแทกไฟฟ้าที่สูงขึ้นได้หากพวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถหยุดการลงโทษได้ทุกเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ทำ

กีดขวาง

ไม่คิดว่าพวกเขามีตัวเลือกนี้ 24 การทำอะไรบางอย่างหรือเชื่อว่าคุณสามารถทำอะไรบางอย่างทำให้สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ได้รับมากขึ้นการไร้ความสามารถในการกระทำนั้นเป็นเรื่องที่น่าวิตกทางจิตวิทยามันไม่ได้เป็นเพียงกิจวัตรที่เชื่อโชคลางที่เสริมสร้างภาพลวงตาของการควบคุมสำหรับหลาย ๆ คนภาพลวงตานี้อธิบายถึงพลังของจิตใจและความคิดที่ปรารถนาDan Wegner นักจิตวิทยาฮาร์วาร์ดได้แสดงให้เห็นว่ากลไกเชิงสาเหตุเดียวกันสามารถนำไปสู่“ สาเหตุทางจิตที่ชัดเจน”: ความเชื่อของแต่ละบุคคลว่าความคิดของเขาหรือเธอทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาเชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดในเวลาลองนึกภาพว่าคุณต้องการให้ใครบางคนทำอันตรายและสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับบุคคลนั้นหลังจากนั้นไม่นานเรื่องบังเอิญเช่นนี้จะต้องเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่มันยากมากที่จะไม่คิดว่าคุณมีความรับผิดชอบในบางวิธีWegner และเพื่อนร่วมงานของเขาพบว่าอาสาสมัครที่คิดว่าไม่ดีกับคนที่ทำตัวเหมือนกระตุกเชื่อว่าพวกเขาทำให้เขาปวดหัวในภายหลังในความเป็นจริง "กระตุก" เป็นพันธมิตรของผู้ทดลองและการตั้งค่าเป็นการหลอกลวงอย่างไรก็ตามผู้ใหญ่ได้เชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งสองนี้เข้าด้วยกันราวกับว่าพวกเขาสาปแช่ง“ เหยื่อ” 25 นี่คือทั้งหมดที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในเด็กเล็กซึ่งยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างความคิดและการกระทำทางจิตพวกเขาคิดว่าการปรารถนาจะทำให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นจริงอย่างไรก็ตามการวิจัยของ Wegner ระบุว่าผู้ใหญ่หลายคนยังคงรักษาความเข้าใจผิดดังกล่าวแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาไม่ควรคิดเช่นนี้ตัวอย่างเช่นในเกมที่มีโอกาสเช่นการพนันผู้คนจะทำตัวราวกับว่าพวกเขามีการควบคุมเมื่อพวกเขาไม่ได้พวกเขารู้สึกมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการชนะหากพวกเขาได้โยนลูกเต๋าพวกเขาชอบที่จะเดิมพันก่อนที่ลูกเต๋าจะถูกโยนลงไปมากกว่าหลังจากนั้นพวกเขาคิดว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะชนะลอตเตอรีมากขึ้นหากพวกเขาเลือกตัวเลขและอื่น ๆพฤติกรรมดังกล่าวจะไร้สาระอย่างเต็มที่ถ้าลึกลงไปเราไม่คิดว่าเรามีบางอย่างในเหตุการณ์นี่เป็นเพราะการออกแบบจิตใจของเราต่อมาฉันตรวจสอบว่าการออกแบบจิตใจเกิดขึ้นในช่วงต้นของการพัฒนาเมื่อเด็ก ๆ เข้าใจและทำนายโลกทางกายภาพโลกแห่งชีวิตและโลกจิตเราจะดูการศึกษาที่พิสูจน์ว่าพวกเขาจะต้องให้เหตุผลเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ของวัตถุสิ่งมีชีวิตและจิตใจของพวกเขาเองรวมถึงของคนอื่น ๆฉันแสดงให้เห็นว่าเด็กเล็กกำลังคิดเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงดีเอ็นเอและจิตสำนึก - ทุกคนมองไม่เห็น

John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

ตาเปล่า - และพวกเขาทำสิ่งนี้มานานก่อนที่ครูจะมีโอกาสได้รับความคิดฉันแสดงให้เห็นว่าวิธีการให้เหตุผลนี้มีประสิทธิภาพมากสำหรับความเข้าใจของเด็ก ๆ แต่มันก็สามารถทำให้พวกเขาผิดหวังเพราะการให้เหตุผลด้วยวิธีนี้เกี่ยวกับคุณสมบัติที่มองไม่เห็นของโลกธรรมชาติบางครั้งนำไปสู่คำอธิบายเหนือธรรมชาติเด็ก ๆ อาจเรียนรู้เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นมาว่าความคิดเหนือธรรมชาตินั้นผิด แต่ถ้าความคิดแบบเด็ก ๆ นั้นไม่เคยหายไปจริงๆ?ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่คิดว่าเมื่อพวกเขาเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเขาคิดไว้ก่อนหน้านี้พวกเขาละทิ้งความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้และความคิดที่เข้าใจผิดอย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นทั้งหมด: ความคิดแบบเด็ก ๆ สามารถอยู่ในใจที่เป็นผู้ใหญ่พิจารณาตัวอย่างจากโลกของวัตถุลองนึกภาพลูกกระสุนปืนสองลูกที่มีขนาดเท่ากันหนึ่งทำจากไม้อ่อนและอีกอันหนึ่งเป็นเหล็กแข็งที่หนักกว่าหนึ่งร้อยเท่าหากคุณต้องวางพวกเขาทั้งสองในเวลาเดียวกันจากหอเอนเอียงของปิซาจะเกิดอะไรขึ้นเด็ก 26 คนคิดว่าวัตถุที่หนักกว่านั้นเร็วกว่าของที่เบากว่าวัตถุที่หนักกว่าจะลงจอดก่อนที่จะมีน้ำหนักเบากว่า แต่เพียงแค่และนั่นเป็นเพราะการต่อต้านอากาศหากคุณทิ้งลูกกระสุนปืนในสุญญากาศที่ไม่มีการต่อต้านอากาศพวกเขาจะลงจอดในเวลาเดียวกันตอนเป็นเด็กฉันไม่เชื่อเรื่องนี้จนกระทั่งครูฟิสิกส์แสดงให้เห็นว่าขนนกและเหรียญตกลงมาด้วยความเร็วเท่ากันในสุญญากาศนักศึกษาส่วนใหญ่ทำผิดพลาดเหมือนกัน 27 สิ่งที่น่าอัศจรรย์ไม่ใช่ว่านักเรียนผู้ใหญ่เข้าใจผิด แต่เป็นนักเรียนที่ได้รับการสอนกฎการเคลื่อนไหวของวัตถุของนิวตันและควรรู้ดีกว่าพวกเขาควรรู้คำตอบที่ถูกต้องอย่างใดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่พวกเขาได้เรียนรู้อย่างระมัดระวังสูญเสียไปกับสัญชาตญาณตามธรรมชาติของพวกเขาเกี่ยวกับน้ำหนักและวัตถุที่ลดลงตัวอย่างของลูกกระสุนปืนที่ตกลงมาเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันเผยให้เห็นว่าเราอาจไม่ละทิ้งความเข้าใจผิดในวัยเด็กของเราอย่างแท้จริงเมื่อเรากลายเป็นผู้ใหญ่และเรียนรู้ข้อเท็จจริงใหม่ ๆ เกี่ยวกับโลกพวกเราบางคนมีความเสี่ยงต่อความเข้าใจผิดเหล่านี้มากกว่าคนอื่น ๆทีนี้ลองนึกภาพว่าเราจะละทิ้งความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างไรที่นี่มีหลักฐานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีค่าที่จะห้ามความเชื่อของเราถ้าเราถือเด็ก ๆ

กีดขวาง

แนวคิดเกี่ยวกับกลไกที่มองไม่เห็นของความเป็นจริงจากนั้นความแตกต่างระหว่างผู้เชื่อและผู้ที่ไม่เชื่ออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราได้รับการบอกเล่าน้อยลงหากคุณเป็นคนที่มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่ามีกองกำลังเหนือธรรมชาติที่ปฏิบัติการในโลกคุณจะตีความเหตุการณ์ทุกรูปแบบในแง่ของวิธีคิดนี้จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นโชคชะตาและโชคจะอธิบายว่าทำไมสิ่งต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นคุณจะอนุมานการปรากฏตัวของตัวแทนเหนือธรรมชาติและความชั่วร้ายและความดีจะกลายเป็นกองกำลังที่จับต้องได้อะไรต่อไป?ชีวิตของเราถูกคั่นด้วยเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเราจะเข้าใจพวกเขาได้อย่างไร?บ่อยครั้งที่เราขอคำอธิบายที่ทำให้เกิดกิจกรรมเหนือธรรมชาติบางอย่างแม้ว่าหลักฐานสำหรับกิจกรรมดังกล่าวไม่สามารถสังเกตได้หรือศึกษาโดยตรงดังนั้นเราจึงถูกทิ้งไว้ด้วยความเชื่อความเชื่อเหล่านี้มาจากไหน?บัญชีหนึ่งขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติแพร่กระจายโดยสิ่งที่คนอื่นบอกเราแน่นอนว่านี่อาจเป็นจริงสำหรับเนื้อหาของความเชื่อ - ชื่อของวิญญาณหรือธรรมชาติของพิธีกรรมที่ต้องดำเนินการ - แต่สิ่งที่เกี่ยวกับพื้นฐานของความเชื่อ?แล้วทำไมพวกเราหลายคนถึงใจง่ายด้วยความเต็มใจ?เหตุผลหนึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามันเป็นวิธีคิดตามธรรมชาติของเราที่จะสมมติว่ามีมิติเหนือธรรมชาติสู่ความเป็นจริง - "บางสิ่งบางอย่าง" ที่วิลเลียมเจมส์พูดถึงศาสนาเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยที่สุดของความเชื่อเหนือธรรมชาติ: ศาสนาส่วนใหญ่มีเทพและสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอื่น ๆ ที่ไม่ได้ จำกัด อยู่ที่กฎหมายธรรมชาติแม้แต่คนจำนวนมากที่ไม่เชื่อในพระเจ้าก็ยังเต็มใจที่จะสร้างความบันเทิงให้กับความคิดที่ว่ามีปรากฏการณ์รูปแบบพลังงานและกองกำลังปฏิบัติการในโลกที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยกฎหมายธรรมชาติพระเจ้าอาจต้องการความเชื่อเหนือธรรมชาติ แต่ความเชื่อเหนือธรรมชาติไม่ต้องการพระเจ้าในบทต่อไปฉันต้องการพัฒนาความคิดนี้ต่อไปโดยแสดงให้เห็นว่าพวกเราส่วนใหญ่สามารถถือความเชื่อเหนือธรรมชาติได้แม้ว่าเราจะไม่ทราบว่าเราทำและสำหรับสิ่งนั้นฉันต้องการคาร์ดิแกนตัวเก่า

บทที่สอง

คุณช่วยสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม

เมื่อพูดถึงการเลือกพวกเราส่วนใหญ่รู้สึกว่าเราประเมินหลักฐานอย่างเป็นกลางชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียและดำเนินการตามเหตุผลมิฉะนั้นเราจะต้องยอมรับว่าการตัดสินใจของเราไม่มีเหตุผลและมีเพียงไม่กี่คนที่เต็มใจรับทราบสิ่งนี้แต่ความจริงก็คือจิตวิทยามนุษย์เกลื่อนไปด้วยตัวอย่างมากมายของการใช้เหตุผลที่ผิดพลาดนี่คือเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจในการศึกษาความผิดพลาดที่เราทำและอคติและข้อผิดพลาดเชิงตรรกะของเราดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องเผชิญกับเหตุผลและแนะนำว่าจะต้องมีกลไกพื้นฐานที่รับผิดชอบในการควบคุมกระบวนการคิดของเรานี่คือการออกแบบจิตใจที่ฉันพูดถึงในบทสุดท้ายแง่มุมของการออกแบบจิตใจที่ฉันสนใจคือสิ่งที่นำเราไปสู่การอนุมานการปรากฏตัวของรูปแบบกองกำลังและพลังงานที่ปฏิบัติการในโลกที่อาจไม่มีนี่คือสิ่งที่ฉันหมายถึงโดย Supersenseแม้ว่าคุณจะปฏิเสธที่จะมีความสามารถพิเศษคุณอาจยังมีความอ่อนไหวต่อมันเพราะกระบวนการที่นำไปสู่การคิดเหนือธรรมชาติไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างมีสติหรือจงใจและอย่างที่คุณจะเห็นในภายหลังในหนังสือนักวิจัยบางคนถึงกับถามว่ามีสิ่งต่าง ๆ เช่นเดียวกับการควบคุมโดยเจตนาหรือไม่ฉันชอบที่จะแสดงให้เห็นถึงจุดนี้ในการบรรยายสาธารณะที่ฉันให้กับต้นกำเนิดของการคิดเหนือธรรมชาติโดยการพูดคุยเกี่ยวกับปฏิกิริยาของเรา

กีดขวาง

เพื่อจดจำวัตถุเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดเพราะผู้ชมส่วนใหญ่จดจำสิ่งที่ฉันกำลังพูดถึงทันทีเมื่อพิจารณาถึงพลังที่ซ่อนอยู่ของวัตถุที่ไม่มีชีวิตที่เรียบง่ายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความประทับใจทางจิตวิทยาที่สร้างขึ้นโดยวัตถุฉันแจกปากกาน้ำพุสีดำออกมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของอัลเบิร์ตไอน์สไตน์โอเคฉันโกหกผู้ชมเกี่ยวกับที่มาของปากกา แต่ความเชื่อนั้นไม่เพียงพอความเคารพและความหวาดกลัวต่อวัตถุนี้ชัดเจนทุกคนต้องการถือมันการสัมผัสปากกาทำให้พวกเขารู้สึกดีจากนั้นฉันถามผู้ชมว่าพวกเขาเต็มใจที่จะสวมเสื้อคาร์ดิแกนที่ฉันนำมาด้วยความแปลกประหลาดของคำถามและสถานะที่ขาดรุ่งริ่งของเสื้อผ้าแคชเมียร์ผู้ชมจึงน่าสงสัยหลังจากการพิจารณาสักครู่โดยปกติจะมีประมาณหนึ่งในสามของผู้ชมยกมือขึ้นดังนั้นฉันจึงเสนอรางวัลมีการยกมือมากขึ้นจากนั้นฉันก็บอกพวกเขาเกี่ยวกับถนนครอมเวลล์เป็นภาพของเฟร็ดเวสต์เพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัวจากด้านล่างของจอแสดงผล PowerPointเมื่อพวกเขาได้รับการบอกว่าคาร์ดิแกนเป็นของเฟร็ดเวสต์มือส่วนใหญ่มักจะยิงลงตามด้วยเสียงหัวเราะประสาทระลอกคลื่นผู้คนรับรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงของหัวใจของพวกเขาทำให้เกิดบางสิ่งที่แปลกแน่นอนว่ามีข้อยกเว้นอยู่เสมอบางคนยกมือขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยวโดยทั่วไปแล้วพวกเขาเป็นผู้ชายและมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นถึงการควบคุมเหตุผลของพวกเขาหรือพวกเขาสงสัยอย่างถูกต้องว่าฉันโกหกเกี่ยวกับเจ้าของคาร์ดิแกนสิ่งที่น่าทึ่งคือสมาชิกผู้ชมคนอื่น ๆ นั่งถัดจากหนึ่งในบุคคลเหล่านี้อย่างเห็นได้ชัดจากเพื่อนบ้านที่เต็มใจสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าใครบางคนจะพิจารณาสัมผัสเสื้อผ้าที่น่าตกใจได้อย่างไรแน่นอนว่ามันเป็นการแสดงผาดโผน - การตั้งค่าโดยเจตนาที่ตั้งขึ้นเพื่อสร้างความรู้สึกรังเกียจในกลุ่มผู้ชมที่ไม่สงสัยเมื่อปีที่แล้วการแสดงความสามารถนี้ทำให้ฉันได้รับความประพฤติไม่ดีใน Norwich ประเทศอังกฤษ 1 ฉันได้นำเสนอทฤษฎีของฉันเกี่ยวกับต้นกำเนิดของ Supersense และทำไมวิทยาศาสตร์และเหตุผลจะไม่ทำให้ผู้คนละทิ้งความเชื่อเช่นนี้ได้อย่างง่ายดายงานนำเสนอเกิดขึ้นในงานเทศกาลวิทยาศาสตร์อังกฤษที่สำคัญและสำนักพิมพ์วิทยาศาสตร์ของโลกอยู่ที่นั่นเนื่องจากกระดาษคุณภาพทุกฉบับมีนักข่าววิทยาศาสตร์อยู่ฉันจึงเผยแพร่บทความที่สรุปความคิดของฉันเพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่ดีในงานแถลงข่าวฉันแย้งว่า

คุณช่วยสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม

มนุษย์เกิดมาพร้อมกับสมองที่อนุมานกองกำลังและโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงและการอนุมานเหล่านี้บางส่วนทำให้เราเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติดังนั้นเราจึงไม่สามารถรับผิดชอบ แต่เพียงผู้เดียวในการกระจายความเชื่อเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับศาสนาและวัฒนธรรมการสาธิตคาร์ดิแกนมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงผู้ชมที่มีการศึกษาฉลาดและมีเหตุผล (แม้ว่าจะรวมถึงนักข่าวที่มักจะมองหาตะขอ) ว่าบางครั้งความเชื่อของเราอาจเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างแท้จริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลูกฝังศาสนาแม้แต่ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าก็ยังแสดงความรังเกียจต่อความคิดที่จะสัมผัสคาร์ดิแกนของ Fred Westหากเป็นความจริงที่ความเชื่อของเราอาจเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาก็ต้องเป็นความจริงที่ว่ามนุษย์ไม่จำเป็นต้องพัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่มีเหตุผลเพราะจิตใจที่ออกแบบมาสำหรับการสร้างคำอธิบายตามธรรมชาติยังสร้างสิ่งเหนือธรรมชาติNews of the Cardigan Stunt และความคิดเห็นของฉันแพร่กระจายเหมือนไวรัสทั่วเครือข่ายดิจิตอลของโลกฉันให้สัมภาษณ์หลังการสัมภาษณ์และเหตุการณ์สร้างการโพสต์เว็บบนเว็บไซต์ทางศาสนาและฆราวาสด้วยการผสมผสานระหว่างการเยาะเย้ยและการสรรเสริญเพื่อนร่วมงานบางคนไม่ชอบการแสดง แต่ฉันได้ทำจุดที่มีคนพูดคุยผู้คนโกรธเคืองฉันสัมผัสเส้นประสาทดิบมันเป็นการแสดงความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์แม้ว่าจะไม่มีศาสนาใดที่ถูกทำให้ขุ่นเคืองแต่ฉันแสดงให้เห็นว่าอะไรที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจมาก?การสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าแสดงอะไรจริง ๆ ?มันเป็นการสาธิตความไร้เหตุผลหรือไม่?สิ่งนี้พิสูจน์ได้อย่างไรว่ามนุษย์จะไม่พัฒนาจิตใจที่มีเหตุผล?ฉันคิดว่าคาร์ดิแกนของนักฆ่าแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวของเรามันบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับค่าศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มนอกจากนี้ยังพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเราในฐานะทั้งบุคคลและสมาชิกกลุ่มการผลักดันให้กับคาร์ดิแกนสามารถสร้างความเชื่อเหนือธรรมชาติที่พบได้ทั่วไปว่าแก่นแท้ที่มองไม่เห็นสามารถปนเปื้อนโลกและเชื่อมต่อเราเข้าด้วยกันเกือบเหมือนกาวมนุษย์บางรูปแบบหรืออย่างน้อยก็รู้สึกราวกับว่ามีสิ่งที่จับต้องได้ที่เข้าร่วมกับเราด้วยกันในจิตวิทยาสังคมวิชาการ“ กาวสังคม” เป็นคำที่อธิบายกลไกสำหรับการเชื่อมต่อทางสังคมของกลุ่ม 2 พฤติกรรมใด ๆ ที่ทำให้สมาชิกของกลุ่มรู้สึกเชื่อมต่อมากขึ้นสามารถทำงานเป็นกาวสังคมสิ่งนี้ชัดเจนที่

กีดขวาง

การแข่งขันกีฬาที่มีแฟน ๆ หลายคนจากทุกเดินชีวิตมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวคนแปลกหน้าหลายร้อยคนที่มักจะไม่โต้ตอบกันอย่างกระทันหันกลายเป็นกลุ่มที่มีการจัดการสูงและเป็นเอกภาพในปี 1896 นักสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศสกุสตาฟเลอบอนอธิบายปรากฏการณ์ของฝูงชนนี้:“ ความรู้สึกอารมณ์และความคิดมีพลังในการติดต่อกับฝูงชนที่รุนแรงเท่ากับจุลินทรีย์”มันเป็นเหมือนสิ่งที่มีบางสิ่งที่เกิดจากการติดเชื้อทางกายภาพน่าเสียดายสำหรับฟุตบอลอังกฤษบ่อยครั้งที่พลังของความคิดมวลชนนี้สามารถครอบงำบุคคลที่ปฏิบัติตามกฎหมายโดยปกติแล้วตัวเองติดอยู่กับนักเลงหัวไม้และทะเลาะกับทีมคู่แข่งเลอบอนแย้งว่าเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนว่ากาวสังคมอธิบายว่าทำไมผู้สนับสนุนไม่รู้สึกรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขาและอ้างว่าพวกเขาเพียงแค่ไปกับฝูงชน 3 ฉันเห็นกาวนี้ยังทำงานในระดับบุคคลเราแต่ละคนสามารถรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่เป็นพิเศษและใกล้ชิดกับบุคคลอื่นฉันเชื่อว่ากลไกนี้สามารถทำงานได้ในระดับของสาระสำคัญภายในที่รับรู้สาระสำคัญคือคุณสมบัติพื้นฐานที่มองไม่เห็นซึ่งกำหนดลักษณะที่แท้จริงของบางสิ่งบางอย่างมันไม่มีอยู่จริง แต่เราคิดและประพฤติตนราวกับว่ามีบางสิ่งภายในอยู่ภายในคนที่ทำให้พวกเขาเป็นใครฉันตรวจสอบความคิดนี้อย่างละเอียดมากขึ้นตลอดทั้งเล่มเพราะมันอธิบายพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของเราที่มีต่อผู้อื่นและทรัพย์สินของพวกเขาฉันตรวจสอบงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการคิดที่สำคัญในเด็กและแสดงให้เห็นว่าการคิดประเภทนี้สามารถนำเราไม่เพียง แต่จะรับรู้ถึงทรัพย์สินที่มองไม่เห็นที่อาศัยอยู่ในแต่ละบุคคล แต่ยังถ่ายโอนทรัพย์สินนั้นไปยังวัตถุของพวกเขาด้วยอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเชื่อว่ามีการเชื่อมต่อที่สำคัญหรือกาวที่สามารถผูกมัดเรากับผู้อื่นหรือขับไล่เราจากพวกเขาแม้ว่าการเชื่อมต่อดังกล่าวจะเป็นสิ่งเหนือธรรมชาตินั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าการแสดงความสามารถคาร์ดิแกนเปิดเผยว่าบางคนเชื่อว่าสาระสำคัญของเฟร็ดเวสต์ได้ปนเปื้อนเสื้อผ้าของเขากาวที่จำเป็นนี้สามารถให้ฮิวริสติกที่มีประโยชน์สำหรับการโต้ตอบกับผู้อื่นฮิวริสติกเป็นทางลัดที่เรียบง่ายในการให้เหตุผลว่าให้การสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจที่ซับซ้อนมากขึ้นเราใช้พวกเขาตลอดเวลาเมื่อตัดสินคนอื่นคุณเคยไม่ชอบใครสักคนทันทีหรือไม่?เหตุผลอะไร?บ่อยครั้งที่คุณไม่สามารถพูดได้ - มันเป็นเพียงความรู้สึกที่คุณได้รับเมื่อไร

คุณช่วยสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม

เราพบใครบางคนเป็นครั้งแรกมีการตัดสินใจที่ไม่รู้สึกตัวเกิดขึ้นมากมายคนนี้คือใคร?ฉันรู้อะไรเกี่ยวกับเขา?ฉันรู้สึกอย่างไรกับเขา?เราอาจสามารถตอบคำถามเหล่านี้บางส่วนหรือทั้งหมดได้ แต่บ่อยครั้งที่เราตอบโดยไม่ทราบว่าจะทำเช่นนั้นเราพึ่งพาการอนุมานและฮิวริสติกที่หมดสตินักจิตวิทยาสังคมได้แสดงให้เห็นว่าด้วยข้อมูลที่แทบจะดีที่สุดผู้คนสามารถตัดสินเกี่ยวกับผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายและถึงกระนั้นการแสดงผลเช่นการหั่นบาง ๆ อย่างที่เป็นที่ทราบกันดีอาจมีผลอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจของเราตัวอย่างเช่นนักเรียนสามารถทำนายคะแนนการประเมินผลการสอนได้อย่างถูกต้องสำหรับอาจารย์ตามวิดีโอเงียบเพียงสองวินาทีที่นำมาจากชั้นเรียนของอาจารย์พวกเขายังสามารถทำนายได้ว่าศัลยแพทย์จะถูกฟ้องร้องสำหรับการทุจริตต่อหน้าที่โดยใช้คำพูด muf ﬂ ed สองสามวินาทีบางสิ่งบางอย่างในคุณภาพของการเคลื่อนไหวและเสียงเผยให้เห็นข้อมูลที่หลากหลายอย่างน่าประหลาดใจเกี่ยวกับทักษะทางสังคมของพวกเขา 4 มนุษย์มีความอ่อนไหวต่อการตัดสินผู้อื่นอย่างประณีตแม้ว่าเรามักจะไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจนว่ามันเกี่ยวกับพวกเขาที่เราสังเกตเห็นการใช้เหตุผลอย่างชาญฉลาดการคิดที่หมดสตินั้นเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ฉันเรียกว่าการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายซึ่งหูที่มีการศึกษาส่วนใหญ่ฟังดูเหมือนเป็น oxymoronการใช้เหตุผลจะใช้งานง่ายได้อย่างไร?โดยใช้งานง่ายฉันหมายถึงการเรียนรู้ที่ไม่ได้เรียนรู้ดังที่เราจะได้เห็นในหนังสือเล่มนี้มีหลักฐานที่ดีว่าเด็ก ๆ ตามธรรมชาติและตามธรรมชาติคิดเกี่ยวกับคุณสมบัติที่มองไม่เห็นที่ควบคุมโลกพวกเขาอนุมานกองกำลังที่จะอธิบายเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรงเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตมีพลังงานชีวิตและเหตุผลในแง่ของสาระสำคัญเมื่อคิดถึงธรรมชาติที่แท้จริงของสัตว์และแน่นอนพวกเขาเริ่มเข้าใจว่าคนอื่นมีจิตใจกระบวนการเหล่านี้ไม่ได้สอนให้เด็ก ๆพวกเขามีเหตุผลแม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าพวกเขาสามารถอีกครั้งว่าทำไมหรือว่าพวกเขากำลังตัดสินใจอย่างไรนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการใช้เหตุผลของพวกเขาจึงใช้งานง่ายสัญชาตญาณมักจะเรียกว่า "ความรู้สึกของลำไส้"บางครั้งเราได้รับ“ บรรยากาศ” เมื่อเรารู้สึกถึงความรู้สึกทางร่างกายของการรู้ - เหมือนฮิปปี้ในยุค 1960 ซึ่งการพูดถึงการได้รับความรู้สึกที่ดีหรือไม่ดีคือ

กีดขวาง

ชวเลขสำหรับความรู้สึกของลำไส้นักประสาทวิทยา Antonio Damasio เรียกสิ่งนี้ว่าเครื่องหมายโซมาติก: มันบ่งบอกถึงวิธีการที่อารมณ์ส่งผลกระทบต่อการให้เหตุผลในวิธีที่รวดเร็วและหมดสติ“ โซมาติก” มาจากคำภาษากรีกสำหรับ“ ของร่างกาย”ในการวิจัยที่น่าทึ่งของเขา Damasio และฮันนาภรรยาของเขาได้แสดงให้เห็นว่าการใช้เหตุผลนั้นทำงานได้โดยการรวมข้อมูลจากประสบการณ์ที่ผ่านมาและการเผชิญหน้าและให้อาหารเพื่อการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันการเรียนรู้ที่ผ่านมาถูกเก็บไว้เป็นการตอบสนองอย่างลึกซึ้งในศูนย์อารมณ์ของสมองที่เรียกว่าระบบ limbicบางครั้งเรียกว่าส่วน "สัตว์เลื้อยคลาน" ของสมองเนื่องจากประวัติศาสตร์วิวัฒนาการที่ใช้ร่วมกันของเรากับสัตว์เลื้อยคลานศูนย์ถ่ายทอดเหล่านี้ส่งสัญญาณไปยังพื้นที่กลีบหน้าผากที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจหากส่วนหนึ่งของวงจรนี้หยุดชะงักผ่านการบาดเจ็บการใช้เหตุผลอาจลดลงในการศึกษาหนึ่งผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายต่อกลีบหน้าของพวกเขามีส่วนร่วมในการทดลองการพนันซึ่งพวกเขาต้องเลือกการ์ดจากหนึ่งในสี่เด็คที่แตกต่างกันดาดฟ้าสองแห่งจ่ายเงินจำนวนน้อยและอีกสองแห่งจ่ายเงินจำนวนมากขึ้นอย่างไรก็ตามผู้เล่นที่ไม่รู้จักมีบัตรโทษมากขึ้นในดาดฟ้าที่ให้คะแนนสูงเมื่อเทียบกับดาดฟ้าที่ให้คะแนนต่ำผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากกลีบด้านหน้านั้นยากจนกว่าในการเรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงดาดฟ้าที่มีความเสี่ยงเมื่อเทียบกับผู้เล่นปกติโดยปกติเมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงเราเหงื่อออกมันเป็นสัญญาณของอารมณ์ความรู้สึกเพื่อให้เข้าใจถึงบทบาทของอารมณ์ในการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการทดลองการพนัน Damasios วัดจำนวนเหงื่อที่ผู้เล่นแต่ละคนผลิตโดยการวางขั้วไฟฟ้าบนผิวของพวกเขามาตรการนี้เรียกว่าการตอบสนองของผิวหนังกัลวานิกตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสื่อกระแสไฟฟ้าเป็นตัวชี้วัดความเร้าอารมณ์พื้นฐานเป็นหลักการเดียวกับที่ใช้ในการตรวจจับสิ่งที่พวกเขาพบนั้นน่าอัศจรรย์ทั้งผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากผิวหนังปกติและหน้าผากแสดงให้เห็นว่าสื่อนำไฟฟ้าผิวหนังเดียวกันก่อนที่การ์ดแต่ละใบจะถูกพลิกกลับมาที่จุดเริ่มต้นของเกมอย่างไรก็ตามในขณะที่เกมก้าวหน้าและผู้เล่นปกติเริ่มเรียนรู้ว่าบางชั้นมีความเสี่ยงมากขึ้นพวกเขาก็ตื่นขึ้นมาก่อนที่พวกเขาจะเลือกการ์ดจากกองเหล่านี้พวกเขาเริ่มรู้สึกถึงรูปแบบเสียงระฆังและแสงไฟกำลังดับลงในระบบอารมณ์ของพวกเขาเพื่อเตือนพวกเขาว่าการตัดสินใจของพวกเขาผิดสิ่งนี้เกิดขึ้นก่อนที่พวกเขาจะตระหนักอย่างมีสติว่าอัตราต่อรอง

คุณช่วยสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม

ถูกซ้อนกันกับพวกเขาสัญชาตญาณกำลังบอกให้พวกเขาระวังผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากกลีบหน้าผากที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นไม่มีความตื่นตัวใด ๆ เลย!ประสบการณ์ที่ผ่านมาและการเรียนรู้อาจคลุมเครือและหมดสติ แต่พวกเขาให้เครื่องหมาย“ รู้สึกถูก” ที่ช่วยให้บุคคลมั่นใจได้เกี่ยวกับการตัดสินใจของพวกเขาในการศึกษาของ Damasios ผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากกลีบด้านหน้าซึ่งไม่มีเครื่องหมายเหล่านี้เป็นอัมพาตที่ไม่แน่ใจเมื่อต้องเลือกหรือประมาทอย่างสมบูรณ์และไม่สนใจเกี่ยวกับผลที่ตามมาของการกระทำของพวกเขานี่เป็นเพราะพวกเขาไม่มีเครื่องหมายโซมาติกที่จะช่วยพวกเขาตัดสินใจหรือเตือนพวกเขาให้ระมัดระวังมากขึ้นพวกเขาไม่สามารถรู้สึกคำตอบได้ 5 การแสดงความสามารถของ Fred West Cardigan เปิดเผยอย่างมากว่าสัญชาตญาณที่รวดเร็วและอัตโนมัติของผู้ฟังเตะเข้ามาก่อนที่พวกเขาจะมีเวลาพิจารณาว่าทำไมพวกเขาถึงไม่สวมใส่ฆาตกรซาดิสต์น่ารังเกียจพวกเราส่วนใหญ่และโดยไม่ต้องคิดถึงมันเราไม่ต้องการที่จะสัมผัสกับพวกเขาหรือทรัพย์สินของพวกเขาอย่างไรก็ตามพวกเราทุกคนไม่รู้สึกแบบนี้โรคจิตและนักสังคมวิทยาไม่รู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับเพื่อนมนุษย์ของพวกเขาและนั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถทำสิ่งที่ไร้มนุษยธรรมที่พวกเขาทำพวกเขาจะไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกเหมือนกันที่พวกเราที่เหลือมี 6 อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่สามารถสวมใส่เสื้อสเวตเตอร์ได้เป็นโรคจิตบางคนไม่รู้สึกอ่อนไหวเกี่ยวกับวัตถุพวกเขาอาจปฏิเสธคำเชิญให้สวมเสื้อคาร์ดิแกน แต่เพียงเพราะพวกเขาไม่ต้องการโดดเด่นจากฝูงชนไม่ว่าเราจะรู้สึกถึงการปรากฏตัวของเฟร็ดเวสต์หรือไม่ต้องการที่จะเห็นว่าแตกต่างกันพวกเราส่วนใหญ่ปฏิเสธคำเชิญใครก็ตามที่ยืนยันอย่างกล้าหาญในการสวมใส่เสื้อคาร์ดิแกนสามารถโต้แย้งธรรมชาติที่ไร้เหตุผลของสมาคม แต่บุคคลนั้นยังคงสูญเสียเพื่อนคุณจะเชื่อมโยงกับคนที่ไม่ใส่ใจเกี่ยวกับการทำสิ่งที่คนอื่นส่วนใหญ่เป็นผู้ต่อต้าน?ฉันคิดว่าเหตุผลหลักที่นักวิจารณ์ที่น่ารำคาญที่อ่านเกี่ยวกับเหตุการณ์คือพวกเขาอาจประสบกับการปะทะกันระหว่างสัญชาตญาณและตรรกะที่ผู้ชมของฉันรู้สึกในขั้นต้นพวกเขาพิจารณาว่าพวกเขาจะตอบสนองโดยใช้กระบวนการที่ใช้งานง่ายของพวกเขาอย่างไรและด้วยความคิดที่มีเหตุผลของพวกเขาพวกเขาตระหนักถึงความไม่สอดคล้องกันของตรรกะของคำตอบใช่หรือไม่ใช่นอกจากนี้ยังไม่มีคำตอบที่ถูกต้องสำหรับคำถามทำให้มันน่ารำคาญยิ่งขึ้นคุณจะสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าหรือไม่

กีดขวาง

$ 1?แล้ว $ 10,000 ล่ะ?มีประเด็นที่คนส่วนใหญ่จะเปลี่ยนใจ แต่สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในสถานที่แรกเกี่ยวกับการสัมผัสสิ่งของที่คนชั่วหรืออาศัยอยู่ในบ้านที่มีการฆาตกรรมเกิดขึ้น?ทำไมพวกเราส่วนใหญ่ถึงมีการจองเหล่านี้?แนวคิดสำหรับการแสดงความสามารถของ Fred West Cardigan มาจากการทำงานของ Paul Rozin ที่ University of Pennsylvania.7 การทดลองของ Rozin เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจและเร้าใจที่สุดของธรรมชาติที่แปลกประหลาดของการใช้เหตุผลของมนุษย์งานส่วนใหญ่ของเขาเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมนุษย์ที่ซับซ้อนของความรังเกียจDisgust เป็นปฏิกิริยาของมนุษย์สากลที่เกิดจากประสบการณ์บางอย่างที่ทำให้เกิดการตอบสนองทางร่างกายที่แข็งแกร่งทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่า nosewrinkling, กบฏ, คลื่นไส้, retching, sensation กระเพาะอาหารที่เราได้รับเมื่อเราเบื่อหน่ายเป็นการตอบสนองที่ทรงพลังและไม่สมัครใจที่สามารถควบคุมได้ความรังเกียจเป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะเราทุกคนพัฒนาปฏิกิริยาคลื่นไส้ต่อสิ่งต่าง ๆ เช่นอุจจาระของมนุษย์และซากศพเน่าเปื่อยอย่างไรก็ตามยังมีที่ว่างสำหรับการเรียนรู้: สารและพฤติกรรมบางอย่างอาจถือว่าน่าขยะแขยงถ้าคนอื่นพูดเช่นนั้นความหลากหลายของการตั้งค่าอาหารสุขอนามัยส่วนบุคคลและการปฏิบัติทางเพศในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันพิสูจน์สิ่งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าอาหารเอเชียรวมถึงแมลงและสัตว์เลื้อยคลานที่ถือว่าไม่อร่อยตามมาตรฐานตะวันตกที่รู้จักกันดีน้อยคือเครื่องดื่ม Kopi Luwak กาแฟรสเลิศที่หายากจากอินโดนีเซียที่ทำจากถั่วที่ผ่านระบบย่อยอาหารของ Civet ปาล์ม, สีน้ำตาลเข้ม, ต้นไม้ที่อยู่อาศัย, catlike ที่พบได้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้Kopi Luwak ขายส่วนใหญ่ให้กับญี่ปุ่นที่สูงถึง $ 600 ต่อปอนด์ทำให้เป็น "crappacino" ที่แพงที่สุดในโลกหรือใช้เสมหะมีบางสิ่งที่น่ารังเกียจมากกว่าเมือกครีมของคนอื่นในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปักกิ่งปี 2008 เมืองแห่ง ﬁ cials พยายามที่จะออกกฎหมายการปฏิบัติของจีนที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปในการล้างเสมหะในที่สาธารณะโดยการถ่มน้ำลายและการล้างไซนัสกระแทกแดกดันการฝึกฝนทางตะวันตกของการเป่าเนื้อหาของจมูกหนึ่งเข้าไปในผ้าเช็ดหน้าและวางผ้าเช็ดหน้าด้วยเนื้อหาในกระเป๋าของหนึ่งสามารถนำสายแห้งในภาษาญี่ปุ่นจำนวนมากที่คิดว่ามันน่ารังเกียจที่จะพกพาไปรอบ ๆฉันเดาว่าเราอยู่ทางตะวันตกจะคิดว่า

คุณช่วยสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม

เช่นเดียวกับการขับถ่ายทางร่างกายอื่น ๆ ที่เก็บไว้ในกระเป๋าของเราหรือพิจารณาเรื่องเพศกับสัตว์เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ฉันคิดว่าสัตว์ป่าเป็นข้อห้ามในระดับสากลจนกระทั่งฉันค้นพบว่าการมีเพศสัมพันธ์กับลาเป็นที่ยอมรับในเมืองซานแอนเทอโรทางตอนเหนือของโคลอมเบียที่ซึ่งเด็กชายวัยรุ่นได้รับการสนับสนุนในการฝึกฝนนี้พวกเขายังมีเทศกาลเพื่อเฉลิมฉลองสัตว์ป่านี้ลาที่น่าดึงดูดใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีขบวนแห่ในวิกผมและแต่งหน้า 8 (ฉันยังคงหวังว่าตัวอย่างสุดท้ายนี้เป็นเรื่องหลอกลวงที่ซับซ้อน) มีคำพูดทางตอนเหนือของอังกฤษ“ ตอนนี้ไม่มีอะไรเลยและตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสังคมและวัฒนธรรมสามารถกำหนดสิ่งที่เราน่าขยะแขยงได้อย่างไรและสิ่งที่เรายอมรับได้ในบทต่อมาเราจะเห็นว่าเราทุกคนประสบความรู้สึกรังเกียจการตอบสนองของเราต่อสิ่งที่น่าขยะแขยงบางอย่างนั้นเป็นไปโดยอัตโนมัติและไม่ได้รับการศึกษาส่วนใหญ่ แต่ผู้คนรอบ ๆ เราเป็นผู้อื่นเช่นการละเมิดข้อห้ามด้วยวิธีนี้ความขยะแขยงในลำไส้สามารถถูกกระตุ้นเพื่อป้องกันพฤติกรรมที่คุกคามคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ของสังคมของเราทำไมเราไม่ต้องการใส่คาร์ดิแกนงานของ Rozin เกี่ยวกับการปนเปื้อนแสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ไม่ต้องการสัมผัสทางกายภาพกับรายการที่น่าขยะแขยงแม้หลังจากล้างแล้ว(หนึ่งในรายการที่เขาใช้คือเสื้อสเวตเตอร์ของฮิตเลอร์มันไม่ได้ใช้ความเฉลียวฉลาดมากนักในการปรับสิ่งนี้ให้เข้ากับคาร์ดิแกนของเฟร็ดเวสต์สำหรับผู้ชมสมัยใหม่เนื่องจากหลักการเหมือนกัน) Rozin ระบุเหตุผลอย่างน้อยสี่ประการที่เราปฏิเสธที่จะสัมผัสความชั่วร้ายรายการและเขาพบว่าผู้ใหญ่รับรองเหตุผลเหล่านี้แต่ละข้อเพื่อให้ได้ระดับที่แตกต่างกัน1. เราไม่ต้องการที่จะเห็นการกระทำที่ส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยง2. รายการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักฆ่านั้นเป็นลบและการสวมใส่มันจะสร้างความสัมพันธ์กับการฆ่า3. เราเชื่อว่ามีการปนเปื้อนทางกายภาพของเสื้อผ้า

กีดขวาง

4. เราเชื่อว่ามีการปนเปื้อนทางจิตวิญญาณของเสื้อผ้าความสอดคล้องทางสังคมคำอธิบายครั้งแรกมีเหตุผล แต่เมื่อเราจินตนาการว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเรากล่าวอีกนัยหนึ่งว่าทำไมสังคมถึงสัมผัสกับเสื้อผ้าบางอย่างที่ยอมรับไม่ได้?เหตุใดการติดต่อทางกายภาพจึงผิดพลาดมากกว่าเพียงแค่พูดชื่อหรือวาดภาพของผู้ร้าย?คำตอบอยู่ที่ไหนสักแห่งในสามเหตุผลที่เหลือนักวิจารณ์เว็บหลายคนแย้งว่าการแสดงความสามารถคาร์ดิแกนของฉันแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงที่เรียบง่ายเท่านั้นและไม่จำเป็นต้องพูดคุยเกี่ยวกับการปนเปื้อนอย่างไรก็ตามคำอธิบายตามวงแหวนสมาคมกลวงไปที่หูของฉันคาร์ดิแกนควรมาเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์เชิงลบกับนักฆ่าอย่างไรและทำไม?ถ้าฉันเลือกมีดหรือบ่วงบัญชีสมาคมจะเพียงพอคาร์ดิแกนไม่ใช่รายการที่มักจะเชื่อมโยงกับฆาตกรมันเป็นสิ่งที่ให้ความอบอุ่นและความสะดวกสบายและที่สำคัญที่สุดสำหรับการสาธิตความใกล้ชิดของฉันชุดค่าผสมนี้มีไว้เพื่อให้ขวดและช็อตภาพถ่ายที่น่าอับอายของ Fred West ที่ถูกจับกุมในการจับกุมของเขาก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง แต่สิ่งของส่วนตัวเช่นเสื้อผ้าทริกเกอร์การตอบสนองเชิงลบที่แข็งแกร่งขึ้นรูปภาพมีประสิทธิภาพ แต่วัตถุมีมากขึ้นเสื้อผ้าที่ใกล้ชิดยังคงมีพลังมากขึ้นนั่นเป็นเหตุผลที่คุณไม่เคยเห็นชุดชั้นในของคนอื่นขายในร้านขายเสื้อผ้ามือสองไม่ว่าพวกเขาจะได้รับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างไรนี่คือสิ่งที่ Rozin แสดงให้เห็นในการทดลองที่คล้ายกันหลายครั้งซึ่งเขานำเสนอวิชาผู้ใหญ่ที่มีรายการที่ปนเปื้อนแม้จะมีความพยายามในการฆ่าเชื้อรายการผู้ใหญ่ก็ยังรู้สึกเบื่อหน่ายบางสิ่งบางอย่างยังคงอยู่ในเสื้อผ้าผู้คนจำนวนมากอยากจะสวมเสื้อคาร์ดิแกนที่ถูกทิ้งไว้ในอุจจาระสุนัขและล้างมากกว่าคนที่ถูกทำความสะอาด แต่ถูกฆาตกรสวมใส่คำอธิบายเกี่ยวกับการติดต่อทางกายภาพ?มันไปโดยไม่บอกว่าไม่มีใครอยากเข้าใกล้ฆาตกรต่อเนื่องบางทีคุณอาจกลัวชีวิตของคุณ แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าเราถือว่าความชั่วร้ายเป็นสารปนเปื้อนทางกายภาพที่สามารถส่งผ่านได้การไม่แตะต้องสิ่งที่ปนเปื้อนด้วยความชั่วร้ายอาจเป็นเรื่องแก้ตัวอีกเรื่องหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเราบางที

คุณช่วยสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม

ธรรมชาติของแม่ทำให้เรามีการปกครองนิ้วหัวแม่มือที่รวดเร็วและง่ายดาย:“ ถ้ามีอะไรเลวร้ายอย่าแตะต้องคุณอาจจับมันด้วย”ท้ายที่สุดเราไม่รู้ว่าทำไมบางคนถึงกลายเป็นนักฆ่าโรคจิตอาจเป็นไปได้ว่าสิ่งที่พวกเขาสัมผัสหรือกินทำให้พวกเขาบ้าในเดือนกันยายน 2543 ยาโคบเซกซ์ตันอายุยี่สิบสามปีสังหารนักเรียนแลกเปลี่ยนหญิงชาวญี่ปุ่นในเวอร์มอนต์หลังจากการดื่มสุราสองครั้งที่ LSD.9 หลังจากตีหญิงสาวจนตายด้วยมือเปล่าของเขาเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงและสารภาพว่าเขารู้สึกอยากฆ่าเพราะเขา“ ต้องการรวบรวมวิญญาณ”การป้องกันของเขาคือความวิกลจริตชั่วคราวเนื่องจากโรคจิตที่เกิดจากยาเสพติดสารทางกายภาพเช่นยาเสพติดสามารถเปลี่ยนความคิดของเราและทำให้เราทำสิ่งที่บ้าเซกซ์ตันได้กินยาเสพติดอย่างเต็มใจ แต่อัลเบิร์ตฮอฟฟ์แมนผู้ซึ่งสังเคราะห์ LSD กลับมาในปี 1950 ก็มีประสบการณ์การเดินทางที่เปลี่ยนแปลงจิตใจเมื่อเขาดูดซับสารประกอบผ่านทางช่องทางของเขาโดยไม่รู้ตัวเพียงแค่สัมผัสยาเสพติดจิตใจของเขาก็เปลี่ยนไปสารพิษจำนวนมากสามารถดูดซึมได้จากการสัมผัสผิวหนังและปริมาณที่เป็นอันตรายในนาทีที่สามารถนำเสนอภัยคุกคามที่มองไม่เห็นไม่เพียง แต่จะต้องมีการประกาศการฆาตกรรมและผีเมื่อมีการขายบ้านที่ถูกตีตรา แต่หลายรัฐในสหรัฐอเมริกากำหนดให้บ้านที่ก่อนหน้านี้มีห้องปฏิบัติการผลิตยาบ้าจะถูกระบุและสะอาดเนื่องจากการคุกคามที่เหลืออยู่ของการปนเปื้อนดังนั้นเมื่อเราประพฤติราวกับว่าบ้านหรือเสื้อผ้าสามารถส่งผ่านโรคจิตเราไม่ได้ไม่มีเหตุผลทั้งหมดอย่างไรก็ตามความกลัวของการปนเปื้อนไม่จำเป็นต้องมีบางสิ่งบางอย่างทางกายภาพเพียงแค่ความคิดที่จะทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมก็ทำให้เรารู้สึกสกปรกทางร่างกายไม่จำเป็นต้องฆาตกรรมเมื่อผู้ใหญ่ถูกถามในการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อคิดเกี่ยวกับการโกงใครบางคนพวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องล้างมือหลังจากนั้น 10 นักวิจัยพบว่าพื้นที่สมองที่ทำงานอยู่เมื่ออาสาสมัครรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคเหมือนกันในฐานะที่เป็นคนที่กระตือรือร้นเมื่อพวกเขาพิจารณาการกระทำที่น่ารังเกียจทางศีลธรรม“ เอฟเฟกต์สก็อตต์” นี้แสดงให้เห็นว่ากลอุบายของจิตใจนั้นมีพลังพอ ๆ กับของจริงดังนั้นการคิดว่าบางสิ่งบางอย่างอาจมีการปนเปื้อนทางร่างกายดูเหมือนจะเป็นเหตุผลที่ดีที่จะไม่สัมผัสราวกับว่าเราสงสัยว่าบางสิ่งบางอย่างเช่นไฟฟ้าช็อตอาจกระโดดจากวัตถุได้นี่คือเหตุผลที่ Fred West Cardigan Stunt Triggers เป็นส่วนใหญ่

กีดขวาง

ความรู้สึกของจิตวิญญาณไม่ใช่ทางร่างกายการปนเปื้อนคุณไม่สามารถล้างการปนเปื้อนดังกล่าวได้ราวกับว่ามันสกปรก แต่ในรูปแบบของการสมดุลของความชั่วร้ายด้วยความดีมันสามารถยกเลิกได้หรือ "ขับไล่" โดยการติดต่อกับคนที่ดีเหมือนแม่เทเรซามหาวิทยาลัยวาติกันซึ่งเป็นอัครสาวก Regina ได้คิดค้นหลักสูตรสองเดือนเกี่ยวกับวิธีการกำจัดการไล่ผีจากสิ่งที่ฉันเข้าใจพิธีกรรมการไล่ผีเหล่านี้อย่างใกล้ชิดติดตามสิ่งที่ปรากฎในความสยองขวัญคลาสสิก ﬁ lm ผู้ไล่ผี: การผสมผสานระหว่างการสวดมนต์พิธีกรรมและคำสั่งให้ปีศาจออกจากการออกไปการครอบครองและบางครั้งบ้านของผู้ประสบภัยก็ถูกทำความสะอาดด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์และพรฉันคิดว่าผู้ชมตอบสนองเช่นเดียวกับการสาธิต Fred West Cardigan เพราะพวกเราส่วนใหญ่จะปฏิบัติต่อคาร์ดิแกนราวกับว่าถูกตื้นตันใจกับความชั่วร้ายในทำนองเดียวกับที่เราบางคนเคารพไซต์ศักดิ์สิทธิ์นักบวชและพระธาตุทางศาสนาศักดิ์สิทธิ์เรายังหลีกเลี่ยงสถานที่ผู้คนและวัตถุที่ต้องห้ามอย่างไรก็ตามในการทำเช่นนั้นเราต้องให้ความสำคัญกับพวกเขามากกว่าแค่คุณสมบัติทางกายภาพของพวกเขาพวกเขาจะต้องก้าวข้ามธรรมชาติและกลายเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติเพื่อกระตุ้นการตอบสนองที่น่ารังเกียจจากเราการสนทนาน้ำเย็นน้ำฉันเพิ่งอ่านหนังสือเล่นโวหารโดยนักจิตวิทยาชาวอังกฤษ Richard Wiseman 12 มันเป็นคอลเล็กชั่นความอยากรู้อยากเห็นและความเป็นจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์จากการค้นหาเรื่องตลกที่สนุกที่สุดของโลกจนถึงการศึกษาเกี่ยวกับสายเปิดที่ดีที่สุดหนังสือเล่มนี้มีตัวอย่างที่เก็บเกี่ยวจากการศึกษาทางจิตวิทยาซึ่งให้เนื้อหาที่อยากรู้อยากเห็นที่ผู้คนชอบที่จะพูดคุยในสิ่งที่เรียกว่า "การสนทนาน้ำเย็น"ในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้ Wiseman รายงานผลลัพธ์ของชุดของงานเลี้ยงอาหารค่ำแบบ "ทดลอง" ซึ่งผู้คนถูกขอให้จัดอันดับรายการของ factoids ที่อธิบายไว้ตลอดทั้งเล่มในระดับตั้งแต่ 1 (“ อะไรก็ตาม”) ถึง 5 (“ เมื่อเมื่อมันออกมาในหนังสือปกอ่อนหรือไม่”)เขาระบุถึงสิบอันดับแรกที่ผู้คนพบว่าน่าสนใจที่สุดนี่เป็นข้อเท็จจริงที่น่าสนใจที่สุดสามอันดับแรกอันดับที่สามคือ:

คุณช่วยสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม

วิธีที่ดีที่สุดในการตรวจจับการโกหกคือการฟังมากกว่าดู - คนโกหกพูดน้อยลงให้รายละเอียดน้อยลงและใช้คำว่า "ฉัน" น้อยกว่าคนที่บอกความจริงในสถานที่ที่สองคือ: ความแตกต่างระหว่างของแท้และรอยยิ้มปลอมล้วนอยู่ในดวงตา - ในรอยยิ้มที่แท้จริงผิวรอบดวงตาก็พังทลายในรอยยิ้มปลอมมันยังคงอยู่มากเดาว่า Factoid หมายเลขหนึ่งคืออะไร?ผู้คนค่อนข้างจะสวมเสื้อสเวตเตอร์ที่ถูกทิ้งไว้ในอุจจาระสุนัขและไม่ได้ล้างมากกว่าคนที่ถูกแช่เย็น แต่เคยเป็นของฆาตกรจำนวนมากตอนนี้คุณรู้แล้วว่าทำไมผู้คนถึงเป็นหนึ่งในข้อเท็จจริงที่น่าสงสัยที่สุดเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์อะไรต่อไป?พวกเขากล่าวว่าการเข้าใจถึงปัญหาหลังเหตุการณ์ให้การมองเห็น 20/20 (สมบูรณ์แบบ) และในแสงเย็นของวันมันเป็นเรื่องง่ายที่จะยกเลิกปฏิกิริยาของเราต่อคาร์ดิแกนและปากกาว่าไม่มีเหตุผลเมื่อเรามีข้อเท็จจริงทั้งหมดในมือไม่ว่าเราจะเคาะไม้สวมรองเท้าเทนนิสพิเศษเชื่อว่าเราได้ยินผีหรือหลีกเลี่ยงวัตถุที่อาจปนเปื้อนด้วยความชั่วร้าย Supersense สามารถพบได้ในพวกเราหลายคนพวกเราบางคนดีกว่าคนอื่น ๆ ในการควบคุมความคิดและการกระตุ้นเหล่านี้ แต่เราควรตระหนักว่าพวกเขาเป็นธรรมชาติฉันคิดว่าผู้ที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากเชื่อว่ามีร่างกายมนุษย์มากกว่าเพียงแค่ร่างกายและมีวิญญาณหรือแก่นแท้ทางจิตวิญญาณที่สามารถออกจากร่างกายได้สิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยตัวเองที่พูดถึงผีและวิญญาณและปรึกษากับสื่ออย่างไรก็ตามพวกเราหลายคนรู้สึกอึดอัดเมื่อกล่าวถึงสิ่งเหนือธรรมชาติบางทีนี่อาจเป็นการกระตุ้นให้พวกเราส่วนใหญ่ที่เราต้องปราบปรามฉันคิดว่าความเชื่อสามารถใช้งานได้ด้วยการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายแบบเดียวกันซึ่งช่วยให้เราเข้าใจโลกธรรมชาติโดยให้เราตัดสินใจอย่างรวดเร็วซึ่งรู้สึกถูกต้องSupersense เป็นเรื่องเกี่ยวกับความคิดเหล่านี้

กีดขวาง

และพฤติกรรมและวิธีที่พวกเขาทำงานเพื่อผูกมัดเราเข้าด้วยกันผ่านความเชื่อในกองกำลังหรือแก่นแท้ที่มองไม่เห็นพวกเขาทุกคนไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับประสบการณ์ที่แปลกประหลาดเราสามารถใช้ Supersense เพื่อเชื่อมต่อซึ่งกันและกันการทำให้ร่างกายของเราเกี่ยวกับจิตวิญญาณของเราอธิบายถึงความต้องการการติดต่อกับคนที่เราต้องการสนิทสนม แต่มันก็อธิบายว่าเราสามารถทำให้คนอื่นไม่สะอาดได้อย่างไรในบทที่กำลังจะมาถึงฉันจะบอกข้อเท็จจริงที่น่ารังเกียจเกี่ยวกับบุคคลที่จะขับไล่คุณและทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจปฏิกิริยาเชิงลบดังกล่าวเปิดเผยว่าเราประพฤติตนและคิดว่าเราสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่นในระดับกายภาพสิ่งนี้จะก่อให้เกิดความรู้สึกและอารมณ์ที่มีผลกระทบอย่างแท้จริงต่อพฤติกรรมในบางสังคมเราอาจบังคับให้คนอื่นนั่งบนที่นั่งที่แตกต่างกันบนรถบัสหรือรักษาระยะห่างจากการติดต่อการแยกและการแบ่งแยกสีผิวเป็นความพยายามที่น่าอับอายของบางสังคมเพื่อกระตุ้นความเชื่อเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับสมาชิกที่ถูกปราบปรามของกลุ่มอย่างไรก็ตามความคิดดังกล่าวยังช่วยให้เราเห็นว่าตัวเองเชื่อมโยงกับครอบครัวและบรรพบุรุษของเราให้ความรู้สึกถึงต้นกำเนิดและทิศทางมันอธิบายว่าทำไมมรดกและบ้านเกิดจึงเป็นวัตถุและสถานที่ที่ทำให้เรารู้สึกต่อเนื่องกับอดีตฉันคิดว่าเราทำสิ่งแปลก ๆ เหล่านี้ทั้งหมดเพราะเราเป็นสัตว์สังคมที่ผูกพันกันด้วยความรู้สึกของการเชื่อมต่อทางกายภาพของเราความคิดและพฤติกรรมของเราขยายองค์ประกอบแต่ละตัวของเราไปยังกลุ่มเพราะการเป็นสัตว์สังคมต้องการการเข้าถึงและเข้าร่วมกับผู้อื่นการให้ของขวัญการแลกเปลี่ยนวัตถุการเป็นเจ้าของทรัพย์สินและการแสวงบุญเป็นตัวอย่างทั้งหมดของความต้องการของเราในการติดต่อกับผู้อื่นการเชื่อมต่อเหล่านี้ไม่ใช่ทั้งหมดถาวร แต่ฉันเชื่อว่าพวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากการคิดเหนือธรรมชาติในขณะที่เราสร้างพันธบัตรใหม่และทำลายผู้อื่นความต้องการนี้เป็นพื้นฐานที่ฉันสงสัยว่าการใช้เหตุผลอย่างมีเหตุผลอาจทำให้เราละทิ้งมันได้ความคิดดังกล่าวเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์สำหรับความเชื่อในปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติหากคุณเต็มใจที่จะเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติคุณก็อยู่ใน บริษัท ที่ดีในการสำรวจของ Gallup ที่ดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2548 มีผู้ใหญ่มากกว่าหนึ่งพันคนถูกถามว่าพวกเขา“ เชื่อหรือไม่ไม่แน่ใจหรือไม่เชื่อ” ในปรากฏการณ์สิบรายการที่ระบุไว้ที่นี่ 13 เปอร์เซ็นต์ของผู้ศรัทธาถูกรายงานในวงเล็บดูรายการนี้คุณเชื่อว่าปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นของจริงหรือไม่?

คุณช่วยสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้ไหม

การรับรู้แบบพิเศษ (ESP) (41%) บ้านผีสิง (37%) ผี (32%) กระแสจิต (31%) clairvoyance (26%) โหราศาสตร์ (25%) การสื่อสารกับคนตาย (21%) แม่มด (21%) การกลับชาติมาเกิด (20%) การครอบครองทางจิตวิญญาณ (9%) ที่นำมารวมกันผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่ (73 เปอร์เซ็นต์) เชื่อในรายการอย่างน้อยหนึ่งรายการในขณะที่เพียงหนึ่งในสี่ (27 เปอร์เซ็นต์) ไม่เชื่อในพวกเขาสิ่งเหล่านี้แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงปีที่ผ่านมาและมีมากหรือน้อยเช่นเดียวกับที่ผลิตโดยการสำรวจที่ดำเนินการในปี 1990, 1991, 1996 และ 2001 นี่คือการคาดการณ์ของฉันures gures จะเป็นปีเดียวกันมากนับจากนี้และหลังจากนั้นหลายปีหลังจากนั้นฉันจะวางเดิมพันขนาดใหญ่อย่างมีความสุขฉันไม่ใช่กายสิทธิ์ผู้คนมีความสอดคล้องและคาดเดาได้อย่างน่าทึ่งเพื่อพิสูจน์สิ่งนี้ให้ฉันแสดงพลังจิตของฉันในการอ่านใจของคุณฉันพนันได้เลยว่าคุณผู้อ่านยังเชื่อในรายการอย่างน้อยหนึ่งรายการจากรายการไปซื่อสัตย์ฉันจะรู้ได้อย่างไร?ครั้งแรกมีโอกาสที่ดีที่คุณเป็นหนึ่งใน 73 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั่วไปที่เชื่อนอกจากนี้โดยทั่วไปแล้วคลางแคลงไม่ต้องกังวลกับการอ่านหนังสือแบบนี้ในทางตรงกันข้ามผู้เชื่อและผู้ที่ไม่แน่ใจว่าอยากรู้ว่ามีความจริงใด ๆ กับแนวคิดใด ๆ เหล่านี้หรือไม่พวกเขาเข้าใจว่าความเชื่อของพวกเขาได้รับการพิจารณาและพวกเขาต้องการที่จะออกว่ามีหลักฐานใด ๆ สำหรับสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปได้หรือไม่มีสองเหตุผลในการอ่านก่อนอื่น Supersense อยู่ในพวกเราทุกคนและฉันหวังว่าจะพิสูจน์ให้คุณทราบผ่านหน้าเว็บที่กำลังจะมาถึงประการที่สองความคิดที่ว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติเป็นผลมาจากการออกแบบจิตใจของเราเองทำให้จำเป็นต้องคิดใหม่เกี่ยวกับที่มาของความเชื่อโดยการตรวจสอบหลักฐานส่วนใหญ่มาจากจิตวิทยาการพัฒนาเราจะเห็นว่าความเชื่อดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้อย่างไรในเด็กที่กำลังเติบโตและวิธีที่พวกเขาสามารถดำเนินการต่อไปในความคิดของเราในฐานะผู้ใหญ่แม้ว่าวิทยาศาสตร์จะบอกให้เราเพิกเฉยต่อพวกเขานี้เป็นสิ่งสำคัญ,

กีดขวาง

เนื่องจากการพัฒนาความคิดดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับการอ้างว่าวัฒนธรรมและศาสนามีความรับผิดชอบหลักในการสร้างความเชื่อเหนือธรรมชาติในสถานที่แรกแต่ไม่ต้องกังวลหนังสือเล่มนี้ไม่ได้หมายถึงการทำให้คุณรู้สึกโง่หรือกระตุ้นให้คุณละทิ้งความเชื่อของคุณหลายแง่มุมของพฤติกรรมและความเชื่อของเราไม่มีพื้นฐานที่มีเหตุผลนึกถึงทุกสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์และในไม่ช้าคุณก็รู้ว่ามีหลายสิ่งที่เรียกร้องให้มีความสามารถของเราที่จะมีเหตุผลยกตัวอย่างเช่นความรักความหึงหวงอารมณ์ขันและความหลงใหลมีอยู่ในเราทุกคนและแม้ว่าเราจะรู้ว่าความเชื่อและการกระทำของเราที่เกิดจากพวกเขาอาจไม่สมดุล แต่เราก็ยังไม่ต้องการสูญเสียความสามารถในการสัมผัสพวกเขาเช่นเดียวกันสำหรับ supersenseดังนั้นยอมรับมันเรียนรู้ว่ามาจากไหนและเข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่ยอมหายไปโอ้และถ้าคุณเป็นคนสงสัยอ่านหนังสือเล่มนี้ขอบคุณที่ได้มาไกลขนาดนี้

บทที่สาม

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?สาระสำคัญของการเป็นมนุษย์คือความเป็นคู่ที่ไม่สบายใจของเทคโนโลยี“ เหตุผล” และความเชื่อที่“ ไม่มีเหตุผล”เรายังคงเป็นสปีชีส์ในช่วงการเปลี่ยนภาพ—David Lewis-Williams, The Mind in the Cave (2004), p.18

ใครสอนเราเกี่ยวกับ“ สิ่งที่นั่น”?เมื่อไหร่ที่เราจะเริ่มคิดว่ามีมิติที่ซ่อนอยู่ แต่จริงสู่ความเป็นจริง?มันเป็นศาสนาหรือศาสนาเพียงแค่รับรู้และเต็มไปด้วยความปรารถนาในจิตใจของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่มากจนเราค้นหาคนที่อธิบายว่าทำไมเราถึงรู้สึกถึงวิธีที่เราทำแล้วก็สบายใจในเรื่องราวของพวกเขา?เราจะได้รับความคิดแปลก ๆ ว่ามีอะไรมากกว่านี้?เพื่อตอบคำถามนี้เราต้องเริ่มต้นในตอนแรกสองฤดูร้อนที่ผ่านมาคิมภรรยาของฉันได้จัดให้ครอบครัวเยี่ยมชมถ้ำ Niaux ใน Pyrenees ฝรั่งเศสมันเป็นหนึ่งในถ้ำยุคหินใหม่ที่ยังคงเปิดให้สาธารณชนเข้าชมซึ่งคุณสามารถเห็นภาพวาดถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์ต้นฉบับไซต์ส่วนใหญ่ถูกปิดเพื่อปกป้องพวกเขาจากความชื้นที่ทำลายล้างและคุณสมบัติการกัดกร่อนอื่น ๆ ของลมหายใจของมนุษย์เราจองล่วงหน้าหลายเดือนเนื่องจากการเข้าชมมี จำกัด อย่างเคร่งครัดอาจไม่ได้อยู่ในรายการสิ่งที่ต้องทำก่อนที่คุณจะตาย แต่ถ้าคุณต้องการที่จะได้รับการวัดที่แท้จริงของขนาดชีวิตของคุณเองกับที่มนุษย์มาจากที่มา

กีดขวาง

แทบจะไม่สามารถมีประสบการณ์ที่เคลื่อนไหวได้มากกว่าการประหลาดใจกับศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ลึกเข้าไปในท้องของภูเขาระบบ Niaux ของถ้ำวิ่งมากกว่าครึ่งไมล์จากทางเข้าที่เกาะอยู่สูงบนหน้าผา Pyreneanด้านนอกอุณหภูมิเป็นฟาเรนไฮต์ที่มีความชื้นเจ็ดสิบองศา แต่ภายในนั้นก็ลดลงอย่างรวดเร็วถึงระดับคงที่สี่องศาเส้นทางนั้นไม่สม่ำเสมอเปียกและลื่น แต่มันเป็นความมืดสนิทที่เป็นคุณลักษณะที่ไม่มั่นคงที่สุดของถ้ำการเดินทางนั้นแตกต่างกันไปจากทางเดินที่น่าอึดอัดใจไปจนถึงพื้นที่กว้างใหญ่สร้างขึ้นโดยแม่น้ำใต้ดินโบราณที่ตลอดระยะเวลาหลายล้านปีที่ผ่านมาได้แกะสลักอยู่ด้านในของช่วงสมาชิกแต่ละคนของการเดินทาง (ฉันรู้สึกเหมือน Jules Verne Explorer เดินทางไปยังศูนย์กลางของโลก) ได้รับการประกวดด้วยมือที่ทำหน้าที่เหมือนดาบแสงเพื่อตัดผ้าคลุมไม้มะเกลือลูกสาวของฉันสวมรองเท้าวิ่งที่มีไฟที่สร้างขึ้นในส้นเท้าที่ ﬂ ขี้เถ้าทุกครั้งที่เธอก้าวไปอีกขั้นเธอเป็นคนประเภทที่กล้าหาญและเธอก็ออกเดินทางพร้อมไกด์ภาษาฝรั่งเศสของเราที่ด้านหน้าของกลุ่มเลือกทางผ่านอุโมงค์อย่างง่ายดายพวกเราที่เหลือไม่แน่ใจในขั้นตอนของเราพยายามดิ้นรนเพื่อให้ทันกับขี้เถ้าสีชมพูกะพริบที่หายไปในลำไส้ของโลกตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงเสี่ยงชีวิตสำรวจถ้ำใต้ดินน้ำโบราณได้แกะสลักภูมิทัศน์ของมนุษย์ต่างดาวที่ยื่นออกมาอย่างราบรื่นและกระเปาะที่เพิ่มขึ้นจาก ﬂ oor และหยดลงมาจากหลังคาด้านนอกทางเข้าหน้าผาที่ขรุขระได้ถูกทำลายโดยไดนาไมต์สมัยใหม่ แต่ด้านในของภูเขาดูเหมือนเป็นอินทรีย์และมีชีวิตอยู่MICA และแร่ธาตุที่ระยิบระยับใน ﬂ ashlight ก่อให้เกิดความทรงจำในวัยเด็กของ Disney Grottoes และการขุดดาวแคระทั้งเจ็ดสำหรับอัญมณีที่เปล่งประกายครึ่งทางเข้าสู่เชื้อสายของเราเราพบมือของมนุษย์ผสมกับกราฟ ﬁ ti ที่อยู่ที่นั่นโดยเยาวชนชาวฝรั่งเศสที่กล้าหาญในช่วง 350 ปีที่ผ่านมาเป็นรูปแบบซ้ำ ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวซึ่งประกอบไปด้วยเส้นคู่ขนานและจุดที่เราบอกว่ามีอายุมากกว่ามากไกด์ของเราเชิญเราให้คาดเดา แต่เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญที่คาร์บอนลงวันที่เราไม่สามารถอธิบายเครื่องหมายที่ทำด้วยไม้ได้โดยเจตนาเพื่อจุดประสงค์ที่ถูกลืมมานาน 1 หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงChamber, The Salon Noir หรือ Black Exhibition Hallด้วยดาบแสงของเราเราสามารถเลือกภาพที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างน่าทึ่ง

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

สัตว์และลวดลายทิ้งไว้มากกว่าสิบสามพันปีก่อนบนผนังของถ้ำเห็นได้ชัดว่านี่เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมที่สำคัญแม้ว่าจะไม่พบร่องรอยของการอยู่อาศัยของมนุษย์ไม่มีกระดูกไม่มี ints ไม่มีอาหารกลางวันของใครบางคนมีเพียงศิลปะเท่านั้นฉันพยายามที่จะจินตนาการว่าฉากที่ส่องสว่างโดย ﬂ icker ของโคมไฟง่าย ๆ ที่ทำจากไขมันสัตว์สถานที่นั้นมีมนต์ขลังบ่อยครั้งที่เราใช้ชีวิตสมัยใหม่ของเราและเทคโนโลยีทั้งหมดที่มีให้เราและลืมไปได้อย่างง่ายดายว่าเราเดินทางเร็วแค่ไหนและไกลแค่ไหนประสบการณ์ที่เปิดเผยนี้ในบ่อของภูเขาเป็นช่วงเวลาที่กรามลดลงสำหรับนักวิทยาศาสตร์ในศตวรรษที่ยี่สิบคนที่วาดถ้ำก็ต้องคิดเช่นกันDavid Lewis-Williams ศึกษาภาพวาดและสิ่งประดิษฐ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในหนังสือของเขา The Mind in the Cave เขาระบุว่าศิลปะใต้ดินไม่ได้มีไว้สำหรับการดูสาธารณะทั่วไป 2 มิฉะนั้นจะมีตัวอย่างเพิ่มเติมในไซต์ที่ห่างไกลและเข้าถึงได้น้อยกว่าเขาเสนอว่ากิจกรรมในถ้ำเหล่านี้แทนที่จะเป็นความพยายามทางศาสนาในช่วงต้นเพื่อเชื่อมโยงสัญลักษณ์กับโลกในรอยแยกที่ลึกที่สุดสถานที่เหล่านี้ศักดิ์สิทธิ์ศิลปะถูกสร้างขึ้นอย่างจงใจรอบคุณสมบัติทางกายภาพของแต่ละถ้ำรูปแบบและรูปร่างของหินธรรมชาติถูกระบุไว้เพื่อสร้างสัตว์ในลักษณะเดียวกับที่เราเห็นใบหน้าในเมฆในวันฤดูร้อนความสามารถของมนุษย์ในการมองเห็นโครงสร้างและความสำคัญในโลกธรรมชาติไม่เพียง แต่เป็นพรสวรรค์ของจิตใจศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นคุณภาพที่สำคัญสำหรับจิตวิญญาณด้วยเช่นกันภาพมีชีวิตชีวาผ่านการรวมกันของเงา ﬂ ickering จากโคมไฟไขมันและพลังแห่งจินตนาการของมนุษย์พื้นที่ตกแต่งบางแห่งมีขนาดใหญ่พอสำหรับบุคคลที่โดดเดี่ยวที่จะบีบเข้าไปรูปแบบทางเรขาคณิตที่พบในที่นี้อาจเป็นหลักฐานแรกของสถานะการเปลี่ยนแปลงของจิตสำนึกที่หมอผียุคแรกคิดว่าจะประสบความสำเร็จLewis-Williams คาดการณ์ว่าหมอผีซึ่งถูกรังแกในปากมดลูกแคบ ๆ เหล่านี้พยายามที่จะจัดทำเอกสารครอสโอเวอร์ของพวกเขาไปยังโลกใต้ดินผ่านภาพและสัญลักษณ์นี่อาจเป็นการเก็งกำไรป่า แต่สิ่งที่ไม่มีข้อโต้แย้งคือศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานของภาพธรรมชาติและเหนือธรรมชาติสัตว์เช่นม้าและวัวรวมถึงสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์เช่น Aurochs และ Mammoth เป็นตัวแทน แต่เป็นสัตว์ครึ่งสัตว์ครึ่งสัตว์

กีดขวาง

รูปที่.3:“ Lion-Man” รูปปั้นแกะสลักของแมมมอ ธ Tusk ย้อนหลังไปเมื่อประมาณสามสิบสองพันปีก่อนที่ค้นพบในถ้ำที่ Hohlenstein-Stadel ประเทศเยอรมนีภาพถ่ายโดย Thomas Stephan, © Ulmer Museum

ตัวอย่างที่น่าทึ่งที่สุดไม่ใช่ภาพวาด แต่เป็นรูปปั้นจากเยอรมนี Hohlenstein-Stadel“ Lion-Man”เดิมทีไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรมันแตกเป็นสองร้อยชิ้นและผสมกับชิ้นส่วนกระดูกหมื่นชิ้นที่ดึงมาจากถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์ในภาคใต้ของเยอรมนีก่อนการระบาดของสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1997 มีการประกอบใหม่อย่างรอบคอบใครจะคาดการณ์ได้ว่าสิ่งนี้น่าตื่นเต้นแค่ไหน?

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

ure gure มีร่างกายมนุษย์ แต่เป็นหัวของสิงโตสูงประมาณ 12 นิ้วและแกะสลักจากแมมมอ ธ งายังไม่ชัดเจนว่าเป็นสิงโตที่มีคุณสมบัติของมนุษย์หรือวิธีอื่น ๆไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็พิสูจน์ได้ว่าชายยุคก่อนประวัติศาสตร์มีจินตนาการและความรู้สึกของความไม่จริงไม่เพียง แต่เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สวยงามที่สุดของศิลปะมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในสิ่งที่เร็วที่สุดวันที่ประมาณสามสิบสองพันปีก่อน!พยายามที่จะเอาหัวของคุณประมาณวันนั้นสักครู่เมื่อพูดถึงการคิดว่าวัฒนธรรมและศิลปะมานานแค่ไหนเรามีสายตาสั้นมากในมุมมองของเราเราอาจไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรจากช่วงเวลาของมนุษยชาตินี้ แต่หลักฐานสำหรับการปฏิบัติเหนือธรรมชาติสามารถพบได้ในกิจกรรมของมนุษย์เท่าที่เราสามารถบันทึกได้การฝังศพที่เก่าแก่ที่สุดบางส่วนจากอย่างน้อยสี่สิบพันปีที่ผ่านมาแสดงสัญญาณของพิธีกรรมเราไม่ทราบแน่ชัดว่ามนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่กระตุ้นให้ทาสีถ้ำของพวกเขาฝังศพของพวกเขาด้วยวัตถุที่เป็นสัญลักษณ์หรือทำให้ผู้หญิง (“ ดาวศุกร์”) ﬁ gurines ด้วยหน้าอกและท้องขยาย แต่พฤติกรรมเหล่านี้ได้เกิดการฝึกฝนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประวัติศาสตร์อารยธรรมของเราพิธีและพิธีกรรมได้เข้าร่วมตั้งแต่ต้นมีวัฒนธรรมในถ้ำประสบการณ์ในชีวิตประจำวันจะต้องตั้งคำถามในใจที่ซับซ้อนพอที่จะจัดงานล่าสัตว์ผลิตเครื่องประดับสีและการสื่อสารเราจะไปที่ไหนเมื่อเราฝัน?จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราตาย?พวกเขาต้องคิดว่ามีบางสิ่งที่มีอยู่มากขึ้นทุกวันทำไมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมที่ลึกล้ำในการพักผ่อนของถ้ำถ้าไม่เชื่อว่ามีอะไรมากกว่าความเป็นจริง?จากจุดเริ่มต้นมนุษย์มีจิตใจที่เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งเหนือธรรมชาติจิตใจสมัยใหม่ในถ้ำในสังคมสมัยใหม่เราไม่ควรมีหมอผีในการสื่อสารกับวิญญาณใต้ดินอีกต่อไปด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่เราสามารถทำนายและควบคุมชีวิตของเราได้โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากนักบวชที่เกิดจากมึนงงเรายังสามารถระเบิดภูเขาทั้งหมดได้ด้วยการกดปุ่มเราไม่จำเป็นต้องอธิษฐานหรือสร้างความศักดิ์สิทธิ์เพื่อควบคุมอนาคตของเราเราสามารถวัดได้

กีดขวาง

ทดสอบและจัดทำเอกสารโลกชายยุคก่อนประวัติศาสตร์อาจเชื่อในอภินิหาร แต่แล้วเขาก็ไม่ได้รับประโยชน์จากวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่จะอธิบายสิ่งที่เขาไม่เข้าใจมนุษยชาติได้โผล่ออกมาจากความมืดสู่ยุควิทยาศาสตร์ที่สดใสและมีเทคโนโลยีถึงตอนนี้เราควรละทิ้งจิตใจในถ้ำเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงสี่ร้อยปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการระเบิดที่น่าอัศจรรย์ในความเข้าใจของเราเกี่ยวกับจักรวาลซึ่งเป็นสิ่งที่เกือบจะเหมือน "บิ๊กแบง" ของความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ในช่วงเวลาอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์มีมนุษยชาติสร้างความก้าวหน้าที่น่าทึ่งในการอธิบายแง่มุมมากมายของโลกธรรมชาติเดินไปตามทางเดินของแผนกวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่ทันสมัยและคุณจะได้รับผู้เชี่ยวชาญในรายละเอียดของธรรมชาติเราได้เอื้อมมือไปที่กาแลคซีที่ไกลที่สุดและเจาะลึกลงไปในอะตอมผ่านวิทยาศาสตร์ของเราวิทยาศาสตร์ควรเป็นรากฐานของความรู้และภูมิปัญญาของเราและความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ - ความเชื่อที่ผิดธรรมชาติและไม่เป็นธรรมชาติ - ยังคงเป็นเรื่องธรรมดามากหากวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จทำไมคนส่วนใหญ่ถึงไม่สนใจสิ่งที่พูดเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ?ทำไมประชาชนทั่วไปไม่ฟังนักวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าความเชื่อดังกล่าวไม่มีมูลความจริงณ จุดนี้ฉันต้องการดึงดูดความสนใจของคุณไปสู่ความจริงที่ว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติโดยทั่วไปมีสองรูปแบบมีความเชื่อเหนือธรรมชาติทางศาสนา (พระเจ้า, เทวดา, ปีศาจ, การกลับชาติมาเกิด, สวรรค์, นรกและอื่น ๆ ) และความเชื่อเหนือธรรมชาติทางโลก (เช่นกระแสจิต, clairvoyance และ esp)ทุกศาสนาขึ้นอยู่กับความเชื่อเหนือธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ความเชื่อเหนือธรรมชาติทั้งหมดที่อยู่บนพื้นฐานของศาสนานี่เป็นความแตกต่างที่สำคัญเนื่องจากมีล็อบบี้และข้อโต้แย้งที่ทรงพลังมากเมื่อพูดถึงความแตกต่างระหว่างศาสนาวิทยาศาสตร์และอภินิหารอย่างที่เราเห็นในบทที่ผ่านมาโพล Gallup ในปี 2548 เปิดเผยว่าผู้ใหญ่สามในสี่ของสหรัฐอเมริกามีความเชื่อเหนือธรรมชาติอย่างน้อยหนึ่งครั้งแม้แต่สิ่งนี้ก็เป็นเรื่องง่ายเกินไปด้วยเหตุผลง่ายๆว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติเป็นหัวใจสำคัญของทุกศาสนาที่รู้จักในสหรัฐอเมริกาประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของประชาชนทั่วไปเป็นศาสนาเมื่อเทียบกับ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นผู้ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า 3 ความแตกต่างระหว่างศาสนาและอภินิหารทางโลก

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

ความเชื่อกลายเป็นสิ่งสำคัญเมื่อเราพิจารณาว่าเราควรปฏิบัติต่อแต่ละประเภทอย่างไรความเชื่อเหนือธรรมชาติทางศาสนาถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และนอกเหนือจากขอบเขตของการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์พวกเขาน่าอัศจรรย์พวกเขาอยู่เหนือความหยาบคายและทางโลกนั่นคือจุดทั้งหมดศาสนาจะต้องเสนอมุมมองที่ไม่เป็นทางการของความเป็นจริงไม่ใช่มุมมองตามกฎหมายธรรมชาติมิฉะนั้นพวกเขาจะไม่น่าสนใจสำหรับคนเหล่านั้นที่กำลังมองหาบางสิ่งบางอย่างจากธรรมชาติและธรรมดาศาสนาต้องดึงดูดความสนใจเหนือธรรมชาติและพิเศษผู้เชื่อต้องการ“ ปัจจัย X” ทางจิตวิญญาณจากศาสนาของพวกเขาในทางตรงกันข้ามความเชื่อเหนือธรรมชาติทางโลกนั้นคิดว่าเป็นปรากฏการณ์ที่แท้จริงที่วิทยาศาสตร์ล้มเหลวอย่างหยิ่งยโสที่จะรับทราบทุกรูปแบบของการเหนือธรรมชาติทางโลกได้รับการศึกษาทดลองและอย่างที่เราจะเห็นโดยทั่วไปถูกปฏิเสธโดยวิทยาศาสตร์ทั่วไปแต่ในทั้งสองกรณีผู้เชื่อได้ยกเลิกสิ่งที่วิทยาศาสตร์พูดทำไมถึงเป็นเช่นนี้?ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เหตุผลอันดับหนึ่งที่ผู้คนเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติเป็นเพราะประสบการณ์ส่วนตัวของพวกเขาเองไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากดูเหมือนจะเขย่ารากฐานของความเชื่อดังกล่าววิทยาศาสตร์ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อความรุนแรงของเราเหตุผลหนึ่งสำหรับเรื่องนี้คือช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างนักวิทยาศาสตร์และประชาชนทั่วไปเมื่อพูดถึงความเข้าใจเรามีความสุขที่จะยอมรับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจากวิทยาศาสตร์เช่นอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์มือถือยารักษาโรคและอื่น ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วเรายังไม่รู้เกี่ยวกับวิธีการที่วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับธุรกิจของมันประการที่สองวิทยาศาสตร์มีภาพการประชาสัมพันธ์ที่ไม่ดีนับตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติพวกเขาได้รับผิดชอบต่อปัญหาของมนุษยชาติทุกประเภทพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ของวันนี้เกี่ยวกับ“ Frankenfoods” ในการอ้างอิงถึงพืชดัดแปลงพันธุกรรมอีกครั้งความคิดที่ลึกล้ำเดียวกันของสิ่งที่น่ารังเกียจที่ถูกจับได้ดีโดยสัตว์ประหลาดของ Mary Shelleyแม้ว่ากระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาเพิ่งอนุมัตินมและเนื้อสัตว์จากสัตว์โคลน แต่ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกามองว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นอันตรายความหายนะของนิวเคลียร์ต่อภาวะโลกร้อนหลายคนมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างไม่หยุดยั้งมากกว่าเทคโนโลยีที่เราใช้อย่างชัดเจนและโลภเราตำหนินักวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ของเรา

กีดขวาง

ธรรมชาติของมนุษย์โดยทั่วไปแล้วร้อยแก้วที่สวยงามนักจิตวิทยานิคฮัมฟรีย์สรุปความกลัววิทยาศาสตร์ของเรา: วิทยาศาสตร์ด้วยโซ่ลูกโซ่และเหตุผลที่มีเหตุผลทำให้เกิดป่าฝนเขตร้อนของจิตวิญญาณมันได้ทำลายการทำลายระบบนิเวศน์บน Fairylandมันได้ดับเลเปรอคอนเอลฟ์และก๊อบลินมันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับโลกในสภาพอากาศแห่งจินตนาการมันสร้างฝุ่นละอองของอีเดนของเราและสร้างความแห้งแล้งภายในและทั้งหมดนี้ไม่ได้นำความสงบสุขหรือความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า แต่เพื่อตอบสนองความหิวโหยของผู้คนสำหรับเทคโนโลยีขนาดใหญ่ Macs 5 ความคิดถึงในหมู่พวกเรามองย้อนกลับไปด้วยแว่นตาสีกุหลาบและระลึกถึงอายุที่ง่ายขึ้นกว่าอนาคตที่ไม่แน่นอนของวันนี้เรามองไปที่วัฒนธรรมโบราณสำหรับความรู้ทางวิทยาศาสตร์การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและการเพิ่มคุณค่าทางจิตวิญญาณเราต้องการกลับไปสู่ธรรมชาติเราลืมหรือเพิกเฉยต่อการสังเกตที่ใจแข็งของโทมัสฮอบส์อย่างสะดวกว่าชีวิตในเวลาเช่นนี้คือ“ ยากจนน่ารังเกียจโหดร้ายและสั้น” 6 พวกเราหลายคนคิดว่าวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เป็นความชั่วร้ายที่จำเป็นเรามีความสุขที่ได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของเทคโนโลยีที่ผลิต แต่น่าสงสัยอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิธีการทำงานมันสามารถทึบแสงและเดี่ยวพูดในภาษาที่ไม่สมเหตุสมผลกับส่วนที่เหลือของสังคมนักวิทยาศาสตร์ทุกคนที่ได้ก้าวเข้าสู่สปอตไลท์ต้องเรียนรู้วิธีการอธิบายงานของเขาหรือเธอในแบบที่ส่วนที่เหลือของสังคมสามารถเข้าใจได้แม้แต่นักวิทยาศาสตร์จากวินัยหนึ่งก็ไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์กับผู้ที่มาจากคนอื่นฉันเคยมีส่วนร่วมในรายการวิทยุวิทยาศาสตร์ BBC ยอดนิยมกับนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์สองคน 7 ฉันกำลังพูดถึงต้นกำเนิดของความเชื่อเหนือธรรมชาติในขณะที่พวกเขาโต้เถียงกันเกี่ยวกับโครงสร้างของจักรวาลฉันต้องสารภาพว่าฉันรู้สึกถึงระดับที่รุนแรงของความรู้ทางปัญญาการมีส่วนร่วมของฉันดูง่ายขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ฉันพยายามที่จะเข้าใจความขัดแย้งของพวกเขาเกี่ยวกับว่ามีสิบเอ็ดหรือสิบสองมิติในจักรวาลวลีเช่น "สสารมืด" "ทฤษฎีสตริง" และ "หลาย multiverses" กระตุ้นการรับรู้เล็กน้อย แต่เนื่องจากฉันขาดทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในวิชาคณิตศาสตร์พวกเขาอาจพูดถึง Venusian สำหรับทุกสิ่งที่ฉันรู้ฉันคาดหวังว่าจะต้องมีที่สาธารณะ

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

รู้สึกเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปเมื่อเขาสรุปทฤษฎีของเขา Neil Turok นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์กล่าวว่าเขา“ เชื่อ” ว่าทฤษฎีของเขาจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้องในที่สุดบางพื้นที่ร่วมกันสำหรับฉันที่จะเข้าสู่การสนทนานักวิทยาศาสตร์ก็มีความเชื่อเช่นกันพวกเขาไม่มีข้อเท็จจริงทั้งหมดเสมอไปพวกเขายังต้องก้าวกระโดดของตรรกะเพื่อนำเสนอแบบจำลองที่ดีกว่าเพื่ออธิบายโลกความแตกต่างระหว่างความเชื่อเหนือธรรมชาติและความเชื่อทางวิทยาศาสตร์คือหลังสร้างสมมติฐานที่ทดสอบได้นักวิทยาศาสตร์ที่ดีนำเสนอความคิดและถ้ามันล้มเหลวที่จะยืนขึ้นเพื่อการทดสอบอย่างเข้มงวดเขาหรือเธอจำเป็นต้องละทิ้งสมมติฐานและเดินหน้าต่อไปนั่นเป็นวิธีที่วิทยาศาสตร์ดำเนินไป - มันก้าวไปข้างหน้าเสมอในทางตรงกันข้ามผู้เชื่อเหนือธรรมชาติไม่ได้ตั้งคำถามกับความเชื่อของพวกเขาหรือเพิกเฉยต่อการขาดหลักฐานพวกเขาไม่ก้าวไปข้างหน้าในระยะสั้นความแตกต่างที่สำคัญระหว่างนักวิทยาศาสตร์และความเชื่อเหนือธรรมชาติคือนักวิทยาศาสตร์และผู้ศรัทธาเข้าหาปัญหาจากสองทิศทางตรงกันข้ามเมื่อพูดถึงการชั่งน้ำหนักหลักฐานนักวิทยาศาสตร์ปฏิเสธความเชื่อจนกว่าพวกเขาจะได้รับการพิสูจน์โดยปราศจากข้อสงสัยที่สมเหตุสมผลในทางตรงกันข้ามผู้ทำนายอภินิหารยอมรับความเชื่อจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์หักล้างโดยปราศจากข้อสงสัยที่สมเหตุสมผลปัญหาคือมันเป็นไปไม่ได้ที่จะหักล้างสิ่งใดอย่างมีเหตุผลคุณไม่สามารถพูดได้อย่างเด็ดขาดว่ามีบางสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงและจะไม่มีอยู่จริงในอนาคตดังนั้นคุณไม่สามารถพิสูจน์หักล้างสิ่งเหนือธรรมชาติได้นั่นเป็นเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วไปส่วนใหญ่ปฏิเสธความเชื่อเหนือธรรมชาติว่าเป็นวิทยาศาสตร์บทเรียนสำคัญอื่น ๆ ที่ฉันเรียนรู้ตั้งแต่วันนั้นที่สถานีวิทยุคือวิทยาศาสตร์อาจมีความเชี่ยวชาญ แต่พวกเราส่วนใหญ่มีความเห็นเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติหลังจากออกอากาศเราทุกคนไปดื่มที่ผับกับทีมงานผลิตมันไม่ใช่ดาราศาสตร์ฟิสิกส์ที่พูดถึง แต่เป็นความเชื่อเหนือธรรมชาติบางทีนักวิทยาศาสตร์เพื่อนของฉันอาจช่วยฉันอย่างสง่างามจากความอับอายที่ไม่รู้ว่าจะพูดคุยเกี่ยวกับโครงสร้างของจักรวาลได้อย่างไร แต่พวกเขาก็สนใจอย่างแท้จริงในความอยากอาหารของสาธารณชนที่มีต่อสิ่งเหนือธรรมชาติในระหว่างการสนทนาของเรามันเกิดขึ้นกับฉันว่าพวกเราส่วนใหญ่มีความสุขที่จะเลื่อนเวลาให้กับนักวิทยาศาสตร์เมื่อพูดถึงพื้นที่ของความรู้นอกเหนือจากความสามารถของเราเองคณิตศาสตร์ของฉันเป็นคนธรรมดาอย่างไร้ความหวัง แต่ฉันยินดีที่จะยอมรับว่านักดาราศาสตร์ฟิสิกส์รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรเมื่อมันเกี่ยวข้องกับมิติของจักรวาลที่

กีดขวาง

จะต้องเป็นจริงสำหรับสาขาวิชาพิเศษอื่น ๆ ทั้งหมดอย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงสิ่งเหนือธรรมชาติเราทุกคนมีบางอย่างที่จะพูดและสิ่งที่เราเชื่อไม่ว่าจะเป็นศาสนาหรือความเชื่อมั่นส่วนบุคคลของเราว่ามีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติวิทยาศาสตร์ไม่มีการผูกขาดคำอธิบายนอกจากนี้หากประชาชนเห็นว่านักวิทยาศาสตร์ไม่เห็นด้วยในด้านความเชี่ยวชาญของตนเองก็จะมีเหตุผลที่นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติแล้วความเชื่อโดยทั่วไปล่ะ?ความเชื่อมีบทบาทในด้านวิทยาศาสตร์ศาสนาและสิ่งเหนือธรรมชาติหากนักวิทยาศาสตร์นักบวชและสื่อล้วนมีความเชื่อใครก็ถูกต้อง?พวกเขาทั้งหมดจัดการกับสิ่งที่ไม่สามารถสังเกตได้ แต่พวกเขาพึ่งพาแหล่งที่มาของหลักฐานที่แตกต่างกันวิทยาศาสตร์มีวิธีการทดลองทางวิทยาศาสตร์และการสังเกตอภินิหารดำเนินการบนพื้นฐานของประสบการณ์ส่วนตัวและสัญชาตญาณศาสนาขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมประจักษ์พยานและประสบการณ์ส่วนตัวคำอธิบายเหล่านี้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขาจับความแตกต่างหลักบางอย่างวิทยาศาสตร์ศาสนาและสิ่งเหนือธรรมชาติมักจะได้รับการปฏิบัติแยกกัน แต่เราต้องพิจารณาว่าพวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างไรและบางครั้งก็ทับซ้อนกันในใจเดียวกันฉันรู้จักนักวิทยาศาสตร์ทางศาสนาที่เชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติพวกเขานึกถึงแผนภาพเวนน์ที่แสดงความเชื่อสามวงบุคคลบางคนเห็นตัวเองตั้งค่ายอยู่ในวงกลมหนึ่งในวงกลม แต่พวกเราที่เหลือกระจายออกไปทั่วทั้งสาม eldsในฐานะที่เป็นระบบความเชื่อวิทยาศาสตร์ศาสนาและสิ่งเหนือธรรมชาติไม่ได้ไม่พอใจอย่างเรียบร้อยจากกันและกัน แต่เป็นการผสมผสานและเบลอที่ขอบและเราเลือกเชอร์รี่จากระบบความเชื่อที่แตกต่างกันนี่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องชื่นชมเมื่อเราพยายามเข้าใจสงครามสนามหญ้าและความตึงเครียดเกี่ยวกับความเชื่อที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาศาสนาในฐานะไวรัสในความหลงผิดของพระเจ้าริชาร์ดดอว์คินส์ประณามสิ่งเหนือธรรมชาติทั้งหมด แต่มุ่งเน้นไปที่การโจมตีของเขาในศาสนาหลักฉันประณามสิ่งเหนือธรรมชาติในทุกรูปแบบและวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการดำเนินการต่อคือการมีสมาธิในรูปแบบมากที่สุด

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

มีแนวโน้มที่จะคุ้นเคยกับผู้อ่านของฉัน - รูปแบบที่กระทบกับสังคมทั้งหมดของเรา---ฉันกำลังโจมตีพระเจ้าเทพเจ้าทุกองค์ทุกอย่างและทุกสิ่งเหนือธรรมชาติไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเคยเป็นหรือจะถูกประดิษฐ์ขึ้นมา 8 ศาสนาทุกศาสนามีองค์ประกอบเหนือธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สิ่งเหนือธรรมชาติทั้งหมดเป็นศาสนาฉันอาจเป็นคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าและยังคิดว่าฉันมีความสามารถที่เหนือกว่าธรรมชาติ แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อในพระเจ้านี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะในขณะที่ทุกศาสนามาจากวัฒนธรรมสิ่งนี้ไม่เป็นความจริงสำหรับความเชื่อเหนือธรรมชาติทั้งหมดในการสร้างความแตกต่างนี้เราอาจเข้าใจได้ดีขึ้นว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติมาจากไหนทำไมพวกเขาถึงถ่ายทอดได้ดีและทำไมพวกเขาถึงแตกต่างกันเพื่อกำจัดความเชื่อเหนือธรรมชาติอาจเกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติในเด็กเนื่องจากพวกเขาพัฒนาเป็นผลพลอยได้ตามธรรมชาติของการออกแบบจิตใจของพวกเขาความเชื่อเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมาจากวัฒนธรรมสิ่งนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมความเชื่อทางศาสนาจึงประสบความสำเร็จจัสตินบาร์เร็ตนักจิตวิทยาศาสนาในทำนองเดียวกันระบุว่าการออกแบบจิตใจอธิบายความเชื่อในพระเจ้า แต่ฉันคิดว่าคำอธิบายตามธรรมชาติสามารถขยายไปสู่ทุกรูปแบบของการเหนือธรรมชาติ 9 ศาสนาไม่มีการผูกขาดที่น่าอัศจรรย์และหากมีต้นกำเนิดตามธรรมชาติสำหรับการคิดเหนือธรรมชาติทั้งหมดสิ่งนี้นำเสนอปัญหาที่สำคัญสำหรับความพยายามใด ๆ ที่จะลบสิ่งเหนือธรรมชาติศาสนาหรืออื่น ๆมาตรวจสอบความคิดที่ว่าความเชื่อนั้นแพร่กระจายโดยวัฒนธรรมเพียงอย่างเดียวเราได้เห็นแล้วว่าเรามักจะคิดว่าผู้เชี่ยวชาญรู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เด็กไร้เดียงสามักจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาบอกบางทีความโน้มเอียงของมนุษย์ที่จะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้มันสามารถปรับตัวได้อย่างมากกลยุทธ์ดังกล่าวจะเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของเด็กโดยทำให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องค้นพบทุกสิ่งด้วยตัวเองนั่นเป็นสาเหตุที่การสื่อสารความคิดประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับอารยธรรมของมนุษย์เราสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับโลกโดยไม่ต้องสัมผัสหรือค้นพบพวกเขาเองเราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับคนที่เราไม่เคยพบมาก่อนสถานที่ที่เราไม่เคยไปและสิ่งที่เราไม่เคยทำและไม่น่าจะทำอันที่จริงเราชอบที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เราไม่สามารถสัมผัสได้

กีดขวาง

อย่างไรก็ตามในขณะที่ดอว์คินส์ชี้ให้เห็นกลไกเดียวกันอาจถูกใช้โดยผู้ใหญ่เพื่อแพร่กระจายเรื่องไร้สาระและการโกหกในหมู่เด็กไร้เดียงสาเด็กใจง่าย?ตามที่ผู้ปกครองทุกคนรู้คำตอบคือใช่ แต่มีปัญหาที่น่าสนใจอยู่ที่นี่ความเชื่อของพวกเขาในสิ่งมีชีวิตที่มีมนต์ขลังเช่นซานตาคลอสนางฟ้าฟันและกระต่ายอีสเตอร์แสดงให้เห็นว่าเด็ก ๆ เปิดรับความเป็นไปได้ที่จะเชื่อสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ชื่นชมที่ไม่เป็นไปได้ทุกสิ่งแม้แต่ทารกก็สามารถบอกความแตกต่างระหว่างความเป็นไปได้และสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ตัวอย่างเช่นพวกเขารับรู้เคล็ดลับมายากลเมื่อพวกเขาเห็นมันหากคุณซ่อนของเล่นไว้ด้านหลังหนึ่งในสองหน้าจอจากนั้นดึงของเล่นจากหน้าจอที่สองราวกับว่ามันย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่งทารกอายุหกเดือนจะดูยาวขึ้นสิ่งที่เด็กเล็กรู้เกี่ยวกับโลกหากพวกเขาดูประหลาดใจหรือดูอีกต่อไปเราสามารถพูดได้ว่าพวกเขาสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างผิดปกติที่ไหนสักแห่งในสมองพวกเขารู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องแล้วเด็ก ๆ จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นไปไม่ได้บ้าง?ความรู้บางอย่างดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นในทารกโดยวิวัฒนาการในขณะที่ความรู้อื่น ๆ จะต้องเรียนรู้ตัวอย่างเช่นตั้งแต่เริ่มต้นเด็กทารกดูเหมือนจะรู้ถึงความแตกต่างระหว่างมนุษย์และวัตถุและเพื่อรักษาพวกเขาให้แตกต่างกันมาก 11 ทารกมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในวิธีที่แตกต่างจากการโต้ตอบกับวัตถุในวันเกิดครั้งแรกของพวกเขาพวกเขามีวัตถุที่เป็นของแข็งค่อนข้างมากแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับวัตถุที่ไม่ได้เป็นของเหลวทรายและ Jell-O.12 พวกเขาสามารถทำนายได้ว่าวัตถุควรประพฤติตนอย่างไรตัวอย่างเช่นพวกเขารู้ว่าวัตถุที่เป็นของแข็งไม่สามารถ ﬂ oat ในอากาศบาง ๆ และพวกเขาจ้องมองด้วยความประหลาดใจหากแสดงภาพลวงตาของนักมายากลเพื่อสร้างเอฟเฟกต์นี้ 13 พวกเขาให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยวิธีตรรกะหรือไม่?พวกเขากำลังคิดในแง่ของสาเหตุที่วัตถุไม่สามารถ ﬂ oat ในอากาศบาง?เมื่อพูดถึงการใช้เหตุผลประเภทนี้การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าเหตุผลของเด็กเล็กจากประสบการณ์มากกว่าตรรกะเด็ก 14 คนตัดสินใจตามประสบการณ์ที่ผ่านมาของพวกเขาหากพวกเขาเห็นบางสิ่งเกิดขึ้นพวกเขาก็รู้ว่าเป็นไปได้อย่างไรก็ตามหากพวกเขาไม่ได้เห็นมันเกิดขึ้นพวกเขาก็ถือว่ามันเป็นไปไม่ได้อย่างเท่าเทียมกันตัวอย่างเช่นหากบอกอะไรบางอย่างที่ไม่น่าเป็นไปได้ - มีคนที่ชอบดื่มน้ำหัวหอมตัวอย่างเช่นคุณสามารถเป็นจระเข้ที่มีชีวิตอยู่ใต้เตียงของคุณ

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

เด็ก ๆ มองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้เหมือนการเปลี่ยนแอปเปิ้ลซอสกลับเป็นแอปเปิ้ลหรือเดินผ่านกำแพงอิฐหลังจากผ่านไปหลายปีที่โรงเรียนเด็ก ๆ สามารถเริ่มเข้าใจได้ว่าในขณะที่บางสิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นไปไม่ได้เด็ก ๆ กำลังรวบรวมข้อมูลผ่านจิตใจของพวกเขาและมองหาประสบการณ์ที่ผ่านมาเพื่อเปรียบเทียบกับสิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมพวกเขาถึงปฏิเสธความเป็นไปได้ที่กฎหมายทางสังคมอาจถูกทำลายได้เช่นการเดินเท้าเปล่าไปโรงเรียนหรือเปลี่ยนสีของแสงไฟเนื่องจากพวกเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์เหล่านี้เลยพวกเขาจึงถือว่าพวกเขาเป็นไปไม่ได้นอกจากนี้เด็กก่อนวัยเรียนไม่ค่อยอธิบายว่าทำไมบางสิ่งถึงเป็นไปไม่ได้พวกเขาไม่สามารถให้ข้อโต้แย้งเชิงตรรกะแก่คุณได้แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้เหตุผลจากตัวอย่างดังนั้นหากคุณบอกพวกเขาว่ามีสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกที่พวกเขาไม่สามารถตรวจสอบตัวเองได้พวกเขาจะอ่อนแอหากพวกเขาเชื่อใจคุณพวกเขาจะเชื่อคุณจนกว่าพวกเขาจะมีโอกาสตรวจสอบความจริงของสิ่งที่คุณพูดการเปรียบเทียบหนึ่งครั้งมักเรียกร้องให้มีการแพร่กระจายของความเชื่อคือการเปรียบเทียบกับไวรัสทางจิตหรือปรสิตที่ติดเชื้อDan Dennett เปิดหนังสือของเขาทำลายคาถาโดยเปรียบเทียบความเชื่อเหนือธรรมชาติกับมีดหมอปรสิตเล็ก ๆ ﬂ uke ซึ่งจะทำให้สมองของมดและทำให้พวกเขาคลานหญ้าซ้ำ ๆ อีกครั้ง 15 ในการทำเช่นนั้นมดจะถูกกินโดยวัวหรือแกะดังนั้นจึงทำให้รอบต่อไปของวัฏจักรการสืบพันธุ์ของปรสิตDennett กำลังเปรียบเทียบความคิดทางศาสนากับปรสิตที่ทำให้เรากระจายความเชื่อเหนือธรรมชาติโดยการติดเชื้อจิตใจของเด็กสิ่งที่แข็งแกร่งและอารมณ์ลึก แต่ Dennett พลาดส่วนสำคัญของการเปรียบเทียบ: ทั้งไวรัสและปรสิตสามารถติดเชื้อโฮสต์ที่สามารถรองรับพวกเขาได้เท่านั้นนั่นคือเหตุผลที่ไวรัสและปรสิตไม่สามารถติดเชื้อทุกชนิดได้ไวรัสสามารถกลายพันธุ์และข้ามไปยังสายพันธุ์ที่แตกต่างกันหลังจากที่พวกเขาเปลี่ยนเป็น ﬁ t เป็นสภาพแวดล้อมของโฮสต์ไม่ใช่วิธีอื่น ๆminidiversion นี้เข้าสู่ไวรัสวิทยาเน้นจุดสำคัญเกี่ยวกับบัญชีการปลูกฝังความเชื่อบางทีความคิดอาจแพร่กระจายไม่เพียงเพราะเด็ก ๆ ถูกตั้งโปรแกรมให้เชื่อความคิดใด ๆ แต่ยังเป็นเพราะพวกเขาเชื่อว่าความคิดที่ดีที่สุดคือจิตใจที่เปิดกว้างนักจิตวิทยารู้จักกันมานานแล้วว่าเราต้องประมวลผลความคิดเพื่อให้พวกเขาอยู่ในใจของเราในการประมวลผลแนวคิดเราเปรียบเทียบกับสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว

กีดขวาง

ทำความเข้าใจกับพวกเขาสิ่งนี้สามารถนำไปสู่การบิดเบือนที่น่าสนใจนี่คือตัวอย่างที่มีชื่อเสียง 16 พิจารณาคำอธิบายของหญิงสาวคนหนึ่ง: ลินดาอายุ 31 ปีโสดพูดตรงไปตรงมาและสดใสมากเธอเรียนวิชาปรัชญาในฐานะนักเรียนเธอมีความกังวลอย่างลึกซึ้งกับปัญหาการเลือกปฏิบัติและความยุติธรรมทางสังคมและยังมีส่วนร่วมในการประท้วงต่อต้านนิวเคลียร์คิดว่าลินดาอาจเป็นใครสักครู่ลองนึกภาพประชากรจำนวนมากที่รวมถึงลินดาข้อความใดสองข้อนี้มีแนวโน้มมากกว่า:“ ลินดาทำงานในธนาคาร” หรือ“ ลินดาทำงานในธนาคารและเป็นสตรีนิยม”?ประมาณแปดในสิบคนพิจารณาว่าคำแถลงที่สองมีแนวโน้มมากขึ้น แต่นั่นจะเป็นคำตอบที่ผิดพิจารณาปัญหาเช่นแผนภาพเวนของกลุ่มที่ทับซ้อนกัน

อัน

A + B

ข

รูปที่.4: หากจำนวนคนงานธนาคารหญิงเป็น A และจำนวนสตรีนิยมคือ B ดังนั้นจึงไม่สามารถมีสตรีนิยมสตรีธนาคารหญิง (A + B) ได้มากกว่าคนงานธนาคารหญิงภาพของผู้แต่ง

หากจำนวนคนงานธนาคารหญิงในโลกเป็นกลุ่ม A และจำนวนสตรีนิยมในโลกคือกลุ่ม B คุณจะเห็นได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนงานธนาคารหญิงมากกว่าที่เป็นสตรี (A + B) มากกว่าธนาคารหญิงคนงานคนเดียวนี่เป็นเพราะจำนวนคนงานธนาคารหญิงที่เป็นเช่นกัน

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

สตรีนิยมจะเป็นส่วนหนึ่งของคนงานธนาคารหญิงทุกคนอย่างไรก็ตามคำอธิบายของลินดาดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของพนักงานธนาคารสตรีนิยมและดังนั้นเราจึงบอกว่ามันมีแนวโน้มมากขึ้นปัญหาของลินดาแสดงให้เห็นว่าจิตใจของเราใช้หลักการที่ยิ่งความคิดกับความคาดหวังของเรามากขึ้นเท่าไหร่เราก็ยิ่งคิดว่ามันเป็นจริงแบบแผนของสตรีนิยมของเรานั้นแข็งแกร่งกว่าแบบแผนของคนงานธนาคารของเราที่มาเผชิญหน้ากับมันเนื่องจากคำอธิบายของลินดา ﬁ ts stereotype ของสตรีนิยมของเราเราจึงประเมินว่าเธอมีแนวโน้มที่จะเป็นพนักงานธนาคารสตรีนิยมแม้ว่าจะมีคนเหล่านี้น้อยลงในโลกเมื่อเทียบกับคนงานธนาคารหญิงทุกคนทำไมความคิดบางอย่างมีแนวโน้มมากขึ้น?นายธนาคารและสตรีนิยมเป็นแนวคิดที่ซับซ้อนที่เราได้เรียนรู้ผ่านวัฒนธรรมความคุ้นเคยของเรากับพวกเขาขึ้นอยู่กับความถี่ที่เราพบแนวคิดเหล่านี้พวกเขาไม่มีสถานะพิเศษในตัวอย่างไรก็ตามแง่มุมอื่น ๆ ของการคิดอาจฝังแน่นอยู่ในใจมนุษย์ตรวจสอบย้อนกลับไปยังอดีตวิวัฒนาการของเราพวกเขายังคงออกแรงมรดกในวันนี้พิจารณาตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับการคิดและความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลมากขึ้นคุณมีความกลัวอย่างมากต่อแมงมุมหรือไม่?สายตาหรือความคิดของพวกเขาทำให้คุณตัวสั่นหรือรู้สึกไม่สบาย?คุณมีประสบการณ์หรือเชื่อว่าคุณกำลังเผชิญกับอันตรายที่ดีเมื่อคุณเห็นสิ่งมีชีวิตเหล่านี้หรือไม่?ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณอาจมีความหวาดกลัวPhobias เป็นความกลัวและความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลซึ่งไม่ได้สัดส่วนกับแหล่งที่มาของภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจริงตัวอย่างเช่นไม่มีแมงมุมพิษในสหราชอาณาจักร แต่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของความหวาดกลัวที่พบบ่อยที่สุดในประเทศนั้นเช่นเดียวกับภรรยาหลายคนคิมทำให้ฉันเอาแมงมุมออกจากบ้านฉันไม่ควรบ่นเรามีเพื่อนที่อาศัยอยู่ในประเทศ แต่ต้องจ่ายเงินให้ผู้ทำลายล้างเพื่อเดินทางไปหลายไมล์เพื่อทำงานนี้ให้เธอเมื่อสามีของเธอไม่อยู่ใกล้ ๆในปี 2548 สมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอนได้ทำการสำรวจผู้ใหญ่หนึ่งพันคนและพบว่าแปดในสิบรายงานว่ามีอาเรคโนโฟเบียความกลัวที่ไม่มีเหตุผลของแมงมุม 19 มันไม่ได้เป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลที่น่าขนลุกพวกเราส่วนใหญ่รู้จักใครบางคนที่ทนทุกข์ทรมานจากความกลัวทั่วไปเช่นความกลัวความสูงพื้นที่เปิดโล่งงูหรือสถานที่มืดเล็ก ๆผู้ประสบภัยไม่สามารถช่วยได้

กีดขวาง

ตัวพวกเขาเอง.ไม่มีคำอธิบายความมั่นใจหรือคำอธิบายที่มีเหตุผลใด ๆ สามารถช่วยผู้ป่วยโรคจิตได้อย่างแท้จริงบางครั้งโรคกลัวกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมากจนผู้ประสบภัยไม่สามารถหยุดตัวเองจากการกระทำการด้วยตนเองตัวอย่างเช่นการล้างมือด้วยมือเป็นอาการที่พบบ่อยของความกลัวที่ผิดปกติของการปนเปื้อนการกระตุ้นให้ล้างนั้นน่าสนใจแม้ว่าบุคคลนั้นจะรู้ว่าการล้างมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้บางครั้งบุคคลดังกล่าวถูมือของพวกเขาดิบจนกว่าพวกเขาจะมีเลือดออกMogul และ Aviator Howard Hughes ในปี ค.ศ. 1920 กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับสิ่งสกปรกการปนเปื้อนและการสัมผัสคนอื่น ๆแน่นอนว่าเขาจะไม่สวมเสื้อคาร์ดิแกนของคนอื่นนักฆ่าหรืออย่างอื่นความเชื่อและพฤติกรรมเหล่านี้มาจากไหน?ลองพิจารณาคำอธิบายตามการเรียนรู้ในทำนองเดียวกับที่เราสามารถได้รับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ในช่วงเวลาของความเครียดทฤษฎีหนึ่งแสดงให้เห็นว่าโรคกลัวเกิดจากประสบการณ์ที่ไม่ดีในฐานะเด็กในสิ่งที่จะต้องเป็นหนึ่งในการศึกษาทางจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุดที่เคยดำเนินการจอห์นวัตสันและโรซาลีเรย์เนอร์นำเสนอทารกอายุเก้าเดือน“ ตัวน้อยอัลเบิร์ต” กับหนูขาวในห้องปฏิบัติการ 18วัตสันแอบขึ้นมาด้านหลังทารกและทำให้เขาตกใจด้วยเสียงดังด้วยค้อนบนแท่งโลหะโดยธรรมชาติแล้วอัลเบิร์ตตัวน้อยที่ตกใจและเขาก็ร้องไห้ทุกครั้งที่วัตสันและเรย์เนอร์นำเสนอหนูพวกเขาก็จับค้อนเพื่อทำให้เด็กยากจนกลัวในไม่ช้าสายตาของหนูเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะลดอัลเบิร์ตตัวเล็ก ๆ ให้เป็นกลุ่มประสาทที่สั่นคลอนเขาเรียนรู้ที่จะกลัวสายตาของหนูในไม่ช้าตัวน้อยอัลเบิร์ตก็กลัววัตถุที่คล้ายกันจำนวนมากที่วัตสันและเรย์เนอร์นำเสนอให้เขาไม่น่าแปลกใจที่เมื่อพิจารณาว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้ใหญ่สองคนปรากฏตัวพวกเขาดูเหมือนนรกที่ทำให้ชีวิตของเขาเป็นความทุกข์ยากกระต่าย, สุนัข, เสื้อคลุมแมวน้ำและแม้แต่หน้ากากซานตาคลอสในไม่ช้าก็กลายเป็นแหล่งของความหวาดกลัวที่แท้จริงสำหรับเด็กที่น่าสงสารโดยการคลานออกไปเท่านั้นที่อัลเบิร์ตจะได้รับความสะดวกสบายและโล่งใจเขากลายเป็นคนใจร้ายกับวัตถุที่ไม่เคยทำให้เขาเสียใจสิ่งเหล่านี้สนับสนุนทฤษฎีที่ว่า phobias ผู้ใหญ่เกิดจากตอนการเรียนรู้ที่ไม่ดีบางตอนตั้งแต่เด็กฉันรู้จากประสบการณ์ส่วนตัวว่ามีความจริงบางอย่างสำหรับทฤษฎีนี้ฉันเคยเป็นเด็กเมื่อฉันยังเป็นเด็กและไม่ชอบหนอนที่เราใช้เป็นเหยื่อฉันจำได้ว่ารู้สึก

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

บิตไม่สบายใจเมื่อฉันต้องหยิบร่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเขาที่บิดเบี้ยวเพื่อ impale พวกเขาบนเบ็ดมันไม่น่าพอใจ แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันทำได้หลายปีต่อมาฉันจะได้พบกับหนอนที่น่ากลัวเช่นเดียวกับเด็กอายุสิบปีหลายคนฉันได้พาไปค้นหาบ้านที่ถูกทิ้งร้างเก่าเพื่อมองหาอะไรที่จะกำจัดในบ้านหลังหนึ่งฉันจำได้ว่าคืบคลานจากห้องมืดไปอีกห้องหนึ่งมันถูกทิ้งขยะทั้งหมดราวกับว่ามันอยู่ในแผ่นดินไหวและดังนั้นฉันจึงต้องเลือกทางของฉันผ่านซากปรักหักพังและเศษซากในครัวเรือนเมื่อเข้าไปในห้องด้านหลังที่มืดมิดฉันได้ยินเสียงจาง ๆ เกือบจะพึมพำเสียง แต่ก็ไม่สามารถดูได้ว่ามันมาจากไหนฉันก้าวไปข้างหน้าไปยังสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นเบาะขนยาวขนาดเล็กในความเป็นจริงมันเป็นซากของแมวที่ตายแล้วซึ่งทำให้เท้าของฉันมีน้ำหนักอยู่ภายใต้น้ำหนักของเท้าของฉันทำให้มันปรากฏขึ้นเหมือนบอลลูนที่เต็มไปด้วยพุดดิ้งข้าวก่อนที่ฉันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกลิ่นของการสลายตัวกระทบรูจมูกของฉันเหมือนหมัดทางกายภาพบังคับให้ฉันปิดปากและ retchกลิ่นเหม็นของการเน่าเปื่อย esh esh ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่พึงประสงค์มากที่สุดในโลก - การตอบสนองที่ตั้งโปรแกรมไว้ในมนุษย์ แต่ไม่ใช่สัตว์ซากศพหรือ ﬂ iesเมื่อฉันยกเท้าของฉันเป็นเพลาของแสงที่สตรีมผ่านหน้าต่างที่แตกฉันจ้องมองที่ความสยองขวัญของรองเท้าผ้าใบของฉันที่บิดเบี้ยวด้วยหนอนจำนวนมากฉันวิ่งกรีดร้องในเวลากลางวันและในที่สุดก็เดินกลับบ้านเท้าเปล่าตั้งแต่วันนั้นฉันก็เป็นคนโง่ไปยังหนอนฉันมีอาการคลื่นไส้ที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างรุนแรงเมื่อใดก็ตามที่ฉันเห็นพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันเกลียดผู้ผลิตที่ดูเหมือนจะมีความสุขในการแทรกภาพของหนอนที่บิดตัวลงใน ﬁ lms และสารคดีโดยไม่ต้องเตือนผู้ชมสำหรับ ﬂ ies สิ่งมีชีวิตที่หนอนปรารถนาที่จะกลายเป็นฉันมีความสุขอย่างยิ่งในการฆ่าพวกเขาสู่นรกกับกรรมและพุทธศาสนาถ้าฉันกลับมาเป็น ﬂ y ฉันก็อยากจะถูกบีบและอย่าคิดว่าจะเสนอพุดดิ้งข้าวให้ฉันเป็นของหวานไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวน้อยอัลเบิร์ตยังไม่ชัดเจนว่าพ่อแม่ของเขาเป็นใครและทำไมพวกเขาถึงตกลงที่จะทดลองเช่นนี้การศึกษาของวัตสันดำเนินการในปี 2463นักวิทยาศาสตร์คนใดที่ทำซ้ำการทดลองในวันนี้จะเป็นสีแดงสำหรับการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณปรากฎว่าวัตสันเป็นสีแดงจริง ๆ แต่ไม่ใช่เพื่อชอกช้ำอัลเบิร์ตตัวน้อยในระหว่างการเซสชั่นการก่อการร้ายทารกเขาได้ทำเรื่องร่วมกับผู้ทำงานร่วมกันของเขาในฐานะผู้ชายที่แต่งงานแล้วผู้ประสานงานกับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของเขา

กีดขวาง

Rosalie ถือว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวเกินไปสำหรับวันนั้นดังนั้นเขาจึงออกจากสถาบันการศึกษาและได้รับโชคลาภในการโฆษณาปัญหาเกี่ยวกับคำอธิบายการเรียนรู้ใด ๆ ของโรคกลัวคือผู้ป่วยจำนวนมากไม่เคยมีประสบการณ์การชอกช้ำในช่วงต้นที่ทั้งอัลเบิร์ตและฉันมีตัวอย่างเช่นมันไม่สามารถอธิบายคนที่มีอาการ Phobias งูในไอร์แลนด์หรือนิวซีแลนด์ที่ไม่มีงูนอกจากนี้หากการเรียนรู้ในช่วงต้นเป็นคำอธิบายเพียงอย่างเดียวคุณจะมีกรณีของโรคกลัวรถยนต์มากขึ้น phobias ซ็อกเก็ตไฟฟ้าและอื่น ๆเรามีแนวโน้มที่จะได้รับประสบการณ์ที่คุกคามชีวิตด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันมากกว่างูและแมงมุมราวกับว่ามีบางสิ่งในอดีตวิวัฒนาการของเราได้เตรียมเราให้เรียนรู้ความกลัวเหล่านี้นักจิตวิทยา Martin Seligman ครั้งแรกเสนอทฤษฎีการเตรียมความพร้อมของ Phobias.19 เขาระบุว่ามนุษย์มีสายพันธุกรรมที่จะกลัวสิ่งต่าง ๆ บางประเภทโดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้มากมายสายพันธุ์ของเราเรียนรู้ที่จะไวต่อการคุกคามที่อาจเกิดขึ้นโดยการคัดเลือกโดยธรรมชาติบางทีบรรพบุรุษยุคก่อนประวัติศาสตร์ของเราที่กลัวงูและแมงมุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านแง่มุมของบุคลิกภาพของพวกเขาไปยังลูก ๆ ของพวกเขาผ่านยีนของพวกเขานั่นจะอธิบายได้ว่าทำไม phobias ส่วนใหญ่ในบางหมวดหมู่ที่อาจเป็นแหล่งที่มาหรือสัญญาณของอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเช่นสภาพแวดล้อม (พื้นที่เปิดโล่งความสูง, สถานที่มืด), สัตว์ (งูแมงมุม) และสัตว์ที่ทำให้เกิดความรังเกียจ (หนูหนูหนอน)มี phobias น้อยของเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่เพราะเราไม่มีเวลามากพอที่จะพัฒนาความวุ่นวายในการคุกคามเช่นซ็อกเก็ตไฟฟ้าดังนั้นความกลัวบางอย่างดูเหมือนจะหยั่งรากได้ง่ายกว่าคนอื่นสิ่งนี้อาจเป็นความคิดอื่น ๆ ได้หรือไม่?ความเชื่อทางศาสนาอาจได้รับการปลูกฝังโดยการเรียนรู้แบบเชื่อมโยงในลักษณะเดียวกับที่เกิดจากความกลัว แต่เช่นเดียวกับความกลัวที่ไม่มีเหตุผลพวกเขาอาจสร้างความโน้มเอียงตามธรรมชาติของเรานี่เป็นเพราะพวกเขาไม่ดีกับวิธีการคิดตามธรรมชาติของเราเกี่ยวกับโลก - การออกแบบจิตใจที่เราสืบทอดผ่านยีนของเราสิ่งนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมความเชื่อเหนือธรรมชาติจึงเป็นที่ยอมรับได้ง่ายพวกเขาดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปได้ความคิดในการเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งเหนือธรรมชาติเป็นสิ่งที่นักมานุษยวิทยา Pascal Boyer และ Scott Atran ซึ่งศึกษาความคล้ายคลึงกันของความเชื่อทางศาสนาจากทั่วโลก

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

เสนอ 20 เมื่อเห็นครั้งแรกความเชื่อทางศาสนาของแต่ละบุคคลดูเหมือนจะหลากหลายมาก แต่พวกเขาทั้งหมดแบ่งปันคุณสมบัติที่คาดการณ์ว่าพวกเขาจะเป็นความคิดหรือไม่ในการเริ่มต้นทุกศาสนามีองค์ประกอบเหนือธรรมชาติ - ความเชื่อที่ละเมิดกฎธรรมชาติของโลกเมื่อ Boyer และ Atran ตรวจสอบความเชื่อเหนือธรรมชาติของแต่ละบุคคลที่ผ่านมาจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งผ่านการเล่าเรื่องพวกเขาพบว่าความเชื่อเหล่านี้มีโครงสร้างที่คล้ายกันอย่างแรกคือพวกเขาถูกส่งได้ดีที่สุดเมื่อมีการตั้งค่าเหนือธรรมชาติภายในบริบททางโลกปกติเป็นเพราะพระเยซูเปลี่ยนน้ำให้เป็นไวน์ในงานแต่งงานที่ปาฏิหาริย์เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจและจำได้ดีความสามารถของเขาในการเลี้ยงฝูงชนไม่น่าแปลกใจเป็นพิเศษจนกว่าคุณจะออกไปว่ามีคนนับพันและเขามีเพียงไม่กี่คนและก้อนหากการกระทำเหนือธรรมชาติเหล่านี้เกิดขึ้นในบริบทที่แปลกประหลาดมากขึ้นพวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมากสิ่งนี้เรียกว่าเอฟเฟกต์ความคมชัด: เหตุการณ์มีความโดดเด่นมากขึ้นเมื่อพวกเขาออกไปจากสิ่งที่คุณคาดหวังนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมภาพยนตร์สยองขวัญทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยก่อนที่สัตว์ประหลาดจะกระโดดออกมาที่คุณเอฟเฟ็กต์ความคมชัดของการเล่าเรื่องได้รับการแสดงให้เห็นว่าการทดลองโดยแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่แปลกประหลาดนั้นเป็นที่จดจำได้ดีที่สุดในบริบทของเรื่องราวปกติ 23 เรื่องราวเพ้อฝันอย่างสมบูรณ์ไม่ได้ให้เอฟเฟกต์ความคมชัดที่แข็งแกร่งเช่นนี้ดังนั้นจึงมีผลกระทบน้อยลงนอกจากนี้เหตุการณ์ที่ละเมิดหลักการพื้นฐานเพียงหนึ่งเดียวแทนที่จะกระทำการละเมิดหลายครั้งเป็นสิ่งที่น่าจดจำที่สุดกล่าวอีกนัยหนึ่งเรื่องราวไม่สามารถอุกอาจและแปลกประหลาดเกินไปรูปปั้นที่พูดถูกตัดสินว่าเป็นตัวอย่างของกรณี "ของจริง" ของสิ่งเหนือธรรมชาติมากกว่าที่พูดเลือดออก, วนเวียนอยู่เหนือพื้นดินแล้วหายไปในอากาศบางความจริงที่ว่าบริบทและความน่าเชื่อถือมีความสำคัญในการถ่ายทอดความคิดแสดงให้เห็นว่าผู้คนเล่าเรื่องราวเพื่อความน่าเชื่อถือหากเป็นกรณีนี้ความเข้าใจที่เข้าใจง่ายของเราเกี่ยวกับโลกจะเป็นปัจจัยสำคัญในสิ่งที่เราเชื่อการสร้างสรรค์ที่ใช้งานง่ายการโจมตีที่ไม่เชื่อในพระเจ้าเมื่อไม่นานมานี้ได้รับการต้อนรับจากหลาย ๆ คนที่ตื่นตระหนกโดยการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและในศาสนา

กีดขวาง

การยึดถือพื้นฐานในโลกมีเหตุผลหลายประการสำหรับทัศนคติต่อต้านศาสนานี้มันเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นปฏิกิริยาต่อการเพิ่มขึ้นของการคุกคามของผู้ก่อการร้ายจากการยึดถือหลักของอิสลามทั่วโลกที่ถูกกระตุ้นโดย 9/11ปฏิกิริยายังเป็นการตอบสนองต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการนับถือศาสนาคริสต์นิกายฟันดาเมนทัลลิสท์ที่สอดคล้องกันและการเพิ่มขึ้นของการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และวิธีการสอนในโรงเรียนของเราการต่อสู้ระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนานั้นอยู่ในช่วงต้นกำเนิดของต้นกำเนิดของชีวิตบนโลกและในปัจจุบันว่ามีความขมขื่นมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาปัญหาคือผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตสูงสุดคือพระเจ้านำทางต้นกำเนิดและความหลากหลายของชีวิตบนโลกพวกเขาเชื่อว่าในตอนแรกพระเจ้าทรงสร้างโลกและรูปแบบชีวิตทั้งหมดและไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่วันนั้นมุมมองของผู้สร้างนี้แตกต่างกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ของวิวัฒนาการซึ่งระบุว่าชีวิตบนโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างรูปแบบชีวิตใหม่และกระบวนการนี้ยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีจุดประสงค์คำแนะนำหรือการออกแบบตามวิวัฒนาการความหลากหลายของชีวิตบนโลกที่เราเห็นในวันนี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไปสะสมเมื่อเวลาผ่านไปเหตุผลนี้เป็นปัญหาคือมันเน้นความขัดแย้งของอเมริกาสมัยใหม่สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มากที่สุดและทางเทคโนโลยีบนโลกใบนี้มันสร้างผู้ชนะรางวัลโนเบลมากกว่าประเทศอื่น ๆด้วยโปรแกรมอวกาศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดมันมีความทะเยอทะยานในการตั้งอาณานิคมดาวเคราะห์ใกล้เคียงสหรัฐอเมริกายังมีความรู้ทางการแพทย์และการปฏิบัติที่ทันสมัยที่สุดในโลกแต่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในสหรัฐอเมริกายอมรับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่ครอบคลุมซึ่งอธิบายถึงต้นกำเนิดและความหลากหลายของชีวิตบนโลกเมื่อพูดถึงการยอมรับของประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติของดาร์วินสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับสองจากด้านล่างของรายการของประเทศอุตสาหกรรมสามสิบสี่อันดับแรกเหตุใดการสร้างสรรค์ที่โดดเด่นและการคัดเลือกโดยธรรมชาติจึงอ่อนแอในสหรัฐอเมริกา?มีสองเหตุผลหลักประการแรกการยึดถือหลักของคริสเตียนมีความแข็งแกร่งทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาในบางรัฐมีการแนะนำตั๋วเงินเพื่อให้การสร้างสรรค์มีการสอนเป็นทางเลือกที่ถูกต้องสำหรับวิวัฒนาการในหลักสูตรวิทยาศาสตร์นับตั้งแต่

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

การทดลองลิงในขอบเขตที่มีชื่อเสียงในปี 2468 ซึ่งครูสอนชีววิทยาถูกดำเนินคดีในข้อหาสอนดาร์วินนิยมมีความพยายามร่วมกันเพื่อควบคุมการสอนวิวัฒนาการโดยการนำเสนอสิ่งสร้างสรรค์เป็นทางเลือกที่ถูกต้องแม้ว่ามาตรฐานวิทยาศาสตร์ของรัฐสองในสามของสหรัฐอเมริกาแนะนำให้สอนวิวัฒนาการ แต่น้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์รวมถึงมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรแต่การยึดถือหลักของคริสเตียนที่แข็งแกร่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำอธิบายเหตุผลอื่น ๆ ที่สร้างขึ้นมานั้นประสบความสำเร็จอย่างมากคือมีบางอย่างเกี่ยวกับทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติของดาร์วินซึ่งทำให้ผู้คนยอมรับได้แตกต่างกันเมื่อเราเห็นความหลากหลายของชีวิตในวันนี้มันยากที่จะเชื่อว่าความซับซ้อนดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติโปรดจำไว้ว่า: จิตใจของเราได้รับการออกแบบให้เห็นคำสั่งและโครงสร้างในโลกและทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตดูเหมือนจะได้รับการออกแบบเป็นพิเศษราวกับว่ามีจุดประสงค์ทฤษฎีของดาร์วินอธิบายว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นภาพลวงตามันเรียบง่ายอย่างสวยงาม แต่เป็นมนุษย์ต่างดาวที่คิดว่ามนุษย์คิดสำหรับพวกเราส่วนใหญ่ทฤษฎีของดาร์วินเกี่ยวกับต้นกำเนิดของสปีชีส์ผ่านการคัดเลือกโดยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติพิจารณาสิ่งที่มันพูดอันดับแรกเราต้องยอมรับว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องชีวิตบนโลกต้องปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นเพื่อความอยู่รอดการปรับตัวเกิดขึ้นเนื่องจากชีวิตแต่ละรุ่นสืบทอดการเปลี่ยนแปลงแบบสุ่มเล็กน้อยในการแต่งหน้าทางพันธุกรรมจากรุ่นก่อนหน้าและการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สร้างความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างบุคคลซึ่งหมายความว่าบุคคลบางคนและไม่ใช่คนอื่น ๆ มีความพร้อมที่ดีกว่าในการจัดการกับแรงกดดันของสิ่งแวดล้อมที่มีการแข่งขันเพื่อผสมพันธุ์การเลือกเกิดขึ้นเนื่องจากบุคคลเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะอยู่รอดและส่งต่อไปยังลูกหลานของพวกเขายีนที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบเมื่อเวลาผ่านไป - เวลามากมาย - กระบวนการคัดเลือกอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้โดยธรรมชาติสะสมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและความหลากหลายที่สำคัญนั่นคือทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินโดยสรุปมันเป็นทฤษฎีที่เรียบง่ายสง่างามและทรงพลังที่อธิบายมากมายเกี่ยวกับความหลากหลายบนโลกของเราแต่เมื่อริชาร์ดดอว์คินส์เคยคร่ำครวญมันเกือบจะราวกับว่าสมองของมนุษย์ได้รับการออกแบบมาเพื่อเข้าใจผิดวิวัฒนาการ 22 ฉันคิดว่าเขาพูดถูกวิวัฒนาการเป็นเรื่องง่ายตัวอย่างเช่นเราสามารถมองเห็นรูปแบบในความหลากหลายของชีวิตได้ตลอดเวลาอย่างไรก็ตามกระบวนการเดียวกัน

กีดขวาง

สิ่งนั้นนำเราไปสู่การจัดกลุ่มสัตว์ด้วยกันทำให้เราปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างแยกจากกันในฐานะบุคคลที่มีช่วงชีวิตที่ค่อนข้างสั้นเราไม่ได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับเวลาอันยิ่งใหญ่และดังนั้นเราจึงไม่สามารถสังเกตวิวัฒนาการในที่ทำงานได้ในฐานะที่เป็นคนทั่วไปเราไม่มีความหรูหราของบันทึกทางประวัติศาสตร์เพื่อแสดงให้เราเห็นว่าชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรทั้งหมดที่เรามีในฐานะนักเขียนคือสัญชาตญาณของเราเกี่ยวกับชีวิตและวิวัฒนาการจะดำเนินการตอบโต้ตามสัญชาติญาณเหล่านั้นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากความซับซ้อนของมนุษย์ไปจนถึงความเรียบง่ายของแบคทีเรียมาจากแหล่งดั้งเดิมเดียวกัน?ความซับซ้อนของการออกแบบจะเกิดขึ้นได้อย่างไรหากไม่มีนักออกแบบ?เป็นเพราะมันไม่ได้อยู่กับการออกแบบจิตใจของเราที่เราวิวัฒนาการกระบวนการที่ยากมากที่จะเข้าใจนอกจากนี้เมื่อผู้คนบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ผู้สร้างพวกเขารู้ดีว่าการคัดเลือกโดยธรรมชาติหรือพวกเขาแค่ปฏิเสธบัญชีทางศาสนา?ส่วนที่เหลือของโลกเข้าใจการคัดเลือกโดยธรรมชาติดีกว่าคนอเมริกันหรือไม่?ฉันไม่แน่ใจในยุโรปเราอาจจัดหาคำตอบ“ วิวัฒนาการ” ให้กับคำถาม“ ความหลากหลายของชีวิตบนโลกมาจากไหน?” แต่เช่นเดียวกับปรากฏการณ์อื่น ๆ อีกมากมายเรามักจะบอกว่าเราเข้าใจคำอธิบายเมื่อเราไม่ได้จุดอ่อนในความสามารถของเราที่จะถูกต้องในการตัดสินว่าเรารู้มากแค่ไหนที่เรียกว่าภาพลวงตาของความลึกที่อธิบายได้ 24 เรามักจะประเมินค่าสูงเกินไปว่าเราเข้าใจมากแค่ไหนและนี่เป็นความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติของดาร์วินตัวอย่างเช่นคนส่วนใหญ่คิดว่าวิวัฒนาการทำงานโดย“ การอยู่รอดของ ﬁ ttest” คำประกาศเกียรติคุณไม่ใช่โดยดาร์วิน แต่โดยเฮอร์เบิร์ตสเปนเซอร์ร่วมสมัยของเขา 24 แนวคิดนี้ถูกตีความผิดว่าหมายความว่าธรรมชาติเลือกสำหรับผู้ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดความเข้าใจผิดนี้เป็นหัวใจสำคัญของนาซีสุพันธุศาสตร์ที่จะฆ่าคนที่พวกเขาเห็นว่าจะทำให้กลุ่มพันธุกรรมอ่อนแอลงอย่างไรก็ตามนี่เป็นความเข้าใจผิดขั้นต้นของทฤษฎีดั้งเดิมซึ่ง“ ttest” หมายความว่าบุคคลนั้นเข้ากันได้ดีเพียงใดกับสภาพแวดล้อมของเขาหรือเธอไม่ใช่บุคคลที่ใหญ่ที่สุดหรือแข็งแกร่งที่สุดที่เข้าคู่กันได้ดีที่สุดเพราะสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจุดดอว์คินส์อธิบายอย่างสง่างามในหนังสือเล่มแรกของเขา The Sel ﬁ sh Geneหากเราทุกคนพัฒนาเป็นนักกีฬากล้ามเนื้อสูงเจ็ดฟุตเราจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสภาพแวดล้อมที่มีการจัดหาอาหาร จำกัด เพื่อเลี้ยงร่างกายขนาดใหญ่ของเรานี่คือข้อเท็จจริงที่ปลอบใจอย่างหนึ่งสำหรับ

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

พวกเราลดลงในห่วงโซ่อาหารในที่สุดผู้ที่อยู่ด้านบนจะพัฒนาตัวเองออกจากการดำรงอยู่อาจเป็นแง่มุมที่แตกต่างกันมากที่สุดของทฤษฎีและสิ่งที่ทุบหน้าลงไปในใบหน้าของสามัญสำนึกคือบรรพบุรุษร่วมกันของทุกรูปแบบชีวิตนับตั้งแต่การทดลอง Monkey ของขอบเขตผู้คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับความโกรธเกรี้ยวเหนือการอ้างสิทธิ์ของดาร์วินนิสต์ว่ามนุษย์เกี่ยวข้องกับลิงแต่นั่นก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับความจริงเกี่ยวกับตัวเราตามที่เปิดเผยโดยพันธุศาสตร์สมัยใหม่ทุกสิ่งมีชีวิต - มนุษย์, สัตว์, แมลง, ต้นไม้, พืช, owers, ผลไม้, อะมีบาและแม่พิมพ์ง่าย ๆ - มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมเรารู้สิ่งนี้เพราะวิทยาศาสตร์สามารถคลี่คลายสิ่งปลูกสร้างของชีวิตและแสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่างมีความคล้ายคลึงกันในโครงสร้างดีเอ็นเอของพวกเขาและทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินเป็นคำอธิบายที่มีความหมายเพียงอย่างเดียวสำหรับข้อเท็จจริงนี้ทุกสิ่งมีชีวิตจะต้องมีวิวัฒนาการมาจากทางบรรพบุรุษร่วมกันในช่วงวัยเด็กของชีวิตบนโลกแต่เช่นเดียวกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับว่ามีสิบเอ็ดหรือสิบสองมิติในจักรวาลของเราวิทยาศาสตร์ของพันธุศาสตร์ไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่อายุยังน้อยเด็ก ๆ ปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบซึ่งแตกต่างกันโดยพื้นฐานอย่างที่เราเห็นพวกเขาเข้าใจว่าผู้คนแตกต่างจากสัตว์เลี้ยงสุนัขแตกต่างจากแมวสัตว์ต่างจากพืชเด็กไม่ได้สอนความแตกต่างเหล่านี้เป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติในการแกะสลักโลกแห่งชีวิตในรูปแบบที่แตกต่างกันทั้งหมดไม่เพียงแค่นั้น แต่เด็ก ๆ คิดว่ารูปแบบการใช้ชีวิตทั้งหมดมีอยู่เสมอในแบบที่พวกเขาเป็นทุกวันนี้ 25 พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นมุมมองของผู้สร้างเช่นเดียวกับผู้ใหญ่หลายคนเด็กไม่สามารถเข้าใจสัตว์ได้พวกเขาไม่ได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอนเราสามารถเรียนรู้ข้อเท็จจริงเหล่านี้ผ่านการศึกษาวิทยาศาสตร์ แต่พวกเขายังไม่สมเหตุสมผลนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงหลงใหลในการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติเช่นลูกอ๊อดและเนยพวกเขาดูมีมนต์ขลังเพราะบุคคลสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างมากในชีวิตที่จริงแล้วการเปลี่ยนแปลงในอาณาจักรสัตว์ไม่ใช่เรื่องแปลกหลายสปีชีส์สามารถเปลี่ยนเพศได้

กีดขวาง

มนุษย์ข้ามเพศที่ตัดสินใจที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทางเพศเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับคนส่วนใหญ่ - เพราะบุคคลข้ามเพศละเมิดมุมมองตามธรรมชาติของมนุษย์ของเราว่าเป็นทั้งชายหรือหญิงซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกิดตั้งแต่แรกเกิดในความเป็นจริงขอบเขตทางชีวภาพที่ใช้งานง่ายของเราหลายอย่างเช่นเพศมีความชัดเจนมากกว่าของจริงมีความคล้ายคลึงกันและต้นกำเนิดร่วมกันมากกว่าที่เราชื่นชมและถ้าคุณไม่เชื่อฉันถามตัวเองว่า: ทำไมผู้ชายถึงมีหัวนม? 27 เป็นมนุษย์เราไม่เห็นว่าตัวเองเป็นผลิตภัณฑ์ของการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องพวกเราส่วนใหญ่คิดว่าเราเป็นลูกหลานโดยตรงในสายเลือดของบรรพบุรุษที่เป็นมนุษย์ด้วยนั่นเป็นเหตุผลที่เรารู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับศิลปินยุคก่อนประวัติศาสตร์ของถ้ำ Niauxอย่างไรก็ตามสิบสามพันปีเป็นเพียงการกระพริบตาในแง่วิวัฒนาการถ้าเราย้อนกลับไปไกลพอเราจะได้ชีวิตนั้นง่ายกว่ามากฉันสามารถรู้สิ่งนี้ในระดับปัญญา แต่ฉันไม่สามารถยอมรับได้อย่างง่ายดายว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดมีวิวัฒนาการมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกันฉันไม่เห็นว่าฉันเกี่ยวข้องกับแม่พิมพ์สีเขียวขนยาวที่กำลังเติบโตบนชีสในตู้เย็นของฉันผลกระทบอย่างเต็มรูปแบบของวิวัฒนาการนั้นไม่ค่อยได้รับการพิจารณาเพราะเราไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามันหมายถึงอะไรความคล้ายคลึงกันทางกายภาพของเรากับลิงชิมแปนซีอาจทำให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าเรามีส่วนร่วมประมาณ 98 เปอร์เซ็นต์ของการแต่งหน้าทางพันธุกรรมของเราการยอมรับยากกว่ามากคือเรายังแบ่งปัน 50 เปอร์เซ็นต์ของการแต่งหน้าทางพันธุกรรมของเรากับกล้วย 28 ฉันอาจรู้สึกว่าเพื่อนมนุษย์บางคนของฉันมีสติปัญญาของกล้วย แต่ต้องยอมรับอย่างเต็มที่ว่าทุกชีวิตเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมพื้นฐานเดียวกันการสร้างบล็อกนั้นเกินความเชื่อไม่ว่าสิ่งมีชีวิตจะเรียบง่ายหรือซับซ้อนเพียงใดรูปแบบชีวิตทั้งหมดมีส่วนร่วมประมาณหนึ่งพันยีนขณะที่ฉันเขียนสิ่งนี้ฉันกำลังพิจารณากล้วยในชามผลไม้ตรงหน้าฉันซึ่งด้วยเหตุผลแปลก ๆ บางอย่างก็ดูเหมือนจะน่ารับประทานน้อยลงทำไมเราถึงเข้าใจผิดการคัดเลือกโดยธรรมชาติและทำไมการสร้างสรรค์จึงทำได้ดีในสภาพแวดล้อมที่นับถือนิกายฟันดาเมนทัลลิสท์คริสเตียน?คำตอบคือจิตใจของเรามีแนวโน้มที่จะเป็นมุมมองของผู้สร้างท้ายที่สุดการสร้างสรรค์ถูกสร้างขึ้นโดยจิตใจมนุษย์ในขณะที่วิวัฒนาการโดยการคัดเลือกโดยธรรมชาติเป็นความจริงที่ถูกค้นพบหากไม่มีหนังสือปฐมกาลจะมีเรื่องราวการสร้างอื่น ๆอินคาชาวอียิปต์

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

และ Aztecs ล้วนมีตำนานการสร้างที่แปลกใหม่และนั่นอาจเป็นไปได้สำหรับอารยธรรมที่สูญพันธุ์ทั้งหมด 29 ทุกวัฒนธรรมมีเรื่องราวการสร้างเพราะมนุษย์มีแนวโน้มที่จะเข้าใจโลกในแง่ของรูปแบบจุดประสงค์และสาเหตุทุกอย่างเกี่ยวกับวิวัฒนาการดำเนินการตอบโต้ว่าการออกแบบจิตใจตามธรรมชาติของเราทำให้รู้สึกถึงชีวิตบนโลกที่ประกอบด้วยสัตว์และพืชต่าง ๆเราไม่ได้มีแนวโน้มที่จะเป็นทฤษฎีที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติไม่ได้รับการคัดเลือกและยังสามารถมีความหลากหลายสุดขีดของรูปแบบชีวิตยิ่งไปกว่านั้นเราคาดว่าจะเชื่อว่าเราทุกคนเกี่ยวข้องกับกล้วยแต่สัญชาตญาณของเราตั้งแต่อายุยังน้อยให้ดินที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการสร้างสรรค์ไม่ว่าเราจะสะดุดกับมันเองหรือนำไปสู่มันผ่านหลักคำสอนทางศาสนาสัญชาตญาณเหล่านี้รวมถึง: 1. ไม่มีเหตุการณ์แบบสุ่มหรือรูปแบบในโลก2. สิ่งต่าง ๆ เกิดจากความตั้งใจ3. ความซับซ้อนไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ของแผนการของใครบางคนในการออกแบบสิ่งต่าง ๆ เพื่อจุดประสงค์4. สิ่งมีชีวิตทั้งหมดแตกต่างกันเป็นหลักเนื่องจากมีคุณสมบัติที่มองไม่เห็นภายในพวกเขานักจิตวิทยาการพัฒนามาร์กาเร็ตอีแวนส์ได้ศึกษาความเชื่อของผู้สร้างในเด็กที่เลี้ยงดูในบ้านนิกายฟันดาเมนทัลลิสท์และไม่ใช่บ้านในสหรัฐอเมริกามิดเวสต์ 30 เธอถามเด็ก ๆ ว่ามีคำถามปลายเปิดเกี่ยวกับต้นกำเนิดของสัตว์ต่าง ๆเป็นผู้สร้าง (“ พระเจ้าสร้างมันขึ้นมา”) โดยธรรมชาติ (“ มันเพิ่งออกมาจากพื้นดินแบบนั้น”) หรือนักวิวัฒนาการ (“ มันมาจากสัตว์ชนิดต่าง ๆ ก่อนหน้านี้”)เด็กที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มของเธอคือเด็กอายุเจ็ดขวบได้ผสมผสานระหว่างคำอธิบายของผู้สร้างและเป็นธรรมชาติขึ้นอยู่กับชุมชนของพวกเขาตามที่คาดไว้พวกเขาไม่ได้ให้คำอธิบายวิวัฒนาการยังไม่น่าแปลกใจที่ผู้ที่เลี้ยงในบ้านที่นับถือนิกายฟันดาเมนทัลลิสท์ของคริสเตียนมีแนวโน้มที่จะพูดว่าพระเจ้ามีความรับผิดชอบในขณะที่เด็ก ๆ จากบ้านที่ไม่ใช่นักกฎหมายให้ส่วนผสมที่เท่าเทียมกันของ“ พระเจ้าสร้าง” และ“ พวกเขาเพิ่งปรากฏตัว” คำตอบอย่างไรก็ตามมีบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้นประมาณแปดถึงสิบปีโดยไม่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่บ้านของพวกเขาทั้งหมด

กีดขวาง

เด็กในยุคนี้ให้บัญชีผู้สร้างเป็นส่วนใหญ่สำหรับชีวิตบนโลกมีบางอย่างเกิดขึ้นรอบวัยเด็กที่ทำให้ Creationism เป็นคำอธิบายที่น่าสนใจสำหรับเด็กส่วนใหญ่เด็กอายุสิบถึงสิบสองปีเท่านั้นที่เริ่มแสดงการรับรู้ถึงวิวัฒนาการและไม่น่าแปลกใจที่การรับรู้นี้แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดในครัวเรือนที่ไม่ใช่นักกฎหมายเราสามารถรู้ได้ว่าการคัดเลือกโดยธรรมชาติเป็นบัญชีที่ถูกต้องสำหรับความหลากหลายของชีวิตบนโลก แต่เช่นเดียวกับการใช้เหตุผลที่ไร้เดียงสาที่เราเห็นกับนักศึกษาวิทยาลัยที่คาดเดาความเร็วของการล้มลูกกระสุนปืนนักวิทยาศาสตร์ทางศาสนาหากพระเจ้าเป็นคนหลงผิดและการสร้างสรรค์สิ่งที่ผิดสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อเปลี่ยนสถานะของกิจการนี้?มีข้อเสนอแนะว่าการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ที่ดีสามารถต่อสู้กับการแพร่กระจายของไวรัสศาสนามีเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ของสมาชิกของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียงมันเป็นเรื่องราวที่คล้ายกันในสหราชอาณาจักรนักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดของเราได้รับเลือกให้เป็นเพื่อนของ Royal Society ซึ่งเป็นสถาบันในเดือนสิงหาคมที่มีอายุสามร้อยปีย้อนกลับไปในช่วงเวลาของนิวตันประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของ Royal Society Fellows ที่ตอบสนองต่อการสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้กล่าวว่าพวกเขาเป็นศาสนาแม้ว่าฉันจะสงสัยว่าสิ่งนี้อาจเป็นการประมาทที่ต่ำเกินไปเนื่องจากสามในสี่ของเพื่อนไม่ตอบสนองเลยอาจเป็นไปได้ว่านักวิทยาศาสตร์ทางศาสนาตระหนักว่าความเชื่อศรัทธาของพวกเขาทำให้พวกเขาขัดแย้งโดยตรงกับวิทยาศาสตร์ของพวกเขาและพวกเขาไม่ต้องการที่จะ "ออกไป"เมื่อผ่านครั้งแรกชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ 3 ถึง 7 เปอร์เซ็นต์ดูเหมือนจะสนับสนุนความคิดที่ว่านักวิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นศาสนา 31 ปัญหานี้คือสิ่งเหล่านี้มีพื้นฐานมาจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกสูง-ดารา“ A-List”ของชุมชนนักวิทยาศาสตร์การศึกษาที่ครอบคลุมมากที่สุดซึ่งดำเนินการในปี 1969 โดยคณะกรรมาธิการ Carnegie สำรวจอาจารย์ชาวสหรัฐอเมริกามากกว่าหกหมื่นคนและเปิดเผยว่าประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์เข้าร่วมคริสตจักรเป็นประจำ 32 แน่นอนสังคมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและคนที่เข้าร่วมคริสตจักรไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชื่อฉันทานอาหารเย็นครั้งหนึ่งกับ Dan Dennett ที่ประหลาดใจ

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

ฉันโดยเปิดเผยว่าเขาชอบไปโบสถ์Dennett เป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าและอยู่ในสหราชอาณาจักรเพื่อส่งเสริมหนังสือเล่มล่าสุดของเขาซึ่งระบุว่าศาสนาเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของการออกแบบจิตใจเมื่อฉันได้ยินว่าเขาเข้าร่วมคริสตจักรเป็นประจำกรามของฉันก็ตกอยู่ในซุปของฉัน(ฉันเป็น“ Gob-smacked” วลีที่แปลกตาของอังกฤษที่ฉันรักเพราะมันจับภาพภาพของปากของคนหนึ่งได้ดีมากเมื่อมันเปิดออกอย่างไม่คาดคิด) ฉันตกตะลึงกดกดDennett ไปโบสถ์ไม่ได้คำนวณจนกว่าเขาจะอธิบายว่าเขาสนุกกับคณะนักร้องประสานเสียงและการร้องเพลงไม่ใช่ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าทุกคนที่มีการก่อการร้ายในโบสถ์และเดนเน็ตต์ยังคงเป็นผู้ไม่เชื่อฟังที่มีความมุ่งมั่น 33 เราได้รับการเตือนเมื่อไม่นานมานี้ในการฟื้นตัวจากการผ่าตัดหัวใจด้วยปัญญาทั่วไป Dennett ขอบคุณผู้ที่สวดอ้อนวอนให้เขา แต่สงสัยว่าพวกเขายังมีแพะสำหรับการวัดที่ดี!การศึกษาล่าสุดการสำรวจปี 2550 ของนักวิชาการ 1,646 คนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำยี่สิบเอ็ดแห่งรายงานว่ามีเพียงสี่ในสิบของนักฟิสิกส์นักเคมีและนักชีววิทยาที่สัมภาษณ์กล่าวว่าพวกเขาไม่เชื่อในพระเจ้าของนักวิทยาศาสตร์มีระดับความไม่แน่ใจหรือความเชื่อในระดับหนึ่งฉันมีความโดดเด่นนี้เนื่องจากนักวิชาการเหล่านี้มาจากวิทยาศาสตร์ที่“ ยาก” ที่เรียกร้องการโต้แย้งตามวัตถุประสงค์และหลักฐานที่เชื่อถือได้ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร?โดยพื้นฐานแล้วการศึกษาวิทยาศาสตร์ที่ดีไม่ได้หยุดคุณเชื่อในพระเจ้าเราสามารถคาดหวังให้ประชาชนทั่วไปบรรลุมาตรฐานทางปัญญาของสมาชิกของ NAS และ Royal Society เพื่อให้พวกเขายุติการเป็นศาสนาได้หรือไม่?การศึกษาวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นและเด็กทุกคนสามารถรับประโยชน์จากการฝึกอบรมทางวิทยาศาสตร์ แต่เราต้องไม่ทำผิดพลาดในการคิดว่าการศึกษาวิทยาศาสตร์ฉีดวัคซีนเด็กจากศาสนาค่อนข้างปรากฏว่าวัฒนธรรมไม่ใช่การศึกษาเป็นปัจจัยหลักในการแพร่กระจายของศาสนาปัจจุบันยุโรปมีฆราวาสมากกว่าสหรัฐอเมริกา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าชาวยุโรปมีส่วนร่วมในการคิดเหนือธรรมชาติน้อยกว่าชาวอเมริกันผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้ายังคงมีความเชื่อเหนือธรรมชาติการสำรวจความคิดเห็นยอดนิยมของผู้ใหญ่ทั่วไปหนึ่งพันคนในสหราชอาณาจักรในปี 2545 เปิดเผยว่าร้อยละ 36 ไม่เชื่อในพระเจ้า แต่เกือบสองเท่าที่เชื่อว่าจิตมีพลังที่แท้จริง 35 ในฐานะนักเขียน G. K. Chesterton ชี้ให้เห็นเมื่อผู้คนหยุดเชื่อในพระเจ้าพวกเขาพวกเขาอย่าเชื่อใน

กีดขวาง

ไม่มีอะไรพวกเขาเชื่อในสิ่งใดแม้แต่ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าที่โดดเด่นก็สามารถรักษาความเป็นไปได้ของสิ่งเหนือธรรมชาตินักประสาทวิทยาแซมแฮร์ริสเป็นนักวิจารณ์ที่ไม่รู้จักพอเกี่ยวกับศาสนา 36 เขากระตุ้นให้เกิดการโต้แย้งอย่างมีเหตุผลเพื่อสนับสนุนการโจมตีศรัทธาของเขาและในตอนท้ายของหนังสือของเขาถึงจุดจบของศรัทธาเขารับรองแง่มุมเหนือธรรมชาติของเวทย์มนต์ตะวันออกและความเป็นไปได้ของกระแสจิตทางจิตฉันพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์ในภายหลังเพียงเพราะมีคนปฏิเสธศาสนาทั่วไปไม่ได้หมายความว่าเขาหรือเธอปฏิเสธสิ่งเหนือธรรมชาติทั้งหมดนักวิจารณ์บางคนประณามมาตรฐานสองเท่าของแฮร์ริสอย่างรวดเร็ว แต่ฉันคิดว่าการวิจารณ์ดังกล่าวไม่ยุติธรรม 37 มันไม่ยุติธรรมเพราะพวกเราส่วนใหญ่รวมถึงนักประสาทวิทยาที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าเหนือกว่าเมื่อเทียบกับความสดใสของเดนเน็ตต์ระบุว่าเราไม่ได้เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติเพราะโลกสามารถแบ่งออกเป็นผู้ที่มีความเชื่อเหนือธรรมชาติ (“ เหนือกว่า”) และผู้ที่ปฏิเสธคำอธิบายเหนือธรรมชาติของโลก (“ สดใส”) 38 ฉันขอยืนยันว่าธรรมชาติของมนุษย์ไม่ค่อยมีความเรียบร้อยในกล่องแยกต่างหากนี่เป็นกรณีที่มีศาสนาและความเชื่อเหนือธรรมชาติทางโลกโลกไม่ได้แบ่งออกเป็นความสดใสและเหนือกว่าบนพื้นฐานของความเชื่อมีความเชื่อทั้งหมดที่นั่นความเชื่อบางอย่าง (ในสวรรค์, นรก, ปีศาจ, เทวดา, พระเจ้าและปีศาจ) เป็นที่รู้จักในทันทีว่าเป็นเรื่องของข่าวประเสริฐทางศาสนาความเชื่ออื่น ๆ เช่นที่สำรวจในการสำรวจความคิดเห็นของ Gallup ที่อ้างถึงในบทสุดท้าย (precognition, กระแสจิต, clairvoyance) เป็นแนวคิดเหนือธรรมชาติที่ขัดแย้งกับความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ของเรา แต่ไม่ใช่ศาสนาคนที่บอกว่าพวกเขาเป็นผู้ไม่เชื่อในพระเจ้ายังคงมีความเชื่อเหนือธรรมชาติที่แปลกประหลาดผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าส่วนใหญ่ที่ฉันเคยพบมักจะไม่ต่อต้านการเกิดขึ้นตามธรรมชาติมากพอ ๆ กับการต่อต้านศาสนานี่เป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งที่มักถูกมองข้ามเมื่อฉันพูดคุยใน Norwich เกี่ยวกับมนุษย์ที่ถูกต่อสายเพื่อ supersense บางคนคิดว่าฉันหมายถึงศาสนาเท่านั้นนักวิจารณ์ชี้ให้เห็นว่าถ้าเรามีสายสำหรับความเชื่อเหนือธรรมชาติเราจะอธิบายได้อย่างไรว่ามีผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าในประเทศเช่นสวีเดนและฟินแลนด์ซึ่งแปดในสิบคนบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ศาสนา?มันอาจจะเย็นอยู่ที่นั่น แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนในสวีเดนและฟินน์อาจมีการพัฒนาสมองที่แตกต่างกันหรือ

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

พิจารณาการเปรียบเทียบของไอร์แลนด์และสหราชอาณาจักรมีเพียงหนึ่งในยี่สิบทุกคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าในไอร์แลนด์ แต่ข้ามข้ามน้ำไปยังสหราชอาณาจักรและจำนวนสูงกว่าแปดเท่าชีววิทยาจะอธิบายถึงความต่ำช้าที่แพร่หลายในประเทศใดประเทศหนึ่งได้อย่างไร แต่ไม่ได้อยู่ในเพื่อนบ้านได้อย่างไร 39 คำตอบคือสมองมีสายสำหรับหลาย ๆ สิ่งที่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมเพียงเพราะพฤติกรรมของมนุษย์และการคิดแตกต่างกันระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไม่ได้หมายความว่าไม่มีชีววิทยาที่เกี่ยวข้องตัวอย่างเช่นเด็กทารกทุกคนมีสายสำหรับภาษา แต่ภาษาที่พวกเขาพูดจบลงนั้นขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาเลี้ยงดูที่ไหน 40 ทารกจากทุกที่ในโลกจะจบลงด้วยการพูดภาษาที่พวกเขาถูกเปิดเผย - และไม่มีความพยายามเพราะสมองของพวกเขาได้รับการออกแบบมาเพื่อทำสิ่งนี้หรือพิจารณาตัวอย่างจากการมองเห็นทำไมคนจีนทุกคนถึงเหมือนกัน?ก่อนที่คุณจะเริ่มเขียนถึงฉันเพื่อบ่นเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติของฉันฉันจะเพิ่มสิ่งนั้นแน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มีลักษณะเหมือนกันและในความเป็นจริงเราทุกคนก็ดูเหมือนกันกับพวกเขา 41 ในพื้นที่ที่อยู่ด้านหลังหูของคุณคือสมองภูมิภาคที่รู้จักกันในชื่อ Fusiform Gyrus ซึ่งมีความเชี่ยวชาญสำหรับการแปรรูปใบหน้าตั้งแต่เริ่มต้นทารกแรกเกิดดูเหมือนจะมีสายเพื่อค้นหาใบหน้า 42 ด้วยประสบการณ์พวกเขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจดจำใบหน้าของแม่และสมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่มของพวกเขา แต่พวกเขายังคงมีความเชี่ยวชาญน้อยลงในการจดจำสมาชิกของกลุ่มอื่น ๆการวิจัยเกี่ยวกับภาษาและการพัฒนาการจดจำใบหน้าบอกเราว่ามีอคติทางชีวภาพสำหรับเด็กทารกที่ได้รับการปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของพวกเขามากขึ้นในการยืมการเปรียบเทียบจากการคำนวณสมองทารกจะถูกจัดรูปแบบสำหรับอินพุตบางอย่างและใบหน้าและภาษาเป็นเพียงสองของพวกเขาTweedledum และ Tweedledee อาจเป็นไปได้หรือไม่ว่า Supersense เป็นผลมาจากอคติทางชีวภาพ?บางทีวัฒนธรรมอาจแพร่กระจายความเชื่อโดยการให้อคติกับความคิดของเรา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะเติบโตขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งแตกต่างจากความเชี่ยวชาญด้านภาษาและใบหน้าซึ่งมีอยู่ในเกือบทุกคนความเชื่อมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นมันขึ้นอยู่กับบุคคลเช่นกันตัวอย่างเช่นฉันได้ยินบทสัมภาษณ์ทางวิทยุกับปีเตอร์

กีดขวาง

ฮิตเชนส์และคริสโตเฟอร์น้องชายของเขาซึ่งเพิ่งตีพิมพ์วิพากษ์วิจารณ์ศาสนาที่มีสิทธิอย่างยั่วยุพระเจ้าไม่ได้ดีในสหราชอาณาจักร 44 ชายทั้งสองเป็นนักข่าวที่ชาญฉลาดและมีการศึกษาดีพวกเขาได้รับการเลี้ยงดูในครอบครัวเดียวกันซึ่งสอนให้พวกเขาเป็นอิสระอย่างไรก็ตามคริสโตเฟอร์เป็นผู้ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าและปีเตอร์เป็นคริสเตียนในตอนท้ายของการโต้เถียงที่ค่อนข้างน่าประหลาดใจ - โดยทั่วไปของพี่น้องทะเลาะกันแต่ละคนกล่าวหาว่าอีกคนหนึ่งเปลี่ยนเรื่อง - ผู้สัมภาษณ์แทรกซึมและถามว่าพี่ชายสองคนที่เลี้ยงดูในบ้านเดียวกันอาจแตกต่างกันอย่างหลงใหลในความเชื่อของพวกเขามีการหยุดชั่วคราวตั้งครรภ์คำถามง่ายๆนี้ทำให้พวกเขาทั้งคู่หายไปสำหรับคำพูดในที่สุดคริสโตเฟอร์ตอบว่า“ นี่ไม่ได้ช่วยขายหนังสือของฉัน!”คำตอบสำหรับคำถามของผู้สัมภาษณ์อาจพบได้ในการทดลองตามธรรมชาติที่ช่วยให้ผู้ตรวจสอบดูบทบาทของชีววิทยาและสิ่งแวดล้อมเมื่อไข่ของมนุษย์แบ่งออกเป็นสองหลังการปฏิสนธิผลลัพธ์จะเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันซึ่งส่วนใหญ่แบ่งปันยีนเดียวกันหากเด็กแฝดที่เหมือนกันเหล่านี้ได้รับการอุปถัมภ์ไปยังบ้านที่แตกต่างกันเราสามารถประเมินสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของยีนเพื่อการพัฒนาของพวกเขามันไม่ใช่การทดลองที่สมบูรณ์แบบเนื่องจากสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่คล้ายกันมาก แต่มันก็เปิดเผยสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับพลังของยีนการวิจัยมีมากมาย แต่สรุปข้อสรุปที่ดึงมาจากการศึกษาคู่ที่เหมือนกันในมาตรการทางจิตวิทยาหลายครั้งการเปรียบเทียบผลลัพธ์บ่งชี้ว่ามันมักจะเหมือนกับการทดสอบบุคคลเดียวกันสองครั้งแง่มุมของบุคลิกภาพของเราที่เราคิดว่าเราได้ปลูกฝังตัวเองมักจะคาดการณ์ทางชีวภาพได้สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นจริงสำหรับความชอบของคู่แฝดที่มีต่อศาสนาฝาแฝดที่เหมือนกันที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่แยกต่างหากแบ่งปันความเชื่อและพฤติกรรมทางศาสนามากขึ้นเมื่อเทียบกับฝาแฝดที่ไม่เหมือนกันซึ่งอาศัยอยู่ห่างกันการศึกษาโดยทีมมินนิโซตาที่นำโดยโทมัสบัฟการ์ดพบว่าสิ่งแวดล้อมมีการคาดการณ์ของศาสนาน้อยกว่าความคล้ายคลึงกันทางพันธุกรรม 45 การศึกษาอื่นจากกลุ่มเดียวกันพบว่าเมื่อฝาแฝดออกจากบ้านนักพันธุศาสตร์คณบดี Hamer ได้ระบุยีน, transporter monoamine transporter 2 หรือ VMAT2 ที่เชื่อมโยงกับลักษณะบุคลิกภาพของจิตวิญญาณ 47 เขาพบว่าในการสำรวจของ

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

ผู้คนกว่าสองร้อยคนรวมถึงฝาแฝดผู้ที่แบ่งปันศาสนาก็แบ่งปัน VMAT2 ด้วยยีนนี้ควบคุมสารเคมีสมองจำนวนหนึ่งที่รับผิดชอบในการควบคุมอารมณ์นักประสาทวิทยาเช่น Andrew Newberg ได้ก้าวหน้าไปสู่การระบุวงจรประสาทที่เกี่ยวข้องซึ่งเปิดใช้งานในระหว่างประสบการณ์ทางศาสนาอีกครั้งแนะนำบัญชีที่ใช้สมองสำหรับจิตวิญญาณ 48 ดังนั้นสมองของเราและการออกแบบจิตใจที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเองตัดสินว่าเราเชื่อหรือไม่.แม้ว่า Peter และ Christopher Hitchens ได้แบ่งปันสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ที่คล้ายกันมากพวกเขาก็ยินดีที่จะรู้ว่าพวกเขามีสมองที่แตกต่างกันซึ่งอาจอธิบายได้ว่าทำไมความเชื่อของพวกเขาแตกต่างกันมากมันเป็นวันแรกและยังไม่ชัดเจนว่าการลดการค้นหาความเชื่อในระดับยีนจะทำให้รู้สึกถึงพฤติกรรมมนุษย์ที่หลากหลายและซับซ้อนอย่างไรก็ตามการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าคำอธิบายว่าความเชื่อที่ดำเนินการควรพิจารณาบทบาทของชีววิทยาที่ทำงานภายในสภาพแวดล้อมอย่างไรหากการศึกษาทางพันธุกรรมเกิดขึ้นนั่นหมายความว่ามีบางสิ่งในยีนของเราที่มีส่วนช่วยในการสร้างสมองที่มีแนวโน้มที่จะเชื่อมั่นหากนั่นเป็นกรณีที่ทั้งสองด้านของการอภิปรายเกี่ยวกับต้นกำเนิดที่แท้จริงของความเชื่อจะต้องรำคาญจริงๆเพราะคำแนะนำอาจเป็นไปได้ว่าบางทีเราอาจไม่มีทางเลือกเกี่ยวกับว่าเราเชื่อหรือไม่กล่าวอีกนัยหนึ่งไม่มีเจตจำนงเสรีในการตัดสินใจที่จะเชื่อหรือไม่การออกแบบจิตใจของคุณเองเป็นตัวกำหนดว่าคุณมีความเชื่อมั่นในความเชื่อที่เป็นไปได้อย่างไรความเป็นไปได้ที่เรากลับไปในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้เมื่อฉันพูดถึงกลไกที่ควบคุมกระบวนการคิดอย่างไรก็ตามหากมีสิ่งหนึ่งที่ทั้งผู้เชื่อและผู้ที่ไม่เชื่อก็รู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับมันคือโอกาสที่มีการออกแบบจิตใจเมื่อพูดถึงทางเลือกในชีวิตนั่นเป็นเพราะเราชอบที่จะคิดว่าเมื่อเราตัดสินใจเรากำลังทำเช่นนั้นบนพื้นฐานของเหตุผลที่มีวัตถุประสงค์เราชอบที่จะคิดว่าเรากำลังชั่งน้ำหนักหลักฐานและตัดสินใจที่สมดุลในความเป็นจริงเมื่อเราตัดสินใจมีอคติทุกประเภทที่ดำเนินการซึ่งเป็นอิสระจากเหตุผลเราไม่จำเป็นต้องมีเจตจำนงฟรีนั่นเป็นความคิดที่ไม่มีใครรู้สึกมีความสุขนี่เป็นเพราะตามที่นักเขียน Isaac Bashevis นักร้องสังเกตว่า“ คุณต้องเชื่อในเจตจำนงเสรีไม่มีทางเลือก” 49

กีดขวาง

ศาสนาเหนือธรรมชาติทุกวันเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการเหนือธรรมชาติคุณอาจเป็นคนที่มีความเชื่อในการเผาไหม้, การประนีประนอม, การประนีประนอม, การประกวดสุจริต, แต่ฉันพนันได้เลยว่าฉันสามารถค้นพบโครงกระดูกเหนือธรรมชาติในตู้เสื้อผ้าจิตของคุณได้อย่างรวดเร็วคุณอาจไม่เชื่อในปรากฏการณ์อาถรรพณ์ใด ๆ จากสิบรายการในการสำรวจความคิดเห็นของ Gallup จากบทสุดท้าย แต่รายการนั้นหมายถึงเฉพาะสิ่งที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติมีอีกมากมายสำหรับการเริ่มต้นมีประเพณีที่ชัดเจนเช่นไม่เดินใต้บันไดโยนเกลือเหนือไหล่ของคุณข้าม ﬁ ngers ของคุณและอื่น ๆสิ่งเหล่านี้มาจากการปฏิบัติที่เชื่อโชคลางผ่านวัฒนธรรมอย่างชัดเจนชัดเจนน้อยกว่าคือแง่มุมของการมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ประจำวันตามปกติซึ่งเนื้อหาความเชื่อในคุณสมบัติที่มองไม่เห็นในโลกตัวอย่างเช่นทุกวัฒนธรรมมีรูปแบบของพิธีกรรมสำหรับการทักทายที่แสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่ผู้คนเตรียมพร้อมที่จะสัมผัสซึ่งกันและกันทางร่างกายบางวัฒนธรรมมีความชัดเจนเกี่ยวกับต้นกำเนิดเหนือธรรมชาติของพิธีกรรมการทักทายของพวกเขาMaoris of New Zealand Rub Noses (Hongi) เพื่อแลกเปลี่ยนลมหายใจทางจิตวิญญาณ (HA) แต่ท่าทางการติดต่อทั้งหมดสามารถตีความได้ตามขอบเขตที่มีการแลกเปลี่ยนสาระสำคัญตัวอย่างเช่นผู้คนทำสิ่งแปลก ๆ ต่อหน้าไอดอลของพวกเขาแฟน ๆ คลั่งไคล้เมื่อพวกเขาได้สัมผัสกับฮีโร่กีฬาหรือดาราร็อคคนปกติคนที่มีเหตุผลม็อบมีชื่อเสียงเพียงเพื่อติดต่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทุกคนจะต้องชินกับอาการเจ็บข้อมือในความพยายามที่จะตอบสนองความปรารถนาของฝูงชนที่จะจับมือกันความต้องการที่จะสัมผัสกับบุคคลอื่นคือการกระตุ้นของมนุษย์ที่ทรงพลังในทำนองเดียวกันเราได้รับการปนเปื้อนทางจิตวิทยาจากคาร์ดิแกนของฆาตกรเรายังถูกบังคับให้มีส่วนร่วมในการกระทำที่จัดการกับการติดต่อทางกายภาพอย่างใกล้ชิดแน่นอนว่าเราสามารถพิสูจน์พวกเขาได้เสมอในแง่ของการติดตามประเพณีดั้งเดิม แต่ประเด็นก็คือพวกเขามาจากการคิดเหนือธรรมชาติตอนเป็นเด็กคุณเคยทำคำสาบานกับเพื่อนที่คุณทั้งคู่ถ่มน้ำลายใส่มือแล้วตบพวกเขาด้วยกันหรือไม่?คุณจะทำเช่นนั้นกับใครบางคนเพื่อสาบานอย่างเคร่งขรึมเพราะการสัมผัสการถ่มน้ำลายของคนอื่นนั้นแย่มากนี้

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

เป็นเพราะความตั้งใจของเราที่จะติดต่อกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่เราเชื่อในความเชื่อที่สำคัญของเราจากนั้นก็มีความเชื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับวัตถุและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในปี 2550 เปียโนของจอห์นเลนนอนซึ่งเป็นเพลงที่เขาแต่งเพลง“ ลองนึกภาพ” ของมนุษยชาติออกจากสหราชอาณาจักรเพื่อเริ่มทัวร์ไซต์ทั่วโลกมันไม่ใช่เปียโนแกรนด์สีขาวที่สวยงามที่เราทุกคนจำได้ แต่เป็นสีน้ำตาลที่ค่อนข้างธรรมดาที่คุณต้องการในห้องดนตรีของโรงเรียนหลายแห่งแผนจะนำเปียโนไปยังสถานที่ที่มีความรุนแรงและความโหดร้ายมันไปที่ Grassy Knoll ในดัลลัสที่จอห์นเอฟ. เคนเนดีถูกลอบสังหารมันถูกพาไปที่เมมฟิสที่มาร์ตินลูเทอร์คิงจูเนียร์ถูกยิงมันปรากฏขึ้นในนิวออร์ลีนส์หลังจากการทำลายล้างของพายุเฮอริเคนแคทรีนาปรากฏที่ Waco, Okalahoma City และมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค - ฉากของการเสียชีวิตที่ไม่มีจุดหมายมากมายเปียโนของเลนนอนกลายเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์เพื่อรักษาบาดแผลที่เหลืออยู่ในชุมชนที่ยังคงทำใจกับความเศร้าโศกทุกคนได้รับอนุญาตให้สัมผัสLori Blanc นักชีววิทยานกเวอร์จิเนียเทคบอกฉันว่าแม้ว่าเธอจะเป็นนักวิทยาศาสตร์และไม่รู้สึกรู้สึก แต่เธอก็พบว่าตัวเองถูกดึงดูดไปที่เปียโนอย่างน่าประหลาดใจและปลอบโยนหลังจากเล่นเพลงให้เพื่อนที่ถูกฆ่าLibra Lagrone ซึ่งบ้านถูกทำลายโดย Hurricane Katrina กล่าวว่า“ มันเหมือนกับการนอนหลับในเสื้อยืดของคุณปู่ในเวลากลางคืนคุ้นเคยสวยงามและเป็นส่วนตัว” 50 ทุกสังคมมีสมบัติศักดิ์สิทธิ์สถานที่และการปฏิบัติพวกเขากลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อเราให้ความสำคัญกับคุณค่าพิเศษและพลังให้กับพวกเขาเราเชื่อว่าพวกเขามีคุณสมบัติที่ทำให้พวกเขามีเอกลักษณ์และไม่สามารถถูกแทนที่ได้และไม่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถวัดได้ แต่พวกเราส่วนใหญ่เชื่อว่าเราสามารถสัมผัสได้พวกเขาเป็นความเชื่อเหนือธรรมชาติทางโลกเพื่อประโยชน์ในการโต้แย้งสมมติว่าคุณไม่มีความคิดใด ๆ ที่ฉันได้แนะนำอย่างไรก็ตามแม้แต่เหตุผลที่มีเหตุผลมากที่สุดในหมู่พวกเราก็สามารถมีความกระตุ้นทางอารมณ์และความรู้สึกที่เรียกร้องให้มีเหตุผลเช่นเดียวกับ Lori Blanc นักวิทยาศาสตร์ที่เล่นเปียโนของ John Lennon บางครั้งเราก็สามารถประหลาดใจด้วยความรู้สึกของเราเองCynics ได้ง่ายเกินไปที่จะยกเลิกความคิดและพฤติกรรมเหล่านี้ว่าเป็นเพียงแค่อารมณ์ราวกับว่าอารมณ์นั้นมีความสำคัญน้อยกว่าเหตุผลอย่างไรก็ตามในฐานะเพื่อนร่วมงานเก่าของฉันแดน

กีดขวาง

เมื่อเร็ว ๆ นี้กิลเบิร์ตชี้ให้เห็นความรู้สึกคือเหตุผลที่มนุษย์ทำอะไรได้เลย 51 ความรู้สึกกระตุ้นให้เราไปทำงานตกหลุมรักที่จะสงสัยในจักรวาลเพื่อสนุกกับชีวิตหรือไม่หากไม่มีความรู้สึกจะไม่มีประเด็นใดที่จะเกิดขึ้นนักวิทยาศาสตร์ก็มีความรู้สึกเช่นกันแม้จะมีการรับรู้สาธารณะที่ไม่ดี แต่วิทยาศาสตร์ก็สามารถหลงใหลและมีอารมณ์ได้อย่างเข้มข้นสิ่งนี้มักจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับนักเขียนที่ไม่สนใจส่วนใหญ่ แต่ฉันสามารถบอกคุณได้ว่าเมื่อความคิดและชื่อเสียงถูกท้าทายมันอาจทำให้ผิดพลาดได้ดังนั้นฉันจึงท้าทายใครก็ตามที่นั่นเพื่ออ้างว่าพวกเขาไม่มีอารมณ์หากไม่มีอารมณ์เราจะไม่มีใครคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์และถ้าคุณมีอารมณ์ฉันจะเถียงว่าอารมณ์นั้นไม่สามารถถูกปกครองได้อย่างสมบูรณ์โดยเหตุผลปล่อยให้ประตูเปิดสำหรับสิ่งเหนือธรรมชาติเราทุกคนแตกต่างกันไปในความเชื่อเหนือธรรมชาติในขณะที่พวกเราหลายคนสามารถปราบปรามวิธีคิดนี้ได้ในที่สุดมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการแต่งหน้าของมนุษย์เพื่อให้เหตุผลและประพฤติตนด้วยวิธีนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเราบางคนมีแนวโน้มที่จะคิดแบบนี้มากกว่าคนอื่น ๆ แต่บางทีคนอื่น ๆ อาจไม่สามารถระงับได้ว่าอะไรคือความโน้มเอียงตามธรรมชาติในพวกเราส่วนใหญ่เราทุกคนรู้ว่ามันจะไม่มีเหตุผลมนุษย์ถูกกำหนดให้ทำผิดพลาดของเหตุผลความไร้เหตุผลนี้เกิดขึ้นสมมติฐานเหนือธรรมชาติที่ดึงดูดความสนใจไปที่รูปแบบกองกำลังและพลังงานที่ถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาดโดยวิทยาศาสตร์เราไม่มีเรดาร์ที่มีเหตุผลตลอดเวลาบางครั้งพฤติกรรมและการตัดสินใจของเราขึ้นอยู่กับการอนุมานการปรากฏตัวของสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอกเราไม่มีอยู่จริงนั่นเป็นเพราะความคิดที่ว่ามีบางสิ่งที่มีต่อความเป็นจริงเป็นส่วนผสมทั่วไปในพฤติกรรมมนุษย์ของเรามากโดยไม่คำนึงว่าเราเป็นคนเคร่งศาสนาหรือไม่แต่ฉันไม่ต้องการที่จะปราบคุณไว้เหนือหัวด้วยความรุนแรงฉันหวังว่าคุณจะได้ข้อสรุปเดียวกันในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้ฉันต้องการให้คุณปฏิเสธความคิดที่ว่าคุณเป็นสุดยอดหรือสดใสแต่ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะเป็น Superbrightอะไรต่อไป?ในบทนี้ฉันได้จัดการกับความเชื่อในวิทยาศาสตร์ศาสนาและสิ่งเหนือธรรมชาติพวกเขาทั้งหมดขึ้นอยู่กับการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่สามารถสังเกตได้และต้องใช้จิตใจที่ออกแบบมาเพื่อให้หายไป

ใครเป็นผู้สร้างสิ่งมีชีวิต?

ข้อมูล.อย่างไรก็ตามตอนนี้คุณควรชื่นชมว่ากระบวนการนี้ไม่ผิดพลาดกระบวนการที่ใช้งานง่ายแบบเดียวกันที่นำเราไปสู่เหตุผลคือกระบวนการเดียวกับที่ทำให้เราไม่มีเหตุผลบางครั้งเราอนุมานการมีอยู่ของสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่มีอยู่จริงและถ้าพวกเขาทำพวกเขาจะต้องมีการยกเครื่องกฎธรรมชาติของเราอย่างสมบูรณ์นั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาเหนือธรรมชาติศาสนาและวัฒนธรรมมีบทบาทในการแพร่กระจายของลัทธิเหนือธรรมชาติ แต่ฉันขอยืนยันว่าพวกเขาเพียงแค่ให้กรอบสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสำหรับเราทุกคนเราได้รับการเตรียมไว้สำหรับความเชื่อทางศาสนาเพราะการออกแบบจิตใจของเรามีอคติต่อการใช้เหตุผลเหนือธรรมชาติเป็นผลพลอยได้จากการคิดอย่างมีเหตุผลความแตกต่างที่ลึกซึ้งระหว่างวิธีการแพร่กระจายความคิดอาจดูเหมือนว่าการแยกผมแบบ pedantic แต่ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเรื่องจริงมีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับสิ่งที่วัฒนธรรมสามารถทำได้หากมีสิ่งใดที่จะเปลี่ยนการคิดเหนือธรรมชาติRichard Dawkins ถูกต้องศาสนาแพร่กระจายโดยวัฒนธรรมบอกเล่าเรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ต้องเชื่อโดยศรัทธาเพียงอย่างเดียวหากเราลบคริสตจักรศาสนาอาจหยุดตายในเส้นทางของมัน แต่เราจะยังคงมีความคิดเหนือธรรมชาติถ้าฉันพูดถูกมันจะกลับมาอีกครั้งในเด็กแรกเกิดทุกคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางธรรมชาติของการให้เหตุผลมันเหมือนสัตว์ไฮดราในตำนานหากคุณตัดหัวเดียวมันก็จะเติบโตขึ้นอีกลองมาดูสัตว์ประหลาดนี้ของเด็ก

บทที่สี่

การเบ่งบานเด็กทารกที่มีความรู้ทุกคนเริ่มต้นด้วยสัญชาติญาณนำไปสู่แนวคิดและจบลงด้วยความคิด- Immanuel Kant, คำวิจารณ์ของเหตุผลบริสุทธิ์ (1781), p.569

ความเชื่อมาจากไหน?ฉันอยู่กับนักปรัชญาชาวเยอรมัน Immanuel Kant ในเรื่องนี้ความรู้สร้างความเชื่อและความรู้นั้นมาจากการใช้เหตุผลที่เข้าใจง่ายของเราเป็นหลักมาตรวจสอบหลักฐานกันเถอะผู้ใหญ่ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการเล่าเรื่องตั้งแต่วัยเด็กของพวกเขาซึ่งเราคิดว่าสิ่งที่เรารู้และเชื่อมาจากสิ่งที่เราบอกอย่างไรก็ตามภาพของเด็กแฝงเพียงแค่ดูดซับความรู้และความเชื่อจากผู้อื่นเช่นฟองน้ำบางอย่างดูดความคิดพลาดจุดสำคัญเด็ก ๆ เกิดความคิดของตัวเองมานานก่อนที่ใครจะบอกพวกเขาว่าจะคิดอย่างไรเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์เริ่มชื่นชมความคิดนี้เกิดขึ้นในเด็กที่กำลังเติบโตให้ฉันชัดเจนที่นี่เพราะนี่เป็นข้อโต้แย้งหลักของหนังสือเล่มนี้: เด็ก ๆ สร้างความรู้ผ่านการใช้เหตุผลที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับโลกรอบตัวพวกเขาซึ่งนำพวกเขาไปสู่ความเชื่อทั้งธรรมชาติและเหนือธรรมชาติเพื่อให้เข้าใจสิ่งนี้เราต้องดูจุดเริ่มต้นอีกครั้งไม่ใช่จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมในครั้งนี้ แต่จุดเริ่มต้นของจิตใจที่กำลังพัฒนาก่อนที่วัฒนธรรมและการเล่าเรื่องจะเริ่มมีบทบาทสำคัญ

กีดขวาง

การเกิดของลูกสาวคนโตของฉันเป็นสิ่งที่เบลอสำหรับฉันเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กคนแรกแรงงานใช้เวลานานประมาณสิบสองชั่วโมงตลอดทั้งคืนและเมื่อถึงเวลาที่เธอเปิดตัวในวันรุ่งขึ้นประมาณเที่ยงวันอ่อนเพลียอารมณ์และความวิตกกังวลที่แท้จริงทำให้มั่นใจได้ว่าความทรงจำส่วนใหญ่ของฉันในโอกาสนี้จะถูกกำจัดออกไปแน่นอนฉันไม่ใช่คนทำงานหนักการมาถึงของลูกสาวคนที่สองของฉันง่ายกว่ามากอย่างน้อยสำหรับฉันครั้งนี้ฉันกังวลน้อยลงรู้ว่าจะคาดหวังอะไรและตรงไปตรงมามีความสนใจมากขึ้นในสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกำลังทำอยู่และสิ่งที่เครื่องจักรมีไว้สำหรับบางทีฉันควรจะใส่ใจกับความยากลำบากของภรรยามากขึ้น แต่ฉันก็ต้องใช้เวลาในการไตร่ตรองว่าการคลอดบุตรที่แปลกประหลาดต้องเป็นอย่างไรฉันพยายามที่จะจินตนาการว่ามันจะต้องเกิดอะไร - ออกจากรังไหมอุ่น ๆ ของครรภ์มนุษย์และเข้าสู่การฆ่าเชื้อที่ผ่านการฆ่าเชื้อของห้องโถงส่งของโรงพยาบาลห้องพักที่มีแสงสว่างหลอดวัตถุโลหะเย็นร่างกายที่เคลื่อนไหวขนาดใหญ่เสียงที่กระวนกระวายใจและเครื่องจักรที่ไปปิงทารกแรกเกิดทำอะไรจากเอะอะทั้งหมดนี้?เพียงพอที่จะทำให้คุณอยากร้องไห้ในปีพ. ศ. 2433 วิลเลียมเจมส์อธิบายว่าโลกของทารกแรกเกิดเป็น“ ความสับสนที่เบ่งบานและเต็มไปด้วยความรู้สึก 1 ไม่มีองค์กรหรือความรู้ที่คิดว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิดเมื่อเข้าสู่โลกเราเป็นเพียงกลุ่มของการเลี้ยงดูและเลี้ยงลูกre ﬂ exes เป็นพฤติกรรมที่ถูกกระตุ้นโดยอัตโนมัตินักเรียนในดวงตาของคุณแคบลงในแสงแดดสดใสเมื่อหมอแตะเข่าของคุณด้วยค้อนและขาของคุณกระตุกนั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งไม่จำเป็นต้องคิดในความเป็นจริงคุณไม่สามารถหยุดยั้งส่วนใหญ่ได้เพราะพวกเขาอยู่นอกเหนือการควบคุมหรือความคิดใด ๆเด็กทารกมาพร้อมกับ re ro ﬂ exes แปลก ๆ มากมายตัวอย่างเช่นหากคุณตีแก้มของทารกแรกเกิดเบา ๆ การรูตกลับมาทำให้พวกเขาหันหัวและปากไปที่แหล่งที่มาของการลูบพวกเขาไม่รู้ว่าจะหันพวกเขาเป็นเพียงสายที่จะทำเช่นนั้นมีการดูดอีกครั้งเมื่อสิ่งที่มีขนาดเล็กใด ๆ ทำให้ทารกต้องพัดขึ้นริมฝีปากของพวกเขาเห็นได้ชัดว่าการตอบสนองทั้งสองนี้มีประโยชน์สำหรับการให้นมบุตรมีการก้าวขึ้นไปที่ไหนถ้าคุณถือทารกแรกเกิดตั้งตรงด้วยเท้าทั้งสองบนพื้นผิวมันจะสลับการยกและวางขาข้างหนึ่งแล้ว

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

ในสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเดินพ่อแม่ที่น่าประหลาดใจนี้เพราะการเดินที่แท้จริงนั้นเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีจากนั้นก็มีการจับอีกครั้ง

รูปที่.5: จอห์นวัตสันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของการจับ

ทารกเดทจากประมาณปี 1919

ตัวเล็ก ๆ ของพวกเขายึดติดกับวัตถุที่วางไว้ในฝ่ามือของพวกเขานั้นทรงพลังมากจนคุณสามารถยกทารกออกจากพื้นดินที่ยึดติดกับวัตถุนั้นJohn Watson และ Rosalie Raynor ทำสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ไม่มีผู้ปกครองที่ไม่สนใจจะฝันถึงการพยายาม 2 ใน“ โมโร” อีกครั้ง - บางครั้งเรียกว่าการตอบสนองที่น่าตกใจ

กีดขวาง

หากคุณวางหัวที่รองรับไปข้างหลังหรือส่งเสียงดังไม่มีใครแน่ใจว่าสิ่งที่จะเป็นประโยชน์สำหรับบางส่วนของสิ่งเหล่านี้สนับสนุนฟังก์ชั่นการปรับตัวในช่วงต้นอย่างชัดเจนในขณะที่คนอื่นอาจเป็นมรดกจากวิวัฒนาการที่เรายังคงดำเนินการอยู่ในปัจจุบันบางคนแย้งว่าโมโรอีกครั้งเป็นกลไกที่เด็กทารก prehominid จับตัวอยู่บนลำต้นขนยาวของแม่ในขณะที่เธออยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตราย 3 ผู้หญิงสมัยใหม่ส่วนใหญ่ที่มีขนยาวขนยาวไม่น่าจะมีลูกในวันนี้การตอบสนองเมื่อลิง Rhesus Wild ตักลูกและวิ่งหนีเมื่อถูกคุกคามเมื่อเราเติบโตเราสูญเสียพฤติกรรมเหล่านี้มากมายและยึดมั่นในผู้อื่นอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเด็กวัยแรกเกิดจำนวนมากเหล่านี้จะหายไป แต่พวกเขาก็ไม่ได้หายไปอย่างแท้จริงเพราะพวกเขาสามารถกลับมาอีกครั้งในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีความเสียหายต่อส่วนด้านหน้าของสมองตัวอย่างเช่นในอาการโคม่าศูนย์ควบคุมที่สูงขึ้นหลายแห่งของสมองปิดตัวลงชั่วคราวช่วยให้พฤติกรรมเช่นการจับตัวของตัวเองเปิดเผยตัวเอง 4 นี่เป็นคุณลักษณะที่น่าสนใจของสมองของเราและอาจไม่ จำกัด อยู่เพียงแค่บางทีเมื่อเราพัฒนาเราไม่ได้ละทิ้งพฤติกรรมเริ่มต้นและความคิดเริ่มต้นทั้งหมดของเราทั้งหมดด้วยวิธีนี้สมองอาจเป็นเหมือนฮาร์ดไดรฟ์บนคอมพิวเตอร์ของคุณไฟล์จะไม่ถูกลบอย่างแท้จริงเพียงแค่เขียนทับ แต่สามารถกู้คืนได้ในที่สุดเด็กทารกที่ยอดเยี่ยมนอกเหนือจาก re ﬂ exes มันเป็นความคิดที่ว่าทารกแรกเกิดไม่ได้มีอะไรมากมายในสิ่งที่เราจะเรียกว่าข่าวกรองหรือความรู้อย่างไรก็ตามเมื่อนักวิทยาศาสตร์เริ่มมองอย่างใกล้ชิดมากขึ้นพวกเขาพบว่าทารกแรกเกิดตระหนักถึงสภาพแวดล้อมของพวกเขามากกว่าที่จะกำหนดโดดเด่นมากขึ้นคือหลักฐานการเรียนรู้และความทรงจำงานของฉันเอง (ทารกที่อายุน้อยที่สุดที่ฉันทดสอบมีอายุยี่สิบสามนาทีเหี่ยวย่นและปกคลุมไปด้วยการคลอด แต่มีปุ่มที่สว่างเท่ากัน) เปิดเผยว่าทารกแรกเกิดสามารถจดจำและแยกแยะระหว่างรูปแบบสีดำและสีขาวที่แตกต่างกัน 5นอกจากนี้ยังมีการตั้งค่าสำหรับใบหน้าตามที่เราพูดถึงในบทต่อไปหน่วยความจำสำหรับลายเส้นและความชอบสำหรับใบหน้าเป็นอะไรที่มากกว่าการกลับมาง่ายๆ

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

สามารถบรรลุได้น่าประหลาดใจมากขึ้นการเรียนรู้ไม่ได้เริ่มตั้งแต่แรกเกิดตัวอย่างเช่นหากคุณตั้งครรภ์มารดาในไตรมาสที่สามของพวกเขาเพื่ออ่านข้อความดัง ๆ จาก The Cat in the Hat ของ Dr. Seuss เด็กทารกที่ยังไม่เกิดของพวกเขาสามารถได้ยินและจดจำประสบการณ์นี้ได้เมื่อพวกเขาเกิดมาถ้าคุณติดหัวนมยางในปากของพวกเขาเพื่อวัดการดูดของพวกเขาพวกเขาจะหยุดเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของแม่ของพวกเขาอ่านข้อความเดียวกันวิธีเดียวที่พวกเขาได้ยินเรื่องนี้มาจากภายในครรภ์ 6 การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนก่อนเกิดทารกในครรภ์ที่ยังไม่เกิดกำลังฟังอยู่ในโลกและยังสามารถจดจำธีมที่ปรับแต่งละครโทรทัศน์ละครทีวีที่แม่ดูในช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ในการศึกษาครั้งหนึ่งการปรับแต่งธีมธีมที่น่ารำคาญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง (ขออภัย, น่าจดจำ) สำหรับเพื่อนบ้านสบู่ของออสเตรเลียติดอยู่ในหัวของทารกมากที่สุดเท่าที่เคยทำในหัวของผู้ใหญ่ 7 ดังนั้นระวังสิ่งที่คุณพูดเมื่อหญิงตั้งครรภ์สองคนกำลังพูดคุยกันมีบุคคลสี่คนฟังการสนทนาภายในหนึ่งปีทารกส่วนใหญ่สามารถสนทนากับพ่อแม่แบ่งปันเรื่องตลกและเริ่มสงสัยว่าทำไมผู้คนถึงทำสิ่งที่พวกเขาทำพวกเขาพูดพล่ามท่าทางการแลกเปลี่ยนสายตาการหยอกล้อเลียนแบบและโดยทั่วไปกลายเป็นสมาชิกตัวน้อยที่เป็นกันเองของเผ่าพันธุ์มนุษย์ 8 การเปลี่ยนแปลงนี้จากทารกแรกเกิดที่มีรอยย่นในชุดการส่งมอบไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมอายุสิบสองเดือนเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในชีวิต.สิ่งที่ฉลาดและรวดเร็วมากกำลังเกิดขึ้นเราอาจคิดว่าคอมพิวเตอร์ฉลาด แต่ไม่มีอะไรเมื่อเทียบกับสิ่งที่ทารกในมนุษย์สามารถบรรลุได้นานกว่าสิบสองเดือนมันเป็นเพียงตั้งแต่วิศวกรเริ่มสร้างคอมพิวเตอร์ที่เราได้ชื่นชมอย่างเต็มที่ในสิ่งที่ฉลาดจริงๆทุกสิ่งง่ายๆที่เด็ก ๆ เก่งในปีแรกของพวกเขาเป็นปัญหาที่ยากที่สุดที่วิศวกรพยายามแก้ไขมานานหลายทศวรรษการจดจำเสียงและใบหน้าการเข้าถึงและการจับการเดินการใช้เหตุผลการสื่อสารการสื่อสารว่าคนอื่นมีจิตใจและแม้แต่การแสดงอารมณ์ขันพื้นฐานทั้งหมดของความสามารถที่ซับซ้อนเหล่านี้สามารถพบได้ในทารกของมนุษย์ก่อนวันเกิดครั้งแรกของพวกเขาเชื้อเพลิงจากการวิจัยล่าสุดผู้ปกครองหลายคนในตะวันตกได้พิจารณาว่าลูกของพวกเขาเป็นอัจฉริยะขนาดเล็กเกิดมาพร้อมกับความสามารถไม่ จำกัด ที่จะคิดและเรียนรู้ขณะนี้มีอุตสาหกรรมการเรียนรู้และการศึกษาก่อนวัยเรียนทั้งหมดที่แตะต้อง

กีดขวาง

ความปรารถนาของผู้ปกครองที่จะให้เด็กเริ่มต้นที่ดีที่สุดในชีวิตโดย“ การเริ่มต้นที่ดีที่สุดในชีวิต” สิ่งที่เราหมายถึงจริงคือการทำให้แน่ใจว่าลูกหลานของเราฉลาดกว่าเด็กคนต่อไปในขณะที่พวกเขาเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเช่น "Baby Einstein," "Baby Bach," "Baby da Vinci," "Baby Van Gogh," "Baby Newton," และ "Baby Shakespeare" ฉันคิดว่าความคาดหวังของผู้ปกครองยกขึ้นอย่างไม่สมจริงในความเป็นจริงการศึกษาวิดีโอและดีวีดีเด็กปี 2550 พบว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาษาที่บกพร่องรายงานที่ทำให้ บริษัท วอลต์ดิสนีย์โมโหซึ่งเป็นเจ้าของ“ Baby Einstein” ผู้ปกครอง 9 คนเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ของบุตรหลานของพวกเขาเราซื้อโทรศัพท์มือถือขาวดำเพื่อแขวนอยู่เหนือเปลเด็กของเราเพื่อกระตุ้นพื้นที่ภาพของสมอง (ไม่จำเป็น) ของเล่นเคี้ยวที่มีระฆังอยู่ข้างในเพื่อเพิ่มการประสานงานด้วยมือด้วยอินพุตหลายสสมาธิ (ตำนาน), การ์ด ﬂ ash เพื่อสอนให้ทารกอ่าน (ไม่น่าเป็นไปได้) และดีวีดีสำหรับทารกที่จะแว่นตาเป็นเวลาหลายชั่วโมงในการเลี้ยงสมองที่หิวโหย (ไม่จำเป็น) .10 เหมือนชาวสวนที่เลี้ยงพืชเล็ก ๆพัฒนาความคิด“ hothouse” ต่อการเป็นพ่อแม่ส่วนใหญ่เป็นความหลงใหลในตะวันตกที่เกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจสำหรับความสำเร็จของลูก ๆ ของเรามากกว่าวิทยาศาสตร์ที่ยาก แต่พ่อแม่ที่ห่วงใยทุกคนมีความเสี่ยงแม้แต่ภรรยาของฉันซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีการศึกษาสูงก็ไม่สามารถต้านทานความอยากซื้อมือถือขาวดำได้ 11 ใช่เด็ก ๆ จ้องมองพวกเขาพวกเขาเห็นได้ชัดเจนมาก - ในทำนองเดียวกับสิ่งที่ขาวดำที่เห็นได้ชัดเจน - แต่รูปแบบดังกล่าวจะไม่เร่งการเติบโตปกติผู้ปกครองได้รับการคิดว่าความสามารถตามธรรมชาติต้องการความช่วยเหลือ - หรือแย่กว่านั้นว่าพวกเขาสามารถทำได้ดีกว่าธรรมชาติที่ตั้งใจไว้แน่นอนสภาพแวดล้อมมีความสำคัญ แต่คุณจะต้องเลี้ยงลูกในกล่องกระดาษแข็งสีเข้มที่มีอินพุตน้อยมากเพื่อสร้างข้อเสียระยะยาวที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่กังวลเกี่ยวกับ 12 โลกปกติกับผู้คนที่พูดคุยและความรักกับอาหารและของเล่นเป็นครั้งคราวที่จะเล่นด้วยนั้นเพียงพอสำหรับโปรแกรมของธรรมชาติที่จะคลี่คลายดังนั้นหากคุณเป็นพ่อแม่ครั้งแรกหรือปู่ย่าตายายผ่อนคลายและทำใจให้สบายไม่จำเป็นต้องกังวลเมื่อพูดถึง

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

การพัฒนาทารกมันจะดูแลตัวเองในครัวเรือนที่รักธรรมดาหากเด็กพัฒนาปัญหามันจะไม่เกิดจากการขาดการดูแลผู้ปกครองในสภาพแวดล้อมทั่วไปต้องใช้การลิดรอนอย่างรุนแรงในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการพัฒนาปกติความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับการเข้าใจผิดจากสิ่งแวดล้อมเพียงแค่แสดงความยินดีกับความซับซ้อนของการดำรงอยู่ในแต่ละวันที่เราได้รับภาพของทารก Einsteinian ที่ยอดเยี่ยมถูกทำลายโดยรายงานที่น่าตกใจต่อไปนี้ที่ตีพิมพ์ในปี 1997

การศึกษาเผยให้เห็น: ทารกเป็นคนโง่ los a ngeles - การศึกษาใหม่ที่น่าประหลาดใจที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์โดยสถาบันเพื่อการพัฒนาเด็กของ UCLA เปิดเผยว่าทารกมนุษย์ความคิดที่ยาวนานของนักจิตวิทยาที่จะอยากรู้อยากเห็นและปรับตัวได้จริงการศึกษาการทดสอบอัจฉริยะแบตเตอรี่ 18 เดือนให้กับทารกกว่า 3,500 คนสรุปอย่างเด็ดขาดว่าเด็กทารก“ โง่มากมันไม่ตลกเลย”ตามที่ประธานสถาบัน Molly Bentley ในความพยายามที่จะกำหนดสัญชาตญาณการอยู่รอดของทารกเมื่อถูกโจมตีเด็กทารกถูกแอบดูในลักษณะก้าวร้าวด้วยด้ามไม้กวาดที่หักเมื่อ 90 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาเมื่อแหย่ล้มเหลวในการพยายามอย่างเป็นพื้นฐานในการปกป้องตัวเองส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ตอบสนองโดยการออกจากลำไส้ของพวกเขา“ มันไม่น่าเป็นไปได้ที่การปรากฏตัวของอุจจาระของทารก แต่มีกลิ่นเหม็นจะมีผลการป้องกันที่วัดได้ต่อผู้โจมตีในสถานการณ์จริง” เบนท์ลีย์กล่าวรายงานยังคงเปิดเผยว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสุนัขไก่และหนอนแม้แต่หนอนเด็กก็ทำการปรับตัวน้อยที่สุดเมื่อทิ้งไว้บนกองดินในฝนที่ตกลงมาอย่างรุนแรงในขณะที่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่ต้องการครอบคลุมเด็กทารกก็นอนอยู่ที่นั่น 13 เมื่อฉันตรวจสอบครั้งสุดท้ายไม่มีสถาบัน UCLA สำหรับการพัฒนาเด็กและฉันสงสัยว่าจะมีการหลอกนี้

กีดขวาง

บทความที่เขียนขึ้นสำหรับสิ่งพิมพ์เสียดสีหัวหอมสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การทดลองประเภทหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ดำเนินการกับเด็กทารกแม้ว่าหลังจากอ่านในบทสุดท้ายเกี่ยวกับการหวาดกลัวของอัลเบิร์ตตัวน้อยของจอห์นวัตสันคุณอาจได้รับการอภัยเพราะคิดว่าการทดลองดังกล่าวไม่เกินขอบเขตของความเป็นไปได้แน่นอนว่าเด็กทารกไม่สามารถป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีด้วยด้ามไม้กวาดพวกเขาไม่จำเป็นต้องนั่นคือสิ่งที่ผู้ปกครองมีไว้สำหรับพวกเขาเป็นคนที่มีสายเพื่อปกป้องลูกหลานของพวกเขาจากการโจมตีบทความนี้กำลังจัดให้มีฟีเจอร์หน้าปกปี 1993 สำหรับนิตยสาร Life Nowdefunct“ เด็กทารกฉลาดกว่าที่คุณคิด” 14 ชื่อปกได้ประกาศว่า“ พวกเขาสามารถเพิ่มได้ก่อนที่พวกเขาจะนับได้พวกเขาสามารถเข้าใจได้ 100 คำก่อนที่จะพูดได้และเมื่อสามเดือนที่ผ่านมาพลังแห่งความทรงจำของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เราจินตนาการไว้”เด็กทารกอาจไม่สามารถป้องกันตัวเองจากการโจมตีของไม้กวาด แต่เมื่อพูดถึงพลังสมองพวกเขาฉลาดหลอกลวงแน่นอนว่าคุณจะต้องรับรู้เรื่องนี้อย่างหนักเด็กทารกดูไร้ประโยชน์และใช่คุณจะคิดว่าสิ่งมีชีวิตใด ๆ ที่อยู่ในโคลนและฝนก็ค่อนข้างโง่ แต่คุณจะผิดเมื่อเปรียบเทียบกับคอลเลกชันของชิปวงจรและทรานซิสเตอร์ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ Marvin Minsky วางไว้กราฟิกว่าเด็กที่ทำอะไรไม่ถูกเป็นเครื่องเนื้อสัตว์ที่น่าทึ่งที่สุดในโลกซีไอเออเมริกันกำลังพัฒนาการจดจำคำพูดของเครื่องเพื่อแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษารัสเซียและกลับมาอีกครั้ง 16 ตามเรื่องราวในการทดสอบครั้งแรกของระบบหนึ่งหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการตัดสินใจที่จะลองใช้วลีทั่วไปของจิตใจ.”คอมพิวเตอร์แปลสิ่งนี้เป็นภาษารัสเซียซึ่งกลายเป็น“ คนงี่เง่าที่มองไม่เห็น”“ นอกสายตา” นั้น“ มองไม่เห็น” และ“ ออกไปจากใจ” อาจหมายถึงคนงี่เง่าในทำนองเดียวกัน“ วิญญาณเต็มใจ แต่ ﬂ esh อ่อนแอ” กลับมาเป็น“ วอดก้าไม่เป็นไร แต่เนื้อสัตว์ก็เน่า”การแปลเหล่านี้สมเหตุสมผล แต่มีความคล้ายคลึงกับความหมายของวลีในภาษาดั้งเดิมน้อยมากและพวกเขาเตือนเราว่าความเข้าใจของมนุษย์นั้นต้องใช้ความคิดเชิงแนวคิด

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

ความคิดและเหตุผลมากกว่าการป้อนข้อมูลง่าย ๆเช่นเดียวกับความฝันสีเขียวที่ไม่มีสีของ Noam Chomsky ที่เราพบก่อนหน้านี้จิตใจของเรามีข้อมูลที่ช่วยให้เราตีความและสมเหตุสมผลแม้ในขั้นตอนการป้อนข้อมูลขั้นพื้นฐานความรู้ที่เก็บไว้ของเรายังช่วยให้เราตีความโลกตัวอย่างเช่นถ้าฉันถามคุณว่า“ คุณทำลายลูกพีชที่ดีหรือไม่”ฉันคาดหวังว่าคุณจะมองฉันอย่างแปลกประหลาดตอนนี้ถ้าคุณถามคำถามนี้ออกมาดัง ๆ มากกว่าที่จะอ่านคุณได้ยินและเข้าใจว่า“ คุณรู้จักคำพูดหรือไม่” ไม่ใช่การสอบถามเกี่ยวกับว่าคุณมีแนวโน้มที่จะทำหน้าที่ทำลายล้างที่มุ่งเน้นไปที่ผลไม้ฉ่ำที่น่าพอใจคุณได้ยินการตีความหนึ่งและไม่ใช่อีกนี่เป็นเพราะการทำลายลูกพีชไม่ใช่วลีหรือความคิดทั่วไปที่เราให้ความบันเทิงในทำนองเดียวกับที่เราเห็นจัตุรัสลวงตาในบทที่ 1 ความรู้ที่เก็บไว้ของเราช่วยให้เราได้ยินและตีความข้อมูลที่ไม่ชัดเจนดังกล่าวเราได้ยินหนึ่งประโยคและไม่ใช่อีกประโยคหนึ่งความรู้นี้มาจากไหน?ดูเหมือนว่าเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าความรู้ต้องมาจากโลกแห่งประสบการณ์ทุกสิ่งที่คุณรู้จะต้องเรียนรู้แต่มันง่ายอย่างนั้นเหรอ?คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับคำอุปมาอุปมัยที่ว่างเปล่าซึ่งเดิมทีได้รับความนิยมจากนักปรัชญาชาวอังกฤษจอห์นล็อคในศตวรรษที่สิบแปด 17 ความคิดนั้นง่ายพอ-เด็ก ๆ เกิดมาโดยปราศจากความรู้เป็นแผ่นกระดาษเปล่านักปรัชญาคนอื่น ๆ เช่นเดส์การ์ตและคานท์ชี้ให้เห็นว่ามีบางสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นมิฉะนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงความรู้ออกจากโลกแห่งประสบการณ์ที่รกได้ 18 สมองเป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ชีวภาพที่มีระบบปฏิบัติการที่เราเรียกว่าจิตใจ.ระบบปฏิบัติการนั้นบอกเราว่าจะให้ความสนใจกับอะไรและวิธีการประมวลผลข้อมูลหากไม่มีระบบปฏิบัติการที่เหมาะสมคุณจะไม่สามารถเข้าใจได้เช่นการฟังภาษาต่างประเทศและไม่สามารถเข้าใจคำพูดของสิ่งที่พูดได้คุณจะเริ่มต้นที่ไหน?คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณกำลังมองหาอะไรโดยไม่มีแผน?มันเหมือนกับการพยายามสร้างบ้านโดยไม่มีฐานราก - คุณต้องมีโครงสร้างที่ฝังอยู่ในพื้นดินเพื่อให้มีเสถียรภาพเช่นเดียวกับความรู้คุณต้องมีกฎที่สร้างขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อยึดข้อมูล 19 กล่าวอีกนัยหนึ่งคุณต้องมี

กีดขวาง

เกิดมาพร้อมกับการออกแบบจิตใจบางรูปแบบคุณจะได้รับมากกว่า "ความสับสนที่เบ่งบานและคึกคัก" ของเจมส์ได้อย่างไร?ที่เสียงของระฆังอาหารเย็นเป็นเวลาหลายปีความสำคัญของการออกแบบจิตใจส่วนใหญ่ถูกเพิกเฉยในจิตวิทยาตะวันตกส่วนหนึ่งเป็นเพราะในรัสเซียในช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ยี่สิบ Ivan Pavlov ทำงานเกี่ยวกับสรีรวิทยาของการย่อยอาหารในสุนัขสะดุดกับสิ่งที่เจ้าของสุนัขทุกคนรู้สุนัขเริ่มน้ำลายไหลก่อนที่คุณจะนำอาหารมาให้พวกเขาPavlov เรียกสิ่งนี้ว่า“ การหลั่งทางกายภาพ” เพราะมันเป็นพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะถูกกระตุ้นก่อนที่จะส่งอาหารสุนัขไม่ใช่กายสิทธิ์พวกเขาเรียนรู้เมื่อทานอาหารเย็นโดยสังเกตเห็นเบาะแสเช่นเสียงของไฟฟ้าสามารถเปิดในครัวก่อนที่อาหารจะมาถึงสิ่งนี้ดูเหมือนจะชัดเจนเล็กน้อยในวันนี้ แต่ Pavlov ตระหนักถึงการค้นพบที่สำคัญมากเมื่อเขาเห็นหนึ่ง - สำคัญมากที่เขาได้รับรางวัลโนเบลสำหรับมันเขาตระหนักว่าสัตว์สามารถได้รับการฝึกฝนให้คาดการณ์รางวัลบนพื้นฐานของตัวชี้นำด้วยการจับคู่เสียงระฆังกับอาหารที่ทำให้สุนัขรู้สึกน้ำลายไหลในที่สุดสุนัขก็เรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงเสียงระฆังเพียงอย่างเดียวกับการมาถึงของมื้อเย็นที่กำลังจะมาถึงเมื่อได้ยินเสียงระฆังสุนัขก็เริ่มหลั่งไหลมันอาจเป็นจินตนาการที่โอ้อวดของฉัน แต่ฉันดูเหมือนจะจำคำตอบที่คล้ายกันในสนามเด็กเล่นโรงเรียนเก่าของฉันเมื่อระฆังดังขึ้นเป็นอาหารกลางวันเสียงเรียกเข้าก็เพียงพอที่จะทำให้ปากน้ำลายและกระเพาะอาหารดังก้องPavlov ได้ค้นพบ“ การปรับสภาพ” กลไกที่จะกลายเป็นหนึ่งในข้อเท็จจริงสำหรับทฤษฎีการเรียนรู้ทั้งหมดตามความสัมพันธ์ความคิดคือการเรียนรู้ทั้งหมดเป็นความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายของเหตุการณ์ในสภาพแวดล้อมเช่นรูปแบบที่ซับซ้อนของโดมิโนยืนซ้อนกันและพร้อมที่จะตกหากคุณผลักดันให้คนอื่น ๆ ตกอยู่ในปฏิกิริยาลูกโซ่เหตุการณ์หนึ่งเพียงแค่กระตุ้นให้เกิดขึ้นต่อไปเพราะวิธีการที่รูปแบบได้รับการสร้างขึ้นโดยการเชื่อมโยงคุณไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับจิตใจที่ทำให้รู้สึกถึงมันทฤษฎีนี้ซึ่งเป็นวิธีการอธิบายว่าเด็ก ๆ เรียนรู้วิธีการที่จะครองจิตวิทยาตะวันตกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเพียงแค่ควบคุมสภาพแวดล้อมมันก็เป็นความคิด

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

ว่าพฤติกรรมใด ๆ สามารถอธิบายและทำนายได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในหัวทฤษฎีกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "พฤติกรรมนิยม" และผู้ที่ติดตามมันถือว่าจิตใจเป็น "กล่องดำ" ที่ไม่เพียง แต่ยังไม่ได้เปิด แต่ยังเพิกเฉยจิตใจไม่เกี่ยวข้องเมื่อพฤติกรรมทั้งหมดสามารถอธิบายได้ด้วยชุดของกฎการเรียนรู้ง่าย ๆ ที่สร้างรูปแบบของโดมิโนจิตหนึ่งในผู้สนับสนุนด้านพฤติกรรมที่แข็งขันที่สุดคือจอห์นวัตสันเพื่อนเก่าของเราเมื่อเขาไม่ได้ทรมานอัลเบิร์ตตัวน้อยห้อยลงมาทารกแรกเกิดจากดินสอหรือทำกับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของเขาวัตสันโอ้อวด: ขอให้ฉันมีทารกที่มีสุขภาพดีหลายสิบคนที่มีสุขภาพดีและโลกที่พิเศษรับประกันว่าจะใช้ผู้ใดโดยสุ่มและฝึกให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญทุกประเภทที่ฉันอาจเลือก-นักกฎหมาย, ทนายความ, ศิลปิน, หัวหน้าพ่อค้าและใช่แม้กระทั่งคนขอทานและโจรโดยไม่คำนึงถึงพรสวรรค์ของเขา penchants แนวโน้มความสามารถของเขาอาชีพและเผ่าพันธุ์ของบรรพบุรุษของเขา 20 โดยใช้กฎการเรียนรู้ของการเสริมแรงและการลงโทษคุณสามารถกำหนดรูปแบบของพฤติกรรมได้หากคุณต้องการส่งเสริมพฤติกรรมให้รางวัลและสมาคมจะได้รับความเข้มแข็งหากคุณต้องการกีดกันพฤติกรรมให้ลงโทษและสมาคมจะหลีกเลี่ยงอย่างแข็งขันโดยการเชื่อมโยงโซ่ของพฤติกรรมผ่านการลงโทษและรางวัลมันถูกอ้างว่ากฎของการเรียนรู้แบบเชื่อมโยงสามารถกำหนดรูปแบบที่ซับซ้อนใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกทักษะหรือแม้แต่ความรู้กฎหมายเหล่านี้เชื่อว่าจะอธิบายความคิดเหนือธรรมชาติในสิ่งที่เป็นหนึ่งในการทดลองครั้งแรกในพฤติกรรมที่ไม่มีเหตุผลนักพฤติกรรมฮาร์วาร์ด B. F. Skinner อธิบายในปี 1948 ว่าเขาฝึกนกพิราบให้ทำหน้าที่อย่างสุดซึ้ง 22 เขาประสบความสำเร็จด้วยกล่องห้องปฏิบัติการที่มีสายเพื่อให้รางวัลสุ่มตัวอย่างเช่นหากนกเกิดขึ้นที่บางส่วนของกรงเมื่อมีการส่งเม็ดจะได้เรียนรู้ที่จะทำซ้ำพฤติกรรมนี้สกินเนอร์แย้งว่าหลักการง่าย ๆ นี้สามารถอธิบายต้นกำเนิดของพิธีกรรมไสยศาสตร์ของมนุษย์เช่นเดียวกับนกพิราบนักเทนนิสและนักพนันพยายามที่จะทำซ้ำความสำเร็จ

กีดขวาง

โดยการทำซ้ำพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในเวลาที่ได้รับรางวัลพฤติกรรมนิยมอธิบายว่าสิ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของการคิดที่อ่อนแอนั้นสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นผลมาจากการเสริมกำลังแบบสุ่มที่สภาพแวดล้อมโยนออกมาเป็นครั้งคราวสกินเนอร์จะอ้างว่าทุกด้านของการพัฒนาเด็กสามารถอธิบายได้โดยการเรียนรู้แบบเชื่อมโยงเขาถูกกล่าวหาว่าทำสิ่งนี้มากเกินไปเมื่อเขาได้รับการแนะนำในบทความวารสารวารสารหญิงปี 1945 กับลูกสาวของเขาเดโบราห์ภาพในสิ่งที่ดูเหมือนกล่องยักษ์ที่คล้ายกับที่สกินเนอร์เคยฝึกสัตว์ของเขา

รูปที่.6: Deborah Skinner ในเปลเด็กของพ่อของเธอในปี 1945 ©วารสารบ้านของสุภาพสตรี

ที่จริงแล้วกล่องเป็นเปลที่ควบคุมอุณหภูมิพิเศษที่เขาออกแบบมาสำหรับทารกเพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องใส่เสื้อผ้าเด็กในบทความเขาอธิบายถึงประโยชน์ของ "Air-Crip" เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยประหยัดแรงงานซึ่งทำให้ชีวิตของแม่ยังสาวง่ายขึ้นและสวัสดิการทารกที่ดีขึ้นนั่นไม่ได้หยุดตำนานเมืองที่ไหลเวียนในวันนี้ของสกินเนอร์ยกลูกสาวของตัวเองเหมือนหนูในห้องปฏิบัติการ 22 สิ่งนี้ทำให้เธอเติบโตอย่างมีชื่อเสียง

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

โรคจิตและฆ่าตัวตายโดยการเป่าสมองของเธอออกมาในลานโบว์ลิ่งใน Billings, Montana ย้อนกลับไปในปี 1970เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องโกหกในปี 2004 Deborah Skinner Buzan เขียนบทความใน The Guardian Refuting ว่าเธอเคยไป Billings, Montana.23 อย่างไรก็ตามสกินเนอร์ไปไกลเกินไปกับทฤษฎีของเขาในทำนองเดียวกับที่ไสยศาสตร์และพิธีกรรมเกิดขึ้นสกินเนอร์ใช้พฤติกรรมนิยมเพื่ออธิบายความสามารถของมนุษย์ที่ไม่เหมือนใครสำหรับภาษาเขาเสนอว่าทารกได้รับภาษาโดยกระบวนการเรียนรู้คำยาวโดยสมาคมซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองให้เชื่อมโยงพวกเขาเข้าด้วยกันในลักษณะที่เหมาะสมอย่างไรก็ตามเมื่อสกินเนอร์มาเผยแพร่ความคิดเหล่านี้ในหนังสือในปี 1950 นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับจิตใจพฤติกรรมนิยมอาจได้รับการอธิบายว่าพฤติกรรมของนกพิราบและผู้คนสามารถมีรูปร่างได้อย่างไร แต่ไม่ใช่ความสามารถของมนุษย์ทั้งหมดที่สามารถสอนได้การเปลี่ยนแปลงนี้เรียกว่า "การปฏิวัติทางปัญญา" คือการปฏิวัติในการคิด 24 สกินเนอร์เป็นเฮฟวี่เวทฮาร์วาร์ด แต่มันก็เป็นนักภาษาศาสตร์รุ่นใหม่จากการเดินไปตามถนนที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์รีวิวหนังสือของสกินเนอร์ที่จะมีชื่อเสียงมากกว่าหนังสือเล่มนี้การพุ่งพรวดนั้นไม่มีใครอื่นนอกจาก Noam Chomskyการใช้การพัฒนาภาษาเป็นกรณีทดสอบของเขา Chomsky ได้เปิดตัวการโจมตีเชิงพฤติกรรมเขาชี้ให้เห็นว่าไม่มีทฤษฎีการเรียนรู้ของการเรียนรู้ใดที่สามารถอธิบายได้ว่าเด็กทุกคนได้รับภาษาผ่านการเรียนรู้ด้วยเหตุผลง่ายๆที่กฎที่สร้างและควบคุมภาษานั้นมองไม่เห็นกับผู้พูดตามธรรมชาติทุกคน (เว้นแต่คุณจะเป็นนักภาษาศาสตร์แน่นอน)นักภาษาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าทุกภาษาของโลกมีโครงสร้างที่ลึกซึ้งเหมือนกันซึ่งซ่อนอยู่จากพวกเราส่วนใหญ่มีบางอย่างในการออกแบบใจของเราชัมสกียืนยันว่าเราไม่ได้เป็นส่วนตัว แต่เราสามารถแตะได้เมื่อเราต้องการสื่อสารและสิ่งนี้เรียกว่าไวยากรณ์สากล - กฎหมายที่มองไม่เห็นที่ควบคุมวิธีการทำงานของภาษาหากไวยากรณ์สากลเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและพวกเราส่วนใหญ่เป็นคนโง่เมื่อพูดถึงภาษาศาสตร์เราจะสอนลูก ๆ ของเราโดยการเสริมแรงและการลงโทษได้อย่างไรเด็กทุกคนจะได้รับภาษาด้วยกฎที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ได้อย่างไร

กีดขวาง

เวลาที่ประมาณเท่ากันและมีหลักฐานเพียงเล็กน้อยว่าการเรียนรู้แบบเชื่อมโยงมีบทบาทหรือไม่?สิ่งที่ต้องสร้างขึ้นในสมองของเด็กทุกคนที่ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ภาษาการโจมตีแบบดาบของ Chomsky ทำให้เกิดบาดแผลร้ายแรงต่อพฤติกรรมนิยมซึ่งจะไม่ฟื้นตัวออกจากสายตาออกจากใจการปฏิวัติทางปัญญาที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาไม่ได้เกิดขึ้นจริงในยุโรปส่วนใหญ่เป็นเพราะจิตใจมักจะเป็นศูนย์กลางในจิตวิทยายุโรปในจิตเวชศาสตร์ผู้ใหญ่ซิกมุนด์ฟรอยด์พูดคุยเกี่ยวกับจิตใจที่กระจัดกระจายในการรับรู้รูปแบบโรงเรียน Gestalt เยอรมันที่เราพบก่อนหน้านี้ด้วยโครงสร้างและองค์กรที่มีความหมายทำให้จิตใจอยู่ในระดับแนวหน้าของความสามารถของมนุษย์ในสหราชอาณาจักรเรามีเซอร์เฟรดริกบาร์ตเลตต์ที่เคมบริดจ์เพื่ออธิบายความทรงจำว่าเป็นชุดของรูปแบบจิตที่ใช้งานอยู่การเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาแต่ในทฤษฎีการพัฒนาเด็กที่จิตใจใช้เวทีกลางเป็นจุดสนใจของความสนใจและไม่มากไปกว่าทฤษฎีของนักจิตวิทยาเด็กชาวสวิสฌองเพียเจต์เช่นเดียวกับล็อคเพียเจต์ยังมีมุมมองที่ว่างเปล่าของทารกแรกเกิด แต่เขาคิดว่าพวกเขามีกฎการเรียนรู้ในใจเล็ก ๆ ของพวกเขาที่ช่วยให้พวกเขาสร้างความรู้จากการเล่นที่เรียบง่ายอย่างเห็นได้ชัดการเรียนรู้และความรู้เกิดขึ้นเมื่อเด็กค้นพบธรรมชาติของโลกรอบตัวเขาในลำดับการเปิดเผยค่อยๆทุกการกระทำที่เรียบง่ายของการเล่นกับวัตถุ-ตีพวกเขาจับพวกเขาดูดพวกเขาผลักพวกเขาออกจากเก้าอี้สูง-เป็นการทดลองขนาดเล็กทางวิทยาศาสตร์สำหรับทารกผลลัพธ์ที่ช่วยสร้างเนื้อหาของจิตใจของพวกเขาเพียเจต์เชื่อว่าตั้งแต่เด็กทารกเริ่มต้นไม่เข้าใจโลกที่ประกอบด้วยวัตถุถาวรและจริง แต่พวกเขาปฏิบัติต่อโลกในฐานะที่เป็นส่วนเสริมของจิตใจของพวกเขาเองราวกับว่ามีความฝันที่สดใสที่แปลกประหลาดเพียเจต์อ้างว่าทารกไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างความเป็นจริงและมีความคิดได้โลกของพวกเขาเปรียบเสมือนโลกที่ปรากฎในการสร้างบล็อกบัสเตอร์ The Matrix ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ชั่วร้ายรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ในสถานะของความเป็นจริงเสมือนจริงโดยการให้ประสบการณ์โดยตรงกับประสบการณ์ของพวกเขา

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

Brains.25 คอมพิวเตอร์สร้างภาพลวงตาของโลกปกติในความเป็นจริงมนุษย์ทุกคนเป็นเชลยเก็บเกี่ยวเพื่อพลังงานที่พวกเขาผลิต แต่ไม่รู้ถึงสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่แท้จริงของพวกเขาอย่างสมบูรณ์พวกเขาไม่ทราบถึงความเป็นจริงภายนอกที่มีอยู่นอกความคิดของพวกเขาในทำนองเดียวกันทารกแรกเกิดของเพียเจต์ก็ไม่สนใจความเป็นจริงภายนอกพวกเขาไม่มีแนวคิดว่าความรู้สึกและการรับรู้ที่พวกเขาประสบในใจนั้นเกิดจากโลกภายนอกที่แท้จริงซึ่งยังคงมีอยู่แม้ในขณะที่ทารกหลับดังนั้นหากมีวัตถุบางอย่างออกมาจริง ๆ แต่ออกไปจากสายตาเท่าที่เด็กทารกกังวลมันไม่มีอยู่จริง“ ออกจากสายตาออกไปจากใจ” กลายเป็นสโลแกนอันเป็นเอกลักษณ์ของเพียเจต์สำหรับมุมมองที่รุนแรงของความล้มเหลวของทารกที่ยังไม่สามารถเข้าใจความคงทนของความเป็นจริงได้ความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับความเป็นจริงภายนอกคือสิ่งที่ทารกต้องค้นพบด้วยตัวเองเขาอ้างและทำสิ่งนี้พวกเขาต้องมีการโต้ตอบการค้นหาจิตใจที่ใดที่หนึ่งประมาณสี่ถึงเดือนเด็กทารกจะได้รับการเข้าถึงและจับวัตถุได้ดี 26 ในไม่ช้ามันก็กลายเป็นพฤติกรรมที่บังคับซึ่งพวกเขาไม่สามารถหยุดตัวเองได้วัตถุที่เข้าใจได้ใด ๆ ที่อยู่ภายในการเข้าถึงจะทำเมื่อลูกสาวคนโตของฉันอายุประมาณนี้ฉันเคยอุ้มเธอไว้บนหลังของฉันในหนึ่งในผู้ถือทารก papoose ที่ทิ้งขาเล็ก ๆ ของพวกเขาที่ห้อยต่องไป แต่แขนของพวกเขาอิสระที่จะเหยียดออกเมื่อเธอไม่ได้ดึงหูหรือผมของฉันเหมือนลิงปีศาจบางตัวที่ด้านหลังของฉันเธอมักจะพยายามคว้าสิ่งที่เข้ามาถึงอยู่มาวันหนึ่งในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ไม่รู้จักสำหรับฉันเธอเอื้อมมือออกไปและจับถุงโพลีธีนที่ห้อยลงมาจากม้วนถัดจากทางเดินผลในขณะที่ฉันหมกมุ่นอยู่กับการเลือกแอปเปิ้ลที่ดีที่สุดฉันเดินไปตามทางเดินโดยไม่ทราบว่าฉันกำลังตามกระเป๋าสามสิบฟุตก่อนที่จะมีรอยยิ้มของผู้ซื้อรายอื่นเตือนให้ฉันไปถึงรถไฟพลาสติกที่กำลังเติบโตอยู่ข้างหลังฉันความหลงใหลในการจับวัตถุนี้เป็นสิ่งที่เพียเจต์ได้รับการยอมรับว่าสำคัญมากหมายความว่าเด็กทารกเริ่มให้ความสนใจในสภาพแวดล้อมทารกมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันโลกแต่ทารกที่อายุน้อยยังไม่เข้าใจว่าความจริงเป็นสิ่งที่แตกต่างจากจิตใจของพวกเขา

กีดขวาง

และเป็นอิสระจากการกระทำของพวกเขาเพียเจต์มาถึงข้อสรุปที่แปลกประหลาดนี้โดยการดูเด็กเล็กของเขาในการเล่นและสังเกตเห็นสิ่งแปลก ๆ ที่จะกลายเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่โด่งดังที่สุดและศึกษาในจิตวิทยาทารกคุณสามารถทำซ้ำการสาธิตนี้ด้วยตัวคุณเองหากคุณมีทารกอายุแปดเดือนที่อายุแปดเดือนอยู่ในมือ 27 พาลูกน้อยและวางวัตถุที่เข้าใจได้ไว้ข้างหน้าเขาตราบใดที่เขายังไม่ได้ถืออะไรบางอย่างเขาจะเอื้อมมือออกไปโดยอัตโนมัติแล้วหยิบมันขึ้นมาแล้วติดขัดในปากของเขาเพื่อประเมินรสชาติตอนนี้ปลดปล่อยวัตถุและทำซ้ำขั้นตอนเพียงครั้งนี้จะครอบคลุมวัตถุด้วยผ้าอย่างรวดเร็วและเบี่ยงเบนความสนใจของทารกในชั่วขณะเฮ้ Presto!มันไปแล้ว.มันเป็นเคล็ดลับมายากลที่ง่ายที่สุดในโลกทารกส่วนใหญ่จะหยุดแล้วมองไปรอบ ๆ ราวกับว่าวัตถุหายไปพวกเขาไม่ได้ค้นหาใต้ผ้าสำหรับมันพวกเขาอาจหยิบผ้าขึ้นมา แต่ไม่ค่อยเป็นวิธีการดึงวัตถุเพราะมันอยู่นอกสายตามันไม่มีอยู่อีกต่อไปเมื่อทารกค้นหาภายใต้ผ้าไม่กี่เดือนต่อมาพวกเขายังไม่เข้าใจวัตถุที่แยกออกจากตัวเองตัวอย่างเช่นหากคุณซ่อนวัตถุไว้ใต้เบาะเด็กสิบเดือนจะมองหาที่นั่นแต่ถ้าคุณซ่อนวัตถุไว้ในตำแหน่งใหม่ในมุมมองทั้งหมดของทารกเธอจะกลับไปค้นหาภายใต้เบาะเดิมทารกเชื่อว่าการกระทำของเขาในการค้นหาจะสร้างวัตถุขึ้นมาใหม่อย่างน่าอัศจรรย์ในสถานที่เก่าเด็กเล็กทำตัวราวกับว่าจิตใจและการกระทำของพวกเขาสามารถควบคุมโลกได้พวกเขาผ่านประสบการณ์เท่านั้นที่จะเริ่มชื่นชมธรรมชาติที่แท้จริงของความเป็นจริงแยกออกจากกันทารกที่มีมนต์ขลังเมื่อปรากฎว่าเพียเจต์ผิดเกี่ยวกับ“ ออกจากสายตาออกไปจากใจ” สำหรับเด็กทารกตอนนี้เรารู้ว่าพวกเขาไม่คิดอย่างน่าอัศจรรย์เกี่ยวกับวัตถุทางกายภาพพวกเขาไม่ได้คิดว่าคิดว่าความคิดของตัวเองทำให้สิ่งต่าง ๆ เป็นจริงทารกรู้ว่าโลกแห่งวัตถุที่เป็นจริงมีอยู่ที่นั่นคุณเพียงแค่ต้องถามคำถามอย่างถูกวิธี - อย่างเห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการภาษา (เพราะคุณอาจรอคำตอบตลอดทั้งวัน) และไม่เกี่ยวข้องกับการค้นหาวัตถุที่ซ่อนอยู่ยังไง

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

สามารถทำได้หรือไม่?กระแทกแดกดันคำตอบที่แยบยลเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์เล็กน้อยทุกคนชอบกลอุบายที่ดีทำไมเพราะเราไม่เชื่อเรื่องเวทมนตร์หากเราคิดว่าวัตถุสามารถหายไปในอากาศบาง ๆ ภาพลวงตาของนักเขียนจะแปลกใจเล็กน้อยสำหรับเรากลอุบายเวทมนตร์ทำงานเพราะพวกเขาละเมิดความเชื่อของเราเกี่ยวกับโลกพวกเขาทำให้เราประหลาดใจจ้องมองด้วยความประหลาดใจดูงงปรบมือและจากนั้นต้องการเห็นมันอีกครั้งเช่นเดียวกับทารกในระดับหนึ่งพวกเขาอาจไม่สามารถให้เสียงปรบมือและเรียกร้องให้มีการเข้าร่วมอีกครั้ง แต่พวกเขามองดูผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ของกลอุบายของการเสวนาคุณสามารถวัดสิ่งนี้ได้เพียงแค่ระยะเวลาที่พวกเขาจ้องมองผลลัพธ์ที่เป็นไปไม่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เป็นไปได้ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ได้ใช้หลักการง่ายๆนี้เพื่อเปิดเผยการทำงานของจิตใจทารก 28 ถ้าทารกดูเป็นกลอุบายอีกต่อไปพวกเขาจะต้องชื่นชมว่ากฎทางกายภาพบางอย่างกำลังถูกทำลายอยู่ที่ไหนสักแห่งในหัวของพวกเขามีเครื่องจักรกลวัดบางอย่างออกไปพยายามทำความเข้าใจภาพลวงตาโดยให้ความสนใจมากขึ้นตัวอย่างเช่นลองนึกภาพว่าคุณเป็นเด็กที่กำลังดูการแสดงหุ่นเชิดบนเวทีมีตุ๊กตามิกกี้เมาส์หน้าจอลงมาเพื่อซ่อนตุ๊กตาจากนั้นมือก็มาถึงเวทีเพื่อฝากตุ๊กตามิกกี้เมาส์อีกตัวหลังหน้าจอMickey Mouses (หรือควรจะเป็น Mickey Mice) กี่คนหลังหน้าจอ?ง่ายคุณพูดว่ามีสองแต่เมื่อหน้าจอถูกยกขึ้นสามครั้งคุณจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเช่นเดียวกับเด็กทารกพวกเขาดูตุ๊กตาสามตัวอีกต่อไปพวกเขายังดูอีกต่อไปเมื่อมีการเปิดเผยตุ๊กตาเพียงตัวเดียว แต่ไม่ใช่เมื่อมีสองตัวพวกเขารู้หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสองเมื่ออายุเดือนทารกมีพื้นฐานของการคำนวณทางจิต 29 การทดลองหลายร้อยครั้งแสดงให้เห็นว่าทารกสามารถให้เหตุผลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มองไม่เห็นที่คล้ายกันในหัวของพวกเขาพวกเขาสามารถคิดถึงวัตถุที่ซ่อนอยู่ที่ไหนพวกเขาอยู่ที่ไหนมีกี่คนและแม้แต่สิ่งที่พวกเขาทำความรู้นี้มาจากไหน?การทดลองจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้ที่ซับซ้อนและรวดเร็วซึ่งทำให้นักจิตวิทยาเด็กทารกของฮาร์วาร์ดลิซ Spelke เสนอว่ากฎบางอย่างสำหรับความรู้เชิงวัตถุจะต้องสร้างขึ้นตั้งแต่แรกเกิดในลักษณะเดียวกับกฎสำหรับการเรียนรู้ภาษาคือ 30 วิวัฒนาการหลักการที่จะถอดรหัส

กีดขวาง

“ ความสับสนที่เบ่งบานและคึกคัก” ที่โลกแห่งความจริงนำเสนอให้เราทุกครั้งที่เราเปิดตาของเรา: กฎข้อที่ 1: วัตถุไม่ได้เข้าและออกจากการดำรงอยู่เหมือนแมว Cheshire ในอลิซในแดนมหัศจรรย์ความแข็งแกร่งของพวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่ใช่ผีที่สามารถเคลื่อนที่ผ่านผนังในทำนองเดียวกันวัตถุที่เป็นของแข็งอื่น ๆ ไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านได้กฎข้อที่ 2: วัตถุถูกล้อมรอบเพื่อไม่ให้เลิกกันแล้วกลับมารวมกันอีกครั้งกฎนี้ช่วยแยกแยะระหว่างวัตถุที่เป็นของแข็งและ gloop เช่นแอปเปิ้ลซอสหรือของเหลวกฎข้อที่ 3: วัตถุเคลื่อนที่บนเส้นทางต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เทเลพอร์ตจากส่วนหนึ่งของห้องไปยังอีกส่วนหนึ่งโดยไม่เห็นข้ามกฎข้อที่ 4: วัตถุโดยทั่วไปจะย้ายเมื่อมีสิ่งอื่นทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวโดยการบังคับหรือการชนมิฉะนั้นพวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งอย่างที่คุณจะเห็นในบทต่อไปมาพร้อมกับกฎชุดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเราจะรู้ได้อย่างไรว่ากฎเหล่านี้ทำงานในทารก?ด้วยเหตุผลง่ายๆที่เด็ก ๆ ดูยาวขึ้นเมื่อแต่ละคนแตกสลายด้วยเวทมนตร์แสดงบนเวทีโดยการใช้หลักการของการเสกสรรและภาพลวงตานักวิทยาศาสตร์สามารถแสดงให้เห็นว่าทารกเล็กมีความรู้เกี่ยวกับโลกทางกายภาพที่พวกเขาจะต้องค้นพบด้วยตัวเองและหากพวกเขากำลังมองโลกทางกายภาพด้วยตัวเองมันก็เป็นเหตุผลว่าพวกเขาจะต้องคิดถึงสิ่งอื่น ๆ ในโลกทฤษฎีที่ใช้งานง่ายสิ่งที่เรารู้ดีที่สุดคือสิ่งที่เราไม่ได้สอน—Marquis de vauvenargues

การทดลองกลอุบายวิเศษได้ปฏิวัติวิธีที่เราซักถามเด็กเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขารู้หากคุณคิดเกี่ยวกับมันทุกสิ่งที่แตกต่างกันในโลกมีคุณสมบัติที่ทำให้พวกเขาเป็นสิ่งที่พวกเขาเป็นวัตถุที่ไม่มีชีวิตมีวัตถุที่ไม่มีชีวิต

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

คุณสมบัติ.สิ่งมีชีวิตมีคุณสมบัติสิ่งมีชีวิตและอื่น ๆหากคุณสามารถตั้งค่าการแสดงเวทย์มนตร์ที่ละเมิดคุณสมบัติของแต่ละสิ่งเหล่านี้คุณสามารถดูได้ว่าทารกจะเกิดความผิดพลาดหรือไม่ในเกมที่เรียกว่ายี่สิบคำถามคุณต้องหาตัวตนของสิ่งที่ผู้เล่นคนอื่นกำลังคิดมันเริ่มต้นด้วยคำถาม“ มันเป็นสัตว์ผักหรือแร่ธาตุหรือไม่”จากนั้นผู้เล่นจะต้องใช้วลีแต่ละคำถามที่จะต้องมีการตอบกลับใช่หรือไม่ใช่“ มันใหญ่กว่ากล่องขนมปังหรือไม่”“ มันมีมากกว่าหนึ่งสีหรือไม่”หากคุณสามารถเดาตัวตนภายในยี่สิบคำถามคุณจะชนะรุ่นมือถืออิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า“ 20Q” ได้รับรางวัล Toy of the Year Award จากสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นของสหรัฐอเมริกาในปี 2549มันน่าทึ่งมันมักจะสามารถออกสิ่งที่วัตถุที่คลุมเครือที่คุณอาจมีอยู่ในใจผู้คนที่น่าทึ่งนี้ แต่ก็มีผู้คนประเมินค่าสูงเกินไปจำนวนวัตถุที่แตกต่างกันที่พวกเขาคิดว่าพวกเขารู้เหตุผลที่คำถามยี่สิบเริ่มต้นด้วยสัตว์ผักหรือแร่ธาตุคือแผนกนี้อธิบายสิ่งต่าง ๆ ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ในโลกธรรมชาติทารกยังสับโลกธรรมชาติให้กลายเป็นกลุ่มของสิ่งต่าง ๆไม่เหมือนกับคำถามยี่สิบคำถามพวกเขาตัดสินใจว่ามีอะไรบางอย่างเป็นวัตถุสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจจากช่วงต้น ๆ เด็ก ๆ ให้เหตุผลเกี่ยวกับธรรมชาติของวัตถุที่ไม่มีชีวิตว่าแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตที่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองและยังมีชีวิตอยู่ 31 พวกเขาก็เริ่มเห็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเป้าหมายและความตั้งใจ 32 กล่าวอีกนัยหนึ่งพวกเขากำลังเริ่มคิดเกี่ยวกับความคิดของความหมายของการมีจิตใจก่อนที่เด็กเล็กจะได้รับการสอนที่โรงเรียนพวกเขากำลังให้เหตุผลเกี่ยวกับโลกทางกายภาพโลกที่มีชีวิตและจิตวิทยาพวกเขามีผลนักฟิสิกส์ตัวน้อยนักชีววิทยาตัวน้อยและนักจิตวิทยาตัวน้อย 33 อย่างไรก็ตามความรู้ที่พวกเขามีในแต่ละพื้นที่เหล่านี้เป็นมากกว่าเพียงแค่รายการข้อเท็จจริงความรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับโลกเป็นทางทฤษฎีสิ่งนี้หมายความว่าเมื่อเด็กพบปัญหาใหม่พวกเขาพยายามทำความเข้าใจในแง่ของสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้วนี่คือสิ่งที่ทฤษฎีทำพวกเขาให้กรอบการทำงานของเราในการทำความเข้าใจบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญกว่านั้นทฤษฎีอนุญาตให้เด็ก ๆ คาดการณ์ในสถานการณ์ใหม่สำหรับ

กีดขวาง

ตัวอย่างเมื่อมีการยอมรับว่าช้อนผลักขอบของถาดเก้าอี้สูงล้มลงทารกจะตั้งทฤษฎีว่าวัตถุที่เป็นของแข็งอื่น ๆ ควรทำเช่นเดียวกันและจะสำรวจสิ่งนี้อย่างมีความสุขโดยทิ้งทุกอย่างไว้เหนือขอบทารกเริ่มเข้าใจถึงผลกระทบของแรงโน้มถ่วงทารกยังมีเหตุผลเกี่ยวกับผู้คนเมื่อเห็นว่าแม่จะหยิบช้อนขึ้นมาและแทนที่มันบนโต๊ะพวกเขาตั้งทฤษฎีว่าผู้ใหญ่สามารถคาดเดาได้ในขณะที่แฮมสเตอร์ของครอบครัวไม่ได้พวกเขาเริ่มเข้าใจว่าการกระทำที่แตกต่างกันระหว่างสิ่งมีชีวิตและเพื่อชื่นชมเป้าหมายและความตั้งใจเป็นสภาพจิตใจจากช่วงเวลาที่เด็ก ๆ เริ่มให้ความสนใจและคาดการณ์เหตุการณ์ในโลกพวกเขากำลังสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับวิธีการทำงานของโลกไม่มีใครต้องสอนพวกเขาเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงหรือจิตใจพวกเขากำลังทำสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ แต่ความคิดของพวกเขาไม่ได้จับจดวิธีการคิดที่เป็นระเบียบเหล่านี้เป็นทฤษฎีที่ใช้งานง่ายที่ทารกทุกคนพัฒนาขึ้น 34 คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับคำว่า "ทฤษฎี" ในบริบทของวิทยาศาสตร์เช่นทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์เหล่านี้เป็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นทางการที่ได้รับการพูดคุย, พูดคุย, เขียน, การทดสอบ, ทดสอบและโต้เถียงกันโดยผู้ใหญ่ที่มีการศึกษาหลายร้อยคนในทางตรงกันข้ามทฤษฎีที่ใช้งานง่ายของเด็กนั้นเกิดขึ้นเองและไร้เดียงสาอย่างไรก็ตามเด็ก ๆ แบ่งปันทรัพย์สินที่น่าสนใจกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งเด็กและนักวิทยาศาสตร์มีความดื้อรั้นเมื่อพูดถึงการเปลี่ยนใจติดอยู่ในกำมือของนักวิชาการทฤษฎีรักชื่อที่มีไหวพริบสำหรับเอกสารทางวิทยาศาสตร์ของพวกเขาไม่เพียง แต่จะมีชีวิตอยู่ในสิ่งที่อาจเป็นงานเขียนที่แห้งมาก แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าแม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็มีอารมณ์ขันในกระดาษที่มีชื่อว่า“ ถ้าคุณต้องการก้าวไปข้างหน้ารับทฤษฎี” Annette Karmiloff-Smith และ Barbel Inhelder อธิบายว่าเด็ก ๆ ดูเหมือนจะให้เหตุผลในลักษณะทางทฤษฎีเมื่อพยายามแก้ปัญหาฟิสิกส์ในชีวิตประจำวัน 35 การเล่นหัว” ซึ่งแน่นอนว่าอาจหมายถึงได้รับประโยชน์หรือกล่องกระดูกที่เป็นที่ตั้งของสมองของเราอย่างไรก็ตามกระดาษยังทำให้เป็นอย่างมาก

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

จุดจริงจังเกี่ยวกับบทบาทของทฤษฎีที่ใช้งานง่ายในการพัฒนาทางปัญญาในการศึกษาของพวกเขาเด็กอายุสี่ขวบหกและแปดปีได้รับแท่งไม้ที่มีความยาวต่างกันเพื่อความสมดุลลองนึกภาพการพยายามสร้างสมดุลให้ผู้ปกครองด้วยดินสอคุณจะไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?ฉันพนันได้เลยว่าคุณจะประเมินว่าอยู่ตรงกลางของผู้ปกครองและสมดุลบนดินสอ ณ จุดนี้ซึ่งจะเป็นทางออกที่ถูกต้องเด็ก ๆ ก็สมดุลแท่งที่อยู่ตรงกลางอย่างไรก็ตามเมื่อได้รับแท่งที่ถ่วงน้ำหนักอย่างลับๆที่ปลายด้านหนึ่งเพื่อที่พวกเขาจะไม่สามารถปรับสมดุลได้ตรงกลางมีบางสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นในขั้นต้นเด็กทุกคนพยายามที่จะสร้างความสมดุลให้กับสิ่งเหล่านี้ตรงกลาง แต่แน่นอนว่าพวกเขาล้มเหลวเด็กคนโตดูสับสนเป็นครั้งแรก แต่แล้วก็รู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจากนั้นพวกเขาก็เลื่อนก้านจนกว่าพวกเขาจะพบจุดสมดุลเด็กที่อายุน้อยที่สุดดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับแท่งถ่วงน้ำหนักและพบจุดสมดุลอีกครั้งโดยการขยับแท่งจนกว่าพวกเขาจะสมดุลในทางตรงกันข้ามหกปีล้มเหลวอย่างน่าสังเวชในงานซ้ำแล้วซ้ำอีกเด็กอายุหกขวบวางไม้เท้าไว้ตรงกลางและทุกครั้งที่ก้านหมุนไปพวกเขามั่นใจว่าแท่งจะต้องสมดุลตรงกลางว่าพวกเขายังคงอยู่กับกลยุทธ์จนกว่าพวกเขาจะรู้สึกหงุดหงิดในที่สุดโยนแท่งลงมาและบุกออกไปบอกว่างานนั้นเป็นไปไม่ได้พวกเขาเชื่อมั่นในทฤษฎีที่ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่สมดุลอยู่ตรงกลางว่าพวกเขาไม่สามารถเห็นได้ว่าอาจมีข้อยกเว้นนี่คือทฤษฎีความสมดุลของพวกเขาและเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ที่ดื้อรั้นที่ปฏิเสธที่จะละทิ้งความคิดเมื่อพวกเขาได้รับการพิสูจน์ว่าผิดพวกเขาไม่สามารถใช้งานได้ในพฤติกรรมของพวกเขาแตกต่างจากเด็กอายุหกขวบเด็กเล็กไม่มีทฤษฎีหรือความคาดหวังใด ๆพวกเขาเพิ่งเข้าหาและแก้ไขปัญหาผ่านการลองผิดลองถูกเด็กโตมีทฤษฎีและคาดการณ์ว่าแท่งควรจะสมดุลตรงกลางอย่างไรก็ตามเมื่อค้นพบสิ่งนี้ไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขามีความสามารถทางจิตใจที่จะตระหนักว่าบางครั้งมีข้อยกเว้นในชีวิตเด็กอายุหกขวบในทฤษฎีสิบปีที่ผ่านมาฉันค้นพบปรากฏการณ์ที่คล้ายกัน 36 ลองนึกภาพหลอด ﬂ exible เช่นเดียวกับเครื่องดูดฝุ่นทีนี้ลองนึกภาพหลอดที่เชื่อมต่อจากปล่องไฟไปยังกล่องด้านล่างถ้าฉันทิ้งก

กีดขวาง

ลูกบอลลงไปที่ปล่องไฟคุณจะรู้ว่าจะค้นหามันในกล่องคุณจะทำนายว่าลูกบอลจะตกลงไปในกล่องทีนี้ลองนึกภาพว่าฉันวางโค้งลงในหลอดเพื่อให้กล่องไม่ได้อยู่ใต้ปล่องไฟโดยตรงอีกต่อไปถ้าฉันวางบอลลงปล่องไฟคุณจะมองหามันตอนนี้ที่ไหน?ในกล่องแน่นอนเพราะกล่องเชื่อมต่อกับปล่องไฟอะไรจะง่ายขึ้น?

รูปที่.7: อุปกรณ์หลอดเด็กมักจะค้นหาโดยตรงด้านล่างภาพของผู้แต่ง

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

นี่คือสิ่งที่เด็กก่อนวัยเรียนแตกต่างกันพวกเขาค้นหาลูกบอลด้านล่างโดยตรงพวกเขาจะค้นหาภายใต้ซ้ำแล้วซ้ำอีกแม้ว่าคุณจะสามารถแสดงให้พวกเขาเห็นทุกครั้งที่มันอยู่ในกล่องที่เชื่อมต่อกับปล่องไฟด้วยหลอดเกิดอะไรขึ้น?“ ข้อผิดพลาดแรงโน้มถ่วง” แปลก ๆ นี้เผยให้เห็นสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับจิตใจของเด็กเล็กครั้งแรกคือพวกเขาให้เหตุผลในลักษณะทางทฤษฎีพวกเขาพยายามที่จะใช้ความรู้ที่พวกเขามีอยู่แล้วเพื่อทำความเข้าใจและทำนายสิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไปเช่นเดียวกับนักวิทยาศาสตร์เก่าแก่ที่เร่าร้อนพวกเขาไม่ต้องการเชื่อหลักฐานเมื่อมันสอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขาคาดหวังการฝึกฝนทั้งหมดด้วยการผลักสิ่งต่าง ๆ ออกจากเก้าอี้สูงในฐานะทารกได้นำพวกเขาไปสู่ทฤษฎีที่ว่าวัตถุทั้งหมดล้มลงตรงแต่เมื่อวัตถุไม่ประพฤติตามที่คาดไว้เด็กเล็กจะยังคงอยู่กับทฤษฎีและคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการตั้งค่านี่เป็นเพราะพวกเขามีปัญหาในการเพิกเฉยต่อความเชื่อที่ใช้งานง่ายมนุษย์แบ่งปันข้อผิดพลาดของแรงโน้มถ่วงกับลิงชิมแปนซีลิงและสุนัขซึ่งทั้งหมดได้รับการทดสอบในหลอด 37 สุนัขเท่านั้นดูเหมือนจะเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องค่อนข้างเร็วพวกเขาฉลาดกว่าเด็กเล็กและบิชอพหรือไม่?อาจจะไม่.ฉันคิดว่าพวกเขามีความสามารถในงานนี้มากขึ้นเพราะพวกเขาไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ตกลงมาในสถานที่แรกพวกเขาเป็นเหมือนเด็กอายุสี่ขวบในการสร้างสมดุลให้กับผู้ปกครอง-ไม่มุ่งมั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแก้ปัญหาหนึ่งเหนืออีกในที่สุดเด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ที่จะเพิกเฉยต่อข้อผิดพลาดของแรงโน้มถ่วง แต่แม้แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเดินทางไปได้สิ่งนี้นำเรากลับไปที่หนึ่งในจุดศูนย์กลางในหนังสือเล่มนี้ความคิดแรก ๆ อาจไม่ถูกทอดทิ้งอย่างแท้จริงพิจารณาอีกตัวอย่างหนึ่งจากโลกของวัตถุที่ตกลงมาจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกกระสุนปืนใหญ่จากขอบหน้าผา?เห็นภาพสักครู่จะต้องใช้เส้นทางไหน?เด็กก่อนวัยเรียนส่วนใหญ่คิดว่าเช่นเดียวกับ Wile E. Coyote ในการ์ตูน Road Runner Cannonball จะเดินทางไปข้างหน้าจนกว่าจะสูญเสียแรงผลักดันจากนั้นก็ลดลงตรง 38 ความเชื่อดังกล่าวยังคงสามารถทำงานในผู้ใหญ่ได้หากคุณถามผู้ใหญ่ว่าเส้นทางระเบิดจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหล่นจากเครื่องบินส่วนใหญ่คิดว่ามันตกลงมาและพวกเขาทำงานตามนั้น 39 ในเกมที่ผู้ใหญ่ต้องปล่อยลูกเทนนิสเพื่อตกอยู่ในถ้วยขณะที่พวกเขาเดินผ่านโดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะเกินกำหนดเพราะพวกเขาพยายามที่จะ

กีดขวาง

ปล่อยลูกบอลเมื่ออยู่เหนือถ้วยโดยตรง 40 ในตัวอย่างทั้งสองการเคลื่อนไหวนั้นเป็นเส้นโค้ง แต่ทฤษฎีที่ไร้เดียงสาไร้เดียงสาของเรายังคงทำงานอยู่ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าทฤษฎีที่ใช้งานง่ายนั้นไม่ได้ถูกทอดทิ้งเสมอเมื่อเรากลายเป็นผู้ใหญ่หากการใช้เหตุผลทางกายภาพที่ไร้เดียงสาแสดงให้เห็นว่าความเชื่อแบบเด็ก ๆ แฝงตัวอยู่ในผู้ใหญ่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าความเชื่อเหล่านั้นเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ?เด็ก ๆ ในฐานะนักมายากลที่ใช้งานง่ายคิดว่าเหนือธรรมชาติจะปรากฏขึ้นเมื่อใด?จนถึงตอนนี้ในบทนี้ฉันได้อธิบายว่าทารกเข้าใจโลกธรรมชาติอย่างไรกระบวนการนี้เริ่มต้นนานก่อนที่การศึกษาจะมีบทบาทใด ๆ ในการเล่นเด็ก ๆ ตัดโลกแห่งประสบการณ์ขึ้นในประเภทและกิจกรรมต่าง ๆเพื่อทำความเข้าใจกับทุกสิ่งพวกเขาสร้างทฤษฎีที่ไร้เดียงสาที่อธิบายโลกทางกายภาพโลกที่มีชีวิตและในที่สุดโลกทางจิตวิทยาของคนอื่น ๆในขณะที่ทฤษฎีที่ไร้เดียงสาของเด็กมักจะถูกต้อง แต่พวกเขาอาจผิดเพราะสาเหตุและกลไกที่พวกเขาพยายามที่จะให้เหตุผลเกี่ยวกับการมองไม่เห็นตัวอย่างเช่นไม่มีใครสามารถเห็นแรงโน้มถ่วง แต่คุณสามารถสันนิษฐานได้ว่ามีบางอย่างที่ทำให้วัตถุล้มลงตรงถ้าพวกเขาถูกปล่อยออกมาหรือพิจารณาตัวอย่างจากชีววิทยาเราสามารถจดจำได้ง่ายเมื่อมีชีวิตอยู่คุณสามารถบอกได้ว่ามันเป็นอย่างไรและที่สำคัญกว่านั้นโดยวิธีการเคลื่อนไหว แต่คุณไม่สามารถมองเห็นชีวิตในบางสิ่งได้สิ่งที่คุณทำได้คืออนุมานและบางครั้งคุณก็ผิดบางครั้งสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ตกหลุมรักเสมอไปบางครั้งสิ่งมีชีวิตไม่เคลื่อนไหวและบางครั้งการเคลื่อนไหวสิ่งต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่เมื่อเราใช้ทรัพย์สินของธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่งไปยังอีกประเภทหนึ่งเรากำลังคิดผิดปกติหากเรายังคงเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงความคิดของเราก็กลายเป็นสิ่งเหนือธรรมชาตินี่คือที่ที่ฉันคิดว่า supersense ของเรามาจากให้ฉันแกะแนวคิดที่สำคัญนี้ให้คุณต่อไปเด็ก ๆ จัดหมวดหมู่โลกให้เป็นสิ่งต่าง ๆ ตามธรรมชาติหากเด็กไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานที่ที่จะวาดขอบเขตหรือคุณสมบัติที่ไม่ถูกต้องจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งเด็กจะคิดเหนือธรรมชาติตัวอย่างเช่นหากเด็กคิดว่าของเล่น (ทรัพย์สินทางกายภาพ) สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในเวลากลางคืน (ทรัพย์สินทางชีวภาพ) และมีความรู้สึก (จิตวิทยา

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

ทรัพย์สิน) สิ่งนี้จะเป็นตัวแทนของการละเมิดระเบียบตามธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆหากเด็กคิดว่าความคิดสามารถถ่ายโอนระหว่างจิตใจเขาเข้าใจผิดว่าความคิดคืออะไรและมาจากไหนเด็ก ๆ ที่ผสมผสานคุณสมบัติของหมวดหมู่ที่ไร้เดียงสาของพวกเขากำลังคิดเหนือธรรมชาติวัตถุที่ไม่มีชีวิตที่มีชีวิตอยู่และมีความรู้สึกมีมนต์ขลังความคิดที่ถ่ายโอนระหว่างจิตใจเป็นที่รู้จักกันในชื่อกระแสจิตในการสัมภาษณ์หลายร้อยครั้งกับเด็กอายุระหว่างสี่ถึงสิบสองปีเพียเจต์ขอให้พวกเขาอธิบายการทำงานของโลก 41 เขาถามพวกเขาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเช่นดวงอาทิตย์เมฆแม่น้ำต้นไม้และสัตว์พวกเขามาจากที่ไหน?พวกเขามีจิตใจหรือไม่? และอื่น ๆสิ่งที่เขาค้นพบคือความเชื่อเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นซ้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่อายุน้อยที่สุดพวกเขาคิดว่าดวงอาทิตย์ตามพวกเขาไปรอบ ๆ และสามารถคิดได้นั่นเป็นเหตุผลที่เด็ก ๆ วาดใบหน้าที่ยิ้มแย้มบนดวงอาทิตย์มันเป็นความมั่นใจมากขึ้นที่จะคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นมิตรที่ทำให้วันฤดูร้อนน่าพอใจและผู้คนยิ้มได้มากกว่าลูกบอลพลังงานนิวเคลียร์ที่ไม่มีชีวิตที่จะทำให้เราหงุดหงิดถ้าไม่ใช่สำหรับชั้นโอโซนป้องกันของโลกPiaget เด็ก ๆ ศึกษาเชื่อว่าต้นไม้มีจิตใจและรู้สึกได้ในระยะสั้นพวกเขาคิดว่าโลกที่ไม่มีชีวิตนั้นยังมีชีวิตอยู่บางสิ่งบางอย่างเพียเจต์เรียกว่า "ความเกลียดชัง"ความเกลียดชังหมายถึงการอ้างถึงวิญญาณ (ละติน, แอนิเมชั่น) กับเอนทิตีและสามารถพบได้ในหลายศาสนาเช่นเดียวกับในอภินิหารทางโลกเด็ก ๆ จะได้รับความคิดเหล่านี้ที่ไหน?ไม่มีใครบอกให้พวกเขาคิดแบบนี้มันเป็นเพียงวิธีที่เด็กทำความเข้าใจกับโลกเหตุผลหนึ่งที่เด็ก ๆ ทำผิดพลาดเหล่านี้คือพวกเขาทำให้ทุกอย่างจากมุมมองของพวกเขาเองเพียเจต์ยอมรับว่าเด็กเล็กติดอยู่ในโลกทัศน์ของตัวเองว่าพวกเขาตีความทุกอย่างในโลกตามวิธีที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาเพียเจต์เรียกสิ่งนี้ว่าดวงอาทิตย์ดูเหมือนจะตามคุณไปรอบ ๆ เพราะมันอยู่ที่นั่นเสมอเมื่อคุณมองข้ามไหล่ของคุณเด็ก ๆ ยังให้ความสำคัญกับทุกสิ่งในโลกโดยสมมติว่าสิ่งต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นด้วยเหตุผลดวงอาทิตย์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฉันสิ่งนี้ไม่น่าแปลกใจเมื่อพิจารณาว่าเด็กสมัยใหม่จะถูกดื่มด่ำในโลกแห่งสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับการออกแบบ

กีดขวาง

และทำด้วยเหตุผลเด็กเล็กไม่ได้สร้างความแตกต่างระหว่างสิ่งต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์และผู้ที่เพิ่งเกิดขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับวัตถุประสงค์ตัวอย่างเช่นถ้าฉันสามารถใช้ไม้เท้าสำหรับการแวะพักฉันอาจมีแนวโน้มที่จะเห็นแท่งเป็นจุดประสงค์กล่าวอีกนัยหนึ่งติดอยู่เป็นสิ่งที่ฉันจะใช้วิธีคิดนี้นำเด็กไปสู่สิ่งที่เรียกว่า "teleology ที่หลากหลาย" 42 Teleology หมายถึงการคิดในแง่ของการทำงานวิธีการคิดนี้มีความหลากหลายเพราะเด็กมีความเชื่อมั่นในวัตถุประสงค์และการทำงานของทุกสิ่งตัวอย่างเช่นมี 101 วิธีในการเดินทางลงบนเนินเขารวมถึงการเดินการข้ามการวิ่งวิ่งลูกกลิ้งการเล่นสเก็ตบอร์ดการเลื่อนการเล่นสกีการขี่จักรยานขี่จักรยาน zorb balling และอื่น ๆแต่ไม่มีผู้ใหญ่ที่จะทำผิดพลาดที่จะบอกว่าเขามีอยู่เพราะกิจกรรมที่แตกต่างกันเหล่านี้ในทางกลับกันเด็ก ๆ บอกว่าเนินเขานั้นกำลังกลิ้งลงมาเรื่อย ๆเด็กอายุเจ็ดขวบส่วนใหญ่อธิบายโลกธรรมชาติในแง่ของวัตถุประสงค์อย่างที่เราเห็นในวรรคสุดท้าย teleology ที่มีความหลากหลายอาจทำให้เด็ก ๆ มองว่าโลกมีจุดประสงค์เพื่อจุดประสงค์นั่นเป็นเหตุผลที่มุมมองของผู้สร้างของการดำรงอยู่นั้นดึงดูดใจอย่างสัญชาตญาณ 43 ศาสนาส่วนใหญ่เสนอเรื่องราวของต้นกำเนิดและวัตถุประสงค์ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการสร้างสรรค์สิ่งที่น่าสนใจกับสิ่งที่ดูเหมือนเป็นธรรมชาติเมื่ออายุเจ็ดขวบบางทีนั่นอาจเป็นที่มาของนิกายเยซูอิตที่พูดว่า“ ให้ลูกฉันจนกว่าเขาจะอายุเจ็ดขวบและฉันจะให้คุณกับผู้ชาย”เด็ก ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะ“ มนุษย์” ซึ่งหมายความว่าพวกเขาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ราวกับว่าพวกเขาเป็นมนุษย์เป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงและตุ๊กตาซึ่งเด็ก ๆ ได้รับการสนับสนุนให้ปฏิบัติต่อมนุษย์อย่างไรก็ตามเด็ก ๆ อาจคิดว่าเก้าอี้ที่ถูกไฟไหม้รู้สึกเจ็บปวดหรือปวดเมื่อยหลังจากถูกเตะพวกเขาจินตนาการว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไรถ้าพวกเขาถูกไฟไหม้หรือเตะและเนื่องจากความเห็นแก่ตัวของพวกเขาพวกเขาใช้มุมมองนี้กับทุกสิ่งที่ผิดพลาดคุณเคยเสียอารมณ์ที่วัตถุหรือไม่?โดยปกติแล้วจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณผิดหวังในช่วงเวลาวิกฤติรถที่ตายระหว่างทาง

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

ในการประชุมที่สำคัญหรือบ่อยครั้งในกรณีของฉันคอมพิวเตอร์ที่ขัดข้องเมื่อคุณยังไม่ได้สำรองงานของคุณมานุษยวิทยาอธิบายว่าทำไมคุณถึงพูดอย่างดีขอและคุกคามเครื่องจักรเมื่อพวกเขาทำหน้าที่เป็นเพียงวิธีธรรมชาติในการโต้ตอบกับวัตถุที่ดูเหมือนมีจุดประสงค์เรารู้ว่าการพูดคุยกับวัตถุไม่มีผลอย่างแน่นอน แต่เรายังคงทำอยู่ดังนั้นต้นกำเนิดของความเชื่อเหนือธรรมชาติจึงอยู่ในเด็กที่กำลังพัฒนาทุกคนแนวคิดทั้งหมดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่นักปรัชญา David Hume เขียนเกี่ยวกับการออกแบบจิตใจและความเชื่อเหนือธรรมชาติและระบุแง่มุมเดียวกันของการออกแบบจิตใจเมื่อสองร้อยปีก่อนฮูมตระหนักถึงเหตุผลที่ไร้เดียงสาแบบเดียวกันในผู้ใหญ่เมื่อพยายามทำความเข้าใจโลกผู้ใหญ่ก็เห็นโลกของสิ่งต่าง ๆ ที่ดูเหมือนมีชีวิตอยู่กับคุณสมบัติของมนุษย์มีแนวโน้มสากลในหมู่มนุษยชาติที่จะเข้าใจสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเช่นตัวเองและเพื่อถ่ายโอนไปยังทุกวัตถุคุณสมบัติเหล่านั้นซึ่งพวกเขาคุ้นเคยอย่างคุ้นเคยและที่พวกเขามีสติอย่างใกล้ชิดเราเผชิญหน้ากับมนุษย์ในดวงจันทร์กองทัพในเมฆและโดยความโน้มเอียงตามธรรมชาติหากไม่ได้รับการแก้ไขโดยประสบการณ์และการสะท้อนกลับมาให้ความอาฆาตพยาบาทและความปรารถนาดีต่อทุกสิ่งที่เจ็บปวดหรือทำให้เราพอใจเพราะฉะนั้น .--ต้นไม้ภูเขาและลำธารเป็นบุคคลและส่วนที่ไม่มีชีวิตของธรรมชาติได้รับความเชื่อมั่นและความหลงใหล 45 จากมุมมองนี้เราสามารถเห็นได้ว่าเด็กที่มีความเห็นชอบเป็นศูนย์กลางจะมีความเชื่อที่เป็นต้นกำเนิดของลัทธิเหนือธรรมชาติในการเริ่มต้นเด็ก ๆ มีความแตกต่างระหว่างความคิดของตนเองและของผู้อื่นเด็กที่มีความคิดคิดว่าคนอื่น ๆ ก็แบ่งปันความคิดเดียวกันความคิดดังกล่าวจะสอดคล้องกับกระแสจิตและด้านอื่น ๆ ของการละลายจิตใจนอกจากนี้เด็ก ๆ อาจเชื่อว่าพวกเขาสามารถส่งผลกระทบต่อความเป็นจริงโดยการคิดซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับ psychokinesis: การจัดการวัตถุทางกายภาพโดยความคิดเพียงอย่างเดียวเด็กรายงานว่าพิธีกรรมบางอย่างเช่นการนับถึงสิบนั้นสามารถเกิดผลลัพธ์ได้ในอนาคตซึ่งเทียบเท่ากับคาถาและไสยศาสตร์พวกเขายังเชื่อว่าวัตถุบางอย่างมีพลังพิเศษและพลังงานนี่คือความคิดวิเศษที่เห็นอกเห็นใจที่เชื่อมโยง

100

กีดขวาง

วัตถุโดยการเชื่อมต่อที่มองไม่เห็นยิ่งไปกว่านั้นเด็ก ๆ จะเห็นพลังชีวิตทุกที่ใครก็ตามที่ถือความเข้าใจผิดดังกล่าวสามารถยอมจำนนต่อความรุนแรงได้อย่างง่ายดายนี่คือเหตุผลที่ฉันคิดว่าการเหนือธรรมชาติของผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่เหลืออยู่ของความเข้าใจผิดในวัยเด็กที่ไม่ได้ถูกกำจัดอย่างแท้จริงเด็กเชื่อจริงหรือ?เด็ก ๆ รู้หรือไม่ว่าความเข้าใจผิดของพวกเขาเหนือธรรมชาติ?เด็กเล็กไม่ได้ใช้หรือเข้าใจคำว่า "เหนือธรรมชาติ"แต่เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่อธิบายไม่ได้พวกเขามีแนวโน้มที่จะพูดว่ามันเป็น "เวทมนตร์"พวกเขาหมายถึงอะไร?คำนี้สูญเสียความหมายแฝงที่น่ากลัวและตอนนี้ใช้ในภาษาประจำวันจาก“ Magic Markers” ถึง“ Magic Johnson” คำนี้มีความหมายเหมือนกันกับสิ่งที่พิเศษในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานักจิตวิทยาการพัฒนาได้เริ่มตั้งคำถามว่าเด็ก ๆ เชื่อในเวทมนตร์หรือไม่ท้ายที่สุดพวกเขาจะไม่พยายามเสกสรรคุกกี้เมื่อพวกเขาหิวและพวกเขารู้ว่าเพื่อนในจินตนาการของพวกเขาเป็นเพียงการเชื่อในการศึกษาครั้งหนึ่งเด็กก่อนวัยเรียนถูกขอให้จินตนาการว่ากล่องเปล่ามีดินสอ 46 พวกเขาสามารถทำได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขาไม่เชื่อจริง ๆ ว่ามีดินสออยู่ข้างในเมื่อผู้ใหญ่อีกคนเข้ามาในห้องเพื่อขอให้ยืมดินสอเด็ก ๆ ไม่ได้ทำผิดพลาดในการเสนอให้พวกเขาจินตนาการที่พวกเขาจินตนาการไว้ในกล่องหากผู้ใหญ่พูดถึงเวทมนตร์บางทีเด็ก ๆ ก็กำลังเล่นอยู่เมื่อถูกขอให้จินตนาการถึงสิ่งมหัศจรรย์ 47 หลังจากทั้งหมดเราจะคาดหวังให้พวกเขาพูดอะไรอีกกลอุบายเวทมนตร์และแขกทุกคนควรแต่งตัวเป็นพ่อมดหรือนางฟ้าหรือไม่?วิธีการทั้งหมดของเราสำหรับเด็กเล็กคือการเน้นเวทมนตร์เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ปกติเวทมนตร์ได้สูญเสียความหมายเหนือธรรมชาตินักจิตวิทยารัสเซีย Eugene Subbotsky เปิดเผยความคิดมหัศจรรย์ในเด็กเล็กที่มีเคล็ดลับการเสกสรรง่าย ๆเขาวางแสตมป์ไว้ในกล่องคำพูดมหัศจรรย์พึมพำในรัสเซียที่เน้นเสียงหนักของเขาจากนั้นเปิดกล่องเพื่อเผยให้เห็นการตัดแสตมป์ครึ่ง 48 เด็กเล็กเชื่อว่ามันเป็นแสตมป์เดียวกันและคาถารัสเซียตัดครึ่งมัน.เด็กอายุเก้าขวบ

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

101

และผู้ใหญ่มักจะพูดว่าแสตมป์จะต้องเปลี่ยนไปในขณะที่เด็กเล็กใจร้อนมากขึ้นแต่ผู้ใหญ่แน่ใจเกี่ยวกับโลกนี้หรือไม่?แม้ว่าพวกเขาจะคิดว่าการปริศนาทั้งหมดเป็นกลอุบาย แต่พวกเขาก็ไม่เต็มใจที่จะใส่หนังสือเดินทางหรือใบขับขี่ในกล่องของ Subbotskyพวกเขาไม่ต้องการเสี่ยงที่จะผิดเมื่อเงินเดิมพันสูงเราก็มีเหตุผลน้อยลงดูเหมือนว่าเช่นเดียวกับเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าเราจะพิจารณาค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นและเป็นประโยชน์เมื่อชั่งน้ำหนักสิ่งที่ไม่รู้จักที่เป็นไปได้นี่คือเหตุผลที่นักเรียนที่มีเหตุผลไม่มีความสุขที่จะลงนามในกระดาษที่ขายวิญญาณของพวกเขาด้วยเงินจริง 49 เพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะนำลายเซ็นของพวกเขาไปทำสัญญาแม้ว่าแบบฟอร์มระบุไว้อย่างชัดเจนว่ามันไม่ได้มีผลผูกพันตามกฎหมายอย่างสมเหตุสมผลเราคาดหวังให้พวกเขามีความกล้าหาญมากขึ้นในความเชื่อมั่นของพวกเขาเช่น Gareth Malham ผู้ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าผู้ขายวิญญาณของเขาบน eBay ในปี 2545 เพื่อช่วยชำระหนี้นักเรียน 20,000 ดอลลาร์ที่นั่นอีกครั้งวิญญาณของเขาไปเพียงเล็กน้อย $ 20 ซึ่งแทบจะไม่ได้รับความพยายามเป็นเรื่องน่าประหลาดใจจริง ๆ ที่เด็กเล็กให้คำอธิบายที่มีมนต์ขลังสำหรับการเสกกลอุบาย?บางทีพวกเขาอาจใช้เวทมนตร์เป็นคำอธิบายเริ่มต้นเมื่อพวกเขาไม่สามารถทำอะไรบางอย่างออกมาได้สิ่งที่เราควรโดดเด่นกว่านี้คือเด็ก ๆ เติบโตขึ้นมาในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและเหตุการณ์ที่พวกเขาไม่สามารถเข้าใจได้และยังไม่ได้พูดถึงพวกเขาว่าเป็นเวทมนตร์การควบคุมระยะไกลใช้งานเครื่องจักรจากระยะไกลผู้คนสามารถพูดคุยกับผู้อื่นผ่านกล่องมือถือเล็ก ๆ น้อย ๆ และอื่น ๆเด็กสมัยใหม่หมกมุ่นอยู่กับโลกที่จะประหลาดใจและอาจทำให้ใครบางคนกลัวจากก่อนการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ดังที่ Arthur C. Clarke ชี้ให้เห็นว่า“ เทคโนโลยีขั้นสูงใด ๆ ที่เพียงพอนั้นแยกไม่ออกจากเวทมนตร์” 50 แล้วทำไมเด็ก ๆ ถึงไม่เรียกทุกอย่างเวทมนตร์?เด็กเล็กอาจเริ่มต้นตามที่เพียเจต์อธิบายด้วยความเข้าใจผิดที่มีมนต์ขลังทุกประเภท แต่ด้วยประสบการณ์ที่เด็กโตมีความเข้าใจมากขึ้นเด็ก ๆ ชื่นชมว่ามีบางสิ่งที่พวกเขารู้และคนอื่น ๆ ที่พวกเขาทำไม่ได้เมื่อพวกเขาเห็นบางสิ่งที่ละเมิดสิ่งที่พวกเขาคาดหวังพวกเขาก็สงสัยมากขึ้นแต่มันไม่ใช่ความคิดเหนือธรรมชาติของเด็กเล็กที่น่าทึ่งมาก แต่ความเชื่อเหนือธรรมชาติของผู้ใหญ่ที่ควรรู้ดีกว่าด้วยประสบการณ์และความเข้าใจการคิดเหนือธรรมชาติควรลดลงในเด็ก แต่มี

102

กีดขวาง

การเพิ่มความเชื่อเหนือธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นในบางวัฒนธรรมในสังคมที่ความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติเป็นบรรทัดฐานมันมีบทบาทอธิบายมากขึ้นในการให้เหตุผลของผู้ใหญ่นี่คือผลกระทบของสภาพแวดล้อมและนี่คือที่ศาสนาใช้มันใน ﬂ uenceตัวอย่างเช่นเมื่อนักมานุษยวิทยามาร์กาเร็ตมี้ดขอให้ชาวบ้านซามัวให้คำอธิบายว่าทำไมเรือแคนูอาจทำลายการจอดเรือในตอนกลางคืนเด็ก ๆ มีแนวโน้มที่จะให้เหตุผลทางกายภาพในขณะที่ผู้ใหญ่มีแนวโน้มที่จะพูดคุยเกี่ยวกับ hexes และคาถาผู้ใหญ่ได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยบริบทของวัฒนธรรมในวัฒนธรรมของเราในตะวันตกความเชื่อเหนือธรรมชาติส่วนใหญ่เช่นที่สำรวจในการสำรวจ Gallup ที่อธิบายไว้ในบทที่ 2 ถือเป็นที่น่าสงสัยแม้ว่าคนส่วนใหญ่เชื่ออย่างน้อยหนึ่งคนผู้ใหญ่อาจปฏิเสธความเชื่อเหนือธรรมชาติ แต่อย่างที่เราสังเกตเห็นก่อนหน้านี้ตราบใดที่ไม่มีใครกล่าวถึงคำว่า "เหนือธรรมชาติ" ผู้ใหญ่มีความสุขมากที่ได้สร้างความบันเทิงให้กับแนวคิดของรูปแบบที่ซ่อนอยู่กองกำลังและแก่นแท้ในปี 1980 นักวิจัยที่สัมภาษณ์ผู้หญิงชาวอังกฤษในแมนเชสเตอร์เกี่ยวกับความเชื่อเหนือธรรมชาติของพวกเขาพบว่าพวกเขาต้องวางคำว่า "เหนือธรรมชาติ" เนื่องจากสิ่งนี้พบกับปฏิกิริยาเชิงลบโดยทั่วไป 52 อย่างไรก็ตามทันทีที่คำว่า "ด้านลึกลับของชีวิต” ถูกนำมาใช้ผู้ให้สัมภาษณ์แสดงความสนใจและกระตือรือร้นที่จะพูดคุยผู้หญิงเหล่านี้ส่วนใหญ่เกษียณอย่างมีความสุขได้เล่าประสบการณ์หลายอย่างเกี่ยวกับผี precognition และรู้สึกถึงวิญญาณของคนตายพวกเขามองว่าประสบการณ์เหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่เป็นเรื่องลึกลับเราได้ตระหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าการคิดเหนือธรรมชาติเป็นสิ่งที่ต้องอายเราอาจซ่อนพฤติกรรมไสยศาสตร์ของเราเมื่อมีคนอื่น ๆผู้ใหญ่สามในสี่คนจะหลีกเลี่ยงการเดินใต้บันไดหากพวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่มีใครสังเกตเห็นได้ 53 ถ้าพวกเขาเห็นผู้ใหญ่อีกคนทำมันเป็นครั้งแรกพวกเขามีแนวโน้มที่จะเดินใต้บันไดมากขึ้นหากเราไม่คิดว่าเรากำลังถูกจับตามองเรามีแนวโน้มที่จะทำตัวดีกว่านักเรียนมีโอกาสน้อยกว่าที่จะโกงเมื่อพวกเขาบอกอย่างไม่ตั้งใจว่าห้องสอบถูกกล่าวว่ามีผีสิง 54 เด็กอาจไม่ได้เสนอดินสอจินตนาการให้กับผู้ใหญ่ แต่ถ้าถูกทิ้งไว้ตามลำพังพวกเขาจะตรวจสอบกล่องเปล่าก่อนหน้านี้หลังจากที่พวกเขาเคยเป็นขอให้จินตนาการว่ามันมีไอศกรีม 55

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

103

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามันเป็นเพียงเกมที่แกล้งทำ แต่พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าไอศกรีมไม่ได้เป็นรูปธรรมภายในกล่องในการศึกษาอื่นเด็กอายุสี่ถึงหกขวบได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับกล่องวิเศษที่สามารถเปลี่ยนภาพวาดเป็นรูปภาพได้ 56 เด็กทุกคนปฏิเสธว่ากล่องเปลี่ยนเวทย์มนตร์นั้นเป็นไปได้อย่างไรก็ตามหลายวันต่อมาเด็ก ๆ ทุกคนลองใช้เวทมนต์เวทมนต์เมื่อทิ้งไว้ตามลำพังกับกล่องและรู้สึกผิดหวังอย่างชัดเจนเมื่อพวกเขาเปิดมันเพื่อวาดภาพเดียวกันภายในสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าเด็ก ๆ มีความคาดหวังว่าจะเกิดอะไรขึ้นและเป็นไปไม่ได้ แต่เปิดกว้างสำหรับคำให้การของผู้อื่นนี่คือที่ที่การเล่าเรื่องและบทบาทของวัฒนธรรมสามารถในเด็กที่ไม่แน่นอนเด็ก ๆ อาจไม่เสกสรรคุกกี้ดินสอและเพื่อนในจินตนาการ แต่นั่นอาจเป็นเพราะพวกเขาเข้าใจขีด จำกัด ของความสามารถของตนเองพวกเขาอาจไม่แน่ใจเกี่ยวกับพลังพิเศษของผู้อื่นหรือกล่องเวทมนต์ลึกลับนี่คือที่วัฒนธรรมก้าวเข้ามาเพื่อกำหนดความเชื่อของเราคำให้การของคนอื่น ๆ อีกครั้งกลายเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนการเหนือธรรมชาติและสิ่งนี้มีพลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสนามเด็กเล่นในการสำรวจความเชื่อที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง Peter และ Iona Opie ศึกษาเด็กกว่าพันคนของเกาะอังกฤษในบรรดากิจกรรมสนามเด็กเล่นที่หลากหลายของเกมและเพลงคือส่วนผสมของความเชื่อเหนือธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับคำสาบานและไสยศาสตร์Opies ตั้งข้อสังเกตว่าเด็ก ๆ ที่โดดเด่นระหว่างไสยศาสตร์ที่“ แค่สนุก” หรือ“ อาจโง่” และคนอื่น ๆ ที่ได้รับตามที่กำหนดที่นี่ Opies ตั้งข้อสังเกตว่าการปรากฏตัวของ supersense ในการปฏิบัติเหล่านั้นที่ได้รับการยอมรับอย่างไม่ต้องสงสัย: คนอื่น ๆ อีกครั้งได้รับการฝึกฝนเพราะมันอยู่ในธรรมชาติของเด็กที่จะถูกดึงดูดโดยลึกลับ: พวกเขาดูเหมือนจะมีความตระหนักโดยธรรมชาติการสั่งซื้อชะตากรรมมากกว่าที่ปรากฏบนพื้นผิว 57 อีกคนที่น่าทึ่งคือเด็ก ๆ ส่วนใหญ่แบ่งปันความเชื่อของเพื่อนของพวกเขา แต่เมื่อพวกเขากลายเป็นวัยรุ่นพวกเขาก็เพิ่มความเชื่อของครอบครัวและผู้อาวุโสนิทานพื้นบ้านของเด็ก ๆ ที่แยกส่วนให้ความเชื่อดั้งเดิมของวัฒนธรรมเมื่อพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่ส่วนนี้อาจ

104

กีดขวาง

อธิบายรูปแบบของความเชื่อทางศาสนาที่เกิดขึ้นที่เราเห็นในบทสุดท้ายที่อายุเจ็ดขวบส่วนใหญ่เป็นผู้สร้างในความเข้าใจเกี่ยวกับต้นกำเนิดของชีวิตบนโลก แต่เด็กโตเริ่มย้ายไปสู่ความเชื่อทางศาสนาอย่างเป็นทางการหรือบัญชีนักวิทยาศาสตร์ในสภาพแวดล้อมของครอบครัวอะไรต่อไป?จนถึงตอนนี้ข้อเสนอบนโต๊ะคือต้นกำเนิดของความเชื่อเหนือธรรมชาติสามารถสืบย้อนไปถึงความเข้าใจผิดของเด็กเกี่ยวกับธรรมชาติอย่างไรก็ตามภาพนี้ขาดปริศนาที่สำคัญมากไม่มีใครเป็นเกาะเราเป็นสัตว์สังคมที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรของผู้คนมนุษย์สมัยใหม่มีชื่อนักวิทยาศาสตร์ hom*o sapiens หรือ“ คิดว่า hominid” แต่เมื่อ Nick Humphrey ชี้ให้เห็นฉลากสำหรับมนุษย์สมัยใหม่นั้นมีความเหมาะสมมากขึ้นความสามารถของเราที่จะเป็นจิตวิทยา - เพื่อให้สันนิษฐานว่าคนอื่นมีจิตใจและเหตุผลนี่คือเหตุผลที่เราเป็นสัตว์สังคมเราได้พัฒนาไปอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อทำนายผู้อื่นสื่อสารและแบ่งปันความคิดทักษะทั้งหมดเหล่านี้ต้องการความคิดที่ซับซ้อนพอที่จะรับรู้ว่าคนอื่นมีจิตใจเช่นกันความเข้าใจผิดของเด็กอาจใช้งานง่ายและไม่ได้รับการสอน แต่พวกเขาป้อนเข้าสู่บริบททางวัฒนธรรมให้กลายเป็นชาวบ้านอาถรรพณ์และศาสนาเรารู้ว่าสภาพแวดล้อมทางสังคมมีความสำคัญในการจัดหากรอบความเชื่อเหล่านี้ แต่พวกเขามีอยู่ในสถานที่แรกเนื่องจากความรุนแรงในขณะที่เด็ก ๆ ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับธรรมชาติที่แท้จริงของโลกพวกเขาเข้าใจมากขึ้นว่าสัญชาติญาณของพวกเขาหลายคนผิดและจะเป็นไปได้ถ้าเหนือธรรมชาติเป็นจริงแต่เมื่อคนอื่นแบ่งปันความเข้าใจผิดประเภทเดียวกันความเชื่อดังกล่าวกลายเป็นที่ยอมรับของสังคมแม้จะไม่มีหลักฐานหรือวิทยาศาสตร์ที่มีเหตุผลอาจพูดได้ในบทต่อไปฉันตรวจสอบว่าสิ่งเหนือธรรมชาติมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเมื่อเราเข้าสู่โดเมนสังคมในฐานะที่เป็น hom*o Psychologicus ธรรมชาติทางสังคมของเราขึ้นอยู่กับความสามารถของเราในการเป็นผู้อ่านใจเราแต่ละคนมีความสามารถในการทำความเข้าใจและทำนายว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรและทำเพราะเรามี

เบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

105

ทฤษฎีที่ใช้งานง่ายของจิตใจเราเข้าใจว่าคนอื่นมีจิตใจที่กระตุ้นสิ่งที่พวกเขาทำและสิ่งที่พวกเขาเชื่อในทำนองเดียวกับที่เรามีทฤษฎีที่ใช้งานง่ายของโลกทางกายภาพมนุษย์ก็มีทฤษฎีที่ใช้งานง่ายของจิตใจอย่างไรก็ตามแตกต่างจากโลกทางกายภาพที่วิทยาศาสตร์สามารถตรวจสอบความเชื่อของเราได้อย่างเป็นกลางโลกจิตยังคงเป็นหนึ่งในความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราทุกคนได้รับในชีวิตประจำวันจิตใจมนุษย์คืออะไร?มันทำงานอย่างไร?สิ่งที่ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้อย่างไร?เราไม่ค่อยหยุดถามคำถามเหล่านี้เพราะจิตใจเป็นเรื่องธรรมดาจิตใจของเราคือสิ่งที่เราเป็นมันก็ต่อเมื่อเราสูญเสียพวกเขาหรือพวกเขาถูกรบกวนว่าเราตระหนักถึงความลึกลับว่าจิตใจเป็นอย่างไรความลึกลับนั้นเป็นพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์สำหรับ Supersense

บทที่ห้า

ใจอ่าน 101

หนึ่งในพลังเหนือธรรมชาติที่ฉันมักคิดว่าจะมีประโยชน์คือความสามารถในการอ่านจิตใจของคนอื่นลองนึกภาพความสนุกที่คุณสามารถรู้ได้ว่าคนอื่นคิดอย่างไรกับกันและกันคุณจะรู้ว่าใครเป็นคนชอบคุณ (ถ้าใคร) หรือคนสองคนที่มีความผิดกฎหมายในเรื่องของ ﬁ ceมันอาจทำให้คุณเป็นผู้ตัดสินที่ลึกซึ้งที่สุดหรือมีน้ำใจความลับทั้งหมดที่เราพยายามซ่อนจากกันและกันจะออกมาในที่โล่งที่นั่นอีกครั้งบางทีความไม่รู้นั้นเป็นความสุขและเป็นการดีกว่าที่จะไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าความคิดของผู้อื่นนั้นน้อยกว่าที่เราต้องการเราทุกคนสามารถอ่านใจได้บ้างไม่ใช่กระแสจิตหรือวัลแคนทำให้จิตใจดีนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เราพยายามที่จะทำสิ่งที่อยู่ในใจของกันและกันโดยสัญชาตญาณไม่ว่าจะเป็นการชนะการโต้แย้งการเจรจาต่อรองหรือรับใช้ลูกค้าเราทุกคนรับสมัครทักษะการอ่านใจของเราในชีวิตประจำวันเพื่ออนุมานว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรอยู่เราพิจารณาว่าความเชื่อของพวกเขาอาจเป็นอย่างไรและคาดเดาว่าอารมณ์ที่พวกเขากำลังประสบอยู่เราต้องการทราบว่า "พวกเขามาจากไหน"ด้วยวิธีนี้เราคาดหวังและจัดการกับผู้อื่นผ่านการอ่านใจแม้ว่าเราจะไม่สามารถเข้าถึงความคิดหรือความรู้สึกส่วนตัวได้โดยตรง

108

กีดขวาง

คนแปลกหน้าสามารถอ่านความคิดของกันและกันเมื่อไม่มีคำพูดในขณะที่เราดูผู้คนไปเกี่ยวกับธุรกิจของพวกเขาในที่สาธารณะเราจะมีจุดประสงค์ที่ซ่อนอยู่กับการเคลื่อนไหวของพวกเขาโดยอัตโนมัติดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความตั้งใจและเป้าหมายเราฝังพวกเขาด้วยชีวิตจิตที่ร่ำรวยนั่นเป็นเพราะเราคิดว่าพวกเขาเป็นเหมือนเราพวกเขาก็ต้องได้สัมผัสกับความวิตกกังวลความผิดหวังความผิดหวังความเอื้อเฟื้อและความแตกต่างทั้งหมดของความกังวลของมนุษย์ที่เราทำอย่างไรก็ตามการอ่านใจของเราไม่สามารถเข้าใจผิดได้เรามักจะตัดสินผิดอย่างไรก็ตามมันง่ายกว่าที่จะเข้าใจผู้อื่นว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจิตใจมากกว่าทางเลือกที่น่ารังเกียจ: สิ่งมีชีวิตที่ไม่สนใจหุ่นยนต์ที่ซับซ้อนหรือซอมบี้แต่งตัวดีพวกเราบางคนดีกว่าการอ่านใจมากกว่าคนอื่น ๆนักจิตวิทยา Cambridge Simon Baron-Cohen ได้เสนอว่าผู้หญิงประสบความสำเร็จมากกว่าผู้ชาย 1 การอ่านใจ-หรือการเอาใจใส่ทางสังคมมีความแม่นยำมากกว่า-เป็นทักษะของผู้หญิงที่เกิดจากสมองที่ออกแบบมาให้เป็นสังคมในทางกลับกันผู้ชายเป็นคนที่น่าสงสาร แต่ก็เก่งในการทำรายการคอลเลกชันซีดีตามทฤษฎีผู้หญิงมีความเห็นอกเห็นใจในขณะที่ผู้ชายมีระบบที่ดีกว่ามันเป็นความคิดที่ถกเถียงกันและ“ UNPC” อย่างลึกซึ้ง แต่ดูเหมือนจะเป็นสามัญสำนึกมากการอ่านใจของเราใช้งานง่ายไม่มีใครสอนเราและเราเริ่มใช้มันก่อนที่เราจะพูดได้เช่นเดียวกับภาษามันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์นี่เป็นเพราะการทำความเข้าใจจิตใจอื่น ๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวิธีที่เราได้รับซึ่งกันและกันhom*o sapiens อาจมีวิวัฒนาการที่จะคิด แต่ความคิดเหล่านั้นส่วนใหญ่เกี่ยวกับคนอื่นในบทนี้เราตรวจสอบการเกิดขึ้นของการอ่านใจในความสัมพันธ์ที่สำคัญครั้งแรกของเรากับพ่อแม่ของเราและโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ของเราในช่วงปีที่ผ่านมาเหล่านี้เด็กทารกและผู้ใหญ่มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนทางสังคมที่ซับซ้อนมากขึ้นคุณหิวไหม?คุณต้องการเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือไม่?เธอกำลังทำอะไร?เขาหมายถึงอะไร?การคาดเดาที่สองซึ่งกันและกันคือศิลปะการอ่านใจและเด็กทารกกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในช่วงปีแรก ๆ ดีกว่าสัตว์อื่น ๆ 2 พวกเขาทำสิ่งนี้โดยการทำความเข้าใจว่าร่างกายได้รับแรงบันดาลใจจากจิตใจความเข้าใจนี้ช่วยให้พวกเขามีบทบาทที่ท้าทายมากขึ้นในการทำความเข้าใจโลกสังคมของผู้อื่นนอกวงกลมของครอบครัวอย่างไรก็ตามในการเป็นผู้อ่านใจที่เป็นกันเองเด็ก ๆ เริ่มคิดว่าจิตใจแยกออกจากร่างกายอย่างไรความคิดนั้น

ใจอ่าน 101

109

เตรียมพื้นดินสำหรับความเชื่อเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับร่างกายจิตใจและจิตวิญญาณมาเผชิญหน้ากับการอ่านใจของเราเริ่มต้นด้วยใบหน้าและอ่านดวงตาโดยเฉพาะซูเปอร์โมเดลเช่นนาโอมิแคมป์เบลและเคทมอสส์ตัวการ์ตูนการ์ตูนญี่ปุ่นและเด็กทารกทุกคนมีเหมือนกัน?ฉันมีดวงตาใหญ่อะไรหนึ่งในเหตุผลที่เราเป็นซูเปอร์โมเดลและตัวละครมังงะน่ารักมากคือพวกเขาเตือนเราถึงเด็กทารกคุณภาพนี้เรียกว่า "เด็ก"เป็นเพียงดวงตาขนาดใหญ่ที่สัมพันธ์กับหัวใหญ่บนร่างเล็ก 3 นักชีววิทยาสังเกตเห็นว่าลูกหลานของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวนมากแบ่งปันคุณลักษณะสำหรับเด็กนี้ลูกสุนัขกระต่ายกระต่ายและชิวาวาเป็นตัวอย่างที่ดีของสัตว์ที่เก่งในเรื่องของทารกเป็นสิ่งที่สังเกตได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลิงเนื่องจากหัวขนาดใหญ่ของพวกเขาซึ่งจำเป็นต้องใช้เพื่อรองรับสมองขนาดใหญ่ของพวกเขาอย่างไรก็ตามเด็กทารกเป็นมากกว่าแค่การเล่นโวหารของมิติทางกายภาพตัวอย่างเช่นหากคุณขอให้เด็ก ๆ ที่ยังไม่ถึงวัยแรกรุ่นเพื่อให้คะแนนใบหน้าเพื่อความน่าดึงดูดพวกเขาชอบใบหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ผู้ใหญ่ด้วยวิธีนี้ธรรมชาติเริ่มดึงสายที่กำหนดพฤติกรรมการสืบพันธุ์ของเราใบหน้าเป็นเหมือนแม่เหล็กสำหรับเด็กทารกพวกเขาไม่สามารถละสายตาจากเราได้หากคุณวัดการเคลื่อนไหวของดวงตาเพื่อดูว่าพวกเขากำลังมองหาฉากโซเชียลที่วุ่นวายพวกเขากำลังตรวจสอบใบหน้าของคนอื่น ๆ ในห้องความสนใจในใบหน้านี้เริ่มตั้งแต่แรกเกิด

รูปที่.8: ทารกแรกเกิดจ้องมองที่ภาพใบหน้าอีกต่อไปทางด้านซ้ายภาพของผู้แต่ง

ตัวอย่างเช่นเมื่อได้รับตัวเลือกทารกแรกเกิดจะดูรูปแบบทางด้านซ้ายอีกต่อไปเมื่อเทียบกับที่ด้านขวา 5

110

กีดขวาง

ด้านซ้ายดูเหมือนใบหน้ามากกว่าอีกด้านหนึ่งซึ่งเหมือนกัน แต่กลับหัวกลับหางความจริงที่ว่าสิ่งนี้พบได้ในทารกที่มีประสบการณ์เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับใบหน้าสนับสนุนทฤษฎีที่มนุษย์เกิดมาเพื่อเข้าร่วมกับสิ่งที่ดูเหมือนใบหน้าบางคนแย้งว่าสิ่งนี้มีการปรับตัววิวัฒนาการเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กทารกให้ความสนใจกับใบหน้าของแม่ในแบบเดียวกับที่นกทารกตัวเล็ก ๆ ทำตามสิ่งที่เคลื่อนไหวครั้งแรกที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ใหญ่ทันทีที่พวกเขาฟักมนุษย์เราสามารถแยกแยะและจดจำใบหน้าหลายพันใบหน้าและความแตกต่างระหว่างใบหน้าแต่ละใบหน้าอาจมีขนาดเล็กมากดังที่เราได้กล่าวถึงในบทที่ 3 gyrus fusiform ของสมอง (บริเวณที่อยู่ด้านหลังหูของคุณ) มีการใช้งานเมื่อใดก็ตามที่คุณมองใบหน้า 7 อย่างไรก็ตามถ้าคุณโชคร้ายพอที่จะได้รับความเสียหายต่อ fusiform gyrus ของคุณเพื่อรับรู้ใบหน้าของแต่ละบุคคลความผิดปกติที่เกิดขึ้นหรือที่รู้จักกันในชื่อ prosopagnosia สามารถสร้างการสูญเสียการรับรู้ใบหน้าของตัวเองในกระจก 8 เครื่องจักรกลสมองทั้งหมดนี้ที่อุทิศให้กับใบหน้าอาจอธิบายได้ว่าทำไมเราถึงเดินสายที่เห็นใบหน้าเมื่อไม่มีและบ่อยที่สุดสถานที่ที่ไม่คาดคิดดร. เจ. อาร์. ฮาร์ดิงนักรังสีวิทยาในเวลส์บอกฉันเกี่ยวกับกรณีของชายคนหนึ่งที่มีลูกอัณฑะที่ถูกต้องไม่ได้รับ 9 เงื่อนไขนี้เป็นเรื่องธรรมดาซึ่งทำให้ฉันนึกถึงประสบการณ์ของฉันเองฉันไม่แน่ใจว่าการคัดกรองเสร็จสิ้นในวันนี้ แต่ในเวลาของฉันก่อนที่ฉันจะได้รับความยินยอมจากพวกเราส่วนใหญ่ของพวกเราที่มี prepubescent ถูกทิ้งไว้อย่างสมบูรณ์และงงงวยว่าทำไมพยาบาลโรงเรียนขอให้เราไอขณะที่เธอประคองถุงอัลบั้มของเราเมื่อดร. ฮาร์ดิงตรวจสอบภาพของลูกอัณฑะที่ลงจากลูกอัณฑะของชายคนนั้นเขาเกือบจะตกจากที่นั่งเมื่อเขาเห็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเขาเขียนคดีขึ้นมาและตีพิมพ์บทความทางการแพทย์ที่มีชื่อว่า“ กรณีของ Scrotum Haunted” เพื่อความสนุกเล็กน้อยซึ่งกลายเป็น“ การมีส่วนร่วมที่สำคัญที่สุดในรายงานดร. ฮาร์ดิงเสนอคำอธิบายสำหรับการขาดลูกอัณฑะที่ไม่ได้รับการยกเว้นครั้งที่สอง:“ ถ้าคุณเป็นอัณฑะที่ถูกต้องคุณต้องการแบ่งปันถุงอัณฑะกับสิ่งนั้นหรือไม่”การปรากฏตัวของ facelike สามารถพบได้อย่างง่ายดายในวัตถุธรรมชาติและวัตถุศิลปะก้อนหินลำต้นของต้นไม้ที่ผูกปมและโฟล์คสวาเกน

ใจอ่าน 101

111

รูปที่.9:“ ถุงอัณฑะผีสิง”ภาพใบหน้าที่ค้นพบโดยดร. ฮาร์ดิงภาพถ่าย© Richard Harding

รถด้วงทุกคนดูเหมือนว่าพวกเขามีใบหน้าเนื่องจากใบหน้ามีความสำคัญมากเราจึงมักจะปฏิบัติต่อสิ่งที่ปรากฏเป็นมงคลเรานึกถึงสิ่งที่ปรากฏเป็นมากกว่าความบังเอิญในหนังสือของเขาเผชิญกับเมฆ Stewart Guthrie แย้งว่าอคติการประมวลผลรูปแบบที่ใช้งานง่ายของเราเราไปสู่การมองเห็นใบหน้าซึ่งทำให้เราคิดว่าตัวแทนที่ซ่อนอยู่ล้อมรอบเราในเมฆ” การสังเกตที่เราพบในบทสุดท้าย Guthrie นำเสนอกรณีที่จิตใจของเรามีแนวโน้มที่จะเห็นและอนุมานการปรากฏตัวของผู้อื่นซึ่งอธิบายว่าทำไมเราถึงมีแนวโน้มที่จะเห็นใบหน้าในรูปแบบที่คลุมเครือหากคุณอยู่ในป่าและทันทีที่เห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นใบหน้ามันจะดีกว่าที่จะสมมติว่ามันเป็นหนึ่งแทนที่จะเพิกเฉยอาจเป็นอีกคนที่จะพาคุณไปการเห็นใบหน้านำไปสู่การอนุมานของจิตใจจิตใจเหล่านั้นอาจมีเจตนาร้ายต่อเราทำไมพวกเขาถึงซ่อนตัวอยู่ในเงามืด?อคติเช่นนี้อาจเป็นเพียงหนึ่งในกลไกที่สนับสนุนความรู้สึกของตัวแทนเหนือธรรมชาติในโลกนี่อาจเป็นสาเหตุว่าทำไมต้องเผชิญ

112

กีดขวาง

การปรากฏตัวมักจะถูกนำมาเป็นหลักฐานของกิจกรรมเหนือธรรมชาติตัวอย่างเช่นคาสิโนออนไลน์ Goldenpalace.com ซื้อแซนวิชชีส Toasted อายุสิบปีกล่าวว่าจะแสดงภาพลักษณ์ของ Virgin Mary ในราคา $ 28,000,11 และใบหน้าของพระเยซูได้ปรากฏตัวในการสแกนอัลตราซาวด์ทารกหลายคนของหญิงตั้งครรภ์ความรักคือใบหน้าของยาอาจเป็นรูปแบบเริ่มต้นที่ดึงดูดความสนใจของเรา แต่มันเป็นประสบการณ์ทางอารมณ์ในช่วงเวลาที่ใกล้ชิดกับคนที่เราใส่ใจนั้นสร้างความรู้สึกที่เป็นรูปธรรมของความเชื่อมโยงตัวอย่างเช่นเด็กทารกแรกเกิดส่วนใหญ่ดูเหมือนชายชราที่ไม่พอใจที่มีผิวหนังเหี่ยวย่นและหัวล้าน แต่สำหรับผู้ปกครอง Codgers เก่าแก่เหล่านี้มีความสวยงามมารดาไม่สามารถช่วยตกหลุมรักลูกได้เพราะธรรมชาติทำให้พวกเขาค็อกเทลมิกกี้ฟินน์ของฮอร์โมนที่สร้างความผูกพันที่หลงใหลพ่อรู้สึกเช่นกัน แต่ธรรมชาติลึกลงไปตามธรรมชาติที่ตั้งใจไว้ว่านี่เป็นสิ่งที่เป็นแม่ - เด็กไม่ใช่ว่าแม่มีทางเลือกร่างกายของพวกเขาจมอยู่กับผู้ส่งสารเคมีที่ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของพวกเขาสารเคมีหนึ่งชนิดคือ oxytocin ที่ไหลผ่านสมองของแม่ในช่วงเวลาที่เกิดเพื่อกระตุ้นการหดตัวของมดลูกนอกจากนี้ยังทำงานในระหว่างการให้นมแม่นอกเหนือจากการเป็นแม่ออกซิโตซินถูกกระตุ้นโดยการสัมผัสทางกายภาพของเพศไม่น่าแปลกใจเลยที่การวิจัยได้เปิดเผยว่า oxytocin มีบทบาทในการเชื่อมทางสังคมแปลกเรารู้เรื่องนี้เพราะมีสองสายพันธุ์ของ volePrairie Voles มีส่วนร่วมในการเกี้ยวพาราสียี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างรุนแรงหลังจากนั้นพวกเขาจะผสมพันธุ์เพื่อชีวิตในทางกลับกันลูกพี่ลูกน้องของพวกเขาเกือบจะเหมือนกันคือ Montane Voles มีความสำส่อนและมีความชอบสำหรับขาตั้งหนึ่งคืนพวกเขาไม่จับคู่กับชีวิตคำอธิบายอย่างหนึ่งคือศูนย์รางวัลในสมองของทุ่งหญ้า Voles มีความไวต่อ oxytocin ในขณะที่ศูนย์เดียวกันใน Montane Voles ไม่ได้เป็น 12 Oxytocin ให้ Prairie Voles ที่รักความรู้สึกเพราะศูนย์รางวัลของพวกเขาอิ่มt เกิดขึ้นใน Montane Volesเมื่อมิคแจ็คเกอร์ร้องเพลงพวกเขาไม่สามารถรับความพึงพอใจได้เมื่อนักวิทยาศาสตร์ทางเพศปิดกั้นเส้นทางการให้รางวัลใน Prairie Voles พวกเขาก็จะสำส่อนกับหุ้นส่วนหญิงเช่นกันพวกเขาไม่ได้ติดอยู่ในตอนเช้าหรือ

ใจอ่าน 101

113

โทรกลับอย่างไรก็ตามเมื่อมีการฉีดค็อกเทลความรักรวมถึง Oxytocin ให้กับ Prairie Voles มันก็ทำงานเหมือนลูกศรของ Cupid และพวกเขาก็ผูกมัดอีกครั้งคุณสามารถพูดได้ว่าพวกเราที่ตกหลุมรักอย่างลึกซึ้งนั้นทำตัวเหมือน Prairie Volesเมื่อเราบอกว่าเคมีอยู่ระหว่างคนสองคนมีการเล่นแร่แปรธาตุที่เกิดขึ้นจริงการดึงดูดทางเพศและการตกหลุมรักคือประสบการณ์ที่อุดมไปด้วยอารมณ์ที่เกิดจากฮอร์โมนน้ำตกโดยอัตโนมัติสิ่งเหล่านี้มีอยู่ในการแลกเปลี่ยนทางสังคมครั้งแรกระหว่างเด็กทารกและแม่ แต่ยังคงเป็นเชื้อเพลิงต่อความหลงใหลในความใกล้ชิดทางสังคมตลอดชีวิตของเราเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นเราจะรู้สึกมีเสน่ห์หลงใหลภายใต้คาถามีเสน่ห์และไม่ได้อยู่ในการควบคุมมีบางอย่างแปลก ๆ ที่ทำให้เรามีความคิดอย่างมีเหตุผลดูเหมือนจะออกไปนอกหน้าต่างการทำลายแรงดึงดูดของมนุษย์ลงในสารเคมีสารเคมีและรูปแบบการกระตุ้นทางประสาทสัมผัสอาจเป็นวิธีที่วิทยาศาสตร์อธิบายประสบการณ์ แต่เมื่อแฟรงค์ซินาตร้าร้องเพลงเกี่ยวกับเวทมนตร์สีดำเก่าที่เรียกว่าความรักเขาอธิบายถึงความรุนแรงว่ามีกองกำลังลึกลับในที่ทำงานจังหวะของสารเคมีและลักษณะที่ปรากฏเป็นเพียงสองส่วนผสมในการผสมผสานระหว่างความเชื่อมโยงทางสังคมเวลาเป็นทุกสิ่งสำหรับความสัมพันธ์ทางสังคมด้วยเมื่อคนสองคนไม่ได้ขึ้นไปพวกเขามักจะบอกว่าพวกเขาไม่ได้คลิกเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นจังหวะที่เคลื่อนไหวในรูปแบบและรู้สึกสบายใจที่สุดกับผู้ที่เคลื่อนไหวด้วยตัวเองเพียงแค่ดูว่าคนรัก ﬂ irt ระหว่างการเกี้ยวพาราสีพวกเขาแลกเปลี่ยนสายตาคำพูดและการกอดรัดหากเวลาไม่ถูกต้องความสัมพันธ์มักจะถึงวาระการเคลื่อนไหวยังเป็นวิธีพื้นฐานในการระบุว่ามีอะไรมีชีวิตอยู่หรือไม่ตัวอย่างเช่นแง่มุมของการเคลื่อนไหวบอกเราเมื่อเราจัดการกับสัตว์หรือวัตถุวัตถุเคลื่อนที่ในรูปแบบที่เข้มงวดในขณะที่สัตว์มีการเคลื่อนไหว ﬂ uid, groovyครั้งต่อไปที่คุณอยู่ในห้างสรรพสินค้าดูว่าคนอื่นเคลื่อนไหวได้อย่างไรอย่างราบรื่นและเป็นไปได้อย่างราบรื่นผู้ซื้อนำและร่อนผ่านกันและกันเพื่อหลีกเลี่ยงการชนเครื่องจักรไม่สามารถเจรจากับถนนที่วุ่นวายที่เต็มไปด้วยผู้คนได้ประการที่สองประเภทของการเคลื่อนไหวจะชัดเจนทันทีหากคุณติดตั้งเรืองแสงให้เข้ากับหน้าผากของบุคคล

114

กีดขวาง

ข้อศอกข้อมือหัวเข่าและข้อเท้าจากนั้นปิดไฟในห้องคุณจะเห็นจุดที่เปล่งประกายเก้าจุดในที่มืดอย่างไรก็ตามทันทีที่คน ๆ นั้นเคลื่อนไหวคุณจะเห็นเขาหรือเธอในฐานะบุคคลทันที 13 หยุดและบุคคลนั้นจะกลายเป็นเก้าคะแนนคงที่อีกครั้งนั่นเป็นเพราะสมองของเราได้รับการปรับอย่างประณีตในการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นของสิ่งมีชีวิตแม้ว่าเราจะไม่เห็นร่างกายของพวกเขามันเป็นพื้นฐานที่เมื่อแสดงจุดแสงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงเด็กทารกที่ยังเด็กอายุน้อยกว่าสี่เดือนเห็นคนที่มองไม่เห็น 14 เหมือนใบหน้าบางครั้งการเคลื่อนไหวอาจหลอกเราให้คิดว่ามีบางสิ่งที่มีจิตใจตัวอย่างเช่นของเล่นที่ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่กับเด็ก ๆในวันของฉันหนึ่งในของเล่นยอดนิยมคือชิ้นส่วนของลวดขด ﬁ nely ที่เรียกว่า "slinky"ดูเหมือนว่าจะเดินโดยการยืดและยกปลายด้านหนึ่งขึ้นไปอีกด้านหนึ่งลงไปอีกทางหนึ่งเหมือนหนอนผีเสื้อความดึงดูดใจของ Slinky ในวันคริสต์มาสคือการเคลื่อนไหวที่เหมือนจริงที่มันมีในขณะที่มันก้าวลงบันไดก่อนที่จะมีคนเหยียบย่ำมันหรือบิดสปริงและทำลายมันให้ดีของเล่นที่ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่อยากรู้อยากเห็นเพราะพวกเขาท้าทายวิธีที่เราคิดว่าวัตถุที่ไม่มีชีวิตและสิ่งมีชีวิตควรทำตัวของเล่นจำนวนมากในวันนี้ใช้ประโยชน์จากหลักการนี้เพื่อให้ได้ผลที่ยอดเยี่ยม แต่ได้รับการเตือน: เด็กทุกคนไม่ชอบวัตถุที่ดูเหมือนเหมือนจริงความวิตกกังวลนี้อาจทำให้เกิดความสับสนกับคำถาม“ มันยังมีชีวิตอยู่หรืออะไร?”เมื่อทารกตัดสินใจว่ามีบางสิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะเห็นการเคลื่อนไหวของมันเป็นจุดมุ่งหมายพวกเขาเริ่มที่จะอนุมานจิตใจที่ควบคุมการเคลื่อนไหวในการศึกษาครั้งหนึ่ง Twelvemonth-olds เผชิญหน้ากับของเล่นยัดไส้บนแท่น 15 ดูเหมือนหมวกรัสเซียสีน้ำตาลขนยาวที่รู้จักกันในชื่อ "Shapka" ด้วยดวงตาสองปุ่มสำหรับใบหน้าตัวอย่างที่น่าเชื่อถือที่สุดของสิ่งมีชีวิตอย่างไรก็ตามไม่เป็นที่รู้จักกับทารก Shapka ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยนักวิทยาศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ในห้องอื่นทารกดู ShapkaShapka ดูลูกมันเป็นเหมือนความขัดแย้งในสปาเก็ตตี้ตะวันตกหลังจากความเงียบงันสั้น ๆ หมวกก็ส่งเสียงบี๊บและขยับทารกรู้สึกประหลาดใจและมองไปที่แม่เพื่ออธิบายบางอย่างไม่มีใครเสนอทารกชี้ไปที่ Shapka และเปล่งเสียงหมวกตอบกลับด้วยการส่งเสียงบี๊บนักวิทยาศาสตร์ที่ควบคุม Shapka ทำให้แน่ใจว่ามันตอบสนองต่อคำพูดและการเคลื่อนไหวทุกครั้งที่ทารกทำเร็ว ๆ นี้ทารก

ใจอ่าน 101

115

และหมวกก็มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนทางสังคมที่ไร้ความหมายเมื่อหมวกหมุนไปรอบ ๆ ราวกับว่าจะมองออกไปด้านข้างทารกตามหลังชุดสูทเพื่อดูว่า Shapka กำลังมองหาที่ไหนทารกกำลังรักษาหมวกราวกับว่ามันมีจุดประสงค์เพียงแค่มีปฏิสัมพันธ์ในวิธีที่ซิงโครไนซ์กับการตอบสนองของทารก Shapka และ Baby ได้กลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดทารกตอบสนองต่อการแลกเปลี่ยนดังกล่าวราวกับว่าวัตถุมีชีวิตอยู่และมีจุดประสงค์พวกเขาอนุมานความตั้งใจอย่างไรก็ตามหาก Shapka เคลื่อนไหวแบบสุ่มและไม่มีใบหน้าการเชื่อมต่อทางสังคมนี้จะไม่เกิดขึ้นและเด็ก ๆ จะไม่คัดลอกหรือพยายามติดตามผู้นำของหมวกดังนั้นการเคลื่อนไหวและใบหน้านำไปสู่การอนุมานของจุดประสงค์โดยเจตนามันเป็นการผสมผสานที่ทรงพลังที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเพิกเฉยนี่คือการมองมาที่คุณมนุษย์เด็กเป็นผู้เฝ้าดูคนที่เป็นธรรมชาติและส่วนใหญ่เรามองใบหน้าและดวงตาจุดเน้นของการจ้องมองของบุคคลอื่นเป็นสัญญาณที่ทรงพลังมากสำหรับเราที่จะมองไปในทิศทางเดียวกันMagic Johnson เป็นนักบาสเก็ตบอลที่ยอดเยี่ยมเพราะเขาใช้“ No Look”: เขาสามารถส่งลูกบอลไปยังเพื่อนร่วมทีมโดยไม่ละสายตาจากคู่ต่อสู้ 16 เขาสามารถควบคุมการจ้องมองของเขาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เล่นคนอื่นและไม่ทรยศกับเขาดวงตาที่เขากำลังจะผ่านสิ่งที่น่าประทับใจมากขึ้นคือความสามารถของเขาในการมองหาเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งแล้วส่งต่อไปยังบุคคลที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงส่งผู้พิทักษ์ไปยังทีมตรงข้ามไปในทิศทางที่ผิดความแตกต่างของเราในการเพิกเฉยต่อการจ้องมองของบุคคลอื่นแสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบที่สำคัญของการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์คืออะไร 19 พวกเขาบอกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างสู่จิตวิญญาณฉันไม่รู้เกี่ยวกับวิญญาณ แต่ดวงตาเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่าใครบางคนกำลังคิดคุณสามารถสังเกตสิ่งนี้ด้วยตัวคุณเองในครั้งต่อไปที่คุณยืนเข้าแถวที่ Supermarket Checkoutเพียงแค่ดูการแลกเปลี่ยนที่เต็มไปด้วยสายตาระหว่างผู้คนเป็นเรื่องน่าทึ่งที่เรามักจะไม่รู้ว่าภาษาของดวงตามีความสำคัญเพียงใดนี่คือเหตุผลหนึ่งว่าทำไมมันถึงไม่น่าเชื่อที่จะสนทนากับคนที่สวมแว่นกันแดดและเราไม่สามารถตรวจสอบว่าพวกเขากำลังมองหาที่ไหนตำรวจสวมแว่นกันแดดที่ทำมิเรอร์เพื่อข่มขู่ผู้ต้องสงสัยด้วยเหตุผลนี้

116

กีดขวาง

ความไวและความต้องการที่จะเห็นดวงตาของคนอื่นอยู่ตั้งแต่แรกเกิดทารกแรกเกิดชอบที่เรามองพวกเขาในสายตาแม้ว่าวิสัยทัศน์ของพวกเขาจะแย่มากจนพวกเขามีคุณสมบัติในการประกันความพิการ แต่ 18 พวกเขายังสามารถจับตามองใบหน้าและพวกเขาชอบใบหน้าของผู้ใหญ่ที่จ้องมองไปที่พวกเขา 19 เนื่องจากพวกเขามีประสบการณ์น้อยการเฝ้าดูสิ่งนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการดูจ้องมองเป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่สร้างขึ้นเมื่อแรกเกิดผู้คนที่มีความรักจ้องมองกันและกันและผู้ปกครองและเด็กทารกใช้เวลานานในการจ้องมองร่วมกันหากคุณมองเข้าไปในดวงตาของอายุสามเดือนทารกจะยิ้มให้คุณมองออกไปและหยุดยิ้มมองย้อนกลับไปและลูกก็ยิ้มอีกครั้งการจ้องมองซึ่งกันและกันเปลี่ยนการยิ้มและปิดทางสังคม 20 ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันทำงานในทิศทางอื่นถ้าทารกจ้องมองพ่อแม่ก็ยิ้มพวกเขาทำให้เราพันรอบตัวเล็ก ๆ ของพวกเขาการจ้องมองเป็นส่วนหนึ่งของทักษะทางสังคมทั่วไปที่เรียกว่าร่วมกันความสนใจ 23 เมื่อมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับสังคมพวกเขาทำเช่นนั้นโดยการแบ่งปันจุดสนใจเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงหัวข้อดูเกมบาสเก็ตบอลหรือชื่นชมภาพวาดเราสามารถเข้าร่วมในความพยายามร่วมกันเพื่อตรวจสอบโลกความสนใจร่วมกันไม่ใช่มนุษย์ที่ไม่เหมือนใครสัตว์หลายชนิดใช้เพื่อขยายขอบเขตความสนใจหรือภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นเช่นเดียวกับเมียร์คัตที่เฝ้าดูกันและกันสำหรับสัญญาณแรกของอันตรายสัตว์สามารถได้รับประโยชน์จากการเฝ้าดูคนอื่นที่เฝ้าดูโลกอย่างไรก็ตามคณะลูกขุนยังคงออกมาเกี่ยวกับว่าสัตว์อื่น ๆ สามารถอนุมานสภาพจิตใจที่มนุษย์ดูเหมือนจะอนุมาน 22 พิจารณาข้อความนี้จากบาร์บาร่า Smuts“ อะไรคือเพื่อนเพื่อ?”: อเล็กซ์จ้องที่ Thalia จนกระทั่งเธอหันมาของเธอ.เขามองไปทันทีจากนั้นเธอก็จ้องมองเขาจนกระทั่งศีรษะของเขาเริ่มหันไปหาเธอทันใดนั้นเธอก็หมกมุ่นอยู่กับการกรูมมิ่งนิ้วเท้าของเธอแต่ทันทีที่อเล็กซ์มองออกไปจ้องมองเธอก็กลับมาหาเขาพวกเขาทำเช่นนี้เป็นเวลานานกว่า ﬁ fteen นาทีเสมอด้วยเวลาที่สองแยกในที่สุดอเล็กซ์ก็จับ Thalia มองเขา 23 Smuts แสดงให้เห็นว่าอเล็กซ์และ Thalia อาจเป็นสองสามเณรที่บาร์ซิงเกิ้ลอันที่จริงคำอธิบายนี้มาจากบันทึกของเธอ

ใจอ่าน 101

117

ลิงบาบูนแอฟริกาตะวันออกสองแห่งเริ่มต้นการเกี้ยวพาราสีมันอาจจะถูกยกออกจากฉากจากเซ็กส์ในเมืองแม้ว่าฉันจะเดาว่าผู้หญิงคนหนึ่งดูแลนิ้วเท้าของเธอในที่สาธารณะสัตว์สามารถอ่านใจได้หรือไม่?แน่นอนว่าพวกเขาดูเหมือนจะจ้องมอง แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าพวกเขาสามารถไปถึงขั้นตอนต่อไปได้จริง ๆ ซึ่งก็คือการคิดว่าคนอื่นมีสภาพจิตใจเช่นความเชื่อและความปรารถนานั่นคือสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคุณภาพของมนุษย์โดยเฉพาะและเป็นสิ่งที่ทารกประสบความสำเร็จระหว่างปีแรกและปีที่สองของพวกเขาชาวสะมาเรียที่ดีสามารถเข้าใจผู้อื่นได้ว่ามีเป้าหมายเป็นเครื่องมือในการอ่านใจที่ทรงพลังมันช่วยให้เราสามารถตีความการกระทำของผู้อื่นได้อย่างมีจุดประสงค์และยังช่วยให้เราสามารถคาดการณ์สิ่งที่พวกเขาจะทำต่อไปพิจารณาลำดับเหตุการณ์ต่อไปนี้ราวกับว่าดูหนังเงียบนักปีนเขาที่กล้าหาญของเราเข้าใกล้เนินเขาสูงชันและเริ่มขึ้นทางลาดครึ่งทางขึ้นเขานักปีนเขามาถึงระดับที่เขาหยุดชั่วครู่ก่อนที่จะกลับมาเดินทางต่อบนเนินเขาอีกคนกำลังรออยู่ทันใดนั้นคนอื่น ๆ ก็พุ่งลงไปที่เนินเขาปิดกั้นความคืบหน้าของนักปีนเขาและบังคับให้เขาลงไปตามทางลาดที่เหลือด้วยการผลักซ้ำเกิดอะไรขึ้นที่นี่?นี่เกี่ยวกับข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินหรือไม่?หรือบางทีพวกเขากำลังดวลมือสำหรับหญิงสาวที่อาศัยอยู่ที่ด้านบนของเนินเขา?สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่ามีการปะทะกันที่น่าสนใจและทั้งสองไม่ใช่เพื่อนในภาพยนตร์อีกเวอร์ชั่นอื่นแทนที่จะขัดขวางการปีนเขาของนักปีนเขาอีกคนหนึ่งเข้ามาและช่วยปีนเขาให้ลาดชันอีกครั้งจินตนาการที่อุดมสมบูรณ์สามารถสร้างคำอธิบายที่เป็นไปได้เขาเป็นชาวสะมาเรียที่ดีที่ช่วยปีนเขาขึ้นเขาหรือไม่?ที่จริงแล้วเหตุการณ์ทั้งสองเป็นภาพเคลื่อนไหวคอมพิวเตอร์ที่นักจิตวิทยาของเยลใช้ในการตรวจสอบต้นกำเนิดของศีลธรรมของมนุษย์ 24 ผู้เล่นหลายคนในมินิดรามาสเหล่านี้-นักปีนเขาผู้จู่โจมของเขาและชาวสะมาเรียที่ดีรอบ ๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์แต่เมื่อคุณดูลำดับเหล่านี้คุณไม่สามารถช่วยได้ แต่เห็นว่าเป็น

118

กีดขวาง

บุคคลที่มีจุดประสงค์ที่มีเป้าหมายและบุคลิกภาพที่ทำงานที่นี่คือมานุษยวิทยาที่เราอธิบายไว้ในบทสุดท้ายแม้แต่รูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่ายก็ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่หากพวกเขาเคลื่อนไหวด้วยตัวเองใช้เส้นทางที่มีจุดประสงค์มานุษยวิทยาของเราทำให้รูปร่างมีคุณสมบัติที่เป็นมนุษย์ของสภาพจิตใจโดยการจี้กฎสำหรับการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตและนำไปใช้กับวัตถุเราทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับคุณหรือฉันเด็กทารกอายุสิบสองเดือนที่ดูลำดับเหล่านี้ยังตัดสินลักษณะของแต่ละรูปร่างว่าดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับวิธีการทำงานของมันนานก่อนที่เราจะมีโอกาสสอนทารกเกี่ยวกับคนที่ดีและไม่ดีทารกกำลังตัดสินเหล่านี้โดยเพียงแค่ดูปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างแรกนักปีนเขาถูกมองว่ามีจุดประสงค์กับความปรารถนาที่จะไปถึงการประชุมสุดยอดผู้โจมตีที่บังคับให้นักปีนเขากลับลงมาจากเนินเขานั้นน่ารังเกียจในขณะที่คนที่ช่วยนักปีนเขานั้นดีเรารู้สิ่งนี้เพราะถ้าผู้ช่วยหรือผู้ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมทันทีเด็กทารกจะสังเกตเห็นสวิตช์ทารกรู้บางอย่างเกี่ยวกับธรรมชาติของผู้เล่นแต่ละคนไม่เพียงแค่นั้น แต่เมื่อต่อมาเสนอของเล่นแบบจำลองของผู้ช่วยหรือ Hinderer ให้เล่นด้วยเด็กเกือบทุกคนเลือกตุ๊กตาผู้ช่วยทารกชอบที่จะเล่นกับชาวสะมาเรียที่ดี 25 ถ้าหลังจากผลักคนปีนเขาลงเนินแล้ว Hinderer จะถูกทาสีเพื่อให้ตอนนี้ดูเหมือนชาวสะมาเรียที่ดีเด็กทารกจะไม่ถูกหลอกโดยการเปลี่ยนแปลงภายนอกพวกเขารู้ว่าลึกลงไปมันยังคงเป็นงานที่น่ารังเกียจเพราะพวกเขาประหลาดใจถ้ามันเริ่มช่วยนักปีนเขาอีกครั้งทารกรู้ว่าการปรากฏตัวอาจเป็นการหลอกลวงและความเลวร้ายนั้นเป็นบุคลิกที่ลึกล้ำเมื่อคำพูดไป“ เสือดาวไม่สามารถเปลี่ยนจุดได้”ตัวแทนลับไม่ว่าจะเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่กล้าหาญของเล่นเคลื่อนไหวหรือ Shapkas รัสเซียที่อาจเกิดขึ้นการออกแบบใจทำให้เราต้องปฏิบัติต่อสิ่งต่าง ๆ ราวกับว่าพวกเขามีจุดประสงค์และเป้าหมายแนวโน้มตามธรรมชาติของเราที่จะสมมติว่าพฤติกรรมของผู้คนได้รับแรงบันดาลใจจากจิตใจช่วยให้เราสามารถทำนายสิ่งที่พวกเขาอาจทำต่อไปนี่คือสิ่งที่ Dan Dennett เรียกว่าการใช้“ ท่าทางโดยเจตนา”เมื่อเราใช้ท่าทางโดยเจตนาเราตรวจพบผู้อื่นเป็นตัวแทนตัวแทนที่นี่ไม่ใช่

ใจอ่าน 101

119

เจมส์บอนด์ แต่เป็นสิ่งที่ทำหน้าที่โดยมีจุดประสงค์เราให้ความสำคัญกับความเชื่อและความปรารถนาของตัวแทนเช่นเดียวกับความฉลาดบางอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้น 26 นี่อาจเป็นกลยุทธ์ที่ปรับตัวได้เพื่อให้แน่ใจว่าเรามักจะมองหาเหยื่อและนักล่าที่อาจเกิดขึ้นด้วยการใช้ท่าทางโดยเจตนาคุณจะให้โอกาสที่ดีที่สุดในการแข่งขันทางอาวุธของการดำรงอยู่กับอาหารและหลีกเลี่ยงการกินอย่างไรก็ตามปัญหาในการสมมติว่าท่าทางโดยเจตนาคือมันสามารถเกิดขึ้นได้อย่างผิด ๆสิ่งที่ไม่มีความตั้งใจ แต่ดูเหมือนจะ - เพราะพวกเขาอาจดูราวกับว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ (การเคลื่อนไหวและใบหน้า) หรือประพฤติราวกับว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ (ตอบสนองอย่างอาจเกิดขึ้น) - ทำให้เราคิดว่าพวกเขาเป็นตัวแทนเรามีแนวโน้มที่จะคิดว่าพวกเขามีจุดประสงค์และมีจิตใจมี บริษัท หนึ่งแห่งในซอมเมอร์เซ็ทที่ฉันอาศัยอยู่ซึ่งทำให้เครื่องดูดฝุ่นที่มีใบหน้าที่ทาสีอยู่ด้านหน้าเรียกว่า“ เฮนรี่”ที่จริงแล้วมันเรียกว่า "Numatic HVR 200-22 Red Henry Vacuum Cleaner" แต่ผู้คนรู้ว่า "เฮนรี่" สั้นจากการอ่านบทวิจารณ์ของลูกค้าบนเว็บไซต์ Amazon ซึ่งคุณสามารถซื้อเครื่องดูดฝุ่นออนไลน์ได้ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวดูดเล็ก ๆ น้อย ๆสิ่งที่น่าแปลกใจคือวิธีที่ผู้คนอธิบายเครื่องดูดฝุ่นเฮนรี่ไม่ได้ถูกเรียกว่าเป็นเครื่องจักร แต่เป็น

รูปที่.10: เครื่องดูดฝุ่น“ เฮนรี่”© Numatic International Ltd.

120

กีดขวาง

“ เขา”“ ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์” และอื่น ๆในฐานะลูกค้าคนหนึ่งกล่าวว่า:“ เรามีเฮนรี่ของเรามาประมาณ 14 ปีแล้วเขาทำความสะอาดบ้านรถและฝุ่น DIY โดยไม่มีการร้องเรียน--และเขาก็ยิ้มเสมอคุณขอโทษด้วยเครื่องใช้ในครัวเรือนกี่คนหากคุณอุบัติเหตุ [sic] ปังมันอยู่ที่มุมหนึ่งขณะที่คุณเดินไปรอบ ๆ ?”เฮนรี่ทำให้เกิดท่าทางโดยเจตนาที่แข็งแกร่งในเจ้าของของเขาอย่างชัดเจนฉันไม่คิดว่าจะมีใครเชื่อจริง ๆ ว่าเฮนรี่ยังมีชีวิตอยู่หรือมีความรู้สึกแต่เครื่องดูดฝุ่นแสดงให้เห็นว่าการใช้ท่าทางโดยเจตนานั้นง่ายเพียงใดนี่อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายท้ายที่สุดเมื่อเราพยายามที่จะเข้าใจและทำนายเหตุการณ์ในโลกการใช้ท่าทางโดยเจตนาทำให้เรามีวิธีการกำหนดกรอบข้อมูลและการทำสิ่งต่าง ๆตัวอย่างเช่นสมมติว่ารถของฉันหยุดพักหนึ่งวันเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งนี้ฉันต้องวางแผนแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาเธอทำให้หนักใจอะไรบางทีเธออาจต้องการรองรองเด็กหญิงชราต้องการการยกหน้าDennett ยกตัวอย่างที่ดีอีกครั้ง 27 ชาวสวนหลอก ﬂ owers ของพวกเขาลงในรุ่นโดยวางไว้ใน hothouse เพื่อให้พวกเขาคิดว่ามันเป็นฤดูใบไม้ผลิท่าทางโดยเจตนาเป็นเพียงวิธีที่สะดวกสบายในการพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกธรรมชาติและโลกแต่อย่างที่เราเห็นในความเกลียดชังของเพียเจต์ในเด็กวิธีคิดนี้เกิดขึ้นเร็วและอาจสนับสนุนความรุนแรงว่ามีตัวแทนลับดำเนินการทั่วโลกมันเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติเพราะมันหมายถึงการขยายตัวของท่าทางโดยเจตนาจากตัวแทนจริงที่มีจิตใจไปยังวัตถุที่ไม่สามารถมีชีวิตจิตแบบนี้ได้แน่นอนว่าเราเข้าสู่วิธีคิดเหนือธรรมชาตินี้ได้อย่างง่ายดายอย่างน่าทึ่งเราอาจหัวเราะออกมา แต่เมื่อคำพูดไปก็ไม่มีควันหากไม่มีมันต้องมีบางอย่างในการให้เหตุผลของเราแฝงตัวอยู่ที่ด้านหลังของจิตใจของเรากระบวนการเดียวกับที่ทำให้เราเป็นเด็กทารกเพื่อค้นหาตัวแทนที่มีศักยภาพในโลกยังคงหลอกเราในฐานะผู้ใหญ่ที่คิดว่าโลกมีประชากรมีวัตถุประสงค์ที่มีจุดประสงค์และจงใจผีในเครื่องเนื้อไม่ว่าเราจะอ่านใจของเราเองหรืออนุมานจิตใจของผู้อื่นเรากำลังปฏิบัติต่อจิตใจที่แยกจากร่างกายความคิดนี้ว่าจิตใจมีอยู่แยกต่างหากจากร่างกายเป็นที่รู้จัก

ใจอ่าน 101

121

เป็น“ คู่รัก”ในหนังสือของเขาที่ลูกน้อยของ Descartes Paul Bloom ประกาศถึงการทำงานเป็นหิมะถล่มที่น่าประทับใจเพื่อยืนยันว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อเป็นคู่ที่ใช้งานง่าย 28 สารเสพติดคู่คือตำแหน่งทางปรัชญาที่มนุษย์ประกอบด้วยสารสองชนิดที่แตกต่างกันวิญญาณที่ไม่มีสาระสำคัญจิตใจของเราเป็นส่วนหนึ่งของวิญญาณนี้ที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเราการแยกตัวของร่างกายและจิตใจ-หรือ“ ปัญหาร่างกายร่างกาย” ตามที่ทราบกันดีว่าเป็นสิ่งที่ทำให้นักปรัชญาและนักประสาทวิทยาตื่นขึ้นมาในเวลากลางคืนให้ฉันอธิบายว่าทำไมเราแต่ละคนประสบกับชีวิตจิตของเราแตกต่างจากร่างกายของเราเราสามารถเห็นได้ว่าร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงไปในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่เรารู้สึกว่าเรายังคงเป็นคนคนเดียวกันตัวอย่างเช่นฉันคิดว่าฉันยังคงเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่ฉันอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายบางครั้งฉันก็ยังทำตัวเป็นอย่างนั้นความรู้ประสบการณ์ความทะเยอทะยานลำดับความสำคัญและข้อกังวลของเราอาจเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ความรู้สึกของตัวเองนั้นคงที่นี่เป็นหนึ่งในแง่มุมที่น่าผิดหวังที่สุดของความชราคนชราไม่รู้สึกว่าพวกเขามีอายุมากขึ้นเฉพาะร่างกายของพวกเขาเท่านั้นและสิ่งที่แย่กว่านั้นคือสังคมตะวันตกมีอายุมากขึ้นเรื่อย ๆเราปฏิบัติต่อคนชราที่แตกต่างและอุปถัมภ์พวกเขาแต่คนชรารู้สึกว่าพวกเขามักจะไม่แตกต่างจากตอนที่พวกเขายังเด็กเมื่อเรามองเข้าไปในกระจกเราจะเห็นได้ว่าการทำลายล้างของเวลาและแรงโน้มถ่วงได้รับผลกระทบจากร่างกายของเราอย่างไร แต่เราก็ยังรู้สึกว่าเราเป็นคนเดียวกันเราอาจเปลี่ยนความเชื่อและความคิดเห็นของเราตามกาลเวลาโดยตระหนักว่าเพลงพังค์บางเพลงนั้นค่อนข้างแย่ แต่เราไม่ได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของบุคคลที่มีความเชื่อหรือความคิดเห็นเหล่านั้นนั่นเป็นเพราะเราไม่สามารถก้าวออกไปข้างนอกจิตใจของเราเพื่อดูว่ามันมีลักษณะอย่างไรจากมุมมองที่แตกต่างเราคือจิตใจของเรานอกเหนือจากความอยุติธรรมที่โหดร้ายของจิตใจที่อ่อนเยาว์ที่ถูกขังอยู่ในร่างกายที่มีอายุมากประสบการณ์ประจำวันของเราบอกเราอย่างต่อเนื่องว่าจิตใจของเราทำงานอย่างอิสระและล่วงหน้าของร่างกายของเราทุกช่วงเวลาที่ตื่นเราตัดสินใจที่นำหน้าการกระทำของเราดูเหมือนว่าร่างกายของเราถูกควบคุมโดยความคิดของเราเรารู้สึกถึงการประพันธ์ของการกระทำเราเป็นคนที่ทำนี่คือประสบการณ์ของเจตจำนงเสรีอย่างมีสติอย่างไรก็ตามเจตจำนงเสรี - ความคิดที่ว่าเราสามารถเลือกอะไรก็ได้ที่เราต้องการเมื่อใดก็ตามที่เราต้องการ - น่าจะเป็นภาพลวงตาประสบการณ์ของเจตจำนงเสรีเป็นเรื่องจริงมาก แต่ความเป็นจริงของมันเป็นที่น่าสงสัยมาก

122

กีดขวาง

นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ (ผู้ที่ศึกษากลไกการคิด) เชื่อว่าในความเป็นจริงแล้วเราเป็นออโตมาตาที่มีสติในการใช้ชุดสมการที่อิงตามกฎในหัวของเราเราตระหนักดีถึงผลลัพธ์บางอย่างจากกระบวนการเหล่านี้นี่คือความคิดของเราเราประสบกับกระบวนการทางจิตในการชั่งน้ำหนักหลักฐานการพิจารณาทางเลือกและการคาดการณ์ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ แต่ข้อสรุปที่ว่าจิตใจของเรามีเจตจำนงเสรีในการตัดสินใจเหล่านั้นไม่สมเหตุสมผลหากคุณสงสัยสิ่งนี้ (และผู้อ่านส่วนใหญ่จะ) ให้พิจารณาสิ่งนี้หากเรามีอิสระที่จะตัดสินใจ ณ จุดใดที่ตัดสินใจและใครเป็นคนทำ?ใครเป็นคนชั่งน้ำหนักหลักฐาน?“ ฉัน” อยู่ที่ไหนในหัวของฉันโดยพิจารณาจากตัวเลือกและทำ“ Eeny, Meeny, Miny, Moe?”นั่นจะต้องมีใครบางคนในหัวของเราหรือผีภายในเครื่องแต่ผีในเครื่องตัดสินใจอย่างไรจะต้องมีใครบางคนในหัวของผีกำลังเลือกดังนั้นหากมีผีเพียงตัวเดียวมันมาถึงการตัดสินใจอย่างไร?มันดูทางเลือกทั้งหมดแล้ว ﬂ ip a Coin หรือไม่?ถ้าเป็นเช่นนั้น ﬂ ipping เหรียญแทบจะไม่เป็นอิสระNumskulls บรรณาธิการของฉันบอกฉันว่าสิ่งเหล่านี้เป็นแนวคิดที่แตกต่างกันจริง ๆ ที่ต้องอธิบายดังนั้นแทนที่จะเป็นผีภายในหัว ﬂ ipping เหรียญให้ฉันบอกคุณเกี่ยวกับ "numskulls"เมื่อฉันยังเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาในดันดีสกอตแลนด์“ The Numskulls” เป็นการ์ตูนการ์ตูนท้องถิ่นเกี่ยวกับกองทัพของคนตัวเล็กที่อาศัยอยู่ในหัวของชายคนหนึ่งชื่อ Eddพวกเขาเป็นคนงานที่ควบคุมร่างกายและสมองของเขาและเช่นเดียวกับคนงานในโรงงานบางครั้งพวกเขาก็จะเมาตัวอย่างเช่น numskull ที่ควบคุมกระเพาะอาหารจะเห็นว่าสำรองลดลงและส่งคำขออาหารเพิ่มเติมnumskull ที่รับผิดชอบในการให้อาหารจะดึงคันโยกเพื่อกิน EDDบางที numskull ในท้องจะหลับไปที่สถานีของเขาเพราะอาหารทั้งหมดและ Edd จะจบลงด้วยการ stuf ﬁ ng ตัวเองจนกว่าเขาจะป่วยไฟเตือนจะดับลงในแผนกสมองที่ซึ่งเจ้านาย Numskull นั่งอยู่ที่โต๊ะผู้บริหารของเขาอ่านข้อความที่เข้ามาแล้วก็จะมี

ใจอ่าน 101

123

การแข่งขันที่คลั่งไคล้เพื่อบอกการกิน numskull ให้หยุดทำงานคุณสามารถดูว่าสถานการณ์ดังกล่าวสร้างเรื่องราวการ์ตูนได้อย่างง่ายดายในแต่ละสัปดาห์เนื่องจากเครื่องที่เรียกว่า EDD จะพบปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากพนักงานภายในของเขามันเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ฉันโปรดปรานแม้ว่าฉันจะไม่ได้ตระหนักว่าผู้สร้างได้นำเสนอเด็ก ๆ ด้วยปริศนาปรัชญาที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเจตจำนงเสรี

รูปที่.11:“ The Numskulls” จากวัยเด็กของฉัน© D. C. Thomson & Co., Ltd.

Numskulls แสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจเป็นปัญหาที่ลึกซึ้งการตัดสินใจมาถึงอย่างไร?หากต้องเลือกทางเลือกจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?เราคิดอย่างสังหรณ์ใจว่าเราตัดสินใจเราตัดสินใจแต่ยังไง?มีเจ้านาย numskull อยู่ในหัวของฉันหรือไม่?และถ้าเป็นเช่นนั้นใครอยู่ในหัวของเขาและอื่น ๆ ?เช่นเดียวกับชุดตุ๊กตารัสเซียที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งอยู่ข้างในอีกตัวหนึ่งในจำนวนของ numskulls กลายเป็นแนวคิดที่ไร้สาระเพื่อให้ได้ทุกอย่างประสบการณ์ของการตัดสินใจอย่างมีสติก่อนหน้าเหตุการณ์อาจเป็นภาพลวงตาถ้าฉันขอให้คุณย้าย ﬁ nger ของคุณเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่ามันคุณสามารถนั่งที่นั่นแล้วในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะเพิ่มหลักของคุณนั่นคือสิ่งที่มีสติฟรีจะรู้สึกเหมือนแต่เรารู้จากการวัดการทำงานของสมองในขณะที่คุณนั่งอยู่ที่นั่นรอที่จะตัดสินใจว่าจุดเมื่อคุณคิดว่าคุณ

124

กีดขวาง

มาถึงการตัดสินใจที่จะย้าย ﬁ nger ของคุณเกิดขึ้นจริงหลังจากสมองของคุณได้เริ่มดำเนินการแล้ว 29 ในคำอื่น ๆ ประเด็นในเวลาที่เราคิดว่าเราได้เลือกเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์มันเหมือนกับการวางเกวียนแอ็คชั่นไว้ก่อนม้าที่มีสติประสบการณ์ทางจิตของ Will Free Will อาจพิสูจน์ได้ว่าสมองของเราได้ตัดสินใจที่จะนำไปใช้แล้วในการอธิบายการตัดสินใจหลังความเป็นจริงประเภทนี้สตีเว่น Pinker กล่าวว่า“ จิตใจที่มีสติ-ตัวเองหรือวิญญาณ-เป็นหมอหมุนไม่ใช่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด” 30 จิตใจกำลังสร้างเรื่องราวที่ﬁ ts กับการตัดสินใจหลังจากที่พวกเขาได้ทำขณะที่ฉันเขียนประโยคที่หนักหน่วงเหล่านี้ฉันหยุดและหยิบเหยือกกาแฟของฉันการกระทำที่เรียบง่ายนี้เป็นหนึ่งในปาฏิหาริย์ของธรรมชาติก่อนอื่นใครตัดสินใจถ้าไม่ใช่ฉัน?ความคิดทางจิตของฉันจะทำให้มือร่างกายของฉันขยับได้อย่างไร?จิตใจมีปฏิสัมพันธ์กับร่างกายอย่างไร?นี่เป็นปัญหาที่ลึกซึ้งที่สุดที่มีนักคิดที่หมกมุ่นอยู่กับพันปี แต่พวกเราส่วนใหญ่ไม่เคยกังวลที่จะพิจารณาว่าคำถามเหล่านี้น่าทึ่งเพียงใดนี่เป็นเพราะเราไม่เห็นปัญหาเลยเราปฏิบัติต่อจิตใจและร่างกายโดยแยกจากกันเพราะนั่นคือสิ่งที่เราพบฉันควบคุมร่างกายของฉัน แต่ฉันเป็นมากกว่าแค่ร่างกายของฉันเรารู้สึกว่าเรามีอยู่อย่างอิสระจากร่างกายของเราสำหรับพวกเราส่วนใหญ่มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเราใช้ชีวิตจิตของเราที่ไหนสักแห่งที่อยู่เบื้องหลังดวงตาของเราภายในหัวของเราหากเราต้องการดูว่ามีอะไรอยู่ข้างหลังเราเราจะนำเรือไปรอบ ๆ เพื่อดูถ้าเราต้องการกาแฟเรามีส่วนร่วมกลไกการซื้อกาแฟเรารู้สึกเหมือนนักบินที่ควบคุมเครื่องเนื้อสัตว์ที่ซับซ้อนมีเพียงหนึ่ง numskull ในการควบคุมภายในหัวของฉันและมันเป็นฉัน แต่ฉันจะควบคุมร่างกายที่ไม่ใช่ทางกายภาพได้อย่างไร?ผีในหัวของฉันจะดึงคันโยกได้อย่างไร?นักปรัชญา Dualist René Descartes เสนอว่าโลกจิตจะต้องควบคุมร่างกายทางกายภาพผ่านต่อมไพเนียลลึกลงไปกลางสมองซึ่งเขาเรียกว่าที่นั่งของวิญญาณ 31 การแก้ปัญหาของ Descartes แสดงให้เห็นถึงคู่รักซึ่งต้องการให้มีวิญญาณที่แยกออกจากร่างกายและยังอยู่ในการควบคุมของร่างกายแต่การใช้สารคู่ต้องผิดจิตใจไม่ได้แยกออกจากร่างกาย แต่เป็นผลิตภัณฑ์ของก้อนข้าวโจ๊กสีเทาสามปอนด์ในหัวของเราเมื่อคุณเสียหายลบกระตุ้นโพรบปิดการใช้งานยาเสพติดหรือเพียงแค่

ใจอ่าน 101

125

ทุบตีสมองจิตใจมีการเปลี่ยนแปลงตามนั้นในศตวรรษที่ผ่านมาศัลยแพทย์สมองชาวแคนาดาผู้ยิ่งใหญ่ Pen Wilder Pen eld eld ผู้บุกเบิกการผ่าตัดผู้ป่วยที่ตื่นขึ้นมาเพื่อรักษาโรคลมชักรวมถึงน้องสาวของเขาเองเขาจะเปิดเผยพื้นผิวของสมองและจากนั้นกระตุ้นภูมิภาคที่เขากำลังจะทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าเขาหลีกเลี่ยงพื้นที่มอเตอร์ที่อาจทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาตเมื่อเขากระตุ้นสมองโดยตรงผู้ป่วยจะได้รับการเคลื่อนไหวความรู้สึกและความทรงจำที่สดใสพวกเขารสชาติรสชาติมีกลิ่นกลิ่นและประสบการณ์ที่ผ่านมาการกระตุ้นโดยตรงพิสูจน์ว่าชีวิตทางจิตเป็นผลมาจากสมองทางกายภาพแม้ว่าจะมีที่นั่งของวิญญาณที่ควบคุมร่างกายของเราเราจะอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสารทั้งสองชนิดนี้ได้อย่างไรหนึ่งที่ไม่มีสาระสำคัญและวัสดุอื่น ๆกล่าวอีกนัยหนึ่งสารที่ไม่มีสาระสำคัญจะทำหน้าที่ใด ๆ ได้อย่างไร?ยังไม่ชัดเจนว่ามันจะทำงานได้อย่างไรวิธีการแก้ปัญหาและจิตใจของเดส์การ์ตโดยการแนะนำวิญญาณที่ควบคุมร่างกายผ่านต่อมไพเนียลข้ามขอบเขตระหว่างสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับสภาพจิตใจ (ว่าพวกเขาไม่มีสาระสำคัญ) และสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับสถานะทางกายภาพ (เป็นวัสดุ)หากสิ่งที่ไม่ใช่วัสดุอาจทำหน้าที่โดยตรงกับวัสดุสิ่งนี้จะต้องใช้กลไกนอกเหนือจากความเข้าใจตามธรรมชาติของเรามันจะต้องเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติและนี่คือสิ่งที่เราทุกคนมีประสบการณ์ทุกวันเราไม่เพียง แต่เชื่อว่าเราแตกต่างจากร่างกายของเรา แต่เมื่อ Bloom ชี้ให้เห็นว่าเราครอบครองพวกเขาเราครอบครองพวกเขาเราเป็นเจ้าของพวกเขาอีกครั้งนี่เป็นภาพลวงตาที่สมองสร้างขึ้นเพื่อเราตัวอย่างเช่นเมื่อคุณตัดตัวเองคุณจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดใน nger ของคุณ แต่ในความเป็นจริงในสมองของคุณเมื่อคุณใช้ยาแก้ปวดมันทำงานได้โดยการเปลี่ยนเคมีของสมองของคุณไม่ใช่ ﬁ nger ของคุณแต่คุณก็รู้สึกเจ็บปวดใน ﬁ ngerผู้ป่วยโชคไม่ดีพอที่จะสูญเสียขาหรือแขนผ่านการตัดแขนขามักจะพบกับแขนขาที่หายไปของพวกเขาเช่นเดียวกับแขนขาจริง "แขนขา" เหล่านี้ได้รับคันและสามารถกระตุ้นได้ แต่พวกเขาก็เป็นภาพลวงตาเช่นกันพวกเขาเป็นผลิตภัณฑ์ของสมองที่ล้มเหลวในการอัปเดตการสูญเสียส่วนของร่างกายในแผนที่โดยรวมราวกับว่าคอนโทรลเลอร์ Numskull บางคนกำลังดูแผนผังสำหรับโรงงานและไม่ได้ตระหนักว่าส่วนหนึ่งถูกปิดลง

126

กีดขวาง

บริเวณสมองก่อนหน้านี้รับผิดชอบในการรับสัญญาณจากแขนขาที่หายไปยังคงดำเนินต่อไปราวกับว่าแขนขายังคงเชื่อมต่ออยู่ตัวอย่างเหล่านี้พิสูจน์บางสิ่งที่น่ารำคาญมากสมองสร้างทั้งจิตใจและร่างกายที่เราพบสิ่งทางกายภาพสร้างโลกจิตที่เราอาศัยอยู่ประสบการณ์ของจิตใจนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและหลีกเลี่ยงไม่ได้นักจิตวิทยาชาวฮาร์วาร์ด Dan Wegner คิดว่าประสบการณ์ของเจตจำนงเสรีอย่างมีสติในใจของเราอาจทำงานได้เหมือนเครื่องหมายร่างกายของ Damasio 33 33 จำได้ว่าอารมณ์ช่วยเราในการตัดสินใจของเราโดยให้ความมั่นใจกับเราหรือไม่?Wegner คิดว่าประสบการณ์ของการมีสติฟรีจะทำงานในลักษณะเดียวกันร่างกายของฉันอาจบอกฉันว่ามันต้องการกาแฟ slurp แต่ฉันได้สัมผัสกับการตัดสินใจเป็นความปรารถนาที่จะดื่มสิ่งนี้ช่วยให้ฉันสามารถติดตามการตัดสินใจของฉันโดยเพิ่มความรู้สึกของพวกเขาด้วยความรู้สึกควบคุมนี่คือเหตุผลที่เรามีประสบการณ์ในการตัดสินใจอย่างมีจุดประสงค์และการประเมินอย่างมีสติเราจำเป็นต้องจดบันทึกเหตุการณ์สำหรับการอ้างอิงในอนาคตแต่เราจะผิดในการสมมติว่าประสบการณ์ทางจิตของเราในเวลานั้นรับผิดชอบการตัดสินใจที่เราทำชีวิตจิตมนุษย์ทั้งหมดเป็นแบบนี้หรือไม่?แล้วแผนสำหรับอนาคตเช่นแผนการแก้แค้นเป้าหมายด้านมนุษยธรรมและความจำเป็นในการทำเรื่องตลกหรือเขียนหนังสือวิทยาศาสตร์ยอดนิยม?ยานยนต์ที่มีสติจะต้องรับผิดชอบต่อขอบเขตของชีวิตจิตและแรงบันดาลใจทั้งหมดที่ดูเหมือนว่าจะมุ่งไปสู่อนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น?ความจริงที่ว่ากิจกรรมของมนุษย์และประสบการณ์ทางจิตมีความซับซ้อนไม่ได้อยู่ภายใต้คำถามแต่ในทำนองเดียวกันเรามองไปที่โครงสร้างหรือพฤติกรรมที่ซับซ้อนในโลกสัตว์เช่นการสร้าง Spiderweb หรือสร้างรังของตัวต่อและสงสัยว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ซับซ้อนสามารถพัฒนาในสิ่งมีชีวิตที่เราไม่ได้กล่าวถึงจิตใจต้องให้ความบันเทิงอย่างเท่าเทียมกันความเป็นไปได้ที่มนุษย์เป็นเพียงรูปแบบชีวิตที่ซับซ้อนกว่า - รูปแบบที่สามารถวางแผนและคาดการณ์ผลลัพธ์ได้ปัจจัยที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการเหล่านี้ที่นำไปสู่ชีวิตทางจิตที่ซับซ้อนในมนุษย์นั้นมีความหลากหลายและมีหลายแง่มุมประสบการณ์ทางจิตที่มาพร้อมกับการประมวลผลดังกล่าวไม่อาจปฏิเสธได้ แต่เราไม่จำเป็นต้องทำให้เกิดความคิดที่มีอยู่เป็นอิสระและแยกออกจากสมองทางกายภาพเพื่ออธิบาย

ใจอ่าน 101

127

แม้ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่ตระหนักถึงปัญหาของการใช้สารเสพติดและทำไมการแก้ปัญหาของเดส์การ์ตจึงจำเป็นต้องผิดฉันก็ยังไม่สามารถเพิกเฉยต่อความรู้สึกที่ท่วมท้นของจิตใจของฉันเองผลผลิตของร่างกายของฉันทั้งสองโต้ตอบอย่างไร?นั่นคือปัญหาด้านจิตใจนั่นคือสิ่งที่ทำให้ฉันตื่นตอนกลางคืนหากประสบการณ์การใส่ใจประจำวันของฉันทั้งหมดเกี่ยวกับ“ ฉัน” ที่พำนักอยู่ในหัวของฉันเหมือนเจ้านาย numskull จริง ๆ แล้วมันจะต้องมีคำอธิบายเหนือธรรมชาติเพื่อให้เข้าใจถึงมันนั่นเป็นเพราะเราไม่มีคำอธิบายที่เป็นธรรมชาติว่าสิ่งที่ไม่มีมิติทางกายภาพสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในโลกทางกายภาพได้อย่างไรนี่คือเหตุผลว่าทำไมปัญหาร่างกายและจิตใจจึงเป็นหนึ่งในความลึกลับที่ยิ่งใหญ่ของชีวิตใจสมองของฉันปัญหาร่างกายจิตใจไม่ปรากฏในเรดาร์ของคนส่วนใหญ่มันไม่ใช่ปัญหาจนกว่าจะมีคนชี้ให้เห็นหรือคุณอ่านหนังสือแบบนี้ผู้คนมีความคิดที่คลุมเครือว่าจิตใจและสมองเชื่อมโยงกันอย่างใด แต่พวกเขาไม่ค่อยหยุดที่จะไตร่ตรองว่าทั้งสองสามารถพูดคุยกันได้อย่างไรมนุษย์ส่วนใหญ่ประสบกับจิตสำนึกของจิตใจของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยก่อนที่พวกเขาจะค้นพบว่าพวกเขามีสมองดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เด็กเล็กสามารถบอกคุณเกี่ยวกับจิตใจของพวกเขาได้มากกว่าที่พวกเขาจะบอกคุณเกี่ยวกับสมองของพวกเขาได้ 34 อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ค่อยใช้คำว่า "ความคิด" แต่ใช้ "ฉัน" "ของฉัน" และ "ของฉัน.”เป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติในการอธิบายตัวเองในทางกลับกันสมองเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้และมาพร้อมกับการศึกษาวิทยาศาสตร์คุณสามารถออกไปได้ว่าเด็กเรียนรู้เกี่ยวกับสมองมากแค่ไหนโดยถามพวกเขาว่า“ คุณต้องการสมองของคุณหรือไม่---พิมพ์คำถามในปีแรกของโรงเรียนเด็กส่วนใหญ่เช่นผู้ใหญ่เข้าใจว่าสมองมีไว้สำหรับการคิดรู้รู้ดีและจดจำอย่างไรก็ตามพวกเขายังรู้สึกว่าพวกเขามีจิตใจที่ควบคุมและแยกออกจากสมองของพวกเขาตัวอย่างเช่นพวกเขาไม่ถือว่าสมองเป็นผู้รับผิดชอบต่อความรู้สึกเช่นความหิวความง่วงนอนความเศร้าและความกลัวจากมุมมองของเด็ก“ ฉันเป็นคนเศร้าฉันที่เหนื่อยและฉันที่หิว”

128

กีดขวาง

คำตอบเหล่านี้บอกเราว่าเด็ก ๆ มองความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากกว่าความคิดนี่เป็นเพราะความรู้สึกส่งผลกระทบต่อเราในทางอารมณ์โดยตรงเมื่อเราเศร้าเรารู้สึกถึงความเจ็บปวดความทุกข์ยากหรือความสิ้นหวังมันคือ“ ฉัน” ที่ทนทุกข์เมื่อเรามีความสุขเรารู้สึกถึงความอิ่มเอมใจความตื่นเต้นหรือความพึงพอใจความรู้สึกเป็นเหมือนบารอมิเตอร์ทางอารมณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่เราสามารถเปรียบเทียบได้จากช่วงเวลาหนึ่งไปอีกช่วงเวลาต่อไปมันทำให้รู้สึกง่ายขึ้นมากที่จะบอกว่าฉันมีความสุขมากกว่าที่ฉันเป็นเมื่อวานมากกว่าที่จะบอกว่าร่างกายและสมองของฉันกำลังสร้างประสบการณ์อารมณ์ประเภทต่าง ๆ จากวันหนึ่งไปอีกวันหนึ่งการบอกเล่าถึงคู่ของเด็กมากขึ้นคือวิธีที่พวกเขาพิจารณาต้นกำเนิดของการกระทำการกระทำถูกควบคุมโดยจิตใจดังนั้นการเตะลูกบอลหรือกระดิกนิ้วเท้าของฉันคือการตัดสินใจของฉันไม่ใช่สมองของฉันคำตอบประเภทนี้เผยให้เห็นว่าเด็ก ๆ เป็นคู่ที่ใช้งานง่ายเมื่อถูกถามว่า“ คุณมีจิตใจที่ไม่มีสมองได้ไหม”ทั้งเด็กอายุหกถึงเจ็ดปีกล่าวว่าใช่การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์มีเพียงเล็กน้อยที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อนี้: อายุสิบสี่ถึงสิบสี่ถึง ﬁ fteen เห็นด้วยว่าจิตใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับสมองลางสังหรณ์ของฉันคือผู้ใหญ่ส่วนใหญ่คิดว่าจิตใจสามารถดำรงอยู่ได้หากไม่มีสมองพวกเขาอาจรู้ตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์ว่าจิตใจเป็นผลิตภัณฑ์ของสมอง แต่อย่างที่เราเห็นด้วยความเข้าใจของผู้คนเกี่ยวกับการคัดเลือกโดยธรรมชาติการรู้คำตอบที่ถูกต้องไม่ได้ทำให้รู้สึกถูกต้องผู้ใหญ่ที่ยอมรับว่าจิตใจขึ้นอยู่กับสมองมีแนวโน้มที่จะทำผิดพลาดเช่นเดียวกับเดส์การ์ตในการคิดว่าจิตใจที่ไม่มีสาระสำคัญทำหน้าที่โดยตรงกับสมองวัสดุRoboCop เมื่อ ﬁ cer Murphy ได้รับบาดเจ็บระยะสุดท้ายใน robocop ทางวิทยาศาสตร์เขาได้รับการผ่าตัด reconstructive radical เพื่อให้เขากลายเป็น cyborg.35 สมองที่ทรงพลังของเขารอดชีวิตมาได้ แต่ความทรงจำของเขาถูกกำจัดให้สะอาดเพื่อนร่วมงานของเขาปฏิบัติต่อ RoboCop เป็นเครื่องจักร แต่อดีตหุ้นส่วนของเขาคือ ﬁ cer Lewis ตรวจพบว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างของเมอร์ฟีอยู่ตลอดระยะเวลาของภาพยนตร์ไซบอร์กในที่สุดก็มีร่องรอยของความทรงจำของเขาที่จะกลายเป็น Murphy อีกครั้งเรื่องราวของตัวตนของมนุษย์นี้เป็นธีมที่คุ้นเคยในการกำหนด

ใจอ่าน 101

129

พนักงานขายที่เดินทางตื่นขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเป็นข้อผิดพลาดที่น่ากลัวยักษ์ใน The Metamorphosis ของ Kafka แต่เขายังคงเป็น Gregor Samsa เพราะเขามีจิตใจของ Gregor Samsaการเลียนแบบในนักวิ่ง Blade คลาสสิกสมัยใหม่ Sci- ﬁ มีความเชื่อมั่นว่าเธอเป็นมนุษย์เพราะเธอมีความทรงจำในวัยเด็ก แต่ Tyrell Corporation ซึ่งสร้างเธอขึ้นมาได้สร้างวัยเด็กของเธอด้วยเช่นกันเต็มไปด้วยความทรงจำบางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่บอกว่าพวกเขาจะบันทึกอัลบั้มครอบครัวที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่บันทึกไว้จากบ้านเผาตัวอย่างเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าเรามีความคิดเห็นที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้บางสิ่งบางอย่างเป็นมนุษย์ที่ไม่เหมือนใครและพวกเขาทำการทดลองทางความคิดที่น่าสนใจ 37 ตัวอย่างเช่นลองจินตนาการว่าจิมมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุรถชนที่น่ากลัวและจบลงที่โรงพยาบาลแพทย์สามารถทำได้คือเสนอการปลูกถ่ายสมองพิจารณาสถานการณ์ที่แตกต่างกันเหล่านี้สมองของจิมถูกย้ายเข้าไปในร่างกายของผู้บริจาคมนุษย์สมองของจิมถูกย้ายเข้าไปในร่างกายของผู้บริจาค แต่ความทรงจำของเขาถูกเช็ดทำความสะอาดโดยไม่ตั้งใจในระหว่างการผ่าตัดหรือสมองของจิมถูกย้ายเข้าไปในร่างกายไซเบอร์เนติกที่มีความซับซ้อนสูงหลังจากการปลูกถ่ายร่างดั้งเดิมของจิมถูกทำลายผู้ป่วยเหล่านี้ยังคงเป็นจิมคนไหน?ผู้ใหญ่มีแนวโน้มที่จะบอกว่าจิมยังคงเป็นจิมถ้าความทรงจำของเขายังคงอยู่เหมือนเดิมโดยไม่คำนึงว่าสมองของเขาจะจบลงด้วยร่างกายผู้บริจาคมนุษย์หรือไซเบอร์เนติกส์ประสบการณ์ที่มีสติของเราเกี่ยวกับความคิดและความทรงจำของเราเองทำให้เรานึกถึงความคิดที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นแหล่งของตัวตนส่วนบุคคลแน่นอนว่าเราไม่คิดว่าจิตใจและความทรงจำของเราเองอาจเป็นของคนอื่นดังนั้นจิมจึงเป็นเหมือน ﬁ cer Murphyเขาเป็นผลผลิตของจิตใจและความทรงจำของเขาและหากสิ่งเหล่านี้สามารถปลูกถ่ายได้แม้ในร่างกายที่เป็นศิลปะเขาก็ยังคงเป็นจิมอย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่มีสมอง แต่ไม่มีความทรงจำที่ถือว่าเป็นมนุษย์มากกว่าร่างกายไซเบอร์เนติกที่มีสมองของจิมด้วยความทรงจำรูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าผู้คนพิจารณามนุษย์ในแง่ของร่างกายและจิตใจที่เป็นเอกลักษณ์ที่สามารถแยกกันได้สิ่งที่เกี่ยวกับจิตใจที่มีอยู่เป็นอิสระจากสมอง?คนนอนส่วนใหญ่คิดว่าจิตใจแยกออกจากสมองท้ายที่สุดมนุษย์ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตของพวกเขาไม่เคยรู้มาก่อน

130

กีดขวาง

ว่าพวกเขามีสมองอยู่คนเดียวโดยรู้ว่ามันอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับอะไรนอกจากนี้อย่างที่เราจะเห็นในภายหลังผู้คนคิดว่าอาจเป็นไปได้ที่จะคัดลอกร่างกายผ่านเทคโนโลยีบางรูปแบบและอาจทำซ้ำสมอง แต่พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะคิดว่าจิตใจอาจถูกคัดลอกในทำนองเดียวกันยิ่งกว่านั้นถ้าเราสามารถดาวน์โหลดจิตใจไปยังสมองอื่นได้คนส่วนใหญ่คิดว่าตัวตนที่เกี่ยวข้องกับสมองนั้นก็จะเปลี่ยนไปด้วยจิตใจใหม่ดังนั้นเราจึงมีแนวโน้มที่จะมองว่าจิตใจเป็นตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ที่สามารถอยู่ได้อย่างอิสระจากสมองหากความแตกต่างนี้มาตั้งแต่อายุยังน้อยมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่ามันนำเราไปสู่ตำแหน่งที่จิตใจไม่จำเป็นต้องผูกติดอยู่กับสมองทางกายภาพหากเป็นเช่นนั้นจิตใจจะไม่อยู่ภายใต้ชะตากรรมเดียวกับร่างกายของเราการใช้เหตุผลดังกล่าวช่วยให้เราสร้างความบันเทิงให้กับความเป็นไปได้ที่จิตใจสามารถอยู่ได้นานกว่าร่างกายชีวิตหลังความตายในประสบการณ์ของฉันพ่อแม่ชาวตะวันตกส่วนใหญ่ไม่ได้พูดคุยกับลูก ๆ เกี่ยวกับความตายเว้นแต่พวกเขาจะพอใจกับคำอธิบายทางศาสนาในฐานะคนที่ไม่เชื่อในชีวิตหลังความตายฉันพบว่ามันแตกต่างกันมากที่จะพูดคุยเกี่ยวกับความตายกับลูกสาวหนุ่มของฉันมันเจ็บปวดและอึดอัดเกินไปในการเริ่มต้นคุณไม่มีความสุขในตอนจบเช่นเดียวกับศาสนานอกจากนี้โดยการพูดคุยเรื่องความตายคุณยอมรับว่าเราทุกคนต่างก็ตายไปหนึ่งวันฉันจะตายและลูก ๆ ของฉันจะตายมันเป็นความวิตกกังวลที่แยกจากกันที่สุดสำหรับทั้งพ่อแม่และลูกสิ่งนี้ทำให้การตรวจสอบความเป็นจริงที่อึดอัดมากช่วงเวลาออกซิโตซินทั้งหมดนั้นดูกลวง, ศิลปะ, และในที่สุดก็ไม่มีจุดหมายเมื่อเผชิญกับโอกาสของการตายฉันจะจินตนาการว่าพ่อแม่ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าส่วนใหญ่อย่างฉันอาจหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับความตายกับลูก ๆ ของพวกเขาเพื่อให้พวกเขามีความแตกต่างในการทำใจกับการดำรงอยู่ที่ไม่มีจุดประสงค์ดังนั้นเด็กเล็กจึงสับสนกับความตายพวกเขาไม่รู้ว่าทุกชีวิตสิ้นสุดลงพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะตายในวันหนึ่งพวกเขาไม่ชื่นชมว่าความตายนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้สากลไม่สามารถย้อนกลับได้และ ﬁ nal.38 มีสองเหตุผลหลักสำหรับเรื่องนี้อันดับแรกพวกเขาไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

ใจอ่าน 101

131

แห่งความตายเพราะพวกเขาขาดความเข้าใจที่เป็นผู้ใหญ่เกี่ยวกับวัฏจักรทางชีวภาพของชีวิตและความตายอย่างที่เราเห็นก่อนหน้านี้ในการพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างสรรค์เด็ก ๆ ตั้งครรภ์ชีวิตเช่นเดียวกับที่มีอยู่เสมอประการที่สองเนื่องจากความเป็นคู่ที่ใช้งานง่ายพวกเขาคิดถึงความตายในแง่จิตวิทยาและในการทำเช่นนั้นพวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าตัวเองตายดังนั้นความตายจึงเป็นที่เข้าใจกันว่าการดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องของแต่ละบุคคล แต่ที่อื่นเด็กก่อนวัยเรียนส่วนใหญ่คิดว่าการเสียชีวิตเป็นเหมือนการซื้อตั๋วทางเดียวไปยังที่อยู่ใหม่โดยไม่มีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านหรือการเยี่ยมบ้านเมื่อคุณปู่ย้ายไปเขาได้ไปที่อื่นแม้ว่าที่อยู่คือสวรรค์อย่างน้อยเขาก็ยังมีอยู่ที่ไหนสักแห่งหรือพวกเขาคิดว่าความตายก็เหมือนกับการนอนหลับแน่นอนว่าความคิดของ“ การจากไป”“ ผ่านไป” และ“ พักผ่อนอย่างสงบ” เป็นที่ยอมรับทางวัฒนธรรมเพื่อบอกเด็ก ๆ และเข้าใจได้ง่ายขึ้นไม่น่าแปลกใจที่การฝึกฝนการฝังคนในกล่องใต้พื้นดินเป็นความคิดที่น่ารำคาญสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนหลายคนเมื่อเด็กอนุบาลถูกถามในการศึกษาปี 2004 เกี่ยวกับเมาส์ที่ถูกฆ่าและกินโดยจระเข้พวกเขาเห็นด้วยว่าสมองนั้นตายไปแล้ว แต่พวกเขาคิดว่าจิตใจยังคงทำงานอยู่ 39 พวกเขาเข้าใจว่าฟังก์ชั่นทางร่างกายและเครื่องดื่มจะหยุด แต่ส่วนใหญ่คิดว่าเมาส์จะยังคงหวาดกลัวรู้สึกหิวและอยากกลับบ้านแม้แต่ผู้ใหญ่ที่จำแนกตัวเองในฐานะผู้ปลูกถ่าย - ผู้ที่คิดว่าวิญญาณตายเมื่อร่างกายทำ - กล่าวว่าคนที่ถูกฆ่าตายในอุบัติเหตุรถชนจะรู้ว่าเขาตายไปแล้วร่วมกันในสหภาพที่แยกกันไม่ออกเมื่อร่างกายของเราเต็มไปด้วยจิตใจของเราเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราตายไปแล้วเฉพาะเมื่อเด็ก ๆ เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้สิ่งมีชีวิตพวกเขาเริ่มเข้าใจกระบวนการตรงกันข้ามของสิ่งที่ทำให้บางสิ่งบางอย่างตายดังที่เราจะเห็นในบทต่อไปการลงดินในชีววิทยาเกิดขึ้นในช่วงปลายของการพัฒนาและจากนั้นเด็ก ๆ ก็เริ่มชื่นชมกลไกแห่งความตาย 41 แต่การเข้าใจกลไกและความตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ได้กำจัดความเชื่อในอมตะวิญญาณ.ศาสนาและการเหนือธรรมชาติทางโลกสนับสนุนความเชื่อดังกล่าว แต่เราต้องตระหนักว่าแนวคิดของวิญญาณอมตะนั้นเกิดขึ้นในเรื่องปกติ

132

กีดขวาง

กระบวนการให้เหตุผลของเด็กทุกคนตัวอย่างเช่นเด็ก ๆ ที่เลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมทางโลกอาจแสดงความเชื่อหลังความตายน้อยกว่าเด็กที่เลี้ยงดูในบ้านทางศาสนา แต่พวกเขายังคงรักษาความคิดของชีวิตจิตบางรูปแบบที่รอดชีวิตจากความตาย 42 เราไม่จำเป็นต้องปลูกฝังลูก ๆ ของเราด้วยแนวคิดดังกล่าวพวกเขาจะคงอยู่ 43 มันดึงดูดความสนใจของเราที่จะคิดว่าเราสามารถอยู่ต่อไปได้หลังจากการตายของเราอะไรต่อไป?ประสาทวิทยาศาสตร์บอกเราว่าสมองทางกายภาพสร้างจิตใจประสบการณ์ทางจิตที่หลากหลายของเราความรู้สึกการรับรู้อารมณ์และความคิดที่กระตุ้นให้เราทำทุกอย่างคือรูปแบบและการแลกเปลี่ยนสัญญาณเคมีในการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนของเครื่องจักรชีวภาพแต่จิตใจไม่มีการดำรงอยู่ที่แท้จริงในโลกทางกายภาพจิตวิทยาคือการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของจิตใจ แต่จิตใจไม่ได้มีอยู่ในความหมายใด ๆแต่จิตใจเป็นระบบปฏิบัติการตามธรรมชาติที่ทำงานบนอินพุตและเอาต์พุตของกิจกรรมของสมองเราสามารถศึกษาการดำเนินงานของมันได้ แต่เราจะคิดผิดที่จะคิดว่าจิตใจมีการดำรงอยู่ของวัสดุอย่างอิสระจากสมองอย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่สิ่งที่เราพบเมื่อเราพิจารณาตัวเองเราเป็นจริงและเรามีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเมื่อเรานึกถึง“ ฉัน” เราทำเช่นนั้นในแง่ของจิตใจของเราเราประสบกับความคิดของเราในฐานะบุคคลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเชื่อความปรารถนาอารมณ์ความเสียใจเกี่ยวกับอดีตความกังวลเกี่ยวกับปัจจุบันและแผนสำหรับอนาคตเราพบว่าจิตใจของเราครอบครองเครื่องที่เราเรียกว่าร่างกายของเราเราเห็นว่าร่างกายของเราเป็นโครงสร้างที่สามารถเสื่อมสภาพได้ แต่เราไม่ค่อยเห็นโครงสร้างของจิตใจของเราเองแม้หลังจากความเจ็บป่วยทางจิตช่วงเวลาของการหลงผิดหรือความมึนเมาชั่วคราวเรามักจะอธิบายการเปลี่ยนแปลงในใจของเราอันเป็นผลมาจาก“ ไม่ใช่ตัวเราเอง”นี่เป็นเพราะเราเป็นจิตใจของเราร่างกายไม่ได้สร้างเราแต่เราเป็นคนที่ควบคุมมันตำแหน่งทางปรัชญาของการใช้สารคู่เป็นวิธีธรรมชาติที่จะได้สัมผัสกับจิตสำนึกของเราที่แตกต่างและแยกออกจากร่างกายของเราบางคนพิจารณาหลักฐานที่ไม่สามารถหักล้างได้ทั้งร่างกายและจิตใจว่าทำไมต้องมีพลังเหนือธรรมชาติที่ดำเนินการในโลกจิตใจถูกมองว่าเป็นตัวแทนเชิงสาเหตุ แต่เพื่อที่จะเป็นจริง

ใจอ่าน 101

133

จิตจะต้องมีความสามารถในการควบคุมร่างกายนั่นจะต้องใช้พลังเหนือธรรมชาติเนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นการละเมิดขอบเขตของธรรมชาติระหว่างจิตใจและร่างกายจิตใจที่ไม่ใช่วัสดุอื่น ๆ สามารถควบคุมร่างกายวัสดุได้อย่างไร?อย่างไรก็ตามพวกเราส่วนใหญ่ไม่รู้จักตำแหน่งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งเหนือธรรมชาติเพราะจิตใจที่ควบคุมร่างกายเป็นค่าเริ่มต้นที่เข้าใจง่ายของการพัฒนาจิตใจของผู้อื่นที่พัฒนาขึ้นรวมถึงประสบการณ์ตามธรรมชาติของเราในจิตใจของเราเองตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการใช้สารคู่คือไม่มีการแยกจิตใจและร่างกายมันเป็นภาพลวงตาเป็นเท็จเหมือนกับจัตุรัสที่มองไม่เห็นที่เราเห็นก่อนหน้านี้มนุษย์เป็นออโตมาตาที่มีสติร่างกายของเราสร้างจิตใจของเราเมื่อร่างกายของเราเสียชีวิตจิตใจของเราก็เช่นกันแต่ทฤษฎียานยนต์ที่มีสติมีทั้งความผิดธรรมชาติและน่ารังเกียจเกินไปที่จะได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่นอกจากนี้ความประทับใจที่เรามีโดยสมัครใจจะดำเนินการในใจของเราอาจเป็นภาพลวงตาฟรีจะต้องมีใครบางคนหรือผีอยู่ในหัวของเราในการตัดสินใจและนั่นก็ทำให้เราเข้าสู่วงไม่มีที่สิ้นสุดใครอยู่ในหัวของพวกเขาเป็นต้นไปเรื่อย ๆ ?ดังนั้นตำแหน่งตามธรรมชาติที่อยู่บนพื้นฐานของประสบการณ์ส่วนตัวคือการสมมติว่าจิตใจแยกต่างหากภายในร่างกายและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับวิธีที่ไม่มีสาระสำคัญสามารถควบคุมวัสดุได้อย่างไรเมื่อเราซื้อเข้าสู่การดำรงอยู่ของจิตใจและร่างกายอย่างอิสระไม่มีข้อ จำกัด ในสิ่งที่จิตใจสามารถทำได้หากจิตใจถูกแยกออกจากร่างกายมันจะไม่ถูก จำกัด ด้วยกฎหมายเดียวกันกับที่ควบคุมโลกทางกายภาพมันสามารถกระโดดได้ระยะทางไกลเดินทางผ่านกำแพงที่มั่นคงไม่เคยอายุและเดินทางไปข้างหน้าและย้อนกลับในเวลาในระยะสั้นการเข้าใจผิดจิตใจวางรากฐานสำหรับความเชื่อหลายอย่างในทั้งศาสนาและฆราวาสเหนือธรรมชาติในบทต่อไปเราตรวจสอบว่าร่างกายที่เข้าใจผิดยังเตรียมความพร้อมสำหรับการควบคุมของเราอย่างไร

บทที่หก

อุบัติเหตุประหลาด

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2523 สเตลล่าวอลช์ผู้ไร้เดียงสาที่ไร้เดียงสาถูกจับโดยบังเอิญในการปล้นอาวุธที่พยายามทำในร้านค้าส่วนลดในคลีฟแลนด์โอไฮโอในวันของเธอสเตลล่าเป็นนักกีฬาอันดับต้น ๆ ในกิจกรรมและการติดตามของผู้หญิงสร้างสถิติโลกยี่สิบและชนะเหรียญเงินและเหรียญทองสำหรับการวิ่ง 100 เมตรในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1932 และ 1936แม้ว่าจะมีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่เธอเป็นตัวแทนของโปแลนด์ในเกมและได้รับรางวัลเหรียญพลเรือนที่สูงที่สุดของประเทศคือ Cross of Meritทุกที่ที่เธอไปฝูงชนจำนวนมากหันมาฉลองชัยชนะของเธอในปี 1975 สเตลล่าได้รับการแต่งตั้งให้เข้าสู่แทร็กและหอเกียรติยศแห่งสหรัฐอเมริกาห้าปีต่อมากระสุนปืนเร่ร่อนในลานจอดรถสิ้นสุดชีวิตของตำนานกีฬาที่โด่งดังครั้งนี้มันไม่ใช่ความตายที่น่าเศร้าของสเตลล่าที่ทำให้เกิดความรู้สึก แต่เป็นผลมาจากการชันสูตรศพของเธออดีตนักกีฬาหญิงอายุหกสิบเก้าปีไม่ใช่คนที่ทุกคนคิดว่าเธอเป็นเธอเป็นเขาแม้จะแต่งงานและมีชีวิตอยู่ในฐานะผู้หญิงสเตลล่ามีอวัยวะเพศชายปฏิกิริยาเริ่มต้นต่อรายงานการค้นพบนี้นำไปสู่การเรียกร้องที่รุนแรงของการฉ้อโกงกีฬาและการโกงสเตลล่าไม่ใช่คนโกงเพราะในทางเทคนิคแล้วเธอไม่ได้เป็นผู้ชายทั้งหมดเธอมีทั้งคู่

136

กีดขวาง

โครโมโซมชายและหญิงสเตลล่ามีเงื่อนไขที่เรียกว่า "โมเสกนิยม" ซึ่งทำให้แต่ละคนทั้งชายและหญิงกรณีของเธอได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่คณะกรรมการโอลิมปิกระหว่างประเทศตัดสินใจยกเลิกการทดสอบการตัดสินใจทางเพศก่อนเกมซิดนีย์ปี 2000มันแตกต่างกันเกินไปที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างเพศชายและหญิงและอวัยวะเพศไม่ได้ทำให้ผู้ชายคนนั้นกระเบื้องโมเสคเช่นสเตลล่าวอลช์หายาก แต่ไม่ใช่ความหายากของพวกเขาที่ทำให้เราหลงใหลมันไม่ใช่ชื่อเสียงด้านกีฬาของเธอและความตายก่อนวัยอันควรที่ครอบงำพาดหัวในเวลานั้น แต่เธอก็เป็น "ประหลาด"มีเงื่อนไขทางการแพทย์ที่หายากและแปลกประหลาดมากมาย แต่มีเพียงผู้ที่ท้าทายความเชื่อของเราเกี่ยวกับความหมายของการเป็นมนุษย์ที่เรียกว่า Freaksมันเป็นคำที่โหดร้ายที่เราใช้ในการแยกคนที่ไม่ได้คิดแนวคิดของเราว่าจะเป็นมนุษย์อย่างไรในช่วงยุควิคตอเรียนและต้นปี 1900 การแสดงประหลาดเป็นเรื่องธรรมดาในสิ่งที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นความบันเทิงที่ไม่ถูกต้องทางการเมืองมันเป็นที่น่านับถืออย่างสมบูรณ์แบบที่จะจ่ายเงินเพื่อดูสิ่งแปลกประหลาดทางการแพทย์ฝาแฝดฝาแฝด, ผู้หญิงเครา, microencephalics, คนแคระ, ยักษ์, และ albinos ล้วน แต่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติก่อนการถือกำเนิดของการแพทย์สมัยใหม่หลายคนได้รับความเดือดร้อนจากความผิดปกติทางกายภาพและความผิดปกติทางกายภาพผ่านความผิดปกติ แต่กำเนิดและโรคที่ก้าวหน้าซึ่งบางอย่างสามารถรักษาได้ในปัจจุบันFreaks ที่มีชื่อเสียงกลายเป็นคนดังเช่น Joseph Merrick,“ The Elephant Man” ซึ่งเป็นประจำในฉากสังคมวิคตอเรียลอนดอน 1 คนอื่น ๆ เช่น“ Aloa, The Alligator Boy” มีชื่อเสียงเล็กน้อยสหรัฐอเมริกามิดเวสต์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ 2 การกระทำหลายอย่างถูกเรียกเก็บเงินเป็นมนุษย์ส่วนหนึ่งและสัตว์ประหลาดส่วนหนึ่งพวกเขาเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่ข้ามขอบเขตระหว่างสัตว์ร้ายกับมนุษย์แม้ว่าการแสดงที่แปลกประหลาดจะหายไปนาน แต่การประชาสัมพันธ์ของพวกเขาที่ระลึกและโปสการ์ดยังคงเป็นของสะสมสูงในปัจจุบันฉันเก็บคอลเล็กชั่นเล็ก ๆ ไว้เป็นเครื่องเตือนใจอย่างฉับพลันว่าความรู้สึกอ่อนไหวของสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในขณะที่มันอาจจะไม่เป็นที่ยอมรับอีกต่อไปที่จะจ้องมองที่ความผิดปกติทางกายภาพทีวีสารภาพสมัยใหม่เผยให้เห็นว่าเรายังคงหลงใหลในสมาชิกที่เบี่ยงเบนของสังคมของเรามากขึ้นFreaks ของมนุษย์ท้าทายมุมมองของเราเกี่ยวกับโลกแห่งชีวิตเราคาดหวังให้ผู้คนมองหาวิธีที่แน่นอนและมีขนาดและรูปร่างที่แน่นอน

อุบัติเหตุประหลาด

137

รูปที่.12: Aloa ผู้โชคร้าย“ เด็กชาย Alligator”ภาพของผู้แต่ง

และบุคคลที่ไม่คาดหวังเหล่านี้ถือว่าผิดธรรมชาติเมื่อพวกเขามีคุณสมบัติที่ละเมิดขอบเขตของเราสำหรับการจัดกลุ่มโลกพวกเขาจะกลายเป็นคนประหลาดตัวอย่างเช่นผู้หญิงที่มีหนวดเครากระเทยและการรวมกันของ transsexual ต่าง ๆ ขัดแย้งกับแนวคิดทางชีววิทยาที่ไร้เดียงสาของเราเกี่ยวกับสิ่งที่จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงความหลงใหลในอวัยวะเพศของเราอาจได้รับแรงบันดาลใจจากความสนใจทางเพศ แต่พวกเขาก็เป็นเครื่องหมายที่เห็นได้ชัดเจนสำหรับผู้ชายและเพศหญิงเมื่อใดก็ตามที่อวัยวะเพศหายไปลดลงแบ่งปันหรือในร่างกายที่ไม่ถูกต้องตัวตนของแต่ละบุคคลนั้นน่าสงสัยในทำนองเดียวกันผู้ที่ได้รับค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ย

138

กีดขวาง

ลักษณะทางเพศถูกตัดสินว่าเป็นผู้หญิงมากกว่าหรือมากกว่าของผู้หญิงขนาดมีความสำคัญในการตัดสินนี้มากกว่าจำนวนผู้ที่โชคร้ายพอที่จะมีหลายอวัยวะเพศชายหรือช่องคลอดและสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากหัวนมหรือหน้าอกสองตัวถูกมองว่าเป็นคนประหลาด 3 เราจะได้รับแนวคิดทางชีวภาพของเราที่ไหน?ในบทนี้เราจะดูว่าเด็กสร้างความเข้าใจในโลกแห่งชีวิตโดยใช้การสร้างทฤษฎีที่ใช้งานง่ายเช่นเดียวกับที่เราเห็นด้วยจิตใจและวัตถุ 4 เด็กเริ่มต้นด้วยการจัดระเบียบโลกและจัดเรียงเป็นหมวดหมู่ในการพยายามอธิบายสิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นพวกเขาคิดว่าโลกมีชีวิตอยู่เต็มไปด้วยพลังชีวิตพลังงานและรูปแบบที่กำหนดไว้ซึ่งหมวดหมู่สิ่งต่าง ๆ เป็นของนี่คือสิ่งที่เคลื่อนไหวมีความสำคัญและทำให้สิ่งมีชีวิตไม่เหมือนใครเช่นเดียวกับทฤษฎีที่ใช้งานง่ายของจิตใจที่เราเห็นในบทที่ผ่านมาทฤษฎีทางชีวภาพที่ใช้งานง่ายของชีวิตนำเราไปสู่ความคิดจำนวนมากที่วางรากฐานสำหรับการคิดเหนือธรรมชาติเช่นเดียวกับนักปรัชญากรีกโบราณเด็ก ๆ อนุมานว่าสิ่งมีชีวิตมีบางสิ่งที่พิเศษภายในที่ทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่อย่างไม่ซ้ำกันพวกเขาคิดว่ามี Essences5 ที่กำหนดสิ่งมีชีวิตคือสิ่งมีชีวิตคือมีพลังชีวิตที่สำคัญ 6 ที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ มีชีวิตอยู่และทุกอย่างเชื่อมโยงกันโดยกองกำลังในปรัชญาความคิดที่แตกต่างกัน แต่เกี่ยวข้องกันเรียกว่า "ความสำคัญ" "ความสำคัญ" และ "ความศักดิ์สิทธิ์"เท่าที่พวกเขาไปพวกเขาค่อนข้างดีประมาณของสิ่งที่เรารู้จากวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับชีวิตหากคุณเปิดตำราเรียนชีววิทยาสมัยใหม่คุณจะต้องมีความเชื่อดังกล่าวในความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ถูกต้องตัวอย่างเช่น DNA เป็นกลไกทางชีวภาพสำหรับตัวตนและเอกลักษณ์ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของความสำคัญภายในเซลล์ที่มีชีวิตทั้งหมดมีปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่าวัฏจักรของ Krebs ที่ผลิตพลังงานในปริมาณที่วัดได้ 7 นี่คือพลังชีวิตที่สำคัญที่ทำให้เซลล์มีชีวิตอยู่Symbiosis เป็นการศึกษาการเชื่อมต่อระหว่างกันของระบบชีวภาพความเชื่อมโยงของระบบชีวิตสามารถพบได้ในทฤษฎีวิวัฒนาการในสรีรวิทยาทางชีวภาพและเมื่อเร็ว ๆ นี้ในทฤษฎี "Gaia" ของ James Lovelock ของนิเวศวิทยา 8 ไม่มีมนุษย์ - และสำหรับเรื่องนั้นไม่มีจุลินทรีย์ - เป็นเกาะทั้งหมดจะต้องเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ซับซ้อนพวกเราส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงการค้นพบและทฤษฎีที่หลากหลายเหล่านี้ แต่มานานก่อนหน้านี้

อุบัติเหตุประหลาด

139

DNA, วัฏจักรของ Krebs และ symbiosis กลายเป็นวิทยาศาสตร์กระแสหลักมนุษย์สันนิษฐานว่าการดำรงอยู่ของพวกเขาในรูปแบบของความสำคัญที่เข้าใจง่ายความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์อย่างไรก็ตามการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายเช่นนี้ยังเป็นแกนหลักของ Supersense เพราะเราอนุมานคุณสมบัติที่สำคัญมีความสำคัญและเชื่อมโยงกันในโลกที่นอกเหนือไปจากสิ่งที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แม้ว่าเราจะนึกถึงแก่นแท้กองกำลังชีวิตและความศักดิ์สิทธิ์ แต่เราก็จะถูกกดดันอย่างหนักเพื่ออธิบายสิ่งที่เราหมายถึงเราไม่สามารถพูดคุยเกี่ยวกับแนวคิดเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายเพราะเรามักจะขาดข้อกำหนดหรือภาษาที่เหมาะสมในวัฒนธรรมตะวันออกความคิดดังกล่าวได้รับการยอมรับจากคำศัพท์โบราณเช่น "ไค" (จีน), "Ki" (ญี่ปุ่น) และ "มานา" (โพลินีเซียน)ในยุโรปเราเคยมีคำว่า "élan Vital" (พลังชีวิต) แต่สิ่งนี้ส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้งการมี“ ความรู้สึก” ที่ดีหรือไม่ดีเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดที่พวกเราส่วนใหญ่มาใช้ถ้อยคำแนวคิดเหล่านี้เราอาจสูญเสียคำพูดของเราเพื่ออธิบายพวกเขา แต่พฤติกรรมและความคิดเห็นของเราเปิดเผยว่าความสำคัญความสำคัญความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ยังคงเป็นแนวทางในการให้เหตุผลของเราเมื่อผู้คนตอบโต้ในทางลบต่อการสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่านี่เป็นข้อต่อของการใช้เหตุผลทางชีวภาพที่ไร้เดียงสาในที่ทำงานความชั่วร้ายที่พวกเขาคิดว่าถูกฝังอยู่ในผ้าเป็นกลไกเดียวกันกับกลไกเดียวกันกับที่เด็ก ๆ นำไปใช้เพื่ออนุมานคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ของสิ่งมีชีวิตหากความเชื่ออภิปรัชญาดังกล่าวไม่ค่อยมีการพูดคุยกันในตะวันตกและไม่มีใครบอกเราเกี่ยวกับพวกเขาแล้วพวกเขามาจากไหน?อีกครั้งคำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุดสามารถพบได้ในใจที่กำลังพัฒนาพวกเขาจะต้องมาจากวิถีการให้เหตุผลตามธรรมชาติของเราเกี่ยวกับชีวิตด้วยวิธีนี้ชีววิทยาที่ใช้งานง่ายของเด็ก ๆ ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ของสิ่งเหนือธรรมชาติของผู้ใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความเข้าใจของเราเกี่ยวกับชีวิตในทัศนคติและความเชื่อของเราหมวดหมู่กฎหมายอาหารของชาวยิวห้ามการบริโภคสัตว์บางชนิดที่อธิบายไว้ในเลวีนิติของพันธสัญญาเดิมว่าเป็นมลทินที่แรกรายการดูเหมือนจะค่อนข้างโดยพลการสัตว์ที่ไม่สะอาดรวมถึงอูฐ, นกกระจอกเทศ, ฉลาม, ปลาไหล, กิ้งก่า, โมลและจระเข้ฉันได้กินสามรายการจากรายการนี้โดยไม่มีผลกระทบใด ๆสัตว์บางตัวที่ถือว่าเป็นสำหรับการกินนั้นไม่น่ากินมากขึ้น

140

กีดขวาง

เพื่อรสนิยมสมัยใหม่เช่นเนื้อทรายกบตั๊กแตนและตั๊กแตนบางส่วนใครบางคนตัดสินใจว่าฉลามนั้นไม่สะอาด แต่ส่วนใหญ่เป็นที่ยอมรับ?ฉลามเป็น ﬁ sh หลังจากทั้งหมดบางคนแนะนำว่าการหลีกเลี่ยงอาหารต้องห้ามบางอย่างช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อตัวอย่างเช่นมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นพิษอาหารจากเปลือกหอยซึ่งสามารถทำลายได้อย่างรวดเร็วในสภาพอากาศร้อนหมูสุกที่ไม่สุกสามารถเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อปรสิต trichinosisอย่างไรก็ตามคำอธิบายดังกล่าวล้มเหลวในการอธิบายถึงสัตว์ที่ไม่สะอาดจำนวนมากทางเลือกที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ แต่เดิมสัตว์นั้นถือว่าสะอาดหรือไม่สะอาดขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีคุณสมบัติที่ดีเพียงใดของกลุ่มที่พวกเขาเป็นเจ้าของ 9 ในกรณีของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นที่ชัดเจนว่าการตัดสินที่สะอาดหรือไม่สะอาดมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับแต่ละตัวอย่างดีเพียงใดในหมวดหมู่ทั่วไปเมื่อมันมาถึงกีบและเคี้ยว CUDแต่นี่คือสิ่งที่คุณจะไม่กินจากในหมู่คนที่นำ CUD ของพวกเขาขึ้นมาหรือที่มีกีบแยก;อูฐเพราะมันทำให้เกิดความสามารถ แต่กีบมันไม่ได้แยกออก - มันไม่สะอาดสำหรับคุณและ Hyrax เพราะมันทำให้เกิดความสามารถ แต่กีบมันไม่ได้แยกออก - มันไม่สะอาดสำหรับคุณและกระต่ายเพราะมันทำให้เกิดความสามารถ แต่กีบมันไม่ได้แยก - มันไม่สะอาดสำหรับคุณและหมูสำหรับกีบมันถูกแยกออกและกีบมันก็แยกออกจากกันอย่างสมบูรณ์ แต่มันก็ไม่ได้เคี้ยวมัน - มันไม่สะอาดสำหรับคุณคุณจะไม่กินของพวกเขาและคุณจะไม่สัมผัสซากศพของพวกเขา - พวกเขาไม่สะอาดสำหรับคุณ—Leviticus 11: 4–8

กลุ่มสัตว์ใด ๆ ควรแบ่งปันคุณสมบัติมากขึ้นเมื่อเทียบกับสัตว์อื่น ๆนักชีววิทยาเรียกการจัดกลุ่มนี้ว่า "อนุกรมวิธาน" หลังจากรถแท็กซี่กรีกซึ่งอ้างถึงหน่วยงานหลักของกองทัพโบราณอนุกรมวิธานสมัยใหม่ของวันนี้มีพื้นฐานมาจากการออกแบบโดยนักชีววิทยาชาวสวีเดนคาร์ลลินเนอุสในศตวรรษที่สิบแปด แต่ก่อนหน้านี้อนุกรมวิธานนั้นมีพื้นฐานมาจากการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันของสัตว์และที่อยู่อาศัยของพวกเขาสัตว์ต่าง ๆ ทั้งหมดของแผ่นดินทะเลและอากาศมีโครงสร้างทางร่างกายที่คล้ายกันมากและรูปแบบของการเคลื่อนที่สัตว์ที่ดินมีสี่ขาและกระโดดหรือเดินปลามีเกล็ดและว่ายน้ำ

อุบัติเหตุประหลาด

141

นกมีปีกและ ﬂ yข้อเสนอแนะอย่างหนึ่งคือสัตว์ที่ไม่สะอาดมักจะเป็นสัตว์ที่ละเมิดคุณสมบัติเหล่านี้ของหมวดหมู่ทั่วไปที่พวกเขาอยู่ฉลามและปลาไหลอาศัยอยู่ในทะเล แต่ไม่มีเครื่องชั่งนกกระจอกเทศเป็นนก แต่ไม่ ﬂ yจระเข้มีขาที่ดูเหมือนมือบางทีสัตว์ที่ไม่สะอาดบางตัวอาจเป็นคนประหลาดในกลุ่มอนุกรมวิธานของพวกเขานักวิชาการชาวยิวยุคแรกคิดว่าการละเมิดดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจของโลกธรรมชาติความโน้มเอียงของเราที่จะเข้าใจโลกนำเราไปสู่การตัดมันเป็นหมวดหมู่ที่แตกต่างกันทั้งหมดที่เราคิดว่ามีอยู่โดยการมองหาโครงสร้างในโลกธรรมชาติเราจัดกลุ่มสิ่งที่เป็นธรรมชาติเข้าด้วยกันเป็นประเภทต่าง ๆ ของพวกเขาในการทำเช่นนั้นเรารับทราบว่าสมาชิกของกลุ่มแบ่งปันลักษณะส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับสมาชิกของกลุ่มที่แตกต่างกันอย่างไรก็ตามในการจัดหมวดหมู่โลกธรรมชาติเราตระหนักว่าสมาชิกบางคนไม่ได้เป็นหนึ่งในหมวดหมู่หรืออีกประเภทหนึ่งสัตว์ที่ไม่สะอาดและคนประหลาดของมนุษย์เป็นการละเมิดระเบียบตามธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ และคำสั่งนั้นเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของชีววิทยาที่ใช้งานง่ายที่เราพัฒนาเป็นเด็กนี่มันคือนก?มันเป็นเครื่องบิน?ให้เด็กและเครื่องบินของเล่นและเครื่องบินเล่นด้วยจากนั้นนั่งลงและดูเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้นหลังจากการตรวจครั้งแรกด้วยดวงตาแล้วปากทารกจะเริ่มสัมผัสนกแต่ละตัวตามลำดับตามด้วยการสัมผัสเครื่องบินแต่ละลำแม้ว่าพวกเขาอาจมีรูปร่างที่คล้ายกัน แต่ร่างกายยาวและปีกที่ติดอยู่ แต่เด็กทารกกำลังรักษานกและเครื่องบินเป็นประเภทต่าง ๆ 10 สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือเด็กอายุหกเดือนแสดงภาพแมวและสุนัขที่แตกต่างกันสามารถบอกได้ความแตกต่างแม้ว่าจะไม่มีสัตว์สองตัวที่ดูเหมือนกัน 11 การสาธิตอย่างง่ายนี้เผยให้เห็นสิ่งที่สำคัญมากเกี่ยวกับเด็กทารกสำหรับการเริ่มต้นพวกเขามีแนวโน้มที่จะแยกแยะโลกพวกเขากำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ และจัดหมวดหมู่พวกเขาจะต้องคิดว่านี่เป็นสิ่งหนึ่งในสิ่งหนึ่งในขณะที่นั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งมันเป็นเทคนิคการสังเกตที่นักวิทยาศาสตร์มืออาชีพใช้เมื่อพยายามทำความเข้าใจโลกโดยการเรียงลำดับพวกเขากำลังบอกเราว่าพวกเขา

142

กีดขวาง

เข้าใจว่าสุนัขเป็นสมาชิกของหมวดหมู่หนึ่งในขณะที่แมวเป็นของตัวอื่นในระยะสั้นพวกเขามีชีววิทยาพื้นฐานความเข้าใจทางชีววิทยาของเด็กมาจากไหนและที่ไหนนักจิตวิทยาฮาร์วาร์ดซูซานแครี่ระบุว่าเด็ก ๆ ใช้เวลาค่อนข้างนานในการเข้าใจชีววิทยาพวกเขาอาจสามารถจัดเรียงนกและเครื่องบินแมวและสุนัข แต่แครี่คิดว่าการจัดหมวดหมู่ดังกล่าวเป็นเพียงการตรวจจับรูปแบบที่เรียบง่ายที่ไม่ต้องการความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับชีววิทยาเพื่อให้ได้มาซึ่งชีววิทยาคุณต้องชื่นชมชีวิตในฐานะสถานะของการเป็นเช่นเดียวกับกระบวนการที่มองไม่เห็นที่เกี่ยวข้องในการคำนวณของแครี่มันไม่ได้จนกว่าอายุหกขวบหรือเจ็ดที่เด็ก ๆ เริ่มเข้าใจว่ามันคืออะไรที่จะมีชีวิต.กล่าวอีกนัยหนึ่งพวกเขาอาจจะไม่คิดอะไรมากไปกว่าสิ่งที่ใกล้ชิดในโลกธรรมชาติคือการมองหรือประพฤติตัวเหมือนมนุษย์มีโอกาสมากขึ้นที่จะมีคุณสมบัติทางชีวภาพเช่นเดียวกับมนุษย์มันเป็นมานุษยวิทยาในที่ทำงานอีกครั้งโดยไม่ให้เหตุผลเกี่ยวกับรูปแบบชีวิตอื่น ๆ เป็นหมวดหมู่แยกต่างหากเราสามารถรับความคิดเกี่ยวกับระดับความรู้ทางชีวภาพของเด็ก ๆ ถ้าเราแสดงรูปภาพของพืชแมลงสัตว์และวัตถุและถามคำถามเช่น: กินหรือไม่?หายใจ?นอนหลับ?มีลูกหรือไม่?สิ่งที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นคือการมองหรือประพฤติตัวเหมือนมนุษย์ตัวอย่างเช่นในการศึกษาก่อนวัยเรียนคิดว่าสุนัขและแม้แต่ลิงเครื่องจักรกลก็มีแนวโน้มที่จะกินหายใจนอนหลับและมีลูกเมื่อเปรียบเทียบกับผึ้งและบัตเตอร์คัพเพราะพวกเขาคล้ายกับมนุษย์และดูมีจุดประสงค์มากกว่าแมลงและพืชมันไปนี่ไม่ใช่กลยุทธ์ที่ไม่ดีมันเทียบเท่ากับเด็กก่อนวัยเรียน“ ถ้ามันดูเหมือนเป็ด waddles เหมือนเป็ดและ quacks เหมือนเป็ดแล้วมันอาจจะเป็นเป็ด” วิธีการที่จะออกไปสู่โลกแห่งชีวิตอย่างไรก็ตามการวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าเด็กก่อนวัยเรียนมีบางสิ่งที่คล้ายกับการรับรู้ทางชีวภาพที่นอกเหนือไปจากการปรากฏตัวภายนอกที่เรียบง่ายเด็ก ๆ คิดว่าจะต้องมีบางสิ่งบางอย่างในสัตว์ที่ทำให้พวกเขามีความโดดเด่นและมีชีวิตอยู่ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงโรงเรียน

อุบัติเหตุประหลาด

143

เด็ก ๆ เริ่มคิดเหมือนผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ในแง่ของสาระสำคัญและกองกำลังชีวิตพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้งานง่ายและมีความสำคัญสาระสำคัญของชีวิตสาระสำคัญคืออะไร?พิจารณาสาระสำคัญที่แท้จริงของสารเคมีทางกายภาพทั้ง ﬂ owers และแมวสามารถสร้างสาระสำคัญทางกายภาพเช่นนี้ในน้ำหอมสาระสำคัญคือปริมาณที่ลดลงอย่างเข้มข้นของสารมีกลิ่นหอมหลังจากที่สิ่งเจือปนทั้งหมดถูกลบออกไปชาแนลหมายเลข 5 เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกและมีราคาแพงมากเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวส่วนผสมหลักหนึ่งของมันคือดอกมะลิสิ่งเหล่านี้เติบโตขึ้นในภูมิภาคโพรวองซ์ของฝรั่งเศสและอยู่รอดเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะสูญเสียกลิ่นหอมของพวกเขาอีกเหตุผลหนึ่งที่ชาแนลหมายเลข 5 มีราคาแพงนอกเหนือจากจัสมินเอสเซ้นส์ก็คือจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้มันยังมีการหลั่งมัสค์จากต่อมทวารหนักของแมวชะมดใกล้สูญพันธุ์สายพันธุ์เดียวกันในเอเชียก่อนหน้านี้.(Civet Cat ไม่ใช่แมว แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนแรคคูน) Musk เป็นสารเคมีทางเพศที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวนมากใช้เพื่อดึงดูดพันธมิตรและทำเครื่องหมายดินแดนของพวกเขากลิ่นฉุนใช้เวลานานในการสลายตัวและน้ำหอมจึงใช้มัสค์เพื่อยืดเวลากลิ่นของน้ำหอมที่เปราะบางมากขึ้นเมื่อมันกลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าชาแนลใช้ Civet Cat Musk ในน้ำหอมชาแนลแทนที่ส่วนผสมนี้ด้วยสารประกอบมัสค์สังเคราะห์ยังไม่ชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากแรงกดดันจากกลุ่มสิทธิสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับความโหดร้ายในระหว่างกระบวนการสกัดมัสค์หรือมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะทำให้ผู้บริโภคไม่พอใจที่พบว่าพวกเขาได้รับการหลั่งออกมาจากสะโพกของสัตว์รอบ ๆข้อมือและคอที่ละเอียดอ่อนในปรัชญาสาระสำคัญมีกลิ่นเหม็นน้อยกว่าในความเป็นจริงคุณไม่สามารถตรวจจับได้เลยเพราะพวกเขามีอยู่นอกเหนือความสามารถของมนุษย์ในการรับรู้นักปรัชญาชาวกรีกคิดว่าสาระสำคัญเป็นสารภายในที่มองไม่เห็นซึ่งทำสิ่งต่าง ๆ ในสิ่งที่พวกเขาเป็นจริงเช่นมิติอื่นสู่ความเป็นจริงตัวอย่างเช่นเพลโตอาจเป็นตัวแทนที่สำคัญที่สุดของความสำคัญในทฤษฎีของเขาในรูปแบบอุดมคติของเขาแย้งว่าทุกอย่างมีความเป็นจริงภายในที่

144

กีดขวาง

เราไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยความตระหนักว่าการปรากฏตัวอาจเป็นการหลอกลวงเขาเสนอว่าโลกที่เราพบนั้นเป็นเพียงเงาของความเป็นจริงที่แท้จริงเขาเปรียบประสบการณ์ของมนุษย์ในการนั่งในถ้ำและดูความเป็นจริงอีกครั้งจากภายนอกที่ฉายเป็นเงาบนผนังถ้ำมันเหมือนกับการเปรียบเทียบเมทริกซ์ของเราอีกครั้งเราเหลือบเพียงเศษเสี้ยวของความเป็นจริงที่มีอยู่จริงเพลโตคิดว่ามนุษย์ไม่สามารถอยู่ในสาระสำคัญหรือรูปแบบของสิ่งต่าง ๆ ได้เนื่องจากขอบเขตของจิตใจของเราการเปรียบเทียบของเพลโตนั้นเป็นจริงในบางแง่มุม - จริง ๆ แล้วความรู้สึกทั้งหมดเมื่อมันลงมาสมองของเราสามารถประมวลผลเฉพาะข้อมูลที่เราได้รับจากโลกภายนอกผ่านประสาทสัมผัสของเราแต่ความรู้สึกของเรามี จำกัดเรารู้ว่ามีเสียงที่เราไม่ได้ยินแสงที่เรามองไม่เห็นกลิ่นที่เราไม่สามารถตรวจจับได้และอื่น ๆ 14 ซึ่งหมายความว่ามีสิ่งต่าง ๆ ในโลกที่เราไม่สามารถรับรู้ได้โดยตรงมีจุลินทรีย์ไวรัสอนุภาคอะตอมและสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกรูปแบบที่เรารู้ว่าต้องมีอยู่ แต่สิ่งที่เรามองไม่เห็นเราเคยเห็นส่วนหนึ่งของความเป็นจริงเท่านั้นในทำนองเดียวกันผู้ที่มีความสำคัญในช่วงต้นคิดว่า Essences อยู่เหนือช่วงประสาทสัมผัสของเราเพลโตคิดว่าแต่ละสาระสำคัญเป็นคุณสมบัติภายในหลักที่ให้สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์สาระสำคัญคือไม่ต้องสับสนกับทรัพย์สินที่เป็นเอกลักษณ์ตัวอย่างเช่นมนุษย์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเดียวที่มีนิ้วหัวแม่มือที่ต่อต้านได้นิ้วหัวแม่มืออาจเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์ แต่ไม่จำเป็นคุณจะยังคงเป็นมนุษย์ถ้าคุณเกิดโดยไม่มีนิ้วหัวแม่มือความสำคัญของมนุษย์ค่อนข้างเป็นทรัพย์สินที่มองไม่เห็นซึ่งแยกเราออกจากคนที่ไม่ใช่มนุษย์เช่นเดียวกับ Pod-people ในการบุกรุกของ Sci-ﬁ คลาสสิกของการฉกฉวยร่างกายคนต่างด้าวอาจจะเหมือนกันกับเราในทุก ๆ ทาง แต่พวกเขาจะขาดคุณภาพที่สำคัญที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ 15เป็น - แม้ว่าร่างกายของเราจะเหี่ยวแห้งและสลายตัวมีบางสิ่งที่ยั่งยืนในตัวเรา - ตำแหน่งทางปรัชญานี้เป็นแบบไม่เป็นตรรกะนั่นเป็นเพราะมีมากกว่าหนึ่งวิธีในการกำหนดวัตถุใด ๆ รวมถึงมนุษย์มนุษย์บุคคลเดียวกันสามารถเป็นผู้ชายได้พร้อมกันวัยรุ่นเจ้าชายโรคประสาทศิลปินนักกีฬานักกีฬาที่ไม่เชื่อในพระเจ้าและอื่น ๆวัตถุสามารถเป็นหิน, กระดาษ, ที่เขี่ยบุหรี่, อาวุธ, น้ำหนักถ่วงหรือแม้กระทั่งรูปปั้นและถ้ามีมากกว่าหนึ่งวิธีในการกำหนด

อุบัติเหตุประหลาด

145

คุณไม่สามารถมีสาระสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ของบุคคลนั้นได้อริสโตเติลเป็นนักเรียนของเพลโต แต่เขาก็ตระหนักว่าครูของเขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องสำคัญดังนั้นความคิดที่ว่ามีสาระสำคัญของแต่ละบุคคลที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือเรื่องไร้สาระเมื่อนักวิจารณ์ศิลปะและเจ้าของแกลเลอรี่พูดถึงสาระสำคัญของงานศิลปะพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระสำคัญอย่างไรก็ตามเพียงเพราะบางสิ่งที่ไร้สาระไม่ได้หยุดคนที่เชื่อในเรื่องนี้ผู้คนยังคงสามารถถือเป็นสิ่งจำเป็นทางจิตวิทยา 16 มันช่วยให้เราคิดเกี่ยวกับเอกลักษณ์ว่าเป็นทรัพย์สินที่จับต้องได้นี่คือถ้วยของฉันนี่คือปิกัสโซของฉันนี่คือร่างกายของฉันความจำเป็นทางจิตวิทยาคือความเชื่อที่ว่าบางสิ่งบางอย่างเช่นคนอื่น ๆ หรืองานศิลปะได้รับการกำหนดโดยสาระสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์;อย่างที่เราจะเห็นในบทที่กำลังจะมาถึงความเชื่อเช่นนี้จะอธิบายทัศนคติของเราหลายอย่างเมื่อเราคิดว่าสาระสำคัญได้ถูกละเมิดจัดการซ้ำซ้อนแลกเปลี่ยนหรือมักจะถูกโคลนมนุษย์ชอบคิดว่าสิ่งพิเศษนั้นไม่เหมือนใครโดยอาศัยสิ่งที่ลึกและไม่สามารถถูกแทนที่ได้เมื่อเราตัดธรรมชาติเข้าสู่กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันทั้งหมดเรากำลังสมมติว่าสิ่งเหล่านี้เป็นกลุ่มของสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างกันเป็นหลักความคิดที่สำคัญของเด็กที่จำเป็นสำหรับเด็กนั้นน่าทึ่งมาก 17 ก่อนที่พวกเขาจะถึงวัยเรียนพวกเขารู้ว่า Baby Joeys เลี้ยงดูโดยแพะเติบโตขึ้นมาเป็นจิงโจ้ผู้ใหญ่ไม่ใช่แพะสำหรับผู้ใหญ่พวกเขารู้ว่าเมล็ดแอปเปิ้ลที่ปลูกใน owerpots กลายเป็นต้นแอปเปิ้ลไม่ใช่ ﬂ owers.18 พวกเขายังรู้ว่าทารกผิวขาวเปลี่ยนไปตั้งแต่แรกเกิดกับทารกผิวดำยังคงเป็นสีดั้งเดิมอาจดูเหมือนใบไม้มากกว่าแมลง แต่เด็กอายุสี่ขวบรู้ว่ามันมีคุณสมบัติร่วมกับแมลงอื่น ๆ ไม่ใช่กับใบไม้ 20 เมื่อพวกเขามีอายุมากกว่าเล็กน้อยพวกเขาเข้าใจว่าหากนักวิทยาศาสตร์ชั่วร้ายใช้แรคคูนและดำเนินการเพื่อดำเนินการเปลี่ยนเป็นตัวเหม็นโดยติดหางขนยาววาดเส้นสีขาวลงด้านหลังและวางถุงของสิ่งที่มีกลิ่นเหม็นระหว่างขาของมันมันยังคงเป็นแรคคูนแม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าPepé le pew.21 การคิดที่จำเป็นเด็ก ๆ จะเข้าใจว่าเสือดาวไม่สามารถเปลี่ยนจุดได้อย่างแท้จริงและไม่มีใครต้องการสอนเด็ก ๆ เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของความเข้าใจทางชีวภาพที่ใช้งานง่าย

146

กีดขวาง

ความสำคัญของเด็กนั้นน่าประหลาดใจอย่างแท้จริงเนื่องจากเด็กก่อนวัยเรียนสามารถถูกหลอกได้ด้วยการปรากฏตัวภายนอก 22 อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเข้าใจสิ่งที่สามารถและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อมพวกเขาคิดว่ามีบางอย่างภายในที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้พวกเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรและพวกเขาจะถูกกดยากที่จะอธิบายเมื่อพูดถึงการทำความเข้าใจสิ่งมีชีวิตพวกเขาดูเหมือนจะเข้าใจว่ามีบางสิ่งที่อยู่ภายในที่ทำให้สัตว์และพืชเป็นสิ่งที่พวกเขาเป็นมันเป็นความเชื่อสากลที่ใช้ร่วมกันโดยวัฒนธรรมที่แตกต่างกันโดยชี้ให้เห็นว่า Essentialism เป็นวิธีที่เป็นธรรมชาติในการดูโลกแม้ว่าเด็กและผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าแก่นแท้คืออะไรพวกเขาสามารถบอกคุณได้ว่ามันอยู่ที่ไหนถ้าเพียงทางอ้อมในการศึกษาครั้งหนึ่งเด็ก ๆ ได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับบล็อกน้ำแข็งโบราณที่มีสัตว์ต่าง ๆ แช่แข็งอยู่ในนั้น 23 นักวิทยาศาสตร์ต้องการที่จะตรวจสอบว่าสัตว์ต่าง ๆ กำลังทำอะไรโดยการทดสอบตัวอย่างเล็ก ๆ ที่นำมาจากสิ่งต่าง ๆ ภายในบล็อกเด็กถูกถามว่ามันสร้างความแตกต่างที่ตัวอย่างถูกนำมาจากอายุสิบปีเด็ก ๆ ให้เหตุผลเหมือนผู้ใหญ่ว่ามันไม่สำคัญว่าตัวอย่างถูกนำมาใช้เพราะอะไรก็ตามที่สัตว์แพร่กระจายไปทั่วร่างกายในทางตรงกันข้ามเด็กอายุสี่ขวบเด็กที่อายุน้อยที่สุดในการศึกษายืนยันว่าตัวตนที่แท้จริงของสัตว์พบได้ในจุดเดียวเท่านั้นและไม่แพร่กระจายเมื่อถูกถามเพิ่มเติมเด็ก ๆ เหล่านี้ดูเหมือนจะคิดว่าจุดที่ถูกต้องในการเลือกนั้นมาจากศูนย์กลางของร่างกายสิ่งที่เริ่มต้นจากความคิดที่สำคัญมากเกี่ยวกับสาระสำคัญในเด็กเล็กพัฒนาไปสู่ความเชื่อเกี่ยวกับบางสิ่งที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกายแม้ว่าเด็กเหล่านี้จะไม่พูดถึงแนวคิดทางวิทยาศาสตร์เช่น DNAหนูขั้วโลกและมันฝรั่งคาวที่จำเป็นคือการสร้างทัศนคติของเราต่อโลกสมัยใหม่มากขึ้นตัวอย่างเช่นเมื่อถึงเวลาที่ใบบนพืชมันฝรั่งเริ่มเหี่ยวแห้งมันฝรั่งใต้ดินมีขนาดแคระแกรนแล้วเมื่อพืชพยายามชดเชยการขาดน้ำถ้าพืชสามารถบอกคุณได้ว่ามันต้องรดน้ำก่อนที่ใบไม้จะเริ่มเหี่ยวแห้ง?มีพืชมันฝรั่งชนิดหนึ่งที่มีใบ

อุบัติเหตุประหลาด

147

เริ่มที่จะเรืองแสงสีเขียวเมื่อพวกเขาต้องการน้ำมันสามารถเตือนคุณล่วงหน้าว่ามันต้องการน้ำก่อนที่มันฝรั่งใต้ดินจะหดตัวลงพืชสามารถทำสิ่งนี้ได้เพราะยีนจากเยลลี่ ﬁ sh ได้รับการใส่เข้าไปในการแต่งหน้าทางพันธุกรรมเป็นพืชดัดแปลงพันธุกรรมเมื่อระดับน้ำถึงระดับวิกฤตยีนในสรีรวิทยาของพืชจะเปิดการตอบสนอง ﬂ uorescentมันฝรั่งที่สามารถสื่อสารความต้องการนั้นน่าทึ่งอย่างแท้จริง - เกือบจะเป็นกันเองแต่คุณจะกินมันฝรั่งที่ขี้อายหรือไม่ 24 หรือสิ่งที่เกี่ยวกับซูเปอร์เม้าส์ที่สามารถอยู่รอดได้ในอุณหภูมิเยือกแข็ง?อลาสก้า ounder ผลิตโปรตีนที่ผลิตสารป้องกันการแข็งตัวในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในน่านน้ำย่อยเมื่อปีที่แล้วหนูได้รับการอบรมด้วยยีนนี้ที่ปกป้องพวกมันจากอุณหภูมิสูง 25 สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าหนูที่ส่งยีนนี้ไปยังทารกของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างสัตว์ชนิดใหม่ที่ข้ามขอบเขตอนุกรมวิธานดั้งเดิมกล่าวอีกนัยหนึ่ง Supermice เหล่านี้เป็นเรื่องทางพันธุกรรมขอบเขตทางชีวภาพเหล่านั้นที่เราใช้ในการสับโลกนั้นเปิดกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยวิศวกรรมพันธุกรรมใหม่มีความกังวลอย่างแท้จริงเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้เนื่องจากไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำนายว่าผลกระทบด้านลบที่ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นจากการรวมสารพันธุกรรมที่ไม่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในการรีเมคของ Sci-ﬁ Classic The Fly นักวิทยาศาสตร์ Seth Brundle สร้างเครื่องจักรที่สลายตัวร่างกายลงไปในอนุภาค DNA ที่เป็นส่วนประกอบและขนส่งพวกเขาจากฝักหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งการทดลองบ้านสามัญ ﬂ y เข้าสู่ฝักด้วยเซทที่ครั้งแรกเขาไม่สังเกตเห็นอะไรเลยเมื่อเขากลับมาอีกครั้งจากฝักอื่น ๆ แต่ตลอดระยะเวลาของภาพยนตร์เซทจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นลูกผสมของมนุษย์ด้วยนิสัยการรับประทานอาหารที่น่าขยะแขยงทั้งหมดที่แสดงให้เห็น (และคุณรู้ว่าฉันคิดอย่างไรies)ในความคิดของคนส่วนใหญ่พันธุวิศวกรรมได้นำเรามาสู่จุดที่สถานการณ์ของเซทบรันเดิลไม่ได้เป็นเรื่องราวที่เพ้อฝันถึงอันตรายของการซ่อมแซมกับธรรมชาติอีกต่อไปไม่ใช่ความจริงที่ว่าเราสามารถทำการจัดการทางพันธุกรรมที่กังวลมากท้ายที่สุดจากจุดเริ่มต้นของการทำฟาร์มและการเลี้ยงสัตว์เราได้จัดการยีนผ่านที่เลือก

148

กีดขวาง

การผสมพันธุ์สุนัขสมัยใหม่ทุกตัวเป็นลูกหลานของโปรแกรมการผสมพันธุ์แบบเลือกสรรของหมาป่าที่เลือกได้ 27 ปัญหาคือการแทรกของยีนอย่างรวดเร็วผ่านการคัดเลือกโดยธรรมชาติไม่มีเวลาประเมินชุดค่าผสมที่อาจเป็นอันตรายศักยภาพของผลที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นจากการรวมกันที่ไม่มีข้อ จำกัด ทำให้ผู้เชี่ยวชาญกังวลทั่วโลกรัฐบาลกำลังชั่งน้ำหนักความกังวลที่เกิดขึ้นจากพันธุวิศวกรรมด้วยประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการแก้ปัญหาใหม่ ๆตัวอย่างเช่นเซลล์ต้นกำเนิดเป็นเซลล์เด็กและเยาวชนในทารกในครรภ์ที่มีศักยภาพในการแทนที่เซลล์ที่เสียหายในผู้ใหญ่ 28 คนที่ทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยและโรคเช่นโรคอัลไซเมอร์จะเป็นประโยชน์หากเซลล์ต้นกำเนิดสามารถซ่อมแซมได้น่าเสียดายที่มีไข่มนุษย์สำรองไม่เพียงพอที่จะทำการวิจัยนี้และวิธีแก้ปัญหาหนึ่งคือการสร้างไข่สัตว์ที่มี DNA ของมนุษย์เกือบทั้งหมดอย่างไรก็ตามตัวอ่อนที่เป็นผลลัพธ์จะยังคงมีสัดส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ของวัสดุทางพันธุกรรมดั้งเดิมของสัตว์ผู้บริจาคโดยหลักการแล้วตัวอ่อนของมนุษย์ลูกผสมในหลักการนี้อาจเป็น Seth Brundle ที่มีศักยภาพจริงในความเป็นจริงตัวอ่อนเหล่านี้จะไม่ทำงานได้ แต่โอกาสของลูกผสมสัตว์-มนุษย์นั้นไม่สามารถยอมรับได้สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ในเดือนมีนาคม 2551 รัฐบาลอังกฤษต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ในขณะที่คริสตจักรคาทอลิกเรียกร้องให้นักการเมืองคาทอลิกลาออกจากการแนะนำการปฏิสนธิของมนุษย์และบิลตัวอ่อนซึ่งอนุญาตให้วิจัยแทรก DNA ของมนุษย์เข้าไปในเซลล์สัตว์จริยธรรมเคยเป็นแผนกวิชาการที่ค่อนข้างง่วงนอนปรัชญาทางศีลธรรมซึ่งใคร ๆ ก็สามารถไตร่ตรองสมมุติฐานของชีวิตได้วันนี้ความก้าวหน้าทางพันธุวิศวกรรมได้ผลักจริยธรรมไปสู่สปอตไลท์สาธารณะด้วยความคาดหวังว่ามันจะให้คำตอบสำหรับปัญหาทางศีลธรรมของเหมืองนี้นักปรัชญาไม่เคยยุ่งกว่านี้สมาชิกโดยเฉลี่ยของคุณในที่สาธารณะไม่เคยเรียนวิชาปรัชญาหรือพันธุศาสตร์ แต่เขาก็ยังสามารถตกใจได้โดยการรวมสายพันธุ์นี่เป็นเพราะความสำคัญมันเป็นวิธีที่เราทุกคนสับโลกที่มีชีวิตเป็นกลุ่มที่แตกต่างกันเราคิดอย่างสังหรณ์ใจว่าสมาชิกของหมวดหมู่เดียวกันแบ่งปันทรัพย์สินที่มองไม่เห็นนี้ซึ่งกำหนดสมาชิกกลุ่มของพวกเขาตัวอย่างเช่นเราคิดว่าสุนัขทุกตัวมีสาระสำคัญ "สุนัข" ที่ทำให้พวกเขาเป็นสมาชิกของครอบครัวสุนัขและแมวทุกตัวมี

อุบัติเหตุประหลาด

149

แก่นแท้ของ“ ความเป็นลูกบาศก์” ที่แยกพวกมันออกจากสุนัขและทำให้พวกเขาเป็นสมาชิกของพี่น้องแมวเมื่อเราได้ยินเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ที่แทรกยีนของ ﬁ sh ลงในหนูและมันฝรั่งเรารู้สึกคลื่นไส้มันดูไม่ถูกต้องมันไม่เป็นธรรมชาติ

รูปที่.13: เมาส์ที่มี bioframe ฝังหลายคนตีความภาพนี้ผิด

เป็นตัวอย่างของพันธุวิศวกรรม

ใครไม่รู้สึกถึงปัจจัย“ yuck” เมื่อพวกเขาเห็นภาพของเมาส์ที่ไม่มีขนกับสิ่งที่ดูเหมือนหูมนุษย์ที่เติบโตขึ้นบนหลังของมันหมุนเวียนไปทั่วสื่อของโลก?มันไม่ได้เป็นตัวอย่างของการจัดการยีน แต่เป็นการสาธิตว่าสัตว์จะเป็นเจ้าภาพตัวแทนสำหรับการปลูก bioframe ที่ปลูกฝังได้อย่างไร 29 แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นหูเมาส์!ความรังเกียจของเราไม่ได้เป็นเพียงเพราะมันเป็นภาพแปลก ๆแต่เรารู้สึกว่าป่วยและหลงใหลในเวลาเดียวกันเพราะความคาดหวังของลูกผสมของมนุษย์-สัตว์นั้นละเมิดมุมมองที่สำคัญของโลกที่เราพัฒนาขึ้นตามธรรมชาติเป็นเด็กเมื่อฉันกำลังเตรียมบทนี้ลูกสาวคนเล็กของฉันมองข้ามไหล่ของฉันและเห็นภาพของเมาส์ด้วยหูมนุษย์ตอนแรกเธอปล่อยเสียง“ Yugh!”แล้วหล่อน

150

กีดขวาง

ถามว่าจะได้ยินได้ดีขึ้นหรือไม่เห็นได้ชัดว่าเธอยังคงบอกเพื่อนร่วมชั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ขอให้พลังอยู่กับคุณเกี่ยวข้องกับแนวคิดเรื่องสาระสำคัญคือความคิดของพลังชีวิตสิ่งที่อยู่ในสัตว์ที่มีชีวิต แต่ไม่ใช่คนตายนี่คือความสำคัญของลัทธินิยมความเชื่อโบราณว่าร่างกายได้รับแรงบันดาลใจจากพลังงานภายในจนถึงศตวรรษที่สิบเก้าสิ่งนี้ได้รับการยอมรับในตะวันตกว่าเป็น“ élan Vital” ซึ่งเป็นพลังสำคัญที่ไม่เชื่อฟังกฎหมายที่รู้จักของฟิสิกส์และเคมี 30 ในแนวคิดส่วนใหญ่ของพลังชีวิตของบุคคลกล่าวอีกนัยหนึ่งมันเป็นวิญญาณที่สำคัญที่หลายคนเชื่อว่าอาศัยอยู่ในร่างกายของเรา แต่ออกไปจากความตายเพื่อย้ายไปยังมิติอื่น/ร่างกาย/สถานที่/เวลา (ลบคำศัพท์ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับระบบความเชื่อชีวิตหลังความตายของคุณ)แม้ว่าเราจะไม่สามารถมองเห็นพลังงานที่เกิดขึ้นในร่างกายของเรา แต่พวกเราส่วนใหญ่รู้สึกว่ามันอยู่ที่นั่น - ไม่ใช่ในทุกเซลล์ที่มีชีวิตตามวัฏจักรของ Krebs อธิบาย แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวฉันสามารถเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่ผู้คนคิดแบบนี้ในบางครั้งฉันต้องฆ่าสัตว์ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเพราะพวกเขากลายเป็นสิ่งที่น่ารำคาญฉันอาศัยอยู่ในประเทศและเลี้ยงไก่ของตัวเองสำหรับโต๊ะเมื่อพวกเขาพร้อมฉันก็ดึงคอของพวกเขาเมื่อคุณฆ่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่อย่างใกล้ชิดเมื่อเทียบกับการบีบอัดด้วยหนังสือพิมพ์ม้วนขึ้นคุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ออกจากร่างกายเอนทิตีที่มีชีวิตที่เมื่อไม่นานมานี้เป็นภาพเคลื่อนไหวแต่ดูเหมือนว่าจะมีส่วนร่วมมากกว่าแค่ไม่มีการเคลื่อนไหวฉันเคยเห็นศพจำนวนหนึ่งในห้องผ่า แต่ฉันไม่ได้ดูใครบางคนตายต่อหน้าฉันอย่างไรก็ตามฉันได้พูดคุยกับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างเตียงของคนที่กำลังจะตายและพวกเขามักจะรายงานว่ามีบางอย่างที่ดูเหมือนจะจากไปจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครบอกฉันว่าพวกเขาเห็นอะไรบางอย่างทิ้งร่างกายไว้แต่พวกเขารู้สึกว่ามีคนหรืออะไรบางอย่างเหลืออยู่บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่จิตใจของเราสร้างขึ้นเพื่อให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์: ทันใดนั้นก็มีคนน้อยลงในห้องจะมีคนคนหนึ่งน้อยลงในห้องได้อย่างไรเว้นแต่จะมีใครจากไป?

อุบัติเหตุประหลาด

151

ในวัฒนธรรมสมัยนิยมช่วงเวลาแห่งความตายมักถูกอธิบายว่าเป็นพลังชีวิตหรือพลังงานที่ออกจากร่างกายเหมือนสำเนาของบุคคลความคิดนี้อาจเป็นจิตวิทยาอย่างหมดจด แต่มีหลายคนที่คิดว่าวิญญาณที่จับต้องได้ออกจากร่างกายเมื่อความตาย 31 ในปี 1907 ดร. ดันแคน MacDougall แห่งรัฐแมสซาชูเซตส์รายงานว่าวิญญาณมีน้ำหนักยี่สิบเอ็ดกรัมอย่างแม่นยำผู้ป่วยในชุดของเครื่องชั่งอุตสาหกรรม 32 ﬁ ndings ของเขาและได้รับการรักษาด้วยความสงสัยมากพร้อมคำอธิบายทางเลือกตั้งแต่การฉ้อโกงไปจนถึงความอ่อนแอของระเบียบวิธีเนื่องจากการลดน้ำหนักไม่น่าเชื่อถือหรือทำซ้ำได้เมื่อเขาได้รับการป้องกันจากการศึกษาของมนุษย์ต่อไปดร. MacDougall ย้ายไปหาสุนัขที่เขาศักดิ์สิทธิ์ในการค้นหาจิตวิญญาณของเขาผลการศึกษาเหล่านี้ไม่พบหลักฐานการลดน้ำหนักในช่วงเวลาแห่งความตายMacDougall ตีความสิ่งนี้เป็นหลักฐานสำหรับความเชื่อของคริสเตียนว่าสัตว์ไม่มีวิญญาณในกรณีนี้คำว่า "สัตว์" ไม่เหมาะสมเนื่องจากมาจากละตินแอนิเมชั่นสำหรับวิญญาณนักวิทยาศาสตร์ความตายเป็นอีกขั้นตอนต่อเนื่องของชีวิตเมื่อความตายเครื่องเนื้อสัตว์จะไม่ทำหน้าที่เป็นระบบที่เป็นเอกภาพอีกต่อไปและเริ่มสลายตัวมันเริ่มแยกชิ้นส่วนตัวเองในกรณีที่ไม่มีออกซิเจนเซลล์จะเริ่มตายวัฏจักรการเผาผลาญของ Krebs ปิดตัวลงและระบบเริ่มย้อนกลับอาณานิคมของแบคทีเรียที่ครั้งหนึ่งเคยช่วยรักษาชีวิตตอนนี้เริ่มทำลายร่างกายลงเช่นเดียวกับผู้ปล้นสะดมพวกเขาขอให้สารวัสดุต่าง ๆ เริ่มดำเนินการในวงจรชีวิตของพวกเขาใน Isolateมันเหมือนกับการล่มสลายของกองทัพเมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงทหารแต่ละคนจะทำสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้แล้วออกไปสถานะของความตายเป็นเพียงกระบวนการของชีวิตในทิศทางที่แตกต่างกันเมื่อระบบการป้องกันลดลงจุลินทรีย์ทุกชนิดแมลงและสัตว์ร้ายปล้นร่างกายเพื่อหาทรัพยากรหากเราสามารถบันทึกและเล่นชีวิตของเราออกมาเป็นหนึ่งในภาพยนตร์เวลาที่ผ่านการสลายตัวของผลไม้และสัตว์เราจะตระหนักว่าองค์ประกอบและการสลายตัวนั้นต่อเนื่องบัญชีดังกล่าวไม่สะดวกสบายหรือเป็นที่ยอมรับมากที่สุดบุคคลนั้นไปที่ไหนในเวอร์ชันนี้?ร่างกายยังคงอยู่ แต่บุคคลนั้นไม่อยู่พลังชีวิตที่ออกเดินทางที่มีพลังร่างกายเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผลเพียงอย่างเดียวสำหรับคนส่วนใหญ่ที่

152

กีดขวาง

ความคิดแบบ dualism จิตใจที่เรามีชีวิตอยู่เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่อธิบายให้เราทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราตายและเช่นเดียวกับความเป็นคู่ความคิดของพลังงานที่สำคัญที่อาศัยอยู่ในร่างกายเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นเร็วเด็กเล็กเข้าใจชีวิตในแง่ของพลังงานสำคัญที่จำเป็นสำหรับการรักษาร่างกายให้ดำเนินต่อไป 33 ในการสอบสวนครั้งเดียวเด็ก ๆ ถูกถามคำถามทางชีวภาพที่แตกต่างกันเช่น“ ทำไมเราถึงหายใจ?”เพื่อช่วยให้พวกเขาตอบนักวิจัยเสนอคำอธิบายสามประเภทให้เด็ก ๆ : ผู้ที่อยู่บนเป้าหมายทางจิต (เพราะเราต้องการรู้สึกดี) คำอธิบายเชิงกล (เพราะปอดใช้ออกซิเจนและเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ที่ไร้ประโยชน์) หรือคำอธิบายที่สำคัญ(เพราะหน้าอกของเราใช้พลังงานที่สำคัญจากอากาศ)อายุหกขวบเด็กส่วนใหญ่รับรองเหตุผลสำคัญในขณะที่เด็กโตและผู้ใหญ่เลือกบัญชีกลไกการศึกษาอาจสอนพวกเขาเกี่ยวกับออกซิเจนและคาร์บอนมอนอกไซด์ แต่คำอธิบายบนพื้นฐานของพลังงานสำคัญคือตำแหน่งเริ่มต้นของเด็กเล็กเด็กบางคนพูดคุยเกี่ยวกับเลือดที่ถือพลังงานไว้ในมือเพื่อให้พวกเขาเคลื่อนไหวการศึกษาให้เรามีกรอบใหม่ของคำอธิบาย แต่อย่างที่เราเห็นด้วยทฤษฎีที่ไร้เดียงสาของแรงโน้มถ่วงและแบบจำลองที่ใช้งานง่ายอื่น ๆ ของโลกมันไม่ชัดเจนว่าวิธีการคิดก่อนหน้านี้ถูกทอดทิ้งพลังสำคัญที่ยั่งยืนดูเหมือนจะเป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับชีวิตแนวคิดของพลังงานชีวิตที่ยั่งยืนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเลยร่างกายที่มีชีวิตสร้างพลังงานในการแปลงพลังงานจากแหล่งหนึ่งเป็นอีกแหล่งหนึ่งนี่คือสิ่งที่การเผาผลาญคือพลังงานไม่เคยหายไปนี่คือกฎข้อแรกของอุณหพลศาสตร์ที่ค้นพบในช่วงสามร้อยปีที่ผ่านมาพลังงานไม่สามารถสูญหายได้ แต่เปลี่ยนสถานะในขณะที่พวกเราน้อยมากที่มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายของอุณหพลศาสตร์สำหรับการเปลี่ยนจากชีวิตไปสู่ความตายเป็นเพียงการเคลื่อนไหวของแหล่งพลังงานจากรัฐหนึ่งไปยังอีกรัฐหนึ่งผู้ใหญ่หลายคนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงทางชีวภาพเกี่ยวกับการเผาผลาญและพลังงานยังคงสามารถเข้าใจได้ถึงพลังบางอย่างที่อาศัยอยู่ในสิ่งมีชีวิต แต่เดินหน้าต่อไปเราเป็นนักบวชที่ใช้งานง่ายแต่เด็ก ๆ ไม่ได้เริ่มเป็น Vitalistsคำถามทำให้พวกเขาสับสนเพราะพวกเขายังไม่ได้เริ่มคิดเกี่ยวกับร่างกายของตัวเองแยกออกจากจิตใจของพวกเขาสิ่งนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมพวกเขาถึงมีปัญหาในการทำความเข้าใจความตายอย่างที่เราเห็นในช่วงสุดท้าย

อุบัติเหตุประหลาด

153

บท.เมื่อเด็กอายุได้ถูกจัดเรียงเป็นคนที่คิดในแง่ของกองกำลังชีวิตที่สำคัญและผู้ที่ไม่ได้เป็นเด็ก Vitalist เป็นคนที่เข้าใจว่าความตายนั้นไม่สามารถย้อนกลับได้หลีกเลี่ยงไม่ได้และเป็นสากลและนำไปใช้กับสิ่งมีชีวิตเท่านั้น 34เด็กอายุน้อยกว่าที่ไม่ใช่นักวิชาการสับสนดังนั้นความไร้เดียงสาที่ไร้เดียงสาที่เกิดขึ้นใหม่ช่วยให้เด็ก ๆ ชื่นชมธรรมชาติของความตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนทฤษฎีที่ใช้งานง่ายไม่จำเป็นต้องมีความแม่นยำทางวิทยาศาสตร์ที่จะเป็นประโยชน์ห่วงโซ่อันยิ่งใหญ่ของการเป็นพลังชีวิตที่สำคัญไม่เพียง แต่เป็นแนวคิดที่เข้าใจได้ง่ายในเด็กทุกคนนอกจากนี้ยังเป็นความเชื่อที่รอดชีวิตมาได้หลายพันปีในรูปแบบที่แตกต่างกันของร่างกายมนุษย์ทั้งศาสนาและการแพทย์ชาวกรีกโบราณอธิบายถึงพลังชีวิตที่สำคัญในทฤษฎีร่างกายของพวกเขาว่าร่างกายทำงานอย่างไรพวกเขาเชื่อว่าร่างกายที่มีสุขภาพดีขึ้นอยู่กับการรักษาสมดุลของน้ำผลไม้ที่สำคัญทั้งสี่ของเลือดเสมหะน้ำดีสีเหลืองและน้ำดีสีดำอย่างไรก็ตามเนื่องจากร่างกายเหล่านี้เป็นสิ่งที่เน่าเสียง่าย, องค์ประกอบหรือ "แก่นสาร" เป็นสิ่งจำเป็นในการเคลื่อนไหวร่างกายด้วยวิญญาณ 35 วันนี้ความคิดที่คล้ายกันยังคงเป็นองค์ประกอบหลักของการแพทย์และปรัชญาตะวันออกแบบดั้งเดิมการจัดการและการส่งพลังงานชาวกรีกยังได้รับการยอมรับแนวคิดแบบองค์รวมของชีวิต - หลักคำสอนที่มองไม่เห็นพลังงานและกองกำลังเชื่อมโยงทุกสิ่งในจักรวาลการเชื่อมต่อเหล่านี้เป็นแบบถาวรดังนั้นการกระทำในสิ่งหนึ่งในจักรวาลจึงมีผลกระทบต่อห่วงโซ่ยิ่งมีการเชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นความคิดดังกล่าวสนับสนุนทฤษฎียุคกลางตะวันตกที่โดดเด่นในภายหลังของจักรวาลที่เรียกว่า "ห่วงโซ่อันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า"นี่คือความเชื่อที่ว่าทุกสิ่งรวมถึงสัตว์ผักและแร่ธาตุมีความสัมพันธ์กัน 36 ทุกสิ่งที่เกิดจากแหล่งเดียวกันถูกจัดระเบียบเป็นลำดับชั้นของสมาคมองค์ประกอบกองกำลังเหล่านี้อาจเห็นอกเห็นใจในการที่พวกเขาแบ่งปันจดหมายโต้ตอบร่วมกันที่สามารถรวมกันได้หรือกองกำลังอาจเป็น antipathetic ที่องค์ประกอบต่อต้านซึ่งกันและกันและสามารถใช้ในการยกเลิกซึ่งกันและกัน

154

กีดขวาง

รูปที่.14:“ ห่วงโซ่แห่งความเป็นอยู่ที่ยอดเยี่ยมของ Robert Fludd”ภาพถ่าย Bill Heidrich© UC Berkeley

ตัวอย่างเช่นในภาพประกอบแผนธรรมชาติของพระเจ้าที่ตีพิมพ์ในปี 1617 แผนภาพของ Robert Fludd แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เชื่อมโยงกับดวงอาทิตย์อย่างเห็นอกเห็นใจซึ่งเชื่อมโยงกับเถาวัลย์องุ่นซึ่งเชื่อมโยงกับสิงโตซึ่งเชื่อมโยงกับทองคำดังนั้นผู้ชายจึงเป็นขุนนางทองคำถือเป็นโลหะที่มีเกียรติเช่นเดียวกับชื่อของเหรียญทองในช่วงเวลานี้เถาวัลย์นั้นมีความสูงส่งและแม่พิมพ์ที่ก่อตัวขึ้นบนผลไม้ overripe และสร้างลักษณะที่อุดมไปด้วย ﬂ avor เป็นที่รู้จักกันในนามสิงโตเป็นสัตว์ร้ายในทำนองเดียวกันผู้หญิงก็เชื่อมโยงกับดวงจันทร์อย่างเห็นอกเห็นใจรอบประจำเดือนของเธอนั้นเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางจันทรคติอย่างชัดเจนซึ่งเชื่อมโยงกับข้าวสาลีซึ่งเชื่อมโยงกับนกอินทรีซึ่งเชื่อมโยงกับเงินและอื่น ๆผู้ชายอยู่ตรงข้ามกับผู้หญิงและ

อุบัติเหตุประหลาด

155

ดวงอาทิตย์ตรงข้ามกับดวงจันทร์ทุกที่ในธรรมชาติคุณสามารถเป็นหลักฐานสำหรับความเห็นอกเห็นใจและความเกลียดชังโดยมองหาลายเซ็นของระเบียบที่ซ่อนอยู่ของพระเจ้าหลักฐานนั้นท่วมท้นคุณแค่ต้องมองไปรอบ ๆ ตัวคุณและดูการเชื่อมต่อทั้งหมดนี่เป็นเรื่องง่ายสำหรับจิตใจมนุษย์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับรูปแบบและอนุมานการเชื่อมต่อในโลกธรรมชาติรูปแบบของธรรมชาติทุกที่ถูกตีความว่าเป็นแบบจำลองเชิงลึกที่ลึกกว่าโดยอิงจากการติดต่อที่ซ่อนอยู่ของพระเจ้าบางครั้งพระเจ้าก็ทิ้งเบาะแสไว้ในสัตว์ผักหรือแร่ธาตุที่มีการโต้ตอบเห็นอกเห็นใจที่ใช้ร่วมกันดูคล้ายกันเหตุผลนี้กลายเป็นที่รู้จักกันในนาม "หลักคำสอนของลายเซ็น" และเป็นพื้นฐานสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุและการแพทย์พื้นบ้านมาก 37 ตัวอย่างเช่นวอลนัทดูเหมือนสมองพวกเขาใช้สำหรับอาการปวดหัวต้นวิลโลว์ร้องไห้ถูกคิดว่าเป็นการรักษาความเศร้าโศกเนื่องจากลายเซ็นที่ชัดเจนของความเหนื่อยล้าจากการหลบตาของกิ่งก้านของมันโรงงาน Foxglove (Digitalis) ที่มี ﬁ ngers ที่ถูกพบเดิมคิดว่าเป็นวิธีการรักษาสำหรับสภาพระบบทางเดินหายใจเพราะมันชวนให้นึกถึงปอดที่เป็นโรคขมิ้นรากที่ใช้กันทั่วไปในการระบายสีสีเหลืองอาหารอินเดียใช้ในการรักษาอาการตัวเหลืองซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ผิวสีเหลืองซีดMandrake Roots ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์หดหู่ได้รับการพิจารณาว่ามีศักยภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งและเนื่องจากสารพิษอัลคาลอยด์ของพวกเขาสามารถนำมาใช้เพื่อชักนำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสติปัญญาสำหรับวัตถุประสงค์ทุกรูปแบบNipplewort (Lapsana Communis) วัชพืชสูงที่มีหัวสีเหลืองขนาดเล็กเคยได้รับความนิยมในการรักษาหัวนมเจ็บPilewort (น้อยกว่า Celandine) ด้วยหัวหัวของมันพูดเพื่อตัวเองแม้กระทั่งทุกวันนี้สังคมหลายแห่งให้ความสำคัญกับอาหารวิเศษที่เชื่อว่ามีการรักษาที่จำเป็นหรือเพิ่มคุณสมบัติโดยอาศัยความคล้ายคลึงกับส่วนต่างๆของร่างกายมะเดื่อและทับทิมมีคุณสมบัติที่คล้ายกับอวัยวะเพศหญิงมะพร้าว Coco de Mer คล้ายกับด้านล่างของผู้หญิงและมีค่าสูงสำหรับความอุดมสมบูรณ์ 38 อาหารรูปลึงค์เช่นกล้วยและหน่อไม้ฝรั่งก็ถือว่ามีศักยภาพโดยอาศัยความคล้ายคลึงกับอวัยวะเพศชายไม่น่าแปลกใจเลยที่อวัยวะเพศชายมีลักษณะเป็นประจำเป็นอาหารที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ชายได้Guolizhuang ในปักกิ่งเป็นร้านอาหารแรกของจีนที่เชี่ยวชาญด้านสัตว์

156

กีดขวาง

Penises.นักธุรกิจสามารถจ่ายได้สูงถึง $ 6,000 เพื่อกินอวัยวะเพศเสือด้วยความเชื่อว่ามันจะปรับปรุงความแข็งแรงและพลังงานชีวิตของพวกเขา 39

รูปที่.15: ถั่ว Coco de Merมันดูเหมือนอะไร

ถึงคุณ?

ภาพของผู้แต่ง

การแพทย์แผนจีนส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับแนวคิดที่สำคัญและความเห็นอกเห็นใจที่เห็นอกเห็นใจหญิงตั้งครรภ์ควรกินซุปมังกรไทเกอร์-ฟีนิกซ์ซึ่งผสมผสานพลังงานของงูไก่และแมวเก่าของเราถูกต้องเลย.หากยังไม่พอที่เราจะดื่มหยดในกาแฟของเราและทาน้ำผลไม้ที่คอของเรามันก็เป็นส่วนผสมยอดนิยมในซุปยาจีนทั่วไปCivets อาจหัวเราะครั้งสุดท้ายกับผู้ทรมานมนุษย์การระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ที่คุกคามการระบาดของโรคทั่วโลกในปี 2546 ถูกย้ายไปที่มนุษย์โดยแมว civet ซ้อนกันในลังในตลาดเปียกที่น่าอับอายของตะวันออกไกลก่อนที่จะถูกส่งไปยังร้านอาหารโรคซาร์สเป็น coronavirusมันทำซ้ำโดยการจี้เนื้อหา DNA ของเซลล์และแทนที่

อุบัติเหตุประหลาด

157

มันด้วยสารพันธุกรรมของตัวเองคุณสามารถพูดได้ว่า coronavirus ทดแทนสาระสำคัญหนึ่งสำหรับอีกวิธีการที่น่าขันที่สาระสำคัญเหนือธรรมชาติของแมวที่ติดเชื้อนั้นเป็นสาระสำคัญที่แท้จริงและเป็นอันตรายถึงตายด้วยอัตราการเสียชีวิตหนึ่งในสิบHomeopathy เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ homeopathy ที่ทันสมัยเป็นลูกหลานโดยตรงของการใช้เหตุผลและตรรกะที่มีมนต์ขลังความเห็นอกเห็นใจการปฏิบัติส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการตีพิมพ์ของแพทย์ชาวเยอรมันซามูเอลฮาห์นมันน์ (1755–1833) กฎหมายของสิ่งที่คล้ายกัน: Similia, Similibus Curantur หรือ "ชอบการรักษา"หากลูกน้อยของคุณมีผื่นผ้าอ้อม Homeopathy แนะนำให้รักษาด้วยไม้เลื้อยพิษสารพิษที่สร้างผื่นที่รุนแรงสำหรับอาการท้องเสียของเด็กลองใช้ยาพิษหนูแต่ไม่ต้องกังวลกฎหมายฉบับแรกของสิ่งที่คล้ายคลึงกันนั้นได้รับการเสริมด้วยกฎข้อที่สองของ in nitesimals ซึ่งระบุว่ายิ่งมีการลดขนาดยามากเท่าไหร่การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นการเยียวยา Homeopathic จะเจือจางจนสุดขีดเช่นนั้นไม่น่าเป็นไปได้ที่ของเหลวจะมีอะไรนอกจากน้ำบริสุทธิ์นี่เป็นเพราะผู้ประกอบการเพิ่มส่วนผสมให้กับบีกเกอร์ของน้ำแล้วใช้เวลาหนึ่งในร้อยของการแก้ปัญหาและเพิ่มสิ่งนี้ลงในบีกเกอร์ใหม่จากนั้นเขาหรือเธอใช้เวลาหนึ่งในร้อยของการแก้ปัญหานั้นและทำซ้ำกระบวนการซ้ำแล้วซ้ำอีกวิธีการรักษา homeopathic ทั่วไปจะเจือจางจนมีอนุภาคหนึ่งส่วนของส่วนผสมเป้าหมายดั้งเดิมใน 1,000,000,000,000,000,000, 000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000 อนุภาคของเหลวคุณได้ภาพคุณจะต้องดื่มน้ำยี่สิบตันเพื่อให้มีโอกาสห่างไกลที่คุณกลืนเพียงหนึ่งโมเลกุลของสารดั้งเดิมเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ปัญหาตาม Homeopathy การสั่นสะเทือนสิบครั้งด้วยการเจือจางแต่ละครั้งจะปล่อยพลังงานที่สำคัญของสารออกฤทธิ์ที่ใช้งานอยู่ซึ่งประทับความทรงจำในน้ำไม่จำเป็นต้องพูดชุมชนนักวิทยาศาสตร์ถือว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับ homeopathy ว่าเป็นนักต้มตุ๋นเหนือธรรมชาติมันขึ้นอยู่กับความเชื่อที่เป็นผู้มีความสามารถพิเศษและความเชื่อที่สำคัญแต่มันเป็นอีกวิธีหนึ่งในการรักษาสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆในปี 2550 ภาคผนวกการศึกษาระดับอุดมศึกษาของสหราชอาณาจักรรายงานการเพิ่มขึ้นหนึ่งในสามในสาม

158

กีดขวาง

การใช้งานเพื่อศึกษาการแพทย์ทางเลือกที่สถาบันการศึกษาทางเลือกและการลดลงของการใช้งานที่สอดคล้องกันเพื่อศึกษากายวิภาคศาสตร์สรีรวิทยาและพยาธิวิทยาในมหาวิทยาลัยดั้งเดิมแม้จะมีข้อเท็จจริงที่ว่าหลักฐานสำหรับประสิทธิภาพของการรักษา homeopathic นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดBoots ซึ่งเป็นห่วงโซ่ร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรซึ่งครั้งหนึ่งเคยปฏิเสธ homeopathy แต่วันนี้ขายวิธีการรักษา homeopathic ที่หลากหลายนอกจากนี้ยังรวมถึงหลักสูตรการศึกษาออนไลน์เต็มรูปแบบเพื่อสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับ homeopathy การรักษาแบบองค์รวมกองกำลังสำคัญและทำไมน้ำผึ้งเจือจางจึงดีสำหรับผึ้งต่อยมันเกี่ยวกับการแพทย์สมัยใหม่ที่ทำให้ผู้คนชอบที่จะใส่ศรัทธาและการดูแลร่างกายของพวกเขาในการเยียวยาเหนือธรรมชาติ?สำหรับ homeopathy ใช้งานได้จริงมันใช้งานได้เพราะผู้ป่วยเชื่อว่ามันจะโดยเฉลี่ยแล้วหนึ่งในสามผู้ป่วยป่วยจะดีขึ้นหากพวกเขาเชื่อว่าพวกเขาได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพนี่คือเอฟเฟกต์ยาหลอกที่เรียกว่าผลของยาหลอกนั้นเป็นสิ่งที่น่าทึ่งที่ผู้คนจะดีขึ้นหากพวกเขาคิดว่าพวกเขากำลังทานยาหรือได้รับการบำบัดบางอย่างแม้ว่าจะไม่มีส่วนผสมโดยตรงยาทุกชนิดที่ถูกควบคุมในสหราชอาณาจักรจะต้องผ่านการทดลองทางคลินิกที่พิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าผลลัพธ์ที่ได้จากยาหลอกเพียงอย่างเดียวไม่มีการพิจารณาคดีดังกล่าวสำหรับการรักษา homeopathicตัวอย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา Nicorette หมากฝรั่งที่ช่วยให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบบุหรี่ต้องผ่านการประเมินทางคลินิกที่เข้มงวดก่อนที่ผู้ผลิตจะได้รับใบอนุญาตขายแต่ในร้านขายยาเดียวกันคุณสามารถซื้อ cigarrest, homeopathic เทียบเท่าที่ไม่ต้องผ่านการประเมินดังกล่าวดูเหมือนว่าหน่วยงานกำกับดูแลมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นของยาเสพติดที่มีส่วนประกอบที่ใช้งานมากกว่าการรักษาที่ไม่สามารถแยกแยะได้จากน้ำบริสุทธิ์อย่างไรก็ตามคุณจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าวิธีการรักษา homeopathic ใด ๆ ไม่มีสารออกฤทธิ์ที่เหมาะสม?คุณไม่สามารถทำได้ถ้าคุณมองหามัน!ผลของยาหลอกนั้นเป็นเรื่องจริงมากและหากความเชื่อดีขึ้นเพื่อสุขภาพเราควรกังวลกับสิ่งเหนือธรรมชาติในการดูแลสุขภาพของเราหรือไม่?ท้ายที่สุดการเยียวยา homeopathic เป็นเพียงน้ำและส่วนใหญ่

อุบัติเหตุประหลาด

159

ผู้ปฏิบัติงานอ้างถึงพวกเขาว่าเป็นยาเสริมหมายถึงการใช้ร่วมกับการรักษาที่ประเมินทางคลินิกหากสิ่งนี้ช่วยเพิ่มเอฟเฟกต์ของยาหลอกดังนั้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเชื่อว่าการรักษาเสริมจะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันเรื่องนี้ถูกเปิดเผยในเรื่องอื้อฉาวที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับการรักษาด้วยยาต้านมาลาเรียโรงเรียนแพทย์เขตร้อนของลอนดอนได้ตื่นตระหนกมากขึ้นเมื่อนักเดินทางกลับมาพร้อมกับมาลาเรียเพราะพวกเขาไม่ได้รับการป้องกันโรคแบบดั้งเดิมพวกเขาพบว่ามีการเลือกสรร homeopaths แบบสุ่มสิบแบบที่ดำเนินการในลอนดอนพวกเขาทุกคนแนะนำให้ทำการรักษาป้องกัน homeopathic เพียงอย่างเดียว 41 นี่คือแม้จะมีคำแนะนำของสมาคม Homeopaths ของสหราชอาณาจักรซึ่งยอมรับว่าไม่มีการรักษาด้วยการต่อต้านเชื้อโรคจะต้องมีเหตุผลอื่น ๆ ว่าทำไมผู้คนปฏิเสธการรักษาที่ทันสมัยที่พิสูจน์แล้วในความชอบสำหรับการรักษาเหนือธรรมชาติในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อการแพทย์สมัยใหม่สำหรับสิ่งหนึ่งการรักษาแบบองค์รวมพิจารณาทั้งบุคคลและในการทำเช่นนั้นนักบำบัดทางเลือกใช้เวลาในการฟังผู้ป่วยและปัญหาของพวกเขามากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับแพทย์ที่ทำงานกับระบอบการปกครองที่ไวต่อเวลาความพึงพอใจของผู้ป่วยและการปรับปรุงสุขภาพมีความสัมพันธ์โดยตรงกับระยะเวลาที่แพทย์รับฟังปัญหาของผู้ป่วย 42 ไม่เพียง แต่ปัญหาที่ใช้ร่วมกันปัญหาลดลงครึ่งหนึ่ง แต่การแบ่งปันมักนำไปสู่การปรับปรุงสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ความนิยมของการแพทย์ทางเลือกเพิ่มขึ้นคือเรามีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการรักษาที่ดูเหมือนผิดธรรมชาติคุณสังเกตเห็นว่าคำว่า "ธรรมชาติ" เป็นเรื่องธรรมดาในการโฆษณาวันนี้หรือไม่?ในยุคที่เรียกว่า "ยุคหลังสมัยใหม่" ของเราเราแฮนเคอร์เพื่อกลับไปสู่เวลาที่ง่ายขึ้นและการตั้งค่าสำหรับผลิตภัณฑ์ธรรมชาติอีกครั้งทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงและความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่แต่การรักษาตามธรรมชาติคืออะไรและมันอันตรายน้อยกว่าการรักษาทางการแพทย์ที่ทันสมัย?ปรากฎว่าธรรมชาติมีสารพิษที่เป็นธรรมชาติมากกว่าที่มนุษย์สังเคราะห์อันที่จริงแล้วการทำ homeopathy ส่วนใหญ่ทำงานบนหลักการของความเลวเล็กน้อยเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณดังนั้นเพียงเพราะสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ได้ทำให้ปลอดภัย

160

กีดขวาง

นักวิจัยที่น่าขยะแขยงพื้นฐานเหนือธรรมชาติของการแพทย์ทางเลือกดูเหมือนว่าการเรียงลำดับของ Mumbo-jumbo จะรวมถึงยุคมืดที่ไม่ได้รับความสว่างของสังคม Prescientiแต่เราไม่ควรที่จะเยาะเย้ยคนที่แสวงหาการรักษาดังกล่าวอย่างรวดเร็วกฎเดียวกันของเวทมนตร์ที่เห็นอกเห็นใจเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันสำหรับพวกเราทุกคนในวันนี้และไม่มากไปกว่าประสบการณ์ที่แปลกประหลาดของมนุษย์ที่น่ารังเกียจและความกลัวของการปนเปื้อนของเราการปนเปื้อนของเรากลัวว่าเราจะไม่เต็มใจที่จะสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ ที่เราน่ารังเกียจเราอาจสามารถกระตุ้นและเอาชนะความรังเกียจของเราได้ แต่มันสามารถทำงานได้ในระดับลำไส้ทำให้มันแตกต่างกันในการควบคุมด้วยเหตุผลบางสิ่งกระตุ้นความรังเกียจโดยอัตโนมัติและไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ไฮโดรเจนซัลไฟด์, มีเธน, ซากศพและ putrescine เป็นสี่ของกลิ่นที่น่ารังเกียจที่สุดต่อจมูกของมนุษย์พวกเขาสามารถพบได้ในการขับถ่ายของร่างกายต่าง ๆ แต่มีความเข้มข้นมากที่สุดในศพที่สลายตัวเมื่อฉันเหยียบท้องแมวที่ตายแล้วตอนอายุสิบขวบมันเป็นค็อกเทลเคมีที่ทำร้ายความรู้สึกของฉันทุกคนรู้สึกเบื่อหน่ายกับกลิ่นของร่างกายที่เน่าเปื่อยอย่างไรก็ตามทริกเกอร์อื่น ๆ ของความรังเกียจไม่ได้ถูกท่องจำไปในชีววิทยาของเราและนั่นคือเหตุผลที่ความรังเกียจน่าสนใจสำหรับนักจิตวิทยา: บางครั้งมันอาจถูกกระตุ้นโดยความเชื่อเพียงอย่างเดียวเมื่อเราได้พบกับ Paul Rozin ก่อนหน้านี้มันอยู่ในบริบทของคาร์ดิแกนของนักฆ่า แต่การวิจัยนี้เกิดจากการทำงานของเขาเกี่ยวกับต้นกำเนิดและการพัฒนาของความรังเกียจของมนุษย์Rozin เป็นหนึ่งในนักวิจัยที่น่ารังเกียจที่สุดในโลกหลังจากอ่านเกี่ยวกับการศึกษาของเขาคุณจะต้องระวังอย่างมากเกี่ยวกับการหยุดทานอาหารเย็นที่สถานที่ของเขา 43 ตัวอย่างเช่นเขาวัดว่าผู้ใหญ่ตอบสนองต่อความท้าทายต่าง ๆ ที่กระตุ้นการตอบสนอง“ Yuck”คุณสามารถดื่มจากแก้วได้ไหมหลังจากสัมผัสกับแมลงสาบที่ผ่านการฆ่าเชื้อได้หรือไม่?คุณสามารถกินช็อคโกแลตฟัดจ์ที่มีรูปร่างเหมือนสุนัขตัวหนึ่งได้ไหม?คุณจะแอบซุปซุปที่คุณชื่นชอบหลังจากที่ได้รับการกระตุ้นด้วย Swatter ใหม่ล่าสุดหรือไม่?เหตุใดการพ่นอาหารของคุณเองจึงทำให้มันน่าขยะแขยงแม้ว่าคุณจะต้องการน้ำลายสำหรับการย่อยอาหาร?อย่างที่คุณคาดหวังผู้คนต่างก็เบื่อหน่ายกับความท้าทายส่วนใหญ่เหล่านี้แม้กระทั่ง

อุบัติเหตุประหลาด

161

แม้ว่าความเสี่ยงที่แท้จริงของการปนเปื้อนจะน้อยที่สุดหรือไม่มีอยู่ในแต่ละสถานการณ์แล้วก็มีรูปแบบทางวัฒนธรรมพวกเราหลายคนสามารถซ่อนตัวลงในแซนวิชเบคอนได้อย่างมีความสุขในตะวันตกเรารู้สึกตกใจอย่างง่ายดายซึ่งแมลง, อวัยวะเพศชาย, ถุงน้ำดี, งู, แมว, สุนัขและลิงถูกบริโภคในตะวันออกไกลเห็นได้ชัดว่าบางรูปแบบของความรังเกียจถูกกำหนดทางวัฒนธรรมนี่จะเป็นอย่างไร?การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่สำคัญต่อการปนเปื้อนพิสูจน์ว่าต้องเรียนรู้บางอย่างสำหรับความรังเกียจเมื่อเราดูคนอื่น ๆ หันจมูกของพวกเขาในอาหารเฉพาะหรือ retching ในสถานที่ท่องเที่ยวบางอย่างเราสามารถคัดลอกคำตอบของพวกเขาแต่ความรังเกียจและความกลัวที่มาพร้อมกับการปนเปื้อนไม่ได้ปฏิบัติตามกฎการเรียนรู้ง่ายๆในแบบปกติสำหรับการเริ่มต้นเรามีสายเพื่อตอบสนองต่อความรังเกียจของผู้อื่นโดยอัตโนมัติเพียงแค่ดูใครบางคนดึงการแสดงออกที่น่ารังเกียจก็มีความเพียงพอที่จะชักจูงความรู้สึกรังเกียจของเราเองตัวอย่างเช่นหากคุณดูใครบางคนดึงใบหน้าหลังจากดื่มเครื่องดื่มสิ่งนี้จะเปิดใช้งาน insula ซึ่งเป็นภูมิภาคเดียวกันของสมองของคุณที่ปกติเมื่อคุณได้กลิ่นสิ่งที่น่ารังเกียจ 44 เป็นการเรียนรู้ครั้งเดียวนั่นเป็นวิธีที่อารมณ์ที่น่ารังเกียจอย่างรวดเร็วและติดเชื้อสำหรับฉันสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากของความรังเกียจและความกลัวการปนเปื้อนที่เกี่ยวข้องคือพวกเขาแสดงจุดเด่นทั้งหมดของการคิดเหนือธรรมชาติ 45 นี่เป็นเพราะพวกเขากระตุ้นให้เกิดความสำคัญทางจิตวิทยาการให้เหตุผลที่สำคัญและเวทมนตร์ที่เห็นอกเห็นใจตัวอย่างเช่นเวทมนตร์ที่เห็นอกเห็นใจระบุว่าแก่นแท้สามารถถ่ายโอนเมื่อติดต่อและมันยังคงออกแรงใน ﬂ uence หลังจากการติดต่อนั้นหยุดลงสิ่งนี้เรียกว่าหลักการ“ ครั้งหนึ่งในการติดต่ออยู่เสมอในหลักการ” 46 สิ่งที่คุณหวงแหนสามารถถูกทำลายได้โดยการติดต่อกับสารปนเปื้อนที่น่าขยะแขยงในลักษณะเดียวกันตัวอย่างเช่นการสัมผัสสั้น ๆ ของอาหารโดยคนที่คุณคิดว่าน่าขยะแขยงทำให้จานไม่อร่อยมีคำพูดเก่า ๆ ว่าน้ำมันหยดหนึ่งอาจทำให้น้ำผึ้งเสียไปได้ แต่น้ำผึ้งหยดหนึ่งไม่สามารถทำลายน้ำมันได้

162

กีดขวาง

นี่คืออคติเชิงลบที่มนุษย์มีเมื่อพูดถึงการปนเปื้อน 47 เรารู้สึกว่าความสมบูรณ์ของสิ่งที่ดีสามารถทำให้เสียง่ายขึ้นโดยการติดต่อกับสิ่งที่ไม่ดีมากกว่าวิธีอื่น ๆอย่างไรก็ตามมันแตกต่างกันที่จะสมเหตุสมผลเกี่ยวกับการปนเปื้อนเมื่อเกิดขึ้นราวกับว่าสารปนเปื้อนมีพลังงานที่สามารถแพร่กระจายได้ตัวอย่างเช่นลองนึกภาพว่าของหวานที่คุณชื่นชอบคือเชอร์รี่พายและคุณมีตัวเลือกในการเลือกระหว่างชิ้นที่มีขนาดใหญ่มากและชิ้นเล็ก ๆน่าเสียดายที่บริกรของคุณสัมผัสเปลือกโลกของชิ้นใหญ่ด้วยนิ้วหัวแม่มือสกปรกของเขาโดยไม่ตั้งใจนิ้วโป้งเดียวกับที่คุณเพิ่งเห็นเขาเลือกจมูกด้วยคุณจะเลือกชิ้นไหน?เมื่อพิจารณาถึงทางเลือกเราส่วนใหญ่จะเลือกชิ้นเล็ก ๆ แม้ว่าเราจะสามารถตัดเปลือกโลกที่บริกรแตะมันและยังคงจบลงด้วยพายมากขึ้นเท่าที่เรากังวลชิ้นทั้งหมดได้ถูกทำลาย - เช่นเดียวกับความอยากอาหารของเราภูมิปัญญาแห่งความรังเกียจที่น่ารังเกียจส่งผลกระทบมากกว่าเพียงแค่ทัศนคติของเราที่มีต่อสิ่งที่เราใส่ไว้ในปากของเรามันทำให้การตัดสินทางศีลธรรมของเราเช่นกันหลายคนพึ่งพาความรังเกียจในการตัดสินใจว่าพวกเขาคิดว่าอะไรถูกหรือผิดLeon Kass อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาด้านจริยธรรมของประธานาธิบดีจอร์จดับเบิลยู. บุชเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าความขยะแขยงเป็นบารอมิเตอร์ที่เชื่อถือได้สำหรับสิ่งที่เราควรจะยอมรับไม่ได้ทางศีลธรรมในเรียงความของเขา“ ภูมิปัญญาแห่งความเกลียดชัง” เขาทำให้กรณีที่น่ารังเกียจอีกครั้งความคิดที่ฝังลึกและควรตีความว่าเป็นหลักฐานสำหรับธรรมชาติที่เป็นอันตรายหรือชั่วร้ายของบางสิ่งบางอย่าง 48 ถ้าคุณรู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อคุณได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างนั่นเป็นเพราะมันผิดปัญหาเกี่ยวกับมุมมองนี้คือสิ่งที่ผู้คนน่ารังเกียจขึ้นอยู่กับคนที่คุณถามพิจารณาการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องระหว่างพี่ชายและน้องสาวที่ยินยอมในสังคมส่วนใหญ่การร่วมประเวณีระหว่างพี่น้องพี่ชายและน้องสาวถือว่าน่าขยะแขยงทำไมมีอะไรผิดปกติกับคนที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรมสองคนที่มีเพศสัมพันธ์?เราสามารถยืนยันได้ว่าการตอบสนองนี้พัฒนาขึ้นเนื่องจากความเสี่ยงของการผสมพันธุ์ตัวอย่างเช่นการผสมพันธุ์กับพี่น้องของคุณเป็นเรื่องทางพันธุกรรมไม่มีโอกาสเพิ่มขึ้นว่าลูกหลานคนใดจะมีความผิดปกติทางพันธุกรรมและถ้าเป็นพี่ชายและน้องสาว

อุบัติเหตุประหลาด

163

มีเพศสัมพันธ์ร่วมกันในส่วนตัวเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าใช้การคุมกำเนิดและหลีกเลี่ยงโอกาสที่เป็นไปได้ของการตั้งครรภ์เรายังคงพิจารณาเพศเช่นนี้ไม่สามารถยอมรับได้ทางศีลธรรมจากนั้นก็มีสิ่งแปลก ๆ อื่น ๆ ทั้งหมดที่ผู้คนอาจได้รับเหตุใดการทำความสะอาดห้องน้ำด้วยระดับชาติหรือกินซากไก่ที่คุณเพิ่งใช้สำหรับการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองน่าขยะแขยง?การกระทำเหล่านี้อาจแปลก แต่ไม่มีเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมพวกเขาถึงผิด 49 มีอะไรผิดปกติกับการสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่า?ในความเป็นจริงผู้คนมักจะหลงทางเมื่อพยายามให้เหตุผลพวกเขาได้รับการตะลึงทางศีลธรรมในขณะที่นักจิตวิทยาโจนาธานไฮด์กล่าวว่า 50 โดยวิธีการในกรณีที่คุณสงสัยเกี่ยวกับสภาพที่บิดเบี้ยวในใจของฉันตัวอย่างที่น่ารำคาญเหล่านี้ทั้งหมดมาจากงานของ Haidtดังนั้นเขียนถึงเขาถ้าพวกเขาทำให้คุณเสียใจคำอธิบายทางชีวภาพมีข้อ จำกัด เกินไปสำหรับการอธิบายทุกสิ่งที่เราน่ารังเกียจแต่คำตอบจะต้องเป็นกลไกอื่น ๆ ที่ใช้การตอบสนองที่น่ารังเกียจสำหรับวัตถุประสงค์อื่นความเป็นไปได้อย่างหนึ่งคือความรังเกียจทำงานเป็นกลไกสำหรับการทำงานร่วมกันทางสังคมในการจัดตั้งกลุ่มที่เหนียวแน่นเราต้องมีชุดของกฎความเชื่อและการปฏิบัติที่กำหนดกลุ่มของเราและสมาชิกแต่ละคนจะต้องตกลงที่จะปฏิบัติตามนี่คือวิธีที่แก๊งค์แยกแยะตัวเองจากอีกแก๊งนี่คือจรรยาบรรณทางศีลธรรมที่พบได้ทั่วทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของโลกเมื่อกฎเหล่านี้ถูกละเมิดข้อห้ามก็ถูกทำลายและการตอบสนองทางอารมณ์เชิงลบจะต้องถูกกระตุ้นผู้กระทำความผิดจะต้องรู้สึกผิดและพวกเราที่เหลือจะต้องลงโทษบุคคลนั้นนี่คือวิธีการทำงานของความยุติธรรมผลสุทธิคือการเสริมสร้างการทำงานร่วมกันของกลุ่มข้อห้ามทางวัฒนธรรมอาจก่อให้เกิดการทำงานร่วมกันทางสังคม แต่พวกเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับเหตุผลใด ๆ นอกเหนือจากที่พวกเขากำหนดกลุ่มนี่คือเหตุผลที่บุคคลเหล่านั้นที่มีความสุขที่ได้สัมผัสคาร์ดิแกนของนักฆ่าเป็นคนนอกด้วยการใช้พฤติกรรมและเชื่อมโยงกับการตอบสนองของอวัยวะภายในเราสามารถใช้ความรังเกียจเพื่อควบคุมสมาชิกกลุ่มแต่ละคนนอกจากนี้เรายังสามารถใช้ความรังเกียจเพื่อทำให้ผู้อื่นได้ในบทต่อไปเราตรวจสอบว่าการคิดที่สำคัญเช่นนี้เป็นรากเหง้าของความดื้อรั้นที่มุ่งไปยังคนที่บางคนค่อนข้างจะรักษาความยาวของแขนเนื่องจากสีหรือภูมิหลังทางสังคมของพวกเขาเมื่อเราบอกว่าชาวนากำลังก่อกวนเราหมายถึงมันในแบบที่น่ารังเกียจมันให้เหตุผลทางอารมณ์ในการรักษาพวกเขาในทาง

164

กีดขวาง

ผู้กดขี่ทำเราสามารถปฏิบัติต่อผู้อื่นไม่ดีที่ไม่แบ่งปันค่านิยมของเราเพราะรู้สึกถูกต้องแล้วทำไมมันถึงรู้สึกถูก?ฉันคิดว่าคำตอบคือคุณสมบัติที่ล่องหนในการดำเนินงานในโลกทำให้ความรู้สึกเหล่านี้ดูสมเหตุสมผลและความขยะแขยงเป็นผลกระทบเชิงลบของการละเมิดค่าศักดิ์สิทธิ์ของเราอะไรต่อไป?ในบทนี้เราได้ดูความเข้าใจทางชีวภาพที่เกิดขึ้นใหม่ของโลกที่ขึ้นอยู่กับการจัดหมวดหมู่ตามการปรากฏตัวภายนอกและคุณสมบัติที่มองไม่เห็นดูเหมือนว่าการออกแบบจิตใจของเราจะมองหารูปแบบและคำอธิบายเชิงสาเหตุที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นสำหรับสิ่งต่าง ๆ ที่เราคิดว่ามีอยู่ในโลกที่มีชีวิตกระบวนการนี้นำไปสู่แนวคิดที่ไม่ได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับแก่นแท้พลังงานชีวิตและการเชื่อมต่อแบบองค์รวมความเชื่อเหล่านี้หลายอย่างสามารถพบได้ในรูปแบบโบราณของโลกธรรมชาติที่มีโครงสร้างและกลไกที่ซ่อนอยู่ซึ่งคิดว่าจะมีระเบียบเหนือธรรมชาติในจักรวาลในขณะที่แนวคิดที่ใช้งานง่ายเหล่านี้มีความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงในระดับหนึ่งวิธีคิดที่ไร้เดียงสาของเราเกี่ยวกับพวกเขาทำให้เรามีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่จะเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติหากเป็นจริงตัวอย่างเช่นอภินิหารเป็นพื้นฐานของความเชื่อสำหรับผู้ที่สนับสนุนพลังความเห็นอกเห็นใจของยาที่เจือจางและอาหารวิเศษที่มีความคล้ายคลึงกับบางส่วนภายใต้คำถามในสถานการณ์เหล่านี้บางครั้งความเชื่อเพียงอย่างเดียวบางครั้งก็เพียงพอที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการแม้ว่าจะไม่มีส่วนผสมที่ใช้งานอยู่ในยาหรืออาหารเช่นเดียวกับภาพลวงตาของการควบคุมที่กล่าวถึงในบทที่ 1 เชื่อว่าคุณจะได้รับประโยชน์บางครั้งก็ดีพอความเชื่อดังกล่าวยังเป็นวิธีที่เราเห็นว่าตัวเองเป็นสมาชิกของกลุ่มโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Supersense ของเรานำเราไปสู่การอนุมานสิ่งที่จำเป็นและเป็นส่วนประกอบสำคัญต่อกลุ่มที่ไม่ควรถูกละเมิดหรือปนเปื้อนจากภายนอกเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นเราจะรู้สึกรังเกียจและรังเกียจสิ่งเหล่านี้เป็นสภาวะทางอารมณ์ที่เกิดจากกลไกที่แสดงคุณสมบัติเหนือธรรมชาติมากมายของความเห็นอกเห็นใจความเกลียดชังและการปนเปื้อนทางจิตวิญญาณด้วยวิธีนี้ Supersense ของเราดำเนินการเพื่อรวมสมาชิกกลุ่มโดยการแบ่งปันค่าศักดิ์สิทธิ์

อุบัติเหตุประหลาด

165

กลุ่มจะถูกจัดขึ้นด้วยค่าศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มนุษย์ทุกคนสามารถเบื่อหน่ายและเราจะสงสัยมากสำหรับทุกคนที่ไม่ได้สัมผัสกับการตอบสนองทางอารมณ์นี้โดยเฉพาะเมื่อมีคนบอกว่าพวกเขาสามารถสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้อย่างง่ายดายเราระบุว่าพวกเขาเป็นบุคคลที่ไม่ได้เตรียมที่จะแบ่งปันคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มแม้ว่าค่าเหล่านี้จะเป็นไปตามอำเภอใจนี่เป็นเพราะ Supersense ของเราทำให้ค่าเหล่านี้ดูสมเหตุสมผลเพราะความขุ่นเคืองทางศีลธรรมที่เราพบว่าเป็นเชื้อเพลิงจากระบบอารมณ์ที่ใช้งานง่ายของเราในฐานะสัตว์สังคมเราขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเราแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องของเหตุผลก็ตามในบทต่อไปเราตรวจสอบว่า Supersense นี้สามารถนำไปสู่ความเชื่อและการปฏิบัติที่แปลกประหลาดได้อย่างไรซึ่งเราคิดว่าเราสามารถดูดซับสาระสำคัญของคนอื่นได้

บทที่เจ็ด

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยน้ำประมาณสองในสามบางทีนี่อาจอธิบายถึงความสามารถของเราเพื่ออธิบายคนอื่น ๆ ที่มีภาษาที่ถูกทำให้เหลวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เราอาจต้องแบ่งปันความใกล้ชิดบางคนลื่นไหลในขณะที่คนอื่นเปียกใครบางคนสามารถเป็นคนที่หยดน้ำได้เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ที่คำอธิบายเหล่านี้เป็นการเปรียบเทียบกับน้ำเมือกซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความรังเกียจ?เช่นเดียวกับอาหารบางคนอาจอร่อยในขณะที่คนอื่น ๆ สามารถกบฏได้และในทำนองเดียวกับการใช้เหตุผลที่สำคัญในการที่เรารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการผสมผสานอาหารเข้ากับร่างกายของเราเช่นเดียวกันกับการเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆเมื่อยาย“ แค่อยากกินคุณทั้งหมด” ไม่เพียง แต่เธอจะเปรียบเทียบคุณกับสิ่งที่อร่อยเธออาจอยากจะซึมซับคุณ!เมื่อเราให้เหตุผลเกี่ยวกับผู้อื่นการตัดสินของเรามีสีสันจากความรู้สึกที่จำเป็นของเราในระดับหนึ่งมนุษย์เป็นเผ่า: เราอยู่ในกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะและไม่ใช่อีกกลุ่มหนึ่งแต่เราก็เห็นว่าตัวเองเป็นบุคคลที่เต็มใจแบ่งปันความใกล้ชิดทางกายภาพในระดับหนึ่งกับกลุ่มและกับผู้อื่นที่มีความสำคัญความรักความเกลียดชังและความรังเกียจต่อผู้อื่นนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากการตอบสนองของลำไส้ที่สร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แข็งแกร่งที่สุดของเราและเราคิดอย่างสังหรณ์ใจในวิธีที่สำคัญเกี่ยวกับธรรมชาติของการเชื่อมต่อเหล่านี้

168

กีดขวาง

เราคิดเช่นนี้เพราะเราต้องแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ของเราในวิธีที่จับต้องได้ตัวอย่างเช่นในการศึกษาหนึ่งวิชาผู้ใหญ่ได้รับการบอกว่าพวกเขาจะได้รับการยิงวิตามินเพื่อศึกษาผลกระทบต่องานภาพในความเป็นจริงบางคนได้รับภาพอะดรีนาลีนโดยไม่มีความรู้อะดรีนาลีนเป็นฮอร์โมนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาของความเร้าอารมณ์มันทำให้คุณหายใจเร็วขึ้นการแข่งขันหัวใจและฝ่ามือของคุณเหงื่อออกอาสาสมัครทำอะไรจากการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาในความเร้าอารมณ์?ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบริบทในขณะที่พวกเขาอยู่ในห้องรอการทดสอบภาพปลอมพวกเขาถูกขอให้ทำแบบสอบถามอารมณ์เมื่อมาถึงจุดนี้ผู้ทดลองที่ได้รับการแกล้งทำเป็นผู้เข้าร่วมของแท้เริ่มทำหน้าที่มีความสุขมากหรือหงุดหงิดมากอาสาสมัครที่ไม่ทราบว่าการหายใจเร็วขึ้นการแข่งชีพจรและต้นปาล์มที่มีเหงื่อออกเกิดจากยาที่รายงานว่ารู้สึกโกรธหรือมีความสุขทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรัฐที่กระทำโดยพันธมิตร 1 คุณจำ numskulls จากบทที่ 5 ได้หรือไม่?มันเป็นเหมือนบอส Numskull ในหัวของ ﬁ ce ได้รับบันทึกช่วยจำจากทั่วร่างกายบอกเขาว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นและเขาต้องส่งข่าวประชาสัมพันธ์เพื่ออธิบายว่าทำไมร่างกายถึงรู้สึกตื่นเต้นมากประสบการณ์ที่มีสติคือแพทย์สปินทำให้รู้สึกถึงข้อความในการศึกษาอื่นผู้ทดลองหญิงที่น่าสนใจหยุดและสัมภาษณ์อาสาสมัครชายขณะที่พวกเขาข้ามสะพานลอยแคบ ๆ เหนือหุบเขาลึกมาก 2 หลังจากการสัมภาษณ์เธอให้หมายเลขโทรศัพท์แก่พวกเขามาตรการที่น่าสนใจคือพวกเขาเรียกเธอในภายหลังหรือไม่ผู้ชายสองเท่าที่เธอหยุดกลางสะพานเรียกเธอเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายที่ถูกสัมภาษณ์ที่ด้านข้างของสะพานคำอธิบายนั้นมีไหวพริบเหมือนคนที่ถูกสัมภาษณ์ในช่วงกลางของสะพานสูงนั้นถูกกระตุ้นทางสรีรวิทยาโดยอันตรายจากสถานการณ์ แต่ตีความการตอบสนองทางกายภาพนี้ผิดทางเพศต่อผู้สัมภาษณ์หญิงดังนั้นประสบการณ์ของเราเกี่ยวกับอารมณ์คือการผสมผสานระหว่างความรู้สึกทางร่างกายและความพยายามของเราในการตีความพวกเขาเราพยายามทำความเข้าใจกับความรู้สึกของเราเมื่อเราพบคนที่กระตุ้นการตอบสนองทางอารมณ์เราใช้กระบวนการตีความเดียวกันเราอาจจะไม่เป็น

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

169

สามารถพูดได้ว่ามันคืออะไรที่เราชอบหรือไม่ชอบเกี่ยวกับบุคคล แต่เรามีความรู้สึกเกี่ยวกับเขาหรือเธอตัวอย่างเช่นคุณเคยรู้สึกไม่สบายใจต่อหน้าใครบางคนและไม่รู้ว่าทำไม?บางทีเธออาจยืนอยู่ใกล้คุณเกินไปหรือบางทีเขาอาจจับมือของคุณให้นานขึ้นและหนักกว่าที่คุณคาดไว้หรือบางทีคนที่สัมผัสแขนของคุณในระหว่างการสนทนาการสัมผัสทางกายภาพอาจมีเสน่ห์หรือน่ารังเกียจทำไมฉันคิดว่าคำตอบคือการติดต่อทางกายภาพนำไปสู่ความเชื่อในการปนเปื้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมหากบุคคลนั้นเป็นคนที่เราโน้มเอียงไปทางเช่นเพื่อนที่มีศักยภาพหรือคนที่เราเคารพก็ยินดีต้อนรับผู้ติดต่อหากเป็นคนที่เราไม่ชอบการติดต่อทางกายภาพอาจทำให้เกิดการประท้วงได้การตอบสนองทั้งสองดำเนินการบนพื้นฐานของความสำคัญทางจิตวิทยาแม้ว่าเราจะไม่ได้ตระหนักถึงภัยคุกคามของการปนเปื้อนนี้โดยสมมติว่าการแลกเปลี่ยนสาระสำคัญเราสามารถพิสูจน์การตอบสนองของเราในแง่ของการปนเปื้อนตัวอย่างเช่นสมาชิกของวรรณะที่ต่ำที่สุดในระบบอินเดียเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "วรรณะ": พวกเขาถือว่าน่าขยะแขยงจนสมาชิกวรรณะสูงกว่าจะปนเปื้อนโดยการติดต่อกับพวกเขาแม้ว่าคำว่า "ไม่สามารถแตะต้อง" ได้ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการในปี 2493 แต่ก็ยังคงดำเนินการในวันนี้เนื่องจากสมาชิกจากวรรณะต่าง ๆ รักษาระดับการแยกทางกายภาพต่าง ๆ 3 สิ่งเดียวกันนั้นเป็นจริงสำหรับการแยกที่ดำเนินการในสหรัฐอเมริกาและระบบการแบ่งแยกสีผิวของแอฟริกาใต้เรียกชื่อคนเช่น“ ﬁ lth” หรือ“ vermin” ไม่เพียง แต่ลดทอนความเป็นมนุษย์ แต่ยังนำไปสู่ผู้อื่นให้ปฏิบัติต่อพวกเขาว่าแตกต่างกันและปนเปื้อนเป็นหลักเพื่อนบ้านชาวบ้านคนอื่น ๆ จะเป็นเด็ก Tutsi ที่มีแมเชเทตได้อย่างไรถ้าไม่ใช่เพราะเด็กหยุดเป็นมนุษย์และกลายเป็นแมลงสาบ?การกระทำของเราอาจมีแรงจูงใจทางสังคมและเพื่อประโยชน์ของกลุ่ม แต่พวกเขาก็รู้สึกถูกต้องความรู้สึกเหล่านี้มาจากไหนและเราจะเชื่อมโยงพวกเขากับผู้อื่นได้อย่างไร?ฉันคิดว่าคำตอบนั้นอยู่กับความสำคัญของการพัฒนาของเด็กรวมกับแนวคิดการพัฒนาของการปนเปื้อนการแพร่กระจายเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าการคิดดังกล่าวสามารถเริ่มกำหนดวิธีที่เราตอบสนองต่อสิ่งมีชีวิตที่เราจำเป็นได้มากที่สุด

170

กีดขวาง

มนุษย์คนอื่น ๆหาก Essences ถูกคิดว่าสามารถถ่ายโอนได้เราจะไม่พิจารณาบุคคลที่โดดเดี่ยว แต่เป็นสมาชิกของเผ่าที่อาจเข้าร่วมกันผ่านความเชื่อในความเชื่อมโยงเหนือธรรมชาติเราจะเห็นผู้อื่นในแง่ของคุณสมบัติที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากเราเป็นหลักความคิดดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าคุณสมบัติที่สำคัญบางอย่างมีแนวโน้มที่จะส่งผ่านมากกว่าอื่น ๆเยาวชนพลังงานความงามอารมณ์ความแข็งแกร่งและแม้แต่ความชอบทางเพศเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่เรากล่าวถึงผู้อื่นดังนั้นเราจึงมีแนวโน้มที่จะคิดว่าคุณสมบัติเหล่านี้สามารถถ่ายทอดได้เมื่อเทียบกับตัวอย่างเช่นสีผมความสามารถในการเล่นหมากรุกหรือการโน้มน้าวใจทางการเมืองซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นคุณลักษณะที่ไม่จำเป็นของบุคคลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลายิ่งมีความสำคัญต่อคุณภาพมากเท่าใดก็ยิ่งมีศักยภาพในการปนเปื้อนมากขึ้นเท่านั้นนอกจากนี้อย่างที่เราได้เห็นกับคาร์ดิแกนของนักฆ่าเหตุผลนี้มักจะลำเอียงที่จะถือว่ามีศักยภาพมากขึ้นสำหรับการลบเมื่อเทียบกับการปนเปื้อนในเชิงบวกอาจเป็นเพราะอย่างที่เราเห็นด้วยความรังเกียจในบทที่ผ่านมาวิวัฒนาการมุ่งเน้นไปที่การปกป้องเรามากขึ้นจากอันตรายโดยทำให้เรามีความอ่อนไหวต่อการคุกคามอย่างไรก็ตามมีหลักฐานมากมายว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติที่เราสามารถดูดซับสาระสำคัญที่ดีของผู้อื่นเป็นเรื่องธรรมดาตลอดวัฒนธรรมการปฏิบัติและทัศนคติของเราDracula เป็นผู้หญิงให้เริ่มต้นด้วยเรื่องราวสยองขวัญเรื่องราวสยองขวัญมักทำให้เรากลัวเพราะพวกเขารวมถึงสิ่งที่น่ารังเกียจและการละเมิดความสำคัญของเราหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในวัฒนธรรมสมัยนิยมของวันนี้คือตำนานแวมไพร์แวมไพร์มีอยู่ในคติชนวิทยาเป็นเวลาหลายพันปีและพบได้ทั่วทั้งอารยธรรมของโลกทุกวัฒนธรรมมีนิทานของคนตายที่แสวงหาสาระสำคัญที่สำคัญจากการมีชีวิตในบรรดาสัตว์ประหลาดต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นเหนือพันปีเรื่องราวของ Count Dracula ของ Bram Stoker ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1897 เป็นเรื่องที่โด่งดังที่สุดมันมักจะคิดว่า Dracula นั้นมีพื้นฐานมาจากเจ้าชายวลาด Dracula โรมาเนียในศตวรรษที่สิบหกซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีกว่าชื่อเล่นของเขา“ Vlad the Impaler”เจ้าชายวลาด

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

171

ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการปกป้องโรมาเนียจากการบุกรุกของพวกเติร์กและดีใจที่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเขายังมีชีวิตอยู่บนเสาไม้ที่คมชัดอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า Stoker ใช้ชื่อตัวละครของเขาจากเจ้าชายโรมาเนียเท่านั้นผู้เขียนชาวไอริชไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีเหตุการณ์ที่ทะเลสาบเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ในปี 1816 เมื่อนักเขียนชาวกอธิคจำนวนมากรวมถึงแมรี่เชลลีย์ใช้เวลาช่วงเย็นในบ้านของลอร์ดไบรอนและดร. จอห์นวิลเลียมโปลิโดริกันและกัน.เชลลีย์เกิดขึ้นกับแฟรงเกนสไตน์เรื่องราวที่น่ารังเกียจอีกเรื่องหนึ่งของการละเมิดที่สำคัญในขณะที่ไบรอนเล่าเรื่องแวมไพร์ที่ตีพิมพ์ในภายหลังโดยดร. โปลิโดริภายใต้ชื่อของไบรอนสิ่งมีชีวิตที่อธิบายไว้ใน“ The Vampyre” ของ Byron นั้นเป็นท่านลอร์ดไบรอันที่ไม่ผิดเพี้ยนซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นขุนนางที่โชคชะตาด้วยดวงตาที่เจาะทะลุอย่างไรก็ตามนักประวัติศาสตร์เรย์มอนด์ McNally คิดว่า Dracula ของ Stoker ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งในศตวรรษที่สิบหกของฮังการีเคานท์เตส Erzsebet (อลิซาเบ ธ ) Báthoryผู้ทรมานและสังหารผู้หญิง 650 คนทำไม Count Dracula ถึงมีความหลงใหลในเลือดและไม่เคยมีอายุมากนักCountess Báthoryเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สวยงามและฉลาดที่สุดในฮังการี แต่ก็เป็นคนเลวร้ายที่สุดตามตำนานวันหนึ่งเธอได้ตีหนึ่งในสาวรับใช้ของเธออย่างรุนแรงทั่วหูทำให้เธอมีเลือดออกไปที่มือของอลิซาเบ ธในตอนแรกเคานท์เตสโกรธแค้น แต่เธอสังเกตเห็นว่าเมื่อเลือดแห้งผิวของเธอเองดูเหมือนจะใช้ความอ่อนเยาว์ของหญิงสาวนี่คือที่มาของความหลงใหลในการอาบน้ำของเธอในเลือดของหญิงสาวที่ถูกมัดขึ้นมาจากนั้นก็มีลำคอของพวกเขาและร่างกายของพวกเขาระบายออกเพื่อน้ำผลไม้ฟื้นฟูอย่างน้อยเคาน์เตสเลือดก็มีมารยาทที่จะจ่ายเงินสำหรับการฝังศพของเหยื่อของเธอในที่สุดร่างกายก็นับรวมและนักบวชท้องถิ่นปฏิเสธที่จะฝังผู้หญิงอีกต่อไปจากปราสาทที่เสียชีวิตภายใต้สถานการณ์ที่น่าสงสัยไม่สะทกสะท้านเคาน์เตสและคนรับใช้ของเธอยอมแพ้ต่อความลับและทิ้งศพไว้ในชนบทที่อยู่ใกล้เคียงเมื่อสี่ศพถูกโยนลงไปบนกำแพงปราสาทอย่างไม่เป็นทางการในสายตาของคนในท้องถิ่นที่พวกเขาบ่นกับกษัตริย์ในที่สุด

172

กีดขวาง

เมื่อ King Matthias II ของฮังการีซึ่งเกิดขึ้นกับเงิน Elisabeth ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมซาดิสต์ของเคานท์เตสเขาเห็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบที่จะฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียวเหมือนเดิมเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 1610 เขาสั่งให้จู่โจมบนปราสาทของเธอซึ่งพบศพหญิงสาวเพิ่มเติมการจับกุมของ ﬁ cer เป็นลูกพี่ลูกน้องของ Elisabeth และในความพยายามที่จะปกปิดเรื่องอื้อฉาวของครอบครัวและช่วยเคานท์เตสคนรับใช้ทั้งสี่ที่เกี่ยวข้องในการฆาตกรรมถูกพยายามอย่างรวดเร็วและดำเนินการโดยการถูกเผาหนึ่งคือการไว้ชีวิตอย่างมีเมตตาต่อการทรมานของ ﬂ ame ด้วยการตัดหัวอย่างไรก็ตามเคาน์เตส Elisabeth Báthoryไม่เคยเผชิญหน้ากับการพิจารณาคดีและลูกพี่ลูกน้องของเธอก็มีกำแพงล้อมรอบในปราสาทของเธอซึ่งเธอเสียชีวิตสามปีต่อมาCountess Báthoryเป็นฆาตกรซาดิสต์แม้ว่าจะเป็นที่น่าสงสัยว่าจริง ๆ แล้วเธออาบน้ำในเลือดของเหยื่อเมื่อบันทึกของหลักฐานพยานที่ได้รับในการทดลองในปี 1611 โผล่ขึ้นมาสองร้อยปีต่อมาไม่มีการเอ่ยถึงการอาบน้ำในเลือดแน่นอนเคาน์เตสได้รับการเปียกโชกในนั้นเธอเป็นคนกินเนื้อมากกว่าแวมไพร์เพราะเธอเคยเห็นชิ้นส่วนของเด็กสาวรวมถึงหน้าอกของพวกเขาบางทีตำนานแห่งการอาบน้ำในเลือดเพื่อความไร้สาระเป็นที่ยอมรับได้มากกว่าความเป็นไปได้ที่เคาน์เตสที่สวยงามและชาญฉลาดนั้นเป็นฆาตกรที่เลวร้ายและเป็นโรคจิต 6 น้ำพุแห่งการอาบน้ำเยาวชนในเลือดมนุษย์ที่สร้างขึ้นในการค้นหาเยาวชนนิรันดร์บางครั้งความจริงก็เป็นคนแปลกหน้ามากกว่า ﬁ ctionเมื่อเราโตขึ้นเรามีความกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับวิธีที่เราอายุมากขึ้นและพวกเราส่วนใหญ่ได้รับโอกาสจะชอบที่จะดูอายุน้อยกว่าหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีค่าที่สุดของโลกคือการฟื้นฟูเครื่องสำอางธุรกิจนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ $ 12 พันล้านในสหราชอาณาจักรเพียงอย่างเดียวผู้หญิงชาวอังกฤษโดยเฉลี่ยจะใช้จ่าย $ 374,000 ในเครื่องสำอางในช่วงชีวิตของเธอและส่วนใหญ่จะเป็นครีมฟื้นฟู 7 การใช้เครื่องสำอางเกือบทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเชื่อมหัศจรรย์ที่เห็นอกเห็นใจการเตรียมการต่าง ๆ ทำจากวัสดุที่เกี่ยวข้องกับพลังเช่นรกหรือน้ำคร่ำ ﬂ uidsน่าอับอาย

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

173

Tai Bao Capsules ของจีนถูกกล่าวหาว่าทำจากทารกในครรภ์ที่ถูกยกเลิกแม้ว่าแคปซูลส่วนใหญ่ที่ขายในการแพทย์แผนจีนจะทำด้วยรกของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์การเรียกร้องของผลิตภัณฑ์ที่ฟื้นฟูเหล่านี้คือการใช้ขี้ผึ้งหรือการกลืนแคปซูลคุณสามารถหยุดชะงักช้าหรือแม้กระทั่งกลับสัญญาณของอายุความจริงของเรื่องนี้คือการเตรียมการเหล่านี้มีส่วนผสมใด ๆ ที่สามารถดูดซึมผ่านผิวหนังได้ยิ่งไปกว่านั้นกรดในกระเพาะอาหารตามธรรมชาติของเราจะทำลายสารอาหารใด ๆ ที่เราอาจกลืนได้อย่างง่ายดายอันที่จริงเช่นเดียวกับยาชีวจิตเครื่องสำอางจำนวนมากไม่มีส่วนผสมที่ใช้งานอยู่ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงปัญหาในการสร้างความพึงพอใจให้กับหน่วยงานกำกับดูแลถึงกระนั้นความเชื่อที่ว่าสาระสำคัญของเยาวชนสามารถถูกดูดซึมเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากสำหรับคนส่วนใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2541 ผู้ชมชาวอังกฤษชมดูตกตะลึงเมื่อช่อง 4 ของสหราชอาณาจักรออกอากาศตอนของทีวีมื้อเย็นในสิ่งที่อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่ารังเกียจที่สุดของทีวีที่เอาเปรียบเราเห็นพ่อครัวที่มีชื่อเสียงที่น่ารัก-MO KREBBS (ไม่มีความสัมพันธ์กับผู้ชายวงจรชีวิต)Fearnley-Whittingstall Fried Mrs. Clear's Placenta และทำpâtéที่จะเสิร์ฟบนขนมปัง Focacciaในขณะที่ลีสามีของเธอมีความช่วยเหลือสิบเจ็ดคนแขกอาหารค่ำมีความกระตือรือร้นน้อยลงในขณะเดียวกันผู้ชมก็วิ่งไปที่ห้องน้ำหรือโทรศัพท์ของพวกเขาช่อง 4 ได้รับการร้องเรียนและถูกตำหนิอย่างรุนแรงจากคณะกรรมาธิการมาตรฐานการออกอากาศของอังกฤษในสิ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตอนที่“ จะไม่เห็นด้วยกับหลาย ๆ คน”ทำไมประชาชนทั่วไปถึงอารมณ์เสีย?เกิดอะไรขึ้น?ทำไมพวกเขาถึงตะลึงทางศีลธรรม?ในการให้สัมภาษณ์ตีพิมพ์หลายปีต่อมาบนเว็บไซต์ River Cottage ของเขา Fearnley-Whittingstall ระบุตัวตนของสังคมในฐานะผู้ร้าย: มันค่อนข้างน่าสนใจที่จะเห็นผู้คนที่ร้อนแรงภายใต้ปกว่าพวกเขาอารมณ์เสียมันเป็นการสำรวจข้อห้ามด้านอาหารและฉันคิดว่านั่นเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจมากไม่มีความเสียใจ แต่มันจะพยายามเล็กน้อยเมื่อใด

174

กีดขวาง

ผู้คนติดป้ายชื่อคุณว่า "คนรก" เพราะมีมากกว่านั้นเล็กน้อยกว่านั้น 8 ใช่มีมากกว่านั้นนิดหน่อยพร้อมกับรกPâtéที่มีหอมแดงและกระเทียม ﬂ ambéedในไวน์แดงรวมถึงก้านที่ดีของลัทธิเหนือธรรมชาติคู่แฝดที่ซึมซับอีกคนหนึ่งมันอาจดูเกินความเชื่อ แต่คุณสามารถดูดซับสาระสำคัญทางกายภาพของบุคคลอื่นและรวมเข้ากับร่างกายของคุณเองในบทที่ 3 เรามองไปที่การวิจัยเกี่ยวกับฝาแฝดที่เหมือนกันซึ่งแยกจากกันตั้งแต่แรกเกิดและเลี้ยงในบ้านที่แตกต่างกันฝาแฝดที่เหมือนกันนั้นน่ากลัวเพราะพวกเขาดูเหมือนคนคนเดียวกันและสิ่งนี้นำเสนอปัญหาเราคิดว่าบุคคลนั้นเป็นเอกลักษณ์ในลักษณะเดียวกับที่เราคิดว่าตัวเองเป็นบุคคลที่ไม่เหมือนใครนั่นคือความหมายของคำว่า "บุคคล"แต่ฝาแฝดที่เหมือนกันซึ่งมาจากตัวอ่อนตัวหนึ่งที่แยกออกเป็นสองตัวดูเหมือนจะเป็นสองชุดของบุคคลเดียวกันบางครั้งกระบวนการนี้สามารถย้อนกลับได้เมื่อคนสองคนกลายเป็นหนึ่งเราจะถูกนำเสนออีกครั้งโดยมีปัญหาของความหมายของการเป็นบุคคลในภาพยนตร์ตลกยอดฮิตของ Ricky Gervais ในสหรัฐอเมริกาผู้ช่วยผู้จัดการระดับภูมิภาคเป็นตัวละครที่ชื่อว่า Dwight Shruteเราได้รับการบอกว่าดไวต์เป็นคู่แฝดที่ดูดซับคู่ของเขาในครรภ์และนั่นทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่“ ความแข็งแกร่งของชายและลูกที่โตแล้ว”Dwight อาจเป็น ﬁ ctional แต่การเรียกร้องของเขาไม่ได้เมื่อ Lydia Fairchild ถูกเรียกโดย Social Ser Vices ของรัฐวอชิงตันในปี 2545 เธอคิดว่ามันเป็นเพียงการสัมภาษณ์ประจำสำหรับการสนับสนุนสวัสดิการที่เธอร้องขอตั้งแต่แยกจากคู่หูของเธอเจมี่ทาวน์เซนด์จุดเริ่มต้นของฝันร้าย - บางสิ่งบางอย่างออกมาจากเรื่องสยองขวัญแบบกอธิคทั้งลิเดียและคู่ของเธอจำเป็นต้องจัดทำตัวอย่างสำหรับการวิเคราะห์ DNA เพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ของเด็กเมื่อผลลัพธ์กลับมาเจมี่เป็นพ่อ แต่ลิเดียไม่ใช่แม่ในตอนแรกที่ลิเดียคิดว่าต้องมีการผสมผสาน แต่เธอจำได้ว่านักสังคมสงเคราะห์พูดกับเธอว่า“ ไม่DNA คือ 100

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

175

ร้อยละที่เข้าใจผิดและมันไม่ได้โกหก”เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อเธอในฐานะอาชญากรพวกเขาสงสัยว่าเป็นการหลอกลวงFairchild ตั้งครรภ์กับลูกคนที่สามของเธอเผชิญกับการฟ้องร้องเพื่อการฉ้อโกงและการลักพาตัวเด็กแม้ว่าจะมีบันทึกของโรงพยาบาลเพื่อพิสูจน์ว่าเธอให้กำเนิดลูกสองคนของเธออัยการเรียกร้องให้ลูก ๆ ของเธอถูกพาตัวไปดูแลและเมื่อเธอต้องส่งลูกคนที่สามของเธอศาลสั่งให้พยานเข้าร่วมโลกของ Fairchild ยุบโชคดีที่ฝันร้ายของคนอื่นจะเป็นความรอดของเธอเมื่อสี่ปีก่อนในบอสตันคาเรนคีแกนอายุสองปีได้รับจดหมายจากผลการตรวจเลือดที่เธอหวังว่าจะเป็นคำตอบสำหรับคำอธิษฐานของเธอ 10 กะเหรี่ยงต้องการการปลูกถ่ายไตการทดสอบความเข้ากันได้เพื่อดูว่ามีผู้บริจาคที่เหมาะสมหรือไม่เธอค่อนข้างตกใจจดหมายบอกเธอทันทีว่าลูกชายสองคนของเธอสองคนไม่สามารถเป็นเธอได้พวกเขาไม่ได้แบ่งปัน DNA ของเธอและต้องมาจากผู้หญิงคนอื่นความสงสัยถูกยกขึ้นมีการผสมผสานที่โรงพยาบาลหรือไม่?ลูกชายสองคนของเธอจะถูกเปลี่ยนตั้งแต่แรกเกิดได้อย่างไร?กะเหรี่ยงรู้ว่าเธอให้กำเนิดลูก ๆ ของเธอทุกคนไม่ใช่สิ่งที่คุณลืมได้ง่ายหรือมีแนวโน้มที่จะแต่งหน้าหลังจากสองปีที่แพทย์ค้นพบคำตอบกะเหรี่ยงเป็นเด็กChimera เป็นตำนานที่มีการหายใจซ้ำ ๆ สิ่งมีชีวิตที่มหึมาสร้างขึ้นจากร่างกายของสิงโตและร่างของแพะหลอมรวมกับงูสำหรับหางอย่างไรก็ตามในชีววิทยาความฝันเป็นบุคคลที่โฮสต์ดีเอ็นเอที่ไม่ซ้ำกันมากกว่าหนึ่งแหล่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?ความจริงก็คือคนแปลกหน้ามากกว่านักเขียนสยองขวัญใด ๆ ที่จินตนาการได้ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์แม่ของชาวกะเหรี่ยงมีตัวอ่อนคู่พัฒนาอยู่ข้างในตัวเธอเธอจะให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝด แต่มีบางอย่างเปลี่ยนไปและทั้งสองก็กลายเป็นหนึ่งเดียวชาวกะเหรี่ยงดูดซับน้องสาวฝาแฝดของเธอกะเหรี่ยงมีรหัสพันธุกรรมแยกสองชุดในร่างกายของเธอทางชีววิทยาเธอเป็นคนสองคนเมื่อพวกเขาทำการทดสอบซ้ำพวกเขาพบว่า DNA อีกชุดหนึ่งที่ตรงกับของเด็กชายสองคนของเธอผลลัพธ์ของกรณีที่น่าอัศจรรย์นี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ในปี 2545.11 โชคดีสำหรับ Lydia Fairchild เมื่อคดีของ Karen Keegan มาถึงแล้วอัยการตระหนักว่าพวกเขาทำผิดพลาดอย่างมากมีการทดสอบทางพันธุกรรมเพิ่มเติมและไปยัง Lydia's

176

กีดขวาง

โล่งอกเธอก็พบว่าเป็นคนที่ชอบกรณีนี้ถูกทิ้ง แต่ก็เป็นคำร้องขอการสนับสนุนที่ได้รับประโยชน์ลิเดียและเจมี่กลับมารวมกันอีกครั้งหลังจากฝันร้ายกรณีที่หายากของบุคคลที่เป็นคนสองคนที่ท้าทายมุมมองของเราเกี่ยวกับความหมายของการเป็นบุคคลที่ไม่เหมือนใครเราคิดว่าพวกเขาเป็นคนสองคนเพราะแนวคิดของบุคคลที่ไม่เหมือนใครหรือชายและหญิงต้องการให้บุคคลสองคนครอบครองสองร่างแยกกันพวกเขาไม่สามารถครอบครองร่างกายเดียวกันสิ่งนี้จะไม่เป็นที่ยอมรับสำหรับจิตใจที่ออกแบบมาเพื่อจัดหมวดหมู่บุคคลและยังมีบุคคลเหล่านี้มีเพียงหนึ่งร่างกายและจิตใจเดียวนี่คือเหตุผลที่เรางงงวยมากในทำนองเดียวกันกระเทยและกระเบื้องโมเสคท้าทายความเข้าใจพื้นฐานของเราเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นมนุษย์พวกเขาอาจหายาก แต่พวกเขาไม่ใช่เหนือธรรมชาติพวกเขาเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นในการถ่ายภาพอึทางพันธุกรรมของชีวิตแต่ชีววิทยาที่ใช้งานง่ายของเราไม่อนุญาตให้มีข้อยกเว้นดังกล่าวกับกฎเราปฏิบัติต่อบุคคลเหล่านี้ว่าเป็นคนประหลาดเพราะพวกเขาละเมิดระเบียบตามธรรมชาติของเราหากฝาแฝดที่เหมือนกันมีลักษณะเหมือนกันพวกเขาจะต้องเป็นกระแสจิตหากผู้ประสบภัยที่โชคร้ายบางคนมีความผิดปกติของผิวหนังที่ทำให้เขาดูเหมือนจระเข้หรือช้างบางทีเขาอาจจะทำแบบนั้นด้วยกระแทกแดกดันชีววิทยาที่ใช้งานง่ายแบบเดียวกันที่นำเราไปสู่ความสับสนเมื่อจัดหมวดหมู่บุคคลที่นำเราไปสู่ความเชื่อเกี่ยวกับบุคคลที่จะเป็นเหนือธรรมชาติถ้าเป็นจริงเราอาจปฏิบัติต่อผู้อื่นว่าไม่เหมือนใครเพราะพวกเขาครอบครองร่างกายแยกต่างหาก แต่ความสำคัญของการเป็นผู้นำยังทำให้เราคิดว่าบุคคลนั้นมีคุณสมบัติที่สำคัญในร่างกายของพวกเขาที่เราสามารถดูดซับเข้าไปในตัวเราเองสิ่งนี้ไม่น่าทึ่งไปกว่าในกรณีที่เรารวมบุคคลอื่นเข้ากับร่างกายของเราเองเรื่องราวแปลก ๆ ของ Armin Meiwes ความคิดที่ว่าคุณสามารถดูดซับสาระสำคัญของใครบางคนเป็นธีมที่เกิดขึ้นซ้ำในคำอธิบายของการกินเนื้อมนุษย์อย่างไรก็ตามการกินเนื้อมนุษย์เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันในหมู่นักวิชาการที่โต้แย้งว่ามันมีอยู่จริงหรือไม่และทำไมมันถึงได้รับการฝึกฝน 12 ข้อเรียกร้องที่ไม่เคยมีมาก่อนดูเหมือนจะถูกทำลายโดยการวิจัยเกี่ยวกับโรคพรีออนของมนุษย์

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

177

โรค Creutzfeldt-Jakob ซึ่งเป็นโรค“ Mad Cow” ของมนุษย์ 13 Kuru เป็นเรื่องธรรมดาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรดาเผ่าก่อนของปาปัวนิวกินีที่ซึ่งคำว่า "kuru" หมายถึง "สั่นด้วยความกลัว"ตอนนี้คิดว่าโรคนี้ถูกถ่ายทอดผ่านการฝึกฝนการกินคนจนถึงปี 1950 ของการกินมากกว่าการฝังญาติที่ตายแล้วน่าเสียดายที่ส่วนที่ย่อยได้มากที่สุด แต่ยังมีการปนเปื้อนอย่างหนักที่สุดของผู้เสียชีวิตคือสมองซึ่งจัดทำขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงผู้หญิงและเด็กกลายเป็นเหยื่อที่อ่อนแอที่สุดแม้ว่าการฝึกฝนการกินเนื้อมนุษย์จะผิดกฎหมายเมื่อหลายปีก่อนช่วงเวลาการฟักตัวของ Kuru นั้นยังมีผู้ป่วยรายใหม่อยู่จนถึงปี 1990 ซึ่งบ่งชี้ว่าโรคดังกล่าวมีเด็ก ๆมาร์ลาร์ผู้ซึ่งกำลังผ่าน“ การเคลื่อนไหว” ของชาวอินเดียยุคโบราณชาวอินเดียตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกาที่รู้จักกันในชื่อ Anasaziการเคลื่อนไหวเป็นปูที่นักโบราณคดีพบรอบ ๆ ตั้งแคมป์ที่ซากศพของกระดูกของมนุษย์ถูกพบในหม้อปรุงอาหารย้อนหลังไปจากศตวรรษที่สิบสองซึ่งนำไปสู่การโต้เถียงกันว่า Anasazi ได้ฝึกฝนการกินเนื้อมนุษย์หรือไม่สิ่งนี้ได้รับการแก้ไขโดยการวิเคราะห์ทางชีวเคมีของ turds หลังมื้ออาหารที่พบในที่ตั้งแคมป์ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีโปรตีนของมนุษย์วิธีเดียวที่โปรตีนจะได้รับคือถ้ามันถูกกิน 15 ดังนั้นการกินเนื้อคนกินเนื้อ แต่ความคิดคือการดูดซับสาระสำคัญของผู้อื่นนั้นตรงไปตรงมาน้อยกว่าเพราะเหตุผลของการฝึกฝนนั้นแตกต่างกันไปนอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับว่าการบริโภคเป็นศัตรูหรือญาติและว่าพวกเขากินมากแค่ไหนเผ่า Wari ของอเมริกาใต้จะกินสมาชิกเผ่าเป็นพิธีกรรมงานศพในขณะที่เผ่า Kukukukus ของปาปัวนิวกินีชอบกินศัตรู แต่สูบบุหรี่ญาติของพวกเขา 16 เมื่อนักโทษศัตรูถูกจับเขาไม่สามารถหลบหนีได้จากนั้นปล่อยให้เด็ก ๆ เล่นกับเขาจนตายจากนั้นเขาก็สับห่อด้วยเปลือกไม้และปรุงด้วยผักในเตาอบหลุมแบบดั้งเดิมหากเหยื่อยังเด็กชิ้นส่วนกล้ามเนื้อจะมอบให้กับเด็กชายในหมู่บ้านเพื่อกินเพื่อให้พวกเขาสามารถดูดซับพลังและความกล้าหาญของเขาในทางตรงกันข้ามผู้ตาย

178

กีดขวาง

ญาติถูกวางไว้ในกระท่อมของพวกเขาซึ่งมีแสงสว่างและร่างกายค่อยๆรมควันตลอดระยะเวลาหกสัปดาห์ในระบบความเชื่อของพวกเขาวิญญาณยังคงปรากฏอยู่และผู้รอดชีวิตประพฤติตัวตามนั้นรักษาศพหนังราวกับว่ามันยังมีชีวิตอยู่การปฏิบัติดังกล่าวได้หายไปนาน แต่บ่อยครั้งที่ต้องห้ามของพื้นผิวการกินเนื้อมนุษย์จากจุดอ่อนของความชั่วช้าของมนุษย์หลังจากเคล็ดลับเกี่ยวกับโฆษณาที่โพสต์แปลก ๆ บนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับการอยากกินผู้ชายตำรวจบุกเข้าไปในบ้านของ Armin Meiwes อายุสี่สิบสองปีในเมืองเล็ก ๆ ของ Rotenberg ในปี 2545 สิ่งที่พวกเขาพบนั้นน่าเกรงขามอย่างแท้จริง.อาร์มินมีช่องแช่แข็งที่บรรจุชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์และการบันทึกวิดีโอในตอนเย็นที่เขาฆ่าและสังหารเหยื่อของเขานั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นนิทานจะพัฒนาเป็นกรณีที่น่าตกใจมากขึ้นของความสำคัญของการกินเนื้อมนุษย์เมื่อปีที่แล้วเมื่อปีที่แล้วอาร์มินได้โฆษณาในห้องสนทนาทางอินเทอร์เน็ตที่อุทิศให้กับการอภิปราย sadomasoch*stic มองหาชายหนุ่มที่จะสังหารและกินเห็นได้ชัดว่าการพูดถึงจินตนาการของมนุษย์กินคนไม่ใช่เรื่องแปลกในประเทศเยอรมนีไม่น่าเชื่อวิศวกรเบอร์ลินอายุสี่สิบสามปี Bernd Brandes ตอบในความเป็นจริงอาร์มินมีผู้ชายครึ่งโหลมาเยี่ยมเขา แต่เห็นได้ชัดว่ามีเพียงเบิร์นด์เท่านั้นที่เต็มใจที่จะเห็นมันจนถึงที่สุดBernd เก็บความปรารถนาที่แท้จริงที่จะกินหลังจากการแลกเปลี่ยนอีเมลสั้น ๆ พวกเขาตกลงที่จะพบกันที่บ้านของ Arminในตอนเย็นที่เป็นโชคชะตาของวันที่ 9 มีนาคมที่บ้านของ Armin Bernd Brandes กลืนยานอนยี่สิบใบลงมาพร้อมกับ schnapps halfbottleจากนั้นเขาก็ขอร้องให้อาร์มินตัดอวัยวะเพศของเขาให้ทั้งคู่กินเขาอยากกินยังมีชีวิตอยู่!หลังจากความพยายามครั้งแรกที่ล้มเหลวด้วยมีดทื่ออาร์มินก็ประสบความสำเร็จในการตัดมันเบิร์นด์ต่างก็กินความเป็นลูกผู้ชายของตัวเองแตกต่างกันเพราะมันเหนียวเกินไปและอาร์มินจึงลองทอดด้วยกระเทียม แต่จบลงด้วยการเผามื้ออาหารมีเลือดออกอย่างหนักเบิร์นตัดสินใจอาบน้ำในขณะเดียวกันอาร์มินก็ลงไปชั้นล่างเพื่ออ่านนวนิยาย Star Trekหลังจากผ่านไปสองสามชั่วโมงเขาก็กลับขึ้นไปชั้นบนเพื่อออกจากเบิร์นด์ด้วยการจูบก่อนที่จะแทงเขาที่คอจากนั้นเขาก็สังหารร่างกายวางชิ้นส่วนในตู้แช่แข็งของเขาถัดจากพิซซ่าแช่แข็งเขาฝังศีรษะในสวนเหตุการณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้ในวิดีโอเทปพิสูจน์ว่าแบรนด์เบิร์นด์ไม่เพียง แต่เป็นเหยื่อที่เต็มใจ แต่ยังเป็นผู้ให้กำลังใจ

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

179

เมื่อถึงเวลาที่ตำรวจมาถึงในเดือนธันวาคม 2545 อาร์มินกินเบิร์นยี่สิบกิโลกรัมปรุงในน้ำมันมะกอกและกระเทียมล้างด้วยไวน์แดงแอฟริกาใต้ความคลั่งไคล้ของสื่อที่ตามมาทำให้เกิดคำถามที่ชัดเจนทำไมอาร์มินถึงทำ?อาร์มินอ้างว่าตั้งแต่อายุยังน้อยเขาอยากกินคนอื่นการรบกวนการไตร่ตรองมากขึ้นคือวิธีที่ทุกคนอยากจะกินBernd Brandes จะต้องการความตายที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไรหรือสำหรับเรื่องนั้นพยายามที่จะกินอวัยวะเพศของเขาเอง?เราสามารถคาดเดาเกี่ยวกับแรงจูงใจของ Bernd เท่านั้นและการได้รับคำตอบจาก Armin กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่าแตกต่างกันฉันได้ขอหลายครั้งเพื่อตั้งค่าการประชุมกับ Armin Meiwes ซึ่งตอนนี้ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตในประเทศเยอรมนี แต่จนถึงขณะนี้คำขอเหล่านี้ได้ถูกปฏิเสธอย่างไรก็ตามรายงานและประจักษ์พยานที่มีอยู่ระบุว่าชายทั้งสองมีความรู้สึกที่สำคัญของความสำคัญความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ในอีเมลของเขาตอบกลับการโพสต์ครั้งแรก Bernd กล่าวว่าเขาต้องการอยู่ในร่างกายของชายอีกคนหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาเชื่อในชีวิตหลังความตายภายในคนอื่นเขาเป็นเหมือนเมาส์หุ่นเชิดที่ตายแล้วในจระเข้ที่เด็ก ๆ เชื่อว่าจะยังคงมีชีวิตทางจิตอาร์มินถือความเชื่อเหนือธรรมชาติซึ่งกันและกันเกี่ยวกับเหยื่อของเขาเขาต้องการให้ใครสักคนอยู่ข้างในเขาในระหว่างการสัมภาษณ์ของตำรวจอาร์มินรายงานว่าเบิร์นด์ได้ลิ้มรสคล้ายกับหมู แต่ด้วยความทรงจำทุกคำของเขาที่เพิ่มขึ้นเขารู้สึกดีขึ้นและมั่นคงมากขึ้นกับ Bernd ในตัวเขานอกจากนี้เขายังรายงานว่าภาษาอังกฤษของเขาดีขึ้นBernd Brandes ได้พูดภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดในปี 2550 อาร์มินกล่าวว่าเบิร์นด์ยังคงอยู่กับเขา 18 ความทรงจำของโทรศัพท์มือถือฉันอาจไม่เคยได้รับโอกาสที่จะตั้งคำถามกับอาร์มินมิเวสเกี่ยวกับความเชื่อเหนือธรรมชาติของเขา แต่ฉันได้พูดคุยกับเอียนแกมมอนส์ที่น่ารักและเข้าถึงได้ง่ายอาศัยอยู่กับ Lynda ภรรยาที่ดีของเขาในหมู่บ้านเล็ก ๆ ของ Weston ใน Lincolnshire ประเทศอังกฤษLynda และ Ian แต่งงานมานานกว่าสามสิบปีแล้วและแบ่งปันความใกล้ชิดและเกินกว่าที่คู่รักส่วนใหญ่คาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ 19

180

กีดขวาง

ในปี 2548 เอียนกำลังทุกข์ทรมานจากไตวายเมื่อพบว่าลินดาเป็นคู่แข่งและจะเป็นผู้บริจาคที่เหมาะสมเธอไม่ลังเลเลยและการผ่าตัดช่วยชีวิตก็ประสบความสำเร็จประมาณสองเดือนหลังจากการผ่าตัด Lynda และ Ian ออกไปช็อปปิ้งเมื่อมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นเอียนหันไปหาลินดาและพูดว่า“ ฉันสนุกกับเรื่องนี้จริงๆ”เอียนและลินดาอยู่ใกล้กันมาก แต่แตกต่างกันมากในความสนใจของพวกเขาเอียนเป็นชายทั่วไปที่เกลียดช็อปปิ้งทำสวนทำอาหารและการแสวงหาความรู้ทั้งหมดที่ Lynda ชอบความคิดที่ว่าเอียนเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งนั้นดูแปลกเกินไปเอียนเริ่มทำอาหารและเพลิดเพลินไปกับการช่วยเหลือในสวนก่อนหน้านี้เขาจะทำให้อาหารเย็นแช่แข็งเมื่อลินดายกหัวข้อการรับสุนัขสัตว์เลี้ยงเอียนก็เห็นด้วยแม้จะเป็นแมวมาตลอดชีวิตของเขาและความคล้ายคลึงกันนั้นนอกเหนือไปจากงานอดิเรกและรสนิยม: ประสบการณ์ของฉันยังคงพัฒนาอยู่ฉันเริ่มใช้งานง่ายขึ้นและฉันมีความตระหนักมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเราแบ่งปันความฝันอีกมากมายเมื่อคืนที่ผ่านมาลินดาตื่นขึ้นมาและบอกว่าเธอมีความฝันแปลก ๆ ของทำเนียบขาวในทะเลสีเขียวริมทะเลฉันมีความฝันเดียวกันเป็นความจริงหรือไม่ที่ DNA ของเราผสม?มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?เอียนเป็นคนพูดอ่อน ๆ ที่อยากรู้วิธีอธิบายประสบการณ์ของเขาอย่างแท้จริงเขาไม่ใช่ฮิปปี้ยุคใหม่ของคุณที่พูดถึงสาระสำคัญพลังงานชีวิตที่สำคัญหรือความเชื่อมโยงของจักรวาลคำตอบที่สมเหตุสมผลเพียงอย่างเดียวที่เขารู้สึกคือตอนนี้เขาและ Lynda แบ่งปันลิงค์เพราะส่วนหนึ่งของเธออยู่ในตัวเขาเขาซึมซับภรรยาของเขาและกลายเป็นเธอในทางเล็ก ๆไม่ใช่รายงานที่ผิดปกติในผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายผู้ป่วยที่ปลูกถ่ายประมาณหนึ่งในสามเชื่อว่าพวกเขาสืบทอดคุณสมบัติทางจิตวิทยาของผู้บริจาค 20 ตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดคือแคลร์ซิลเวียผู้ได้รับหัวใจและปอดของชายหนุ่มในปี 1980.21 หลังจากการผ่าตัดดื่มเบียร์และกินนักเก็ตไก่สำหรับนักบัลเล่ต์นี่เป็นการเดินทางที่แปลกเธอพบว่าตัวเองดึงดูดผู้หญิงผมบลอนด์สั้น ๆแฟนสาวของผู้ตายสั้นและผมบลอนด์และใช่เขาชอบเบียร์และไก่

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

181

นักเก็ตซึ่งพบในเสื้อโค้ทของเขาหลังจากเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ที่ฆ่าเขารายงานดังกล่าวถูกอ้างว่าเป็นตัวอย่างของความทรงจำของเซลล์ความเชื่อเหนือธรรมชาติว่าแง่มุมทางจิตวิทยาของแต่ละบุคคลจะถูกเก็บไว้ในเนื้อเยื่ออวัยวะและสามารถถ่ายโอนไปยังผู้รับโฮสต์บางคนอ้างว่าแต่ละเซลล์ในร่างกายของเราเชื่อมต่อกันหากสมองสร้างจิตใจและเซลล์สมองมีสถานะทางจิตวิทยาของหน่วยความจำดังนั้นเซลล์อื่น ๆ ในร่างกายจะแบ่งปันข้อมูลนี้บนพื้นผิวสิ่งที่เหมือนกับความเชื่อของเอียนว่าเขาได้รวมสภาพจิตใจของ Lynda ผ่าน DNA ที่ปลูกถ่ายของเธอดูเหมือนจะสมเหตุสมผลจนถึงจุดหนึ่งดูเหมือนว่าจะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บางอย่างสำหรับความคิดที่แปลกประหลาดJames McConnell เป็นข้อโต้แย้งในชุมชนวิทยาศาสตร์ในปี 1950 และ 1960 เขาทำการทดลองกับเวิร์มง่ายๆเพื่อวัดระยะเวลาที่พวกเขาต้องเรียนรู้เขาวงกต 22 ได้รับการฝึกฝนให้กับกลุ่มหนอนเหล่านี้เขาสับหนอนที่ได้รับการฝึกฝนเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเลี้ยงพวกมันให้กับหนอนที่ไม่ได้รับการฝึกฝนหนอนกินเนื้อเหล่านี้เรียนรู้ที่จะเล็งไปรอบ ๆ เขาวงกตได้เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับหนอนอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับอาหารมนุษย์กินคนการศึกษาเพิ่มเติมกับหนูดูเหมือนจะแนะนำว่าสัตว์ที่ไร้เดียงสาเลี้ยงร่างกายของสัตว์ที่ผ่านการฝึกอบรมเรียนรู้ที่จะวิ่งเขาวงกตได้เร็วขึ้น 23 สิ่งนี้จะเป็นอย่างไรถ้ามันไม่ใช่ความทรงจำของเซลล์?ปรากฎว่าการฝึกอบรมเกี่ยวข้องกับการเน้นสัตว์ด้วยแรงกระแทกไฟฟ้าเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาดซ้ำ ๆ ในเขาวงกตจำ John Watson และ Little Albert และพฤติกรรมการปรับสภาพได้หรือไม่?ความเครียดแบบนี้ปล่อยฮอร์โมนที่อยู่ในร่างกายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่โรงฆ่าสัตว์พยายามลดความเครียดของปศุสัตว์เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับความเครียดส่งผลกระทบต่อคุณภาพของเนื้อสัตว์เมื่อหัวใจและตับของหนูที่ผ่านการฝึกอบรมถูกป้อนไปยังหนูมือใหม่มันสร้างความแตกต่างที่วัดได้ในการทำงานของหลังการเรียนรู้เพื่อหลีกเลี่ยงการช็อกหลักฐานของการถ่ายโอนหน่วยความจำนี้หรือไม่?ไม่ได้ถ้าหนูที่ไม่เคยได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับเขาวงกตนั้นถูกตรึงเครียดเพียงแค่ถูกกลิ้งไปรอบ ๆ ในขวดแล้วฆ่าและป้อนให้หนูสามเณรตัวอื่นถูกดูดซึม แต่ก

182

กีดขวาง

หัวใจหรือตับที่อุดมไปด้วยฮอร์โมนเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นเมื่อคุณเปิดยาเม็ดเพื่อศึกษาเพื่อทดสอบคุณจะเรียนรู้ได้เร็วขึ้นมากหากคุณถูกกระตุ้นมากขึ้นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงไม่ได้ทำการวิจัยแบบนี้ในปัจจุบันถึงกระนั้นสิ่งนี้ยังไม่ได้หยุดการแพร่กระจายของสมมติฐานความทรงจำของโทรศัพท์มือถือซึ่งยังสามารถพบได้ในตำราวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนเราต้องตั้งคำถามถึงตรรกะที่กระตุ้นให้เจมส์แมคคอนเนลล์ทำการทดลองที่แปลกประหลาด แต่เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าความรู้สามารถถ่ายโอนได้โดยการบริโภคร่างกายของอีกคนหนึ่งเช่นเดียวกับตัวอย่างมากมายของการปลอมแปลงมันเป็นเรื่องที่แตกต่างกันที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างการใช้เหตุผลตามธรรมชาติและเหนือธรรมชาติเนื่องจากสมมติฐานของ McConnell มีความน่าเชื่อถือของพื้นผิวการกินสัตว์ที่ผ่านการฝึกอบรมทำให้เกิดความแตกต่างในงานหน่วยความจำดังนั้นทำไมไม่หน่วยความจำมือถือ?การวิจัยแนวนี้ได้รับการทำลายล้างโดยชุมชนนักวิทยาศาสตร์ แต่ยังคงอ้างว่าเป็นหลักฐานสำหรับความทรงจำที่ปลูกถ่ายโดยผู้ที่เชื่อในความเชื่อมโยงเหนือธรรมชาติกรณีศึกษาบางกรณีดูเหมือนจะยืดขอบเขตของความน่าเชื่อถือ 25 อย่างไรก็ตามประสบการณ์ของ Ian และ Lynda Gammons ที่อธิบายไม่ได้อาจดูเหมือนพวกเขาดูเหมือนจะไม่เกินความบังเอิญหรือเหตุผลการอธิบายที่แตกต่างกันมากขึ้นคือกรณีเช่นเด็กหญิงอายุแปดขวบตัวน้อยที่ได้รับหัวใจของเด็กอายุสิบขวบที่ถูกสังหารมันอ้างว่าเธอเริ่มประสบกับฝันร้ายที่น่ากลัวและในที่สุดก็สามารถให้คำอธิบายโดยละเอียดของชายผู้ฆ่าผู้บริจาคของเธอทำให้ตำรวจสามารถจับกุมและตัดสินคดีฆาตกรรมได้เรื่องราวดังกล่าวเป็นตำนานที่ยืดเยื้อความเชื่อเหนือธรรมชาติญาติผู้ป่วยและผู้ที่พิจารณาการปลูกถ่ายอวัยวะจะต้องอยู่ในความสำคัญของการใช้งานง่ายสิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมความเต็มใจที่จะเชื่อว่าเราสามารถสืบทอดคุณสมบัติทางจิตวิทยาของบุคคลอื่นผ่านอวัยวะของพวกเขาในขณะที่มันอาจจะปลอบโยนครอบครัวของผู้บริจาคที่จะคิดว่าสาระสำคัญบางอย่างของคนที่พวกเขารักอาศัยอยู่มันอาจมีผลกระทบเชิงลบเมื่อพูดถึงการบริจาคอวัยวะแก่นแท้ของนิรันดร์อาจเป็นความคิดที่ปลอบโยนต่อญาติบางคน แต่อาจชักชวนให้คนอื่นไม่ให้ความยินยอมในความเชื่อที่ว่าญาติยังคงมีชีวิตอยู่ในอีกคนหนึ่งแล้วผู้รับล่ะ?พวกเขาปรับตัวทางจิตวิทยาให้มีอวัยวะของคนอื่นอยู่ข้างในได้อย่างไรในกรณีหนึ่งวัยรุ่นชาวอังกฤษได้รับการบังคับให้มีการปลูกถ่ายหัวใจกับความประสงค์ของเธอเพราะเธอกลัวว่าเธอจะ“ แตกต่าง”

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

183

ด้วยหัวใจของคนอื่น 26 เธอกลัวที่จะสูญเสียตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากกว่าโดยโอกาสที่จะเสียชีวิตนั่นคือพลังของความเชื่อที่สำคัญMargareta Sanner นักวิจัยชาวสวีเดนได้ถามผู้คนว่าพวกเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับการปลูกถ่ายอวัยวะและได้รับการตอบสนองที่น่าสนใจ 27 เธอพบว่าการติดต่อทางศีลธรรมเป็นปัจจัยสำคัญ (“ จะเกิดอะไรขึ้นจากคนบาป?”)Xenotransplantation - การทดแทนอวัยวะสัตว์สำหรับมนุษย์เมื่อเสนอทางเลือกของอวัยวะที่แตกต่างกันผู้ใหญ่มักตอบสนองว่า“ ตับและไตจากหมูก็โอเค แต่ฉันจะยอมรับหัวใจมนุษย์เท่านั้น” หรือ“ ทุกอย่างอยู่ในใจฉันไม่ต้องการให้มันหรือใช้มัน”ผู้เข้าร่วมคนหนึ่งคิดว่า“ ฉันอาจจะดูหมูกับไตของหมูมากขึ้น”เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้ตรวจสอบความเชื่อประเภทนี้ในนักเรียนที่มีสุขภาพดีโดยขอให้พวกเขาให้คะแนนใบหน้าของคนยี่สิบคนสำหรับความน่าสนใจและความฉลาดที่พวกเขามองและจากนั้นนักเรียนที่คิดว่าพวกเขาจะมีความสุขแค่ไหนถ้าพวกเขาตายจากโรคหัวใจล้มเหลวหัวใจที่ผ่านการปลูกถ่ายจากแต่ละคน 28 ได้รับการจัดอันดับหน้าของผู้บริจาคที่มีศักยภาพแต่ละรายในมาตรการเหล่านี้เราบอกพวกเขาว่าครึ่งหนึ่งของผู้คนในภาพถูกตัดสินว่าเป็นฆาตกรและอีกครึ่งหนึ่งทำงานเป็นอาสาสมัครพวกเขาถูกขอให้ทำซ้ำการให้คะแนนเพื่อความน่าดึงดูดความฉลาดและความเต็มใจที่จะได้รับหัวใจที่ได้รับการบริจาคของบุคคลไม่น่าแปลกใจที่แม้ว่าการให้คะแนนทั้งหมดสำหรับฆาตกรจะลดลง แต่ผลที่ใหญ่ที่สุดคือความไม่เต็มใจของผู้เข้าร่วมที่จะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรผู้เข้าร่วมอาจคิดว่าความชั่วร้ายของฆาตกรเป็นทรัพย์สินที่จับต้องได้ซึ่งสามารถเก็บและถ่ายโอนในปั๊มเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อง่ายๆแล้วความดื้อรั้นและการเหยียดเชื้อชาติล่ะ?ในปี 1998 โรงพยาบาลทั่วไปภาคเหนือใน Shef eld eld, South Yorkshire ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงสำหรับการยอมรับอวัยวะของผู้บริจาคโดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะได้รับการปลูกถ่ายเป็นผู้ป่วยผิวขาวเท่านั้นคนตายที่จะปลูกถ่ายเป็นผู้ป่วยที่ไม่ใช่คนผิวขาวรัฐฟลอริดาผ่านกฎหมายที่ห้ามการ จำกัด การบริจาคอวัยวะ 30 30 หนึ่งในผู้ที่น่าสนใจที่สุดของ Sanner เกิดขึ้นจากการสัมภาษณ์ของเธอกับผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไตจาก A

184

กีดขวาง

ผู้บริจาคที่มีชีวิตเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับไตจากผู้บริจาคที่ตายแล้ว 31 ซึ่งแตกต่างจากเอียนและลินดาแกมมอนส์ผู้ป่วยที่มีอวัยวะจากผู้บริจาคที่มีชีวิตมีความกังวลน้อยกว่าเกี่ยวกับการรวมแง่มุมของบุคลิกภาพของผู้บริจาคมากกว่าผู้ป่วยที่ได้รับไตจากผู้บริจาคที่ตายแล้วบางทีผู้รับผู้บริจาคที่มีชีวิตได้รับการเตรียมดีขึ้น (การดำเนินการเหล่านี้มีการวางแผนล่วงหน้า) และรู้ว่าผู้บริจาคยังมีชีวิตอยู่และดีและครอบครองตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาหรือเธออย่างเต็มที่แต่ผู้รับอวัยวะจากผู้บริจาคที่ตายแล้วรู้ว่าบุคคลนั้นไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ และสงสัยว่าส่วนหนึ่งของบุคคลนั้นอาศัยอยู่ในตัวพวกเขาหรือไม่เห็นได้ชัดว่าความสำคัญทางจิตวิทยาในแบบที่เราคิด: ในฐานะผู้บริจาคเราอาจดำเนินชีวิตต่อไปในร่างกายของบุคคลอื่นหรือในฐานะผู้รับเราอาจเปลี่ยนไปโดยมีบุคคลอื่นอยู่ในตัวเราสิ่งเหนือธรรมชาติเช่นนี้สามารถพบได้ในความลุ่มหลงที่พบบ่อยที่สุดของพฤติกรรมมนุษย์: เพศเพศที่จำเป็นถ้าคุณเป็นผู้ชายและมากกว่าสี่สิบคุณจะเข้าใจว่าทำไมหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีผลกระทบที่ยั่งยืนต่อฉันคือ Barbarella ของ Roger Vadim ในปี 1968 32 ลำดับการเปิดตัวของ Jane Fonda ที่ไร้น้ำหนักแต่มันก็เป็นลำดับในภายหลังในภาพยนตร์ที่ทิ้งความประทับใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไว้กับฉันเมื่อมาถึงโลกที่ชั่วร้ายนางเอกของเราเข้าสู่วังแห่งความสุขที่ผู้หญิงอเมซอนนั่งอยู่บนหมอนอิงใหญ่ที่สูบบุหรี่จากท่อมอระกู่ยักษ์ข้างในชามแก้วว่ายน้ำชายหนุ่มผู้หญิงมีควันที่ทำให้มึนเมาสูงอย่างชัดเจนเมื่อ Barbarella ถามว่าพวกเขากำลังสูบบุหรี่อะไรคำตอบก็จะหนาวสั่น“ Essence of Man” ตอบกลับมาแล้วสำหรับเด็กผู้ชายที่อยู่ในขอบเขตของการรับรู้ทางเพศนี่เป็นการเปิดเผยที่น่ากลัวมีเซ็กส์เกี่ยวกับการมีสาระสำคัญของคน ๆ หนึ่งหรือไม่?การมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลอื่นนั้นมีความเชื่อที่สำคัญมีความสำคัญและเป็นองค์รวมมันอาจถูกกระตุ้นโดยการกระตุ้นที่เกิดจากฮอร์โมน (รู้สึกมีเขา), การกระตุ้นทางประสาทสัมผัส (กลิ่น, รสนิยมและสถานที่ท่องเที่ยว), ไดรฟ์ที่ใช้งานได้ (ฉันต้องสร้างลูก) และแม้แต่แรงกดดันทางวัฒนธรรมในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

185

และเมื่อเราคิดเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์นั้นมีความคิดเหนือธรรมชาติอยู่ที่หนึ่งคู่ชีวิตบรรลุสหภาพศักดิ์สิทธิ์ในสิ่งที่ต้องเป็นช่วงเวลาที่น่าอับอายที่สุดสำหรับสมาชิกคนใดคนหนึ่งของราชวงศ์เจ้าชายชาร์ลส์ได้พูดคุยกันถึงการกลับชาติมาเกิดเป็นผ้าอนามัยของนายหญิงของเขาในการสนทนาทางโทรศัพท์เทปอย่างลับๆกับคนรักของเขาประเทศรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเปิดเผยจากเทป "camillagate" และอาจถูกกล่าวว่าเป็นเรื่องตลก แต่ความคิดดังกล่าวเป็นเพียงความปรารถนาของคนรักที่จะสนิทสนมและรวมเข้ากับร่างกายของคนที่คุณรักนี่เป็นเพราะคนรักต้องการบรรลุทั้งการรวมตัวทางจิตวิญญาณและทางกายภาพแม้ที่ผู้คนทำมันก็มีผลทางจิตวิญญาณเมื่อเร็ว ๆ นี้ชายและหญิงถูกจับในมหาวิหารอิตาลีหลังจากนักบวชได้ยินเสียงครวญครางที่มาจากกล่องสารภาพเมื่อเจ้าหน้าที่ดึงม่านกลับพวกเขาพบผู้หญิงคนหนึ่งคุกเข่า แต่ไม่กลับใจเธอแสดงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่ส่งเสียงพึมพัมเกิดจากความสุขทางกามารมณ์มากกว่าความทุกข์ทางศีลธรรมทั้งคู่แย้งว่าในฐานะผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าการมีเพศสัมพันธ์ในโบสถ์ไม่แตกต่างจากที่อื่นอย่างไรก็ตามคริสตจักรคิดว่าการกระทำนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งที่มีความจำเป็นในการทำพิธีพิเศษเพื่อชำระล้างกล่อง 33 กล่องได้รับการปนเปื้อนโดยการกระทำสิ่งนี้ฟังดูคล้ายกับเอฟเฟกต์สก็อตที่เราพบในบทที่ 2 และการใช้พิธีกรรมการไล่ผีเพื่อทำความสะอาดสถานที่ที่มีมลภาวะด้วยความชั่วร้ายหากคุณมีมุมมองที่สำคัญมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่าคุณจะถือว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นมีการปนเปื้อนได้อย่างไรด้วยคุณสมบัติที่สำคัญในเชิงบวกหรือเชิงลบขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณดูคนอื่นนี่คือเหตุผลที่การข่มขืนไม่เพียง แต่เป็นการทารุณกรรมทางร่างกาย แต่ยังเป็นการละเมิดทางจิตวิทยาที่ทำให้เหยื่อรู้สึก“ สกปรก”สำหรับหลาย ๆ คนการมีเพศสัมพันธ์นอกการเป็นหุ้นส่วนของคนสองคนไม่ว่าจะถูกบังคับหรือซับซ้อนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เพราะความสมบูรณ์ที่สำคัญของคู่ค้าของเราได้รับการกำหนดพิจารณาว่าการกระทำทางเพศต่าง ๆ อยู่ในลำดับที่สำคัญของพวกเขาฉันไม่จำเป็นต้องสะกดพวกเขา แต่ยิ่งมีการติดต่อทางกายภาพการรุกและการแลกเปลี่ยนทางร่างกายมากเท่าไหร่ทัศนคติที่สำคัญยิ่งของเราต่อการกระทำก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นจุดสุดยอดที่ประสบความสำเร็จผ่านการติดต่อที่ไม่ใช่ทางกายภาพกับผู้อื่นอาจถูกบิดเบือน (โทรศัพท์สกปรกและแม้แต่เพศเสมือนจริงเมื่อมาถึง) แต่มันก็ไม่ได้รบกวนการแทรกซึมทางกายภาพที่เกิดขึ้นจริง

186

กีดขวาง

นอกจากนี้ทำไมเราถึงมีเพศสัมพันธ์ในหมู่ผู้สูงอายุโดยทั่วไปน่าขยะแขยงและผู้สูงอายุยังคงมีเพศสัมพันธ์อยู่?การตั้งค่าโดยรวมของเราที่จะมีเพศสัมพันธ์กับพันธมิตรที่อายุน้อยกว่าอาจเป็นแรงผลักดันเชิงวิวัฒนาการที่จะผสมพันธุ์กับคู่ค้าที่มีสุขภาพดีและมีชีวิตที่มีชีวิตอยู่นานขึ้น แต่ความรังเกียจที่เรารู้สึกเมื่อคิดถึงคนชราที่มีเพศสัมพันธ์นั้นมาจากความจำเป็นความเชื่อยุคสมัยดังกล่าวไม่สำคัญการกระตุ้นให้มีเพศสัมพันธ์กับพันธมิตรที่อายุน้อยกว่านำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์ยิ่งแก่ยิ่งขึ้นแข็งแกร่งขึ้นและโดดเด่นมากขึ้นแสวงหาความเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้นนี่เป็นเพราะในหลายวัฒนธรรมการมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ๆ ถือว่าเป็นวิธีที่จะฟื้นเด็กและพลังและดูสิ่งที่เราทำจริงในภูมิภาคอวัยวะเพศทุกคนจะเพลิดเพลินไปกับความสุขของพื้นที่สันทนาการที่มีเต้าเสียบสิ่งปฏิกูลวิ่งผ่านมันได้อย่างไร?เราทำได้ก็ต่อเมื่อเราเป็นคนอื่นเซ็กซี่มิฉะนั้นด้วยคนแปลกหน้าเราไม่เซ็กซี่มันก็น่าขยะแขยงอย่างสิ้นเชิงทำไมการมีเพศสัมพันธ์กับคู่หูคนหนึ่งเรียกร้องให้มีความต้องการทางเพศและคนอื่น ๆ ที่น่ารังเกียจ?ความสงสัยของฉันคือทัศนคติดังกล่าวเกิดขึ้นจากมุมมองทางจิตวิทยาที่ฝังรากอยู่ในแนวคิดที่จำเป็นของความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่ออย่างลึกซึ้งกับสิ่งอื่นโดยการแพร่กระจายเมล็ดพันธุ์ที่จำเป็นการใช้เหตุผลเหนือธรรมชาติแบบนี้อาจเป็นอันตรายจากสถิติของสถิติเด็กอายุต่ำกว่าหกสิบหกสิบปีที่มีอายุต่ำกว่าสิบหกสิบปีถูกข่มขืนทุกวันในแอฟริกาใต้ตลอดปี 2544.34 ความคิดที่แท้จริงนั้นสูงกว่ามากเนื่องจากมีรายงานผู้ป่วยเพียงหนึ่งในสามสิบคนหน่วยงานต่าง ๆ ที่ติดตามสถานการณ์เชื่อว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออายุน้อยขึ้นเรื่อย ๆคำอธิบายหนึ่งสำหรับแนวโน้มนี้คือตำนานที่เรียกว่า "Virgin Cure" ซึ่งขยายไปถึงการข่มขืนเด็กทารก 35 ในปี 2000 สภาวิจัยทางการแพทย์ของแอฟริกาใต้รายงานว่า "ความเชื่อที่ว่าการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงพรหมจารีSub-Saharan Africa”การสำรวจคนงานรถยนต์กว่าร้อยคนเปิดเผยว่าคนหนึ่งคิดว่าการรักษาแบบบริสุทธิ์นั้นเป็นความจริงต้นกำเนิดของตำนานคือเวทมนตร์ที่เห็นอกเห็นใจและสามารถย้อนกลับไปได้ไกลถึงยุโรปยุคกลางอย่างไรก็ตามฉันกลัวว่าการแพร่ระบาดของเอชไอวี/เอดส์จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการโจมตีเช่นนี้ในขณะที่ผู้ประสบภัยหมดหวังพยายามรักษาตัวเองนี่เป็นเพราะการศึกษาอาจมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อระบบความเชื่อแบบดั้งเดิมแม้จะมี

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

187

หนึ่งในโปรแกรมการศึกษาด้านสุขภาพที่เข้มข้นที่สุดในโลกเกี่ยวกับสาเหตุและการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์การศึกษาพบว่าแอฟริกาใต้ยังคงรับรองคำอธิบายทางชีวภาพและเหนือธรรมชาติสำหรับสาเหตุของการเจ็บป่วยระบบความเชื่อทั้งสองนี้ - ธรรมชาติและเหนือธรรมชาติ - ไม่ได้ถูกมองโดยผู้เข้าร่วมว่าไม่สอดคล้องกัน แต่เป็นคำอธิบายเชิงสาเหตุที่สมบูรณ์ตัวอย่างเช่นผู้คนรู้ว่าไวรัสทางชีวภาพทำให้เอชไอวี แต่พวกเขายืนยันว่าคาถามีหน้าที่รับผิดชอบต่อคนหนึ่งที่ติดเชื้อไวรัสและไม่ใช่อีกครั้ง“ อาวุธ Salve” ยุคกลางเป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมสำหรับบาดแผลจากการควบคุม 37 นี่เป็นความคิดที่ว่าการทำหน้าที่เกี่ยวกับอาวุธที่ได้รับบาดเจ็บอาจรักษาบาดแผลได้นี่คือสูตรสำหรับอาวุธ Salve จากนักเล่นแร่แปรธาตุชาวสวิสในศตวรรษที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ผ่านมา: Take of Moss เติบโตบนหัวของขโมยที่ถูกแขวนคอและทิ้งไว้ในอากาศของมัมมี่จริง;เลือดมนุษย์ยังคงอบอุ่น - ของแต่ละออนซ์;ของ Suet ของมนุษย์สองออนซ์;ของน้ำมันลินซีดน้ำมันสนและอาร์เมเนียโบล - ของ Drachms สองตัวผสมทั้งหมดในครกและเก็บ salve ในโกศที่แคบและเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเมื่อครีมนี้จัดทำขึ้นมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะกู้คืนอาวุธดั้งเดิมและจุ่มลงในครีมในระหว่างนี้แผลจะได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำจืดและผ้าพันแผลในแต่ละวันหลังจากการกำจัด“ หนองที่น่ายกย่อง”ตรรกะของ Weapon Salve เผยให้เห็นถึงความเข้าใจผิดเหนือธรรมชาติจำนวนมากอาวุธมีการเชื่อมต่อที่เห็นอกเห็นใจกับแผลโดยอาศัยความจริงที่ว่ามันมีอยู่ส่วนผสมต่าง ๆ สำหรับ salve ได้รับเลือกเพราะพวกเขาเห็นอกเห็นใจกับกระบวนการบำบัดส่วนผสมบางอย่างอาจได้รับการคัดเลือกเพราะเชื่อว่าจะต่อต้านแง่ลบของการติดเชื้อโดยใช้แรงต่อต้านการต่อต้านเพื่อยกเลิกส่วนผสมที่น่าสยดสยองของ

188

กีดขวาง

ยาแสดงให้เห็นถึงความคิดที่สำคัญการใช้เนื้อเยื่อของมนุษย์อีกครั้งความเชื่อที่ว่ามันมีกำลังสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการบำบัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีค่าคือเนื้อเยื่อจากผู้ที่เสียชีวิตเพื่อสุขภาพและเด็กไม่มีใครต้องการฟื้นฟูไขมันและเลือดจากคนป่วยหรือแก่ดังนั้นสูตรอาหารส่วนใหญ่เรียกร้องให้ใช้ผู้ที่ถูกประหารชีวิตผู้ที่อายุน้อยกว่าและดีกว่ามากขึ้นเนื่องจากเด็กมีพลังชีวิตในตัวพวกเขามากกว่าคนป่วยและกำลังจะตายการรักษาด้วยอาวุธ Salve ใช้งานได้จริง แต่ไม่ผ่านกลไกเหนือธรรมชาติแต่เพียงแค่ทำความสะอาดแผลและการเปลี่ยนผ้าพันแผลในแต่ละวันทำให้ร่างกายสามารถติดเชื้อได้ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบบ่อยที่สุดอย่างไรก็ตามผู้ที่ฝึกฝนการรักษาเชื่อว่ามันทำงานได้ด้วยเหตุผลที่ผิดทั้งหมดเรื่องราวที่คล้ายกันจะเกิดขึ้นในตอนพิเศษอีกครั้งจากประวัติศาสตร์การแพทย์ตะวันตกเห็นได้ชัดว่าแพทย์อวัยวะสืบพันธุ์ความคิดมาจากเวลาที่เขาทำงานเป็นหมอหนุ่มที่ไม่เหมาะสมในโรงฆ่าสัตว์แคนซัสซึ่งเขาสังเกตเห็นความกล้าหาญทางเพศของแพะชายดร. จอห์นอาร์บริงค์ลีย์หรือ“ หมอแพะอวัยวะสืบพันธุ์” ให้เหตุผลว่าถ้าใครสามารถปลูกถ่ายอวัยวะเพศชายของบิลลี่แพะเป็นผู้ชายที่มีความใคร่กำลัง ﬂ agging ส่วนที่อายุมากขึ้นEssentialism และ Vitalism ควบคู่ไปกับความเข้าใจที่ไร้เดียงสาว่าอวัยวะสืบพันธุ์เกี่ยวข้องกับการทำงานทางเพศการศึกษาการปลูกถ่ายสัตว์นั้นเดิมคิดว่าเป็นการประยุกต์ใช้เหตุผลที่สำคัญเห็นอกเห็นใจในช่วงต้นหากแพะตัวผู้มีเขาและความใคร่ของคุณกำลังหลบหนีจากนั้นใส่บิลลี่ลงไปในผลงานของคุณผู้ป่วยคนแรกของเขาคือเกษตรกรผู้สูงอายุที่บ่นเรื่องการขับรถทางเพศต่ำและเต็มใจที่ Brinkley จะลองใส่ส่วนหนึ่งของอวัยวะสืบพันธุ์แพะลงในถุงอัณฑะของเขาบุคคลส่วนใหญ่จะตกใจกับความคิดของการแทรกเนื้อเยื่อสัตว์อย่างจงใจเข้าไปในร่างกายของพวกเขาเมื่อเทียบกับท้องของพวกเขา แต่เมื่อพูดถึงเรื่องเพศและความชราประวัติศาสตร์ของมนุษย์เต็มไปด้วยการปฏิบัติที่แปลกประหลาดที่เชื่อว่าจะปรับปรุงและยืดอายุประสบการณ์ทางเพศ.โดยบัญชีทั้งหมดเกษตรกรของ Brinkley ไม่เพียง แต่รอดชีวิตจากการผ่าตัดเท่านั้น แต่ยัง

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

189

รูปที่.16: แพทย์ Gonad Gonad, John R.

Brinkley

©สมาคมประวัติศาสตร์รัฐแคนซัส

นอกจากนี้ยังมีความสุขกับการเช่าใหม่เกี่ยวกับชีวิตทางเพศเป็นพ่อของลูกชายที่เขาตัดสินใจที่จะตั้งชื่ออย่างเหมาะสมบิลลี่อุกกาบาตของ John Brinkley เพิ่มขึ้นสู่ชื่อเสียงและความมั่งคั่งได้เริ่มขึ้นแล้วเขาจะดำเนินการดำเนินการหลายพันครั้งที่ประมาณ $ 750 ต่อป๊อปและเขากลายเป็นหนึ่งในนักต้มตุ๋นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอเมริกาในศตวรรษที่ยี่สิบสำหรับ $ 5,000 ซึ่งเป็นจำนวนมากในตอนนั้น Brinkley ปลูกถ่ายอวัยวะสืบพันธุ์ของมนุษย์ที่เก็บเกี่ยวจากนักโทษหนุ่มในแถวประหารตลอดชีวิตของเขาเขาจะเป็นเจ้าของคฤหาสน์เครื่องบินเรือและสถานีวิทยุและยืนสองครั้งสำหรับผู้ว่าการรัฐแคนซัสเขายังสวมเครา“ เคราแพะ” เพื่อทำตามขั้นตอนทางการแพทย์ของเขาในที่สุดสมาคมการแพทย์อเมริกันก็หงุดหงิดและประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายแพะอวัยวะสืบพันธุ์ของเขาวิ่ง Brinkley ออกจากประเทศและในที่สุดเขาก็จะสูญเสียโชคลาภพยายามที่จะสร้างอาชีพของเขาในต่างประเทศอีกครั้งความคิดที่ว่าการต่อมเพศสัตว์จะทำงานเป็นยาอายุวัฒนะของชีวิตได้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วในปารีสในศตวรรษที่สิบเก้านักสรีรวิทยาของฮาร์วาร์ด Charles-Édouard

190

กีดขวาง

Brown-Séquardได้อ้างสิทธิ์ในการฟื้นฟูจากการฉีดตัวเองด้วยหนูตะเภาที่บดขยี้และลูกอัณฑะลูกสุนัข“ อุ๊ย!”มันทำให้ฉันสะดุ้งเพียงแค่พิมพ์สิ่งนี้อาจเป็นหมออวัยวะสืบพันธุ์ที่โด่งดังที่สุดในเวลานั้นคือแพทย์ที่เกิดในรัสเซีย Serge Voronoffเขาฉีดตัวเองด้วย bollocks สัตว์เลี้ยงที่ถูกเหลวไหลของ Brown-Séquard แต่ด้วยผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังจากนั้น Voronoff คิดว่าบางทีเนื้อเยื่อควรยังคงอยู่เหมือนเดิมดังนั้นเขาจึงทำให้เทคนิคการปลูกถ่ายหรือการปลูกถ่ายอวัยวะสมบูรณ์ในขั้นต้นเขาใช้อัญมณีของครอบครัวของอาชญากรหนุ่มและปลูกถ่ายพวกเขาตรงเข้าไปในกระสอบเศรษฐีที่มีอายุมากซึ่งสามารถจ่ายได้เมื่อเขาวิ่งออกไปจากโจรอ่อนเยาว์เขาย้ายไปที่ลิงและลิงต่างๆผู้นำระดับโลกกัปตันของอุตสาหกรรมและนักแสดงผู้สูงอายุต่างก็จ่ายเงินอย่างดีสำหรับการดำเนินงานและในไม่ช้าสัตว์เลี้ยงลูกอวัยวะสืบพันธุ์ก็เกิดขึ้นทั่วโลกตะวันตกยกเว้นในอังกฤษชาวอังกฤษที่เป็นคนรักสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งได้ห้ามสัตว์เลี้ยงสัตว์ แต่ถือว่าเป็นที่ยอมรับได้อย่างสมบูรณ์แบบในการปลูกถ่าย bollocks ของผู้ชายคนอื่นซึ่งแตกต่างจาก Brinkley ในสหรัฐอเมริกา Voronoff สนุกกับการได้รับเกียรติจากแพทย์เพื่อนของเขาในยุโรปเป็นระยะเวลาหนึ่งในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2466 The Times รายงานว่าในการประชุมศัลยแพทย์ชั้นนำเจ็ดร้อยคนที่ International Congress of ศัลยแพทย์ในลอนดอน Voronoff ได้รับการปรบมือสำหรับการพัฒนาปฏิบัติการฟื้นฟูซึ่งจะทำให้เขาโชคลาภมากพอ39 อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับ Brinkley ในที่สุดกระแสของการสนับสนุนก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นได้ชัดว่าการเรียกร้องของ Voronoff ไม่สามารถพิสูจน์ได้แม้ว่าชื่อเสียงของ Voronoff จะถูกทำลายในที่สุด แต่แง่มุมของการวิจัยของเขาก็เป็นเสียงอัณฑะผลิตฮอร์โมนสเตียรอยด์ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนซึ่งเป็นกลไกสำคัญสำหรับการทำให้เป็นผู้ชายของผู้ชายในครรภ์เทสโทสเตอโรนเปลี่ยนเด็กสาวให้กลายเป็นเด็กชายเด็กชายเด็กชายทุกคนจะกลายเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆนั่นเป็นเหตุผลที่เราทุกคนมีหัวนมตลอดช่วงชีวิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในลักษณะทางเพศที่สองที่เรียกว่าปรากฏรอบวัยแรกรุ่นด้วยการเปลี่ยนแปลงในอวัยวะเพศมวลร่างกายและเส้นผมในวัยชราระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะหมดลงท่ามกลางอาการอื่น ๆ ของอายุเทสโทสเตอโรนที่ลดลงสามารถลดความใคร่ทางเพศและเช่นนั้น

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

191

การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนเป็นหนึ่งในการรักษาที่ขัดแย้งกันสำหรับวัยหมดประจำเดือนชายที่เรียกว่านอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการมอบหมายเพศหญิงเป็นเพศในช่วงเปลี่ยนผ่านในผู้หญิงที่ต้องการเปลี่ยนการผ่าตัดเป็นผู้ชายอย่างไรก็ตามในการใช้งานที่ทันสมัยฮอร์โมนที่ผลิตจากสังเคราะห์ถูกนำมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทั้งการปฏิเสธเนื้อเยื่อสัตว์โดยระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์และความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคสัตว์เข้าสู่มนุษย์มันเป็นความเสี่ยงที่นำ Voronoff ออกมาจากความสับสนของเขาในปี 1999 เมื่อบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ธรรมชาติตั้งทฤษฎีว่าการปลูกถ่ายอวัยวะเพศในช่วงต้นของเขาเพื่อฟื้นฟูความใคร่ปวกเปียกของชายผู้มั่งคั่งเก่า ๆ ที่ส่งไวรัสไวรัสเอชไอวีจากลิง40 ช่างน่าขันถ้าเป็นจริงอีกครั้งสัตว์ได้รับการแก้แค้นของพวกเขาในการทรมานไสยศาสตร์ของพวกเขาภายใต้สถานการณ์ปกติเซลล์จากสัตว์หนึ่งไม่สามารถแทนที่เซลล์ของอื่นได้แม้แต่การปลูกถ่ายมนุษย์สู่มนุษย์ก็ยังต้องการความเข้ากันได้และยาเสพติดในการระงับการป้องกันภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อปฏิเสธการบุกรุกจากต่างประเทศความจริงที่ว่าการฉีดและปลูกถ่ายอวัยวะสืบพันธุ์ดูเหมือนจะทำงานได้เนื่องจากความเชื่อของยาหลอกว่าพวกเขาจะทำงานแม้ว่าตรรกะที่อยู่เบื้องหลังการรักษาของ Gonad Doctors นั้นเป็นสิ่งสำคัญในธรรมชาติ แต่ในที่สุดมันก็จะนำไปสู่การค้นพบกลไกพื้นฐานของฮอร์โมนที่ไม่เคยมีมาก่อนเมื่อ Voronoff สังเกตเห็นผลของการตัดอัณฑะที่มีต่อผู้ชายและสัตว์เขาเห็นว่าการขาดงานทำให้เกิดความไม่สมดุลอย่างไรเขาเพียงแค่ให้เหตุผลว่าการแทนที่สิ่งที่ขาดหายไปในชายชราจะแก้ไขปัญหาความคิดที่ไร้เดียงสาตามกฎความเห็นอกเห็นใจของเวทมนตร์นำไปสู่ความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์น้ำศักดิ์สิทธิ์เมื่อชาร์ลส์ฉันกษัตริย์อังกฤษถูกตัดหัวในเช้าวันมกราคมในเดือนมกราคม 2192 มีรายงานว่าฝูงชนพุ่งไปข้างหน้าเพื่อจุ่มผ้าเช็ดหน้าลงในเลือดของราชวงศ์ขณะที่มันหยดลงมาจากนั่งร้าน 41ปฏิกิริยาที่น่าสยดสยองนี้อาจเป็นความเชื่อที่ว่าเลือดของราชวงศ์มีพลังในการรักษาเพราะกษัตริย์และควีนส์มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับพระเจ้าแน่นอนว่า“ การสัมผัสรอยัล” ของกษัตริย์หรือราชินีนั้นเป็นความคิด

192

กีดขวาง

เพื่อรักษาความผิดปกติของผิวหนัง scrofula รูปแบบของวัณโรคความรักที่สำคัญของนักบุญและกษัตริย์ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้เว็บไซต์ที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในจังหวัดอิตาลีของอูเบรียคือเมือง Assisi ในยุคกลางของ Forti ed Ed ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์ฟรานซิสแห่งอัสซีซีซึ่งเป็นที่เหลือของเซนต์ฟรานซิสแห่งอัสซิสที่มีชื่อเสียงที่สุดของอิตาลีหลุมฝังศพของนักบุญที่สิบสามนี้ไม่ได้ถูกค้นพบจนกระทั่งปี 1818 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเมื่อพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นซากของบุคคลที่รับผิดชอบการก่อตัวของคำสั่งของฟรานซิสกันของพระหลุมฝังศพดั้งเดิมถูกปกปิดโดยสมเด็จพระสันตะปาปาศตวรรษที่สิบสี่ แต่เมื่อซากศพของมนุษย์ถูกค้นพบใหม่หลังจากการขุดค้นในศตวรรษที่สิบเก้าพวกเขาถูกย้ายไปที่ห้องใต้ดินใต้ดินที่ผู้แสวงบุญสามารถเยี่ยมชมได้ในวันนี้ในวันที่ฉันอยู่ที่นั่นอุณหภูมิเป็นองศาฟาเรนไฮต์เก้าสิบองศาอยู่ข้างนอกในดวงอาทิตย์ทัสคานีที่เปล่งประกายดังนั้นแม้จะมีผู้เข้าชมหลายร้อยคนอัดแน่นไปด้วยมหาวิหารShuf ﬂ e ทั้งในและรอบ ๆ โลงศพหินขนาดใหญ่ที่ได้รับการปกป้องด้วยโครงเหล็กตาข่ายตัวเลขนั้นเป็นเช่นนั้นที่ต้องไปกับคนส่วนใหญ่ที่เงียบไม่มีการหันหลังกลับเมื่อใดก็ตามที่เสียงกระซิบโผล่ออกมาในฝูงชนเสียงปลดจากอำนาจของคริสตจักรที่มองไม่เห็นบางคนตำหนิและสั่งให้เราด้วย "ซินซิโอ" ที่เข้มงวดเราคาดว่าจะรักษาสถานะที่เคารพนับถืออย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับที่พิพิธภัณฑ์บอกเราว่า“ โปรดอย่าแตะต้อง” มันเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมผู้เยี่ยมชมต้องการที่จะโผล่มือผ่านกริดเหล็กเพื่อติดต่อกับอนุสาวรีย์หินโบราณด้านหลังบางคนมีส่วนร่วมในการสวดมนต์เงียบขณะที่พวกเขาสัมผัสหินตอนนั้นฉันได้เห็นสิ่งที่ค่อนข้างรบกวนและมีความสำคัญในธรรมชาติพระเข้ามาและรดน้ำการเตรียมการถาวรที่ด้านหน้าของหลุมฝังศพน้ำจาก ﬂ owers เริ่มไหลผ่านหินโบราณสิ่งที่ฉันไม่ได้คาดหวังและไม่สามารถถ่ายภาพได้เนื่องจากข้อ จำกัด นั้นเป็นความบ้าคลั่งอย่างฉับพลันในผู้ที่อยู่ใกล้กับหลุมฝังศพนี้ราวกับว่าพวกเขาถูกตัดทอนเกินความกระหายโดยดวงอาทิตย์ทะเลทรายพวกเขากดใบหน้าของพวกเขากับกริดพยายามที่จะเลียน้ำในขณะที่มันไหลผ่านศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์นิ้วเปียกโดย

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

193

น้ำส่วนเกินถูกเลียในความพยายามที่จะดูดซับสิ่งสำคัญบางอย่างน้ำที่อาจถูกดึงออกมาจากก๊อกสามัญจากแหล่งเทศบาลเพียงไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อสัมผัสกับหลุมฝังศพมันแปลกเกินไปความชื่นชมและความรักได้กลายเป็นสิ่งสำคัญในการปนเปื้อนของน้ำธรรมดาดินศักดิ์สิทธิ์ความคิดที่สำคัญเช่นนี้เป็นหัวใจของความฝันทางธุรกิจของอลันเจนกินส์และแพ็ตเบิร์ค 42 ฉันได้พบพวกเขาเมื่อปีที่แล้วในงานแชทดับลินที่พวกเขากำลังพูดถึงการลงทุนทางธุรกิจใหม่ บริษัท AULD SOD ส่งออกอลันเป็นผู้สูงอายุที่สงวนไว้มากขึ้นและอาจจะจริงจังเกินไปเล็กน้อยในขณะที่แพ็ตเป็นนักวิทยาศาสตร์เกษตรที่อายุน้อยกว่าและร่าเริงที่กระตือรือร้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่พวกเขาขายในสหรัฐอเมริกา: สิ่งสกปรกไอริชไม่เพียง แต่สิ่งสกปรกเก่า ๆ แต่เป็นดินจริงที่เป็นจริงและเป็นของแท้อลันได้รับความคิดเมื่อเขาเข้าร่วมงานศพในฟลอริดาและได้ยินญาติที่คร่ำครวญว่าการจากไปไม่สามารถฝังอยู่ในประเทศ Auld และเพียงแค่การโรยดินไอริชเล็กน้อยสิ่งสกปรกเต็มไปด้วยจุลินทรีย์และสารปนเปื้อนที่มีศักยภาพข้อ จำกัด ด้านศุลกากรและการนำเข้าทางการเกษตรของสหรัฐอเมริกานั้นเป็นสิ่งที่เข้มงวดที่สุดในโลกและสิ่งสกปรกจะต้องได้รับการฆ่าเชื้ออย่างทั่วถึงเพื่อกำจัด Biohazard ที่มีศักยภาพนี่คือบทบาทของ Pat ในธุรกิจ - เพื่อสร้างสิ่งสกปรกที่สะอาดที่สุดในโลกดีพอที่จะกินมันขายได้ที่ $ 15 สำหรับกระเป๋าสิบสองออนซ์และผู้สูงอายุชาวนิวยอร์กคนหนึ่งมีพื้นเพมาจากกัลเวย์ได้สั่งซื้อ $ 100,000 เพื่อให้เขาสามารถมีหลุมฝังศพไอริชของเขาในแมนฮัตตันขณะนี้ บริษัท กำลังแยกออกเป็นแชมร็อคที่สามารถเติบโตในสหรัฐอเมริกาในสิ่งสกปรกของไอริชในเวลาสำหรับการเฉลิมฉลองวันเซนต์แพทริกที่ได้รับความนิยมตลอดกาลความเชื่อก็คือบางแห่งในสิ่งที่ต้องเป็นดินที่ปลอดเชื้อมากที่สุดในโลกสาระสำคัญของไอร์แลนด์ยังคงอยู่ด้วยศักยภาพดังกล่าวสำหรับความสำคัญทางจิตวิทยาในที่ทำงานในชุมชนชาวไอริชอเมริกันชาวต่างชาติขนาดใหญ่อลันและแพทอาจได้จ่ายเงินให้สิ่งสกปรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเยอรมนีบุกยูโกสลาเวียและราชวงศ์ที่ถูกเนรเทศในลอนดอนกษัตริย์ปีเตอร์ที่สอง

194

กีดขวาง

กษัตริย์องค์สุดท้ายของยูโกสลาเวียแต่งงานกับเจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งกรีซในปี 2487 และพวกเขาคาดหวังว่าลูกชายคนแรกของพวกเขาในปีต่อไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับทายาทสู่บัลลังก์ที่ไม่ได้เกิดในบ้านเกิดของเขากษัตริย์ปีเตอร์ที่สองได้ร้องขอเป็นพิเศษกับวินสตันเชอร์ชิลล์สำหรับวันเดียวในช่วงฤดูร้อนปี 2488 นายกรัฐมนตรีอังกฤษเซอร์วินสตันเชอร์ชิลล์ยอมรับห้องพัก 212 แห่งโรงแรมคลาริดจ์ในถนนบรูคลอนดอนไปยูโกสลาเวียเพื่อให้เจ้าชายอเล็กซานเดอร์เกิดในดินแดนยูโกสลาเวียหม้อของดินเซอร์เบียถูกวางไว้ใต้เตียงของเขาเพื่อเพิ่มส่วนผสมที่สำคัญในการตัดสินใจทางการเมือง 43 และแวมไพร์ของเราตั้งแต่ต้นบทนี้ย้ายไปรอบ ๆ และยังคงปลอดภัยในช่วงเวลากลางวัน?โดยการเดินทางใน cof ﬁ ns ที่มีสิ่งสกปรกจาก transylvania พื้นเมืองของเขาแน่นอนอะไรต่อไป?ในบทนี้เราตรวจสอบวิธีการที่มนุษย์สามารถสัมผัสหรือค้นหาการเชื่อมต่อที่ใกล้ชิดกับผู้อื่นที่ไม่สามารถสนับสนุนได้ด้วยความเชื่อที่ว่าพวกเขาสามารถดูดซับคุณสมบัติของบุคคลอื่นได้ประสบการณ์นี้อาจเป็นบวกหรือลบขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่เราเชื่อว่าเราอาจรวมเข้าด้วยกันในขณะที่การปนเปื้อนทางชีวภาพผ่านไวรัสและการติดเชื้อจุลินทรีย์เป็นโหมดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงระหว่างบุคคลเรายังเชื่อว่าคุณสมบัติที่ไม่ใช่ทางกายภาพอื่น ๆ เช่นพลังศีลธรรมและอัตลักษณ์สามารถถ่ายโอนได้ในทำนองเดียวกันราวกับว่าพวกเขาเป็นหน่วยงานทางกายภาพความเชื่อดังกล่าวอาจขึ้นอยู่กับแนวคิดการพัฒนาตามธรรมชาติที่เราอนุมานเมื่อคิดถึงบุคคลอื่นฉันคิดว่าความเชื่อเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของวิธีที่เราคิดเกี่ยวกับคนอื่นการใช้เหตุผลที่สำคัญมาจากลำไส้มากเท่าที่มันมาจากจิตใจนั่นเป็นเพราะมันขึ้นอยู่กับความรู้สึกที่เข้าใจง่ายที่กระตุ้นอารมณ์อารมณ์เป็นเชื้อเพลิงที่ตัดสินใจได้หากปราศจากอารมณ์การตัดสินใจของเรานั้นเย็นชาและไม่มีความรู้สึกนี่อาจเป็นเรื่องที่ต้องเลือกซื้อหนังสือพิมพ์หรือถุงเท้าที่จะสวมใส่ แต่เมื่อพูดถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับคนอื่นอารมณ์เป็นแนวทางสำคัญสำหรับวิธีที่เราคิดหากคนเหล่านี้มีความสำคัญต่อผู้อื่นในชีวิตของเราด้วย

คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรด้วยความเต็มใจหรือไม่?

195

ผู้ที่เราแบ่งปันความมุ่งมั่นระหว่างบุคคลในระดับหนึ่งความรู้สึกมีความสำคัญ - ในความสัมพันธ์จะต้องมีองค์ประกอบทางอารมณ์บางอย่างที่จะมีความหมายและในการที่มันง่ายกว่าที่จะเข้าใจประสบการณ์ของอารมณ์ความรู้สึกที่มาจากความจริงภายในเกี่ยวกับบุคคลที่เรารู้สึกเชื่อมต่อหากอารมณ์ของเราที่มีต่อผู้อื่นขึ้นอยู่กับการใช้เหตุผลที่สำคัญเราควรจะสามารถแสดงให้เห็นว่าหลักการของการปนเปื้อนที่จำเป็นเช่นกันทรัพย์สินส่วนบุคคลรายการเสื้อผ้าและอดีตที่อยู่อาศัยของคนอื่น ๆ ที่มีความหมายจะใช้กับบางสิ่งบางอย่างของเจ้าของคนก่อนกล่าวอีกนัยหนึ่งเราจะเริ่มปฏิบัติต่อสิ่งที่ไม่มีชีวิตและวัตถุราวกับว่าพวกเขาเสียไปโดยสาระสำคัญของผู้อื่นที่มีความหมายต่อผู้ที่เรามีท่าทางทางอารมณ์ในการทำเช่นนั้นเราต้องเห็นว่าบุคคลอื่นเป็นบุคคลที่ไม่เหมือนใคร

บทที่แปด

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

เมื่อฉันได้เรียนรู้ว่าจะมีการตีพิมพ์ Supersense หนึ่งในคนที่ฉันอยากบอกคือ Steve Bransgroveสี่ปีที่ผ่านมาฉันได้เดินเข้าไปในร้านเล็ก ๆ ของสตีฟบนถนนที่ปูด้วยหินในเมือง Frome ของเมืองซอมเมอร์เซ็ทCollectables Steve Vee Bransgrove เป็นถ้ำแห่งความทรงจำของ Aladdin ที่มีรายการจากเวลาอดีตเช่นโปสการ์ด, ของเล่นดีบุก, การ์ตูน, กล่องยาและวัตถุทั่วไปทุกรูปแบบไม่มีมูลค่าที่ชัดเจนแต่ผู้คนจะจ่ายเงินที่ดีสำหรับพวกเขาของเล่นโดยเฉพาะวัตถุนั้นน่าตื่นเต้นมากหากคุณหลับตาคุณจะได้กลิ่นทศวรรษที่ผ่านมาแท้จริงแล้วร้านค้ามีกลิ่นหอมที่ยอดเยี่ยมในอดีตมีกลิ่นของยาสูบที่ใช้งานของสตีฟฉันจำวันที่ฉันติดฉันได้อ่านโปสการ์ดรูปภาพในกล่องและค้นพบหนึ่งใน“ Twinkle Toes” Jacobsen นักเปียโนที่ไม่มีแขนภาพการประชาสัมพันธ์แสดงให้เห็นว่าชายหนวดที่ร่าเริงสวมชุดทักซิโด้สีดำสมดุลอย่างระมัดระวังที่เปียโนเล่นด้วยเท้าเปล่าของเขา!ฉันประหลาดใจที่มีครั้งหนึ่งที่คนอย่างนิ้วเท้ากระพริบถูกมองว่าเป็นคนดังฉันซื้อการ์ดและนั่นคือจุดเริ่มต้นของความหลงใหลในการรวบรวมสั้น ๆ ของฉันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าฉันจะไปที่ร้านของสตีฟเป็นประจำ

ปี 198

กีดขวาง

ที่ครั้งแรกมันเป็นโปสการ์ดจากการแสดงและรายการประหลาดจากนั้นด้วยเหตุผลบางอย่างฉันจึงขยายไปสู่โปสการ์ดขาวดำของ Starlets ภาพยนตร์ที่สวยงามในช่วงทศวรรษที่ 1930บ่อยครั้งที่การเยี่ยมชมร้านค้าของสตีฟฉันไม่มีความตั้งใจที่จะซื้อ แต่เราจะพูดคุยเกี่ยวกับการรวบรวมและผู้คน (ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายในประสบการณ์ของเขา) ที่ติดตามงานอดิเรกแปลก ๆ นี้ในการเยี่ยมชมแต่ละครั้งฉันทิ้งไว้อย่างสม่ำเสมอด้วยคอลเล็กชั่นเล็ก ๆ ของฉันสตีฟมีนิทานที่ยอดเยี่ยมมากมายของนักสะสมที่ครอบงำ - มองดูในสายตาการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกเมื่อมีการค้นพบของที่โลภมากเสียงที่กระวนกระวายใจเขาเคยเก็บสิ่งของไว้ใต้เคาน์เตอร์เพื่อรับความรู้เต็มรูปแบบว่าพวกเขาจะซื้อสิ่งที่เขามีให้สตีฟจำเครื่องรางของลูกค้าแต่ละคนได้เช่นเดียวกับผู้ผลักดันยาเสพติดเขาเข้าใจถึงพลังของการติดยาเสพติดอย่างเต็มที่เนื่องจากทั้งเขาและภรรยาของเขา Shirl เป็นนักสะสมเช่นกันสตีฟแทบจะไม่ได้ทำมาหากินจากธุรกิจ แต่เขาสนุกกับมันมากจนฉันพนันได้เลยว่าเขาจะได้ทำงานให้เช่าคนเดียวทำไมคนถึงทำ?การรวบรวมดูเหมือนจะเป็นพฤติกรรมแปลก ๆ ในโลกของการอัพเกรดทันทีการทำซ้ำและนวัตกรรมที่ทันสมัยทำไมต้องมองย้อนกลับ?เมื่อฉันเข้าสู่โดเมนของนักสะสมฉันค้นพบโลกกระจกที่เต็มไปด้วยพยุหเสนาของผู้คนที่เดินทางรอบยอดขายลำตัวรถยนต์และตลาด ﬂ ea ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อค้นหาความถูกต้องฝนตกหรือเงางามคนเหล่านี้ออกมาเป็นกลุ่มมองหาต้นฉบับมีเงินที่จะทำจากการรวบรวม แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่คนทำเงินเพียงแค่การกระตุ้นอย่างมากTom Hanks นักแสดงที่ร่ำรวยตามมาตรฐานของทุกคนรวบรวมเครื่องพิมพ์ดีดก่อนสงครามโลกครั้งที่สองบางครั้งเขาใช้จ่ายเงินมากขึ้นในการซ่อมพวกเขามากกว่าที่พวกเขามีค่า 1 นักสะสมใด ๆ สามารถเกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ได้ตัวอย่างเช่นรถยนต์โบราณเป็นความเขลาที่ร่ำรวยมากมันไม่สมเหตุสมผลทางการเงินในการเป็นเจ้าของคอลเลกชันดังกล่าวคนอื่น ๆ รวบรวมเพราะความสุขของการแสวงหาชิ้นส่วนที่หายไปนักสะสมดังกล่าวมีแรงจูงใจที่จะทำให้ทั้งชุดเสร็จสมบูรณ์แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเป็นเจ้าของชุดได้ก็ตามตัวอย่างเช่นในสหราชอาณาจักรเรามีคนที่รวบรวมหมายเลขรถไฟบุคคลเหล่านี้ (ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย) ยืนอยู่ที่จุดสิ้นสุดของแพลตฟอร์มของสถานีที่ยุ่งเขียนหมายเลขซีเรียลของรถไฟที่แตกต่างกันเป็น

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

199

พวกเขามาและไปพวกเขาเป็นเหมือนนักดูนกหรือ“ twitchers” ตามที่พวกเขาเป็นที่รู้จักในสหราชอาณาจักร-บุคคลที่หมกมุ่นﬁ nd.ความหลงใหลในชายผู้นี้ในการทำชุดที่มีทฤษฎีของ Simon Baroncohen ที่เรากล่าวถึงในบทที่ 5 เกี่ยวกับผู้ชายที่มีแนวโน้มที่จะสั่งและระบบตามธรรมชาติอย่างไรก็ตามการรวบรวมให้เสร็จสมบูรณ์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความหลงใหลนักสะสมหลายคนได้รับแรงบันดาลใจจากอารมณ์ที่เกิดจากวัตถุและการเชื่อมต่อที่วัตถุทำกับอดีตนักสะสมเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกอ่อนไหวที่จะได้รับจากการมีและถืออะไรบางอย่างจากเวลาอื่นหากวัตถุนั้นเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือเหตุการณ์ที่มีนัยสำคัญความรู้สึกของการเชื่อมต่อจะเพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้ทำการศึกษาทัศนคติของผู้ใหญ่ที่มีต่อวัตถุและพบว่าไม่เพียง แต่เราให้ความสำคัญกับวัตถุที่แท้จริงเท่านั้น แต่เรายังต้องการสัมผัสพวกเขา 2 นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนจะจ่ายเงินจำนวนมากเกินไปชุดแต่งงานของเจ้าหญิงไดอาน่าคำสั่งวัตถุที่แท้จริงเหล่านี้บิดเบือนค่าในใจของนักสะสมตัวอย่างเช่นสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการกระตุ้นให้เก็บของที่ระลึกอาจดูแปลกหรือแปลก แต่ทฤษฎีของสตีฟคือผู้คนรวบรวมความทรงจำที่เตือนพวกเขาถึงวัยเด็กของตัวเองหรือเวลาที่ดีกว่าเมื่อพวกเขาคิดว่าพวกเขามีความสุขวัตถุมีการเชื่อมโยงทางกายภาพกับอดีตที่สามารถขนส่งเรากลับไปยังวันก่อนหน้าผ่านความรู้สึกของการเชื่อมต่อได้ทันทีผู้คนไม่เก็บสิ่งของที่ทำให้พวกเขารู้สึกเศร้าฉันไม่แน่ใจว่าแรงจูงใจของฉันคืออะไรสำหรับการสะสมโปสการ์ดของ Sideshow Freaks และ Hollywood Starlets แต่ฉันก็ชื่นชมความสุขในการค้นพบการ์ตูนประจำปีหรือของเล่นในร้านของ Steve ที่ฉันเห็นว่าเป็นเด็กผู้ชายปี.แต่ละวัตถุเป็นเหมือนการพบเพื่อนที่หายไปนานโดยไม่คาดคิดเมื่อฉันบอกเขาว่าฉันกำลังทำงานกับหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กและต้นกำเนิดของพฤติกรรมที่ไม่มีเหตุผลสตีฟสัญญาว่าจะแบ่งปันเรื่องราวของลูกค้าที่มีชื่อเสียงของเขามากขึ้นและความลับในการรวบรวมความผิดของพวกเขาถ้าฉันได้รับสำนักพิมพ์ฉันจะกลับมาพูดคุยเรื่องนี้มากขึ้นเนื่องจากมีบางสิ่งที่ไม่มีเหตุผลมากกว่าความหลงใหลในการสะสมของมนุษย์

200

กีดขวาง

ขณะที่ฉันเข้าหาร้านค้าของสตีฟเพื่อบอกเขาถึงข่าวดีเกี่ยวกับข้อตกลงหนังสือสิ่งแรกที่ฉันสังเกตเห็นคือเขาไม่ได้ยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูคุยกับคนเดินผ่านด้วยแก้วกาแฟเครื่องหมายการค้าของเขาและบุหรี่ม้วนขึ้นจากนั้นฉันก็เห็นโน้ตติดอยู่ที่ด้านในของหน้าต่างหัวใจของฉันจมลงเขาออกไปทำธุรกิจหรือไม่?ไม่แน่นอนอย่างที่ฉันรู้ว่าสตีฟวิ่งไปที่ร้านเพื่อรักการจัดการในความทรงจำไม่ใช่เพื่อสร้างรายได้

รูปที่.17: Steve Vee Bransgrove Collectables ใน Frome (2007) ซึ่งฉันใช้เวลาหลายคน

ชั่วโมงแห่งความสุข

ภาพของผู้แต่ง

ความจริงแย่ลงสตีฟเสียชีวิตก่อนกำหนดเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ในทันทีและลดลงอย่างรวดเร็วก่อนที่ฉันจะมีโอกาสได้รู้ว่าเขาป่วยในจดหมายบันทึกไว้ที่หน้าต่างภรรยาของเขา Shirl ขอบคุณทุกคนสำหรับคำพูดที่มีน้ำใจทั้งหมด แต่เธอไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้หากไม่มีสตีฟและร้านค้าจะปิดฉันกลับมาเมื่อไม่นานมานี้เพื่อดูว่าสถานที่เล็ก ๆ ถูกล้างออกทั้งหมดทิ้งเพียงแค่เปลือกหอยด้วยโน้ต

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

201

ยังคงติดอยู่กับหน้าต่างฉันประหลาดใจที่เห็นว่าร้านค้ามีขนาดใหญ่แค่ไหนสตีฟบรรจุมันด้วยวัตถุมากมายที่รู้สึกอบอุ่นและยุ่งเหยิงในแบบที่ปลอบโยนมันเหมือนความกล้าที่ถูกฉีกออกจากสัตว์ตัวใหญ่ที่เป็นมิตรและมีขนยาวเหมือนผู้ชายตัวเองฉันแน่ใจว่าภาพนั้นจะทำให้หัวใจของสตีฟแตกสลายสำหรับฉันแง่มุมที่ฉุนเฉียวที่สุดของเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการสูญเสียสตีฟ (เราทุกคนต้องไป) แต่การตระหนักว่าพวกเราหลายคนทนทุกข์ทรมานและหงุดหงิดเกี่ยวกับการครอบครองเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่เราสะสมวัตถุตลอดชีวิตด้วยความเชื่อที่ว่าวัตถุมีความสำคัญเราอยากได้สิ่งที่ไม่มีชีวิตที่เรียบง่ายเราลงทุนอารมณ์ความพยายามและเวลาและจุดจบหรือจุดประสงค์อะไร?มีเพียงคอลเลกชันที่สำคัญมากเท่านั้นที่รอดชีวิตจากสภาพแวดล้อมที่ไม่บุบสลายและพวกเขามักจะรวมงานศิลปะที่เป็นที่รู้จักด้วยคุณค่าเชิงพาณิชย์นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราส่วนใหญ่สามารถเป็นเจ้าของได้การครอบครองส่วนบุคคลมักมีมูลค่าทางการเงินเพียงเล็กน้อย แต่ในช่วงชีวิตของเราเรามักจะรำคาญหรืออารมณ์เสียหากพวกเขาได้รับความเสียหายหรือสูญหายนั่นเป็นเพราะวัตถุกำหนดว่าเราคิดว่าเราเป็นใครเราถือว่าวัตถุเป็นส่วนขยายของตัวเราเองเมื่อมีคนตายทรัพย์สินส่วนใหญ่ของพวกเขาจะถูกแจกจ่ายขายหรือส่งลง แต่บ่อยครั้งที่พวกเขาลงเอยในตลาด ﬂ ea หรือในถังขยะเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นว่าไม่มีจุดหมายตลอดชีวิตของการรวบรวมวัตถุดูเหมือนว่าเมื่อนักสะสมหายไปบางครั้งเมื่อวัตถุกลายเป็นสัญลักษณ์สำหรับสิ่งอื่น ๆ ที่มีนัยสำคัญอย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถใช้ค่าที่จำเป็นMichel Levi-Leleu เห็นพ่อของเขา Pierre ในปี 1943 ถือกระเป๋ากระดาษแข็งเมื่อเขาออกจากที่หลบภัยใน Avignon ประเทศฝรั่งเศสมองหาบ้านใหม่สำหรับครอบครัวชาวยิวของเขามิเชลไม่เคยเห็นพ่อของเขาอีกเลย แต่หกสิบปีต่อมากระเป๋าเดินทางจะปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ศูนย์กลางของการต่อสู้ทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ 3 มันเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายเมื่อพ่อและกระเป๋าเดินทางของมิเชลหายไปความหายนะของชาวยิวในสงครามโลกครั้งที่สองเป็นหนึ่งในอาชญากรรมที่โหดร้ายที่สุดต่อมนุษยชาติในยุคปัจจุบันสำหรับผู้เข้าชมครึ่งล้านคนในวันนี้หนึ่งในการแสดงที่น่ารำคาญที่สุดในพิพิธภัณฑ์ที่ Auschwitz เป็นกองกระเป๋าเดินทางที่ถูกทำลายซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีการครอบครองทั้งหมดของครอบครัวที่จะจบวันในค่ายมรณะแต่ละกรณีถูกระบุด้วยชื่อของเจ้าของในความเชื่อว่าพวกเขาจะกลับมารวมตัวกับข้าวของของพวกเขาอีกครั้งที่

202

กีดขวาง

นาซีรู้ว่าการรักษาผู้คนในปริศนาต้องคิดว่าทรัพย์สินของพวกเขาจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยและกลับไปหาพวกเขาในภายหลังในปี 2548 มิเชลได้เยี่ยมชมศูนย์อนุสรณ์ Shoah ในปารีสซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดแสดงการจัดแสดงความหายนะชั่วคราวซึ่งรวมถึงกระเป๋าเดินทางบางส่วนที่ยืมมาจาก Auschwitzเขารู้ว่าพ่อของเขาเสียชีวิตในช่วงสงคราม แต่เขาไม่สามารถเชื่อดวงตาของเขาได้เมื่อเขาเห็นกระเป๋าเดินทางพร้อมฉลากที่เขียนด้วยลายมืออ่าน P ierre l eviเขาขอให้มันกลับมาเมื่อพิพิธภัณฑ์ Auschwitz ปฏิเสธที่จะส่งมอบกระเป๋าเดินทางมิเชลพาพิพิธภัณฑ์ขึ้นศาลในเอกสารศาลพิพิธภัณฑ์ระบุว่า“ กระเป๋าเดินทางของนักโทษที่ถูกเนรเทศไปยัง Auschwitz ที่จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งในวัตถุที่มีค่าที่สุดที่เรามี”รัฐบาลโปแลนด์สนับสนุนพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์เจริญรุ่งเรืองในการแสดงรายการของแท้ แต่วันนี้หลายคนต้องเผชิญกับการต่อสู้ทางกฎหมายสำหรับการกลับมาของรายการไปยังลูกหลานหรือประเทศที่พวกเขาถูกจับตัวอย่างเช่นสหราชอาณาจักรถูกขังอยู่ในการทะเลาะกันทางการทูตมานานหลายทศวรรษแล้วเพื่อคืนลูกหิน Elgin จากบริติชมิวเซียมไปยังกรีซในสหรัฐอเมริกาชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันเรียกร้องให้มีการกลับมาของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ 4 ตอนนี้พิพิธภัณฑ์หลายแห่งแสดงสำเนาและแบบจำลองโดยไม่บอกสาธารณชนหรืออย่างน้อยพวกเขาก็ให้ความประทับใจว่าสิ่งที่คุณกำลังดูเป็นของแท้นี่เป็นเพราะผู้คนต้องการเชื่อมต่อกับรายการต้นฉบับแต่เช่นเดียวกับความงามความถูกต้องมักอยู่ในใจของคนดูอีกครั้งการให้เหตุผลแบบนี้เป็นสิ่งที่ฉันมีประสบการณ์ตัวเองการเดินทางของครอบครัวไปยังถ้ำ Niaux ที่ฉันอธิบายไว้ในบทที่ 3 ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ไปเยี่ยมชมถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์ในทัวร์ขับรถรอบฝรั่งเศสในปี 1990 ฉันได้พบกับถ้ำ Lascaux ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่โด่งดังมากขึ้นในภูมิภาค Dordogne 5 มันเป็นโอกาสที่ไม่คาดคิดใครจะไม่พลาดในขณะที่ฉันไม่มีความรู้เป็นพิเศษเกี่ยวกับหรือสนใจในภาพวาดถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์และไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศสอย่างเท่าเทียมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แต่ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับถ้ำ Lascaux และพวกเขาก็น่าทึ่งภาพวาดของสัตว์ทั้งหมดมีแสงสว่างอย่างระมัดระวังในการเดินทางใต้ดินที่สามารถเข้าถึงได้อย่างน่าทึ่งน่าทึ่งฉันไร้เดียงสามากจนไม่ได้ตระหนักถึงข้อผิดพลาดของฉันมันก็ต่อเมื่อฉันจากไปแล้วที่ฉันหยิบโบรชัวร์อธิบายว่าถ้ำฉัน

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

203

ในความเป็นจริงแล้วการทำซ้ำของถ้ำดั้งเดิมใกล้เคียงซึ่งถูกปิดสู่สาธารณะมาตั้งแต่ปี 2506 เนื่องจากปัญหาของการหายใจกัดกร่อนในภาพวาดต้นฉบับฉันรู้สึกโง่และโกงถ้าฉันรู้ฉันอาจจะไม่ใส่ใจกับทัวร์โชคดีที่การเดินทางไปยังถ้ำ Niaux ที่แท้จริงในอีกหลายปีต่อมาซึ่งเราได้พบกับความมืดมนของฉันฟื้นความรู้สึกมหัศจรรย์ของฉันในศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ไม่ว่าการสืบพันธุ์จะดีแค่ไหนการรู้ว่ามันไม่ใช่ต้นฉบับทำลายความรู้สึกของความเชื่อมโยงที่ประสบการณ์สร้างขึ้นศิลปะที่จำเป็นในปี 2548 Sotheby's ในลอนดอนขายเลดี้นั่งอยู่ที่ยอดเยี่ยมในราคา 32 ล้านเหรียญหลังจากสิบปีของข้อพิพาทเกี่ยวกับว่ามันเป็นผลงานชิ้นเอก vermeer ดั้งเดิมหรือการปลอมแปลงศตวรรษที่ยี่สิบของผู้เชี่ยวชาญ Han Van Meegeren.6 หลังจากประกาศภาพนั้นเป็นเวอร์เมียร์ดั้งเดิมค่าของมันพุ่งสูงขึ้นไม่มีอะไรเกี่ยวกับภาพที่เปลี่ยนไป - ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผู้ที่วาดภาพนี่เป็นการพิสูจน์ว่าการชื่นชมศิลปะเป็นมากกว่าสิ่งที่ดูนอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับว่าคุณคิดว่าใครสร้างมันขึ้นมาบ้านประมูลมักจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์สำหรับการขายดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่แน่นอนว่าการตรวจสอบความถูกต้องของ Vermeer นั้นได้รับการจัดหาโดยผู้เชี่ยวชาญของ Sothebyที่มาในการรวบรวมเป็นหลักฐานของความคิดริเริ่มนักสะสมแสวงหาต้นฉบับที่แท้จริงที่มีที่มาเพราะพวกเขามีค่ามากกว่าแต่เหตุใดต้นฉบับจึงมีค่ามากกว่าสำเนาที่เหมือนกัน?หนึ่งอาจยืนยันว่าการปลอมแปลงหรือสำเนาที่เหมือนกันลดมูลค่าของต้นฉบับเพราะพวกเขาประนีประนอมกับกลไกตลาดของอุปสงค์และอุปทานในทำนองเดียวกับที่ศิลปิน prolli ที่ ﬂ oods ตลาดด้วยการทำงานจะทำลายคุณค่าที่เกิดจากแต่ละชิ้นความหายากหมายถึงอุปทานที่ จำกัดอย่างไรก็ตามสำหรับนักสะสมหลายคนมีวัตถุต้นฉบับที่เต็มไปด้วยความต้องการที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในการเชื่อมต่อกับเจ้าของคนก่อนหรือบุคคลที่ทำรายการฉันคิดว่าการปลอมแปลงศิลปะไม่เป็นที่ยอมรับเพราะมันไม่ได้สร้างมุมมองที่จำเป็นทางจิตวิทยาว่าบางสิ่งบางอย่างของศิลปินอยู่ในงานอย่างแท้จริงความสำคัญทางจิตวิทยาดังกล่าวได้ถูกนำไปสู่ข้อสรุปเชิงตรรกะในโลกของศิลปะร่วมสมัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

204

กีดขวาง

จริงสำหรับขบวนการศิลปะอังกฤษในปี 1990ตัวอย่างเช่นหนึ่งในงานศิลปะที่สำคัญที่สุดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ Bed My Piece ของ Tracy Emin ซึ่งเป็นรายการสั้น ๆ สำหรับรางวัลศิลปะเทอร์เนอร์ปี 1999 และขายให้กับนักสะสม Charles Saatchi ในราคา $ 300,000ชิ้นส่วนนี้เป็นเพียงเตียงที่ไม่ได้ทำของศิลปินที่ล้อมรอบด้วยชุดชั้นในที่สกปรกของเธอขวดวอดก้าและแพ็คเก็ตบุหรี่ยู่ยี่ที่นำมาจากเวลาที่เธอใช้เวลาหลายวันบนเตียงเนื่องจากภาวะซึมเศร้าฆ่าตัวตายศิลปินคนอื่น ๆ เช่นไอคอนการใช้ชีวิต Gilbert & George มีชื่อเสียงในด้านงานศิลปะที่ทำจากร่างกายและอุจจาระของพวกเขาอย่างไรก็ตามอาจเป็นงานศิลปะที่สำคัญที่สุดคืองานศิลปะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นชิ้นส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของขบวนการศิลปะอังกฤษ

รูปที่.18: ตัวเองของ Marc Quinn© Marc Quinnภาพถ่ายโดย Stephen White ได้รับความอนุเคราะห์จาก Jay Jopling / White Cube Gallery (ลอนดอน)

Self ในปี 1991 ของ Marc Quinn เป็นรูปปั้นตัวเองของหัวของเขาที่ทำจากเลือดแช่แข็งของศิลปินอย่างน้อยแปดไพน์

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

205

ถ่ายโอนมานานหลายเดือนSaatchi ซื้อตัวเองในราคา $ 26,000ความสนใจในชิ้นส่วนนั้นเกิดจากรายงานข่าวในปี 2545 ว่าคนงานที่ปรับปรุงห้องครัวของ Saatchi โดยไม่ตั้งใจถอดช่องแช่แข็งที่มีศีรษะ 7 อย่างไรก็ตามตัวเองถูกจัดแสดงในแกลเลอรี่ Saatchi ในอีกหนึ่งปีต่อมาทำให้เกิดคำถามที่แท้จริงเนื่องจากธรรมชาติที่เสื่อมสภาพของวัสดุควินน์สร้างรูปปั้นใหม่ทุกปีด้วยเลือดของเขาเองSaatchi ขายตัวเองในปี 2548 ให้กับนักสะสมชาวอเมริกันในราคา 3 ล้านดอลลาร์สิ่งหนึ่งที่สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับงานศิลปะนี้เมื่อแหล่งที่มาของวัสดุดั้งเดิมทำงานแห้งลูกหลานของ Quinn คาดว่าจะเติมเต็มปริมาณเลือดหลังจากที่ศิลปินเสียชีวิตหรือไม่?เราทุกคนขุมทรัพย์วัตถุที่มีอารมณ์อ่อนไหวจากภายในชีวิตของเราเองซึ่งไม่จำเป็นต้องมีค่าที่แท้จริงนอกเหนือจากการเชื่อมต่อกับสมาชิกในครอบครัวหรือคนที่คุณรักวัตถุเหล่านี้ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ตัวอย่างเช่นการมีส่วนร่วมหรือแหวนแต่งงานเป็นรายการที่มีอารมณ์อ่อนไหวทั่วไปที่ไม่ซ้ำกันหากสูญหายหรือถูกขโมยคนส่วนใหญ่จะไม่ถือว่าแหวนทดแทนที่เหมือนกันเป็นสิ่งทดแทนที่น่าพอใจเพราะวัตถุเหล่านี้ถูกตื้นตันด้วยคุณภาพที่สำคัญในทางจิตวิทยาเราปฏิบัติต่อพวกเขาราวกับว่ามีทรัพย์สินที่มองไม่เห็นในพวกเขาซึ่งทำให้พวกเขาเป็นสิ่งที่พวกเขาเป็นแต่ถ้าเป็นไปได้ที่จะทำสำเนาเหมือนกันล่ะ?ลองนึกภาพว่ามีเครื่องจักรอยู่ที่สามารถทำซ้ำสสารลงไปในระดับ subatomic เช่นที่ไม่มีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถวัดหรือบอกความแตกต่างระหว่างวัตถุดั้งเดิมและสิ่งที่ซ้ำกัน - เช่นเครื่องถ่ายเอกสารสำหรับวัตถุหากวัตถุนั้นเป็นหนึ่งในค่าที่มีอารมณ์อ่อนไหวคุณจะยอมรับวัตถุที่สองเป็นตัวทดแทนที่เหมาะสมหรือไม่?สำหรับคนส่วนใหญ่คำตอบคือไม่ง่ายพิจารณาแหวนแต่งงานของคุณสมมติว่าคุณแต่งงานอย่างมีความสุขและยึดมั่นในแหวนทองคำบน ﬁ nger ของคุณคุณจะยอมรับสิ่งที่ซ้ำกันเหมือนกันแม้ว่าคุณจะไม่สามารถบอกทั้งสองออกได้หรือไม่?หากคุณรู้สึกถึงอารมณ์คำตอบนั้นน่าจะไม่การเปลี่ยนที่เหมือนกันไม่เป็นที่ยอมรับเพราะทางจิตวิทยาเราเชื่อว่าวัตถุแต่ละชิ้นไม่สามารถทำซ้ำได้อย่างแน่นอนแม้โดยเครื่องคัดลอกที่สมบูรณ์แบบสมมุติฐานทัศนคตินี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่าความคิดริเริ่มถูกเข้ารหัสอย่างใดในโครงสร้างทางกายภาพของสสารเรารู้สึกอย่างสังหรณ์ใจว่าวัตถุบางอย่างนั้นไม่เหมือนใครเพราะไม่มีตัวตน

206

กีดขวาง

แก่นแท้.อย่างไรก็ตามความคิดดังกล่าวเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติให้ฉันอธิบายว่าทำไมถึงมีตัวอย่างที่ใหญ่กว่ามาก: เรือทั้งลำเรือของเธเซอุสในช่วงเช้าของวันจันทร์ในเดือนพฤษภาคม 2550 เชื่อกันว่านักวางเพลิงเชื่อว่าได้ตั้งค่า Clipper Clipper ในศตวรรษที่สิบเก้า The Cutty Sark ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงลอนดอนที่กรีนวิชรายงานเบื้องต้นจากทีมงานในที่เกิดเหตุระบุว่าเรือเกือบทั้งหมดถูกทำลายอย่างไรก็ตามเรือดังกล่าวได้รับการฟื้นฟู 50 ล้านดอลลาร์และ Chris Livett จาก Cutty Sark Trust ยึดติดอยู่ว่าครึ่งหนึ่งของผ้าของเรือได้ถูกลบออกไปแล้วเขาบอกว่าเรือรอดชีวิตจากภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นมากมายในอดีตและวิกฤตการณ์ในปัจจุบันจะถูกเอาชนะได้ 8 แม้ว่าจะสามารถฟื้นฟู Sark ที่น่ารักได้ แต่ก็ยังคงเป็นต้นฉบับหรือไม่?การฟื้นฟูและการซ่อมแซมจะเปลี่ยนไปเมื่อใดสามารถเปลี่ยนต้นฉบับได้มากแค่ไหนก่อนที่จะไม่ถือว่าเป็นสิ่งเดียวกันอีกต่อไป?ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคือเรือหรืองานศิลปะที่สลายตัวคำถามดังกล่าวเกี่ยวกับการฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทำให้เกิดปัญหาทางปรัชญาของตัวตนหากวัสดุวัสดุของวัตถุถูกแทนที่อย่างครบถ้วนวัตถุที่ได้จะถูกกล่าวว่าเป็นต้นฉบับหรือไม่?สัดส่วนของการทดแทนที่ยอมรับได้ก่อนที่วัตถุจะหยุดเป็นต้นฉบับเกิดอะไรขึ้นถ้าการปรับปรุงใหม่ค่อยๆ?ปัญหาดังกล่าวทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีที่จิตใจแสดงถึงวัตถุในแง่ของความคิดริเริ่มหลังจากที่พวกเขาได้รับการซ่อมแซมผู้ดูแลของ Sark Cutty นั้นชี้ให้เห็นอย่างรวดเร็วในการแถลงข่าวก่อนเวลาหลายชั่วโมงหลังจากที่มีการจัดเก็บอย่างน้อยครึ่งหนึ่งในการจัดเก็บอย่างปลอดภัยพวกเขาสร้างสัดส่วนอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?มันขึ้นอยู่กับน้ำหนักหรือปริมาตร?ฉันสงสัยว่ามันขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณที่ความเสียหายอย่างฉับพลันต่อกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของเรือจะถือได้ว่าเป็นการสูญเสียอันหายนะของต้นฉบับการกระทำที่ทันสมัยของป่าเถื่อนนี้ทำให้เรานึกถึงพลูตาร์คนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกที่บอกโครงการอนุรักษ์โบราณที่ดำเนินการเพื่อรักษาเรือที่เป็นของกษัตริย์เอเธนส์ในตำนานในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเรือถูกเก็บไว้ใน Ser รองเพียงแค่แทนที่ไม้ที่สวมหรือเน่าเปื่อยด้วย

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

207

ไม้กระดานใหม่เท่าที่มันยังไม่ชัดเจนว่าเรือลำเดิมยังคงอยู่เท่าไหร่พลูตาร์คถามว่านี่ยังเป็นเรือลำเดียวกันหรือไม่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแผ่นไม้ที่ถูกแทนที่ถูกเก็บไว้และประกอบขึ้นใหม่เพื่อสร้างเรือลำที่สอง?เรือลำใดที่พลูตาร์คถามว่าจะเป็นเรือลำแรกของเธเซอุส?นักจิตวิทยาได้เริ่มดูคำถามของความถูกต้องและการใช้เหตุผลที่สำคัญต่อวัตถุในห้องปฏิบัติการตัวอย่างเช่นเด็กอายุเจ็ดขวบและผู้ใหญ่ได้แสดงภาพของ“ Quiggle” ของแซมซึ่งเป็นวัตถุไร้สาระที่สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ของการศึกษา 9 กลุ่มหนึ่งได้รับการบอกว่ามันเป็นกระดาษที่ไม่มีชีวิตและกลุ่มอื่น ๆได้รับการบอกว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงแปลก ๆจากนั้นผู้เข้าร่วมได้รับการบอกว่าแซมออกไปในช่วงวันหยุดที่ยาวนานและในขณะที่เขาอยู่ห่างออกไปหลายส่วนของ Quiggle ก็ค่อยๆถูกแทนที่ผู้เข้าร่วมถูกนำเสนอด้วยลำดับของภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่า Quiggle เปลี่ยนไปอย่างไรในแต่ละสัปดาห์ในที่สุดพวกเขาก็ถูกนำเสนอด้วยภาพสองภาพ: หนึ่งใน Quiggle ที่ค่อยๆเปลี่ยนไปและตอนนี้ดูแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพแรกและอีกภาพหนึ่งของ Quiggle ที่ทำจากชิ้นส่วนที่ถูกลบออกทั้งหมดรวมตัวกันเป็น quiggle ดั้งเดิมก่อนที่แซมจะออกไป.คำถามที่น่าสนใจคือหลังจากที่เขากลับมาจากการเดินทางของเขาซึ่งเป็น Quiggle ของแซม?เด็กและผู้ใหญ่มีแนวโน้มที่จะพูดว่าคัตเกิลที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นต้นฉบับแม้ว่ามันจะดูแตกต่างกันมากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนี้มีความแข็งแกร่งที่สุดเมื่อ Quiggle คิดว่าเป็นสัตว์ที่มีชีวิตประเภทหนึ่งการตอบสนองนี้กับชีววิทยาที่ใช้งานง่ายของเด็กเล็กที่เราพูดถึงก่อนหน้านี้พวกเขาเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตมีบางสิ่งบางอย่างในตัวพวกเขาที่ทำให้พวกเขาเป็นสิ่งที่พวกเขาเป็นและแม้จะมีการปรากฏตัวภายนอกและการเปลี่ยนแปลงสิ่งมีชีวิตก็เหมือนกันวิธีคิดนี้มีเหตุผลอย่างสมบูรณ์เพราะเราในฐานะบุคคลที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตลอดอายุการใช้งานของเราเมื่อเราอายุมากขึ้นลักษณะภายนอกของเราไม่เพียง แต่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง แต่ยังอยู่ภายในร่างกายกำลังเติมเต็มโครงสร้างและเซลล์ของตัวเองอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงชีวิตแม้ว่าเราจะไม่กี่คนที่ตระหนักถึงรายละเอียดทางชีวภาพดังกล่าวตัวอย่างเช่นหากคุณอยู่ในวัยกลางคนส่วนใหญ่ร่างกายของคุณคือ

208

กีดขวาง

อายุเพียงสิบปีหรือน้อยกว่า 10 ตอนนี้เป็นความจริงที่ควรค่าแก่การจดจำเมื่อเราพิจารณาทัศนคติของเราที่มีต่อผู้สูงอายุ!อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่แม้แต่ quiggle ที่ถูกอธิบายว่าเป็นกระดาษที่มีน้ำหนักมากถือเป็นวัตถุเดียวกันหลังจากได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเพื่อไม่ให้มองอะไรเหมือนต้นฉบับอีกต่อไปเด็กเล็กไม่ได้ตัดสินนี้สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเมื่ออายุมากขึ้นเราคิดว่าวัตถุนั้นเป็นสิ่งเดียวกันแม้ว่าทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วยชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมดกล่าวอีกนัยหนึ่งมีบางอย่างนอกเหนือจากโครงสร้างทางกายภาพของวัตถุที่ทำให้มันเป็นสิ่งที่เป็นจริงคุณสมบัติเพิ่มเติมนี้คืออะไร?มันอยู่ที่ไหน?มันไม่ได้มีอยู่จริง แต่เราอนุมานได้ว่าต้องอยู่ที่นั่นนี่คือสาระสำคัญที่กำหนดวัตถุเมื่อเราเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เราใช้ความจำเป็นที่ใช้งานง่ายมากขึ้นกับวัตถุที่มีความสำคัญและสิ่งมีชีวิตในโลกฉันคิดว่าสิ่งสำคัญทางจิตวิทยานี้เป็นหนึ่งในรากฐานหลักของความเชื่อเหนือธรรมชาติสากลว่ามีอะไรมากกว่าความเป็นจริงความชอบในการรักษาวัตถุบางอย่างนี้เป็นอย่างไรและไม่สามารถถูกแทนที่ได้มันอาจจะเริ่มเร็วเท่าที่เปลผ้าห่มรักษาความปลอดภัยฉันกำลังฟังวิทยุเมื่อเช้านี้เมื่อฉันได้ยินเพลงฮิตล่าสุดของเฟอร์กี้“ Big Girls Don't Cry” 11 ในคอรัสเธอร้องเพลง“ และฉันจะคิดถึงคุณเหมือนเด็กคิดถึงผ้าห่มของพวกเขา”ผู้ปกครองคนใดที่เลี้ยงดูเด็กที่ติดอยู่กับผ้าห่มหรือตุ๊กตาหมีจะรู้ได้อย่างง่ายดายว่าเฟอร์กี้กำลังร้องเพลงอะไรและจะคุ้นเคยกับความรุนแรงของอารมณ์ที่การสูญเสียดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้การประมาณการแตกต่างกันไป แต่ที่ใดที่หนึ่งระหว่างครึ่งและสามของเด็ก ๆ ก่อให้เกิดความผูกพันทางอารมณ์กับของเล่นหรือผ้าห่มอ่อน ๆ ในช่วงปีที่สองของชีวิตรายการเหล่านี้มีชื่อต่าง ๆ รวมถึงผ้าห่มรักษาความปลอดภัยของเล่นที่แนบมาและวัตถุในช่วงเปลี่ยนผ่านพวกเขาเป็น“ ผ้าห่มรักษาความปลอดภัย” เพราะเด็ก ๆ ต้องการให้พวกเขามั่นใจเมื่อกลัวหรือเหงาพวกเขาเป็น“ รายการแนบ” เนื่องจากการเชื่อมต่อทางอารมณ์ของเด็กรูปแบบกับพวกเขาและพวกเขาถูกเรียกว่า "วัตถุเฉพาะกาล" เพราะทฤษฎีหนึ่งคือพวกเขาเปิดใช้งานทารก

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

209

เปลี่ยนจากการนอนกับแม่ให้นอนคนเดียวสิ่งนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมวัตถุดังกล่าวจึงพบได้บ่อยในวัฒนธรรมตะวันตกในขณะที่พวกเขาค่อนข้างหายากในสังคมเช่นญี่ปุ่น 12 ที่เด็ก ๆ ยังคงนอนหลับอยู่กับแม่ของพวกเขาในวัยเด็กตอนปลายแม้ว่าฉันจะคุ้นเคยกับผ้าห่มรักษาความปลอดภัยจากตัวละคร Linus ในการ์ตูนการ์ตูนถั่วลิสงซึ่งมักจะเห็นผ้าห่มของเขาไปกับเขาฉันไม่ได้ชื่นชมความสำคัญของพฤติกรรมดังกล่าวจนกระทั่งลูกสาวคนแรกของฉันพัฒนาสิ่งที่แนบมากับเธอมากเกินไป“ Blankie,” ผ้าห่มหลากสี, ﬂ eecy ที่อยู่ในเปลของเธอBlankie ไปทุกหนทุกแห่งกับเธอถ้าเธออารมณ์เสียเธอต้องมี Blankieอาจเป็นหายนะเมื่อรายการเหล่านี้หายไปโดยไม่ตั้งใจเมื่อฉันพูดถึงสิ่งของทางโทรศัพท์วิทยุฉันโทรมาจากพ่อแม่ที่มีความหวังซึ่งได้รับผลกระทบจากการสูญเสียวัตถุที่แนบมามันเป็นโศกนาฏกรรมที่ค่อนข้างธรรมดาและเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงที่หายไปผู้ปกครองจะโพสต์ประกาศที่หายไปเช่นที่แสดงในภาพ

รูปที่.19 โปสเตอร์ที่ต้องการหมดหวังที่จะคืนของลอเรล

“ เมาส์” หายไปในสวนบริสตอล

รูปภาพ© Katy Donnelly

210

กีดขวาง

ฉันติดต่อแม่ของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่โพสต์บันทึกนี้ในสวนสาธารณะท้องถิ่นฉันอยากรู้อยากเห็นว่าเคยพบเมาส์ของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ของเธอหรือไม่เธอบอกฉันว่ามันไม่ได้ถูกค้นพบ แต่มีคนเห็นข้ออ้างและถ่ายรูปของเล่นที่หายไปให้คุณยายของพวกเขาซึ่งถักสำเนา“ เมาส์” โดยใช้วัสดุเดียวกันแม้จะมีความเมตตาของคนแปลกหน้าลอเรลตัวน้อยก็ไม่ยอมรับเมาส์ทดแทนมันไม่ได้มีสาระสำคัญของต้นฉบับในช่วงเวลาที่เด็ก ๆ เริ่มเรียนส่วนใหญ่ละทิ้งวัตถุแนบของพวกเขาถึงกระนั้นเด็ก ๆ หลายคนก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รักษาความครอบครองอันมีค่าของพวกเขาเมื่อฉันเริ่มค้นคว้าปรากฏการณ์นี้ฉันสำรวจนักศึกษามหาวิทยาลัยสองร้อยคนและพบว่าสามในสี่กล่าวว่าพวกเขามีวัตถุสิ่งที่แนบมาในวัยเด็กซึ่งมักจะเป็นของเล่นหรือผ้าห่มไม่มีความแตกต่างระหว่างผู้ชายและเพศหญิงในการจดจำว่าพวกเขามีวัตถุดังกล่าวอย่างไรก็ตามผู้ชายส่วนใหญ่ได้ละทิ้งวัตถุที่แนบมาของพวกเขาโดยประมาณปีที่ผ่านมาในทางตรงกันข้ามนักเรียนหญิงหนึ่งในสามคนยังคงมีวัตถุในวัยเด็กของพวกเขาในฐานะผู้ใหญ่สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการสำรวจความทรงจำของฟางจากกลุ่มนักเรียนที่เลือกและไม่สามารถใช้เพื่ออธิบายประชากรทั่วไปคนส่วนใหญ่อายเกินกว่าที่จะยอมรับว่าพวกเขายังคงมีวัตถุในวัยเด็กที่มีอารมณ์อ่อนไหวอย่างไรก็ตามการสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้ของนักเดินทางโดดเดี่ยวสองพันคนโดยห่วงโซ่โรงแรมของสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่าคนหนึ่งในผู้ชายนอนกับหมีตุ๊กตา - มากกว่านักเดินทางหญิง 13 สิ่งที่แนบมากับวัตถุอาจเกิดขึ้นในวัยเด็ก แต่เป็นพฤติกรรมที่ไม่รู้จำกัด อายุ.Pamela Young อายุแปดสิบเจ็ดปีในการอ่านงานวิจัยของฉันเกี่ยวกับวัตถุแนบลูกชายของเธอแรบไบร็อดเดอริคยังได้ติดต่อเพื่อบอกฉันเกี่ยวกับการครอบครองที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอปลอกหมอนจากเปลเด็กวัยเด็กของเธอเธอเรียกว่า "บิลลี่"Pamela มีบิลลี่ตราบเท่าที่เธอจำได้เธอหลับทุกคืนด้วยหัวของเธอบนบิลลี่จับเขาด้วยมือขวาของเธอใกล้กับใบหน้าของเธอPamela เคยถูกแยกออกจากบิลลี่เพียงครั้งเดียว - ระหว่างการโจมตีทางอากาศในลอนดอนสายฟ้าแลบของปี 1944 เธอพักที่โรงแรมซาวอยกับสามีคนแรกของเธอเมื่อเสียงไซเรนดังขึ้นสำหรับแขกเมื่อเธอค้นพบว่าเธอออกจากบิลลี่เข้ามา

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

211

ห้องพักของเธอพาเมล่าต้องถูกควบคุมตัวทางร่างกายจากการกลับไปที่ห้องของเธอนั่นคือพลังของวัตถุที่มีอารมณ์อ่อนไหวRoderick บอกฉันว่า Pamela ได้ขอให้บิลลี่อยู่ใน cof ﬁ n กับเธอสัญญา Roderick ตั้งใจจะรักษา

รูปที่.20: Pamela Young กับ“ Billy” ในปี 2007 ภาพ© Roderick Young

กล่องสำเนาบ็อกซ์มันเกี่ยวกับวัตถุที่แนบมาที่เด็ก ๆ ถนัดทำคืออะไร?เห็นได้ชัดว่าคุณสมบัติทางกายภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการระบุตัวตน แต่พอลบลูมและฉันสงสัยว่าสิ่งที่แนบมานั้นลึกกว่าเพียงแค่กลิ่นสายตาและความรู้สึกของวัตถุเหล่านี้ทำไมพวกเขาถึงไม่สามารถถูกแทนที่ได้?เราตัดสินใจที่จะสร้างกล่องสำเนาเพื่อตอบคำถามนี้ตามที่นักฟิสิกส์หลายคนเครื่องที่ทำซ้ำเป็นไปได้ในทางทฤษฎีเพียงไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะพวกเขาต้องการพลังงานและหน่วยความจำจำนวนมาก 14 ไม่สะทกสะท้านเราได้สร้างเครื่องคัดลอกในงบประมาณเชือกผูกรองเท้ามันประกอบไปด้วยกล่องที่ดูเป็นวิทยาศาสตร์สองกล่องที่มีลูกบิดและหน้าปัดที่มีแสง ﬂ ashing.15 แต่ละกล่องเปิดจากด้านหน้าเพื่อให้วัตถุสามารถวางไว้ข้างในได้เราแสดง“ เครื่องจักร” นี้ถึงสี่ถึงสี่ปีและแสดงให้เห็นว่ามันทำงานอย่างไรเราวางของเล่นต่าง ๆ ไว้ใน

212

กีดขวาง

หนึ่งกล่องเปิดใช้งานเครื่องยืนและรอเป็นเวลาหลายวินาทีหลังจากนั้นครู่หนึ่งกล่องที่สองเปิดใช้งานด้วยตัวเองเพื่อแจ้งเตือนผู้ประกอบการว่ามีการทำสำเนามันเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ.เมื่อเปิดกล่องทั้งสองมีของเล่นในแต่ละกล่องที่ดูเหมือนกันทุกประการเราคัดลอกของเล่นต่าง ๆ ทำให้ซ้ำซ้อนของต้นฉบับเด็ก ๆ เชื่อว่าเครื่องทำงานจริงและไม่ได้ออกมาว่ามีผู้ทดลองที่ซ่อนอยู่ที่สองอยู่เบื้องหลังการให้อาหารเครื่องในวัตถุที่ซ้ำกันการทดสอบที่สำคัญคือเด็ก ๆ จะอนุญาตให้เราคัดลอกของเล่นของตัวเองได้หรือไม่แน่นอนว่าเราไม่สามารถคัดลอกวัตถุของพวกเขาได้เพราะเราไม่ได้มีผ้าห่มซ้ำและของเล่นที่อ่อนนุ่มพวกเขาเพียงแค่ต้องตัดสินใจว่าจะเปิดกล่องใดเพื่อดึงรายการเราระบุเด็กสองกลุ่ม: ผู้ที่มีของเล่นที่ชื่นชอบ แต่ไม่มีสิ่งที่แนบมากับพวกเขาตามที่พ่อแม่ของพวกเขาและเด็ก ๆ ที่ต้องการนอนกับวัตถุทุกคืนเด็ก ๆ ที่มีของเล่นที่ชื่นชอบคิดว่าเครื่อง“ เจ๋งมาก” และเสนอของเล่นอย่างมีความสุขสำหรับการทำซ้ำและแม้กระทั่งต้องการเลือกกล่องที่คิดว่าจะมีสำเนาในความเป็นจริงพวกเขามักจะผิดหวังเมื่อเราเปิดทั้งสองกล่องและสารภาพว่าสิ่งทั้งหมดเป็นเคล็ดลับในทางตรงกันข้ามเด็กที่มีวัตถุแนบไม่ว่าจะไม่อนุญาตให้เราใส่รายการของพวกเขาในเครื่องในสถานที่แรกหรือเรียกร้องให้กลับมาของต้นฉบับเมื่อเราอธิบายการตั้งค่าพวกเขารู้สึกโล่งใจที่พบว่าวัตถุของพวกเขาไม่สามารถคัดลอกได้เด็กไม่ต้องการสำเนาวัตถุแนบที่เหมือนกันฉันคิดว่าพวกเขาต้องการคืนต้นฉบับเพราะสำเนาจะขาดคุณภาพที่ไม่ซ้ำกันที่สำคัญที่เราดูดซับวัตถุที่มีอารมณ์อ่อนไหวด้วยสิ่งที่เกี่ยวกับวัตถุที่ไม่ได้เป็นของเด็ก?เราสามารถเป็นหลักฐานว่าพวกเขาคิดว่าคนอื่นมีทรัพย์สินที่ไม่เหมือนใครหรือไม่?พวกเขาจะปฏิบัติต่อต้นฉบับและซ้ำซ้อนเป็นหลักหรือไม่?เครื่องคัดลอกถูกใส่ลงใน Ser Vice อีกครั้งเพื่อดูต้นกำเนิดของความถูกต้องและค่าที่เราใส่ในของที่ระลึกเราแสดงช้อนโลหะอายุหกถึงเจ็ดปีและกุณโฑโลหะและบอกพวกเขาว่ารายการหนึ่งเป็นพิเศษเพราะมันทำจากเงินและอีกอันหนึ่งเป็นพิเศษเพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นของ Queen Elizabeth IIคราวนี้มันง่าย

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

213

เพื่อผลิตสำเนาที่เหมือนกันเนื่องจากเราซื้อสองรายการล่วงหน้าเมื่อเราผลิตสำเนาที่สองเราขอให้เด็ก ๆ ให้ความสำคัญกับแต่ละรายการด้วยเคาน์เตอร์หากวัตถุได้รับการอธิบายว่าเป็นพิเศษเพราะทำด้วยเงินเด็ก ๆ จะวางค่าที่เท่ากันในต้นฉบับและสำเนามันทำจากสิ่งเดียวกันอย่างไรก็ตามหากมีการกล่าวว่ารายการนั้นเป็นของราชินีเด็ก ๆ คนเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับต้นฉบับมากกว่าสำเนาบางสิ่งบางอย่างในต้นฉบับไม่สามารถทำซ้ำได้มันเป็นเพียงการเชื่อมโยงหรือเด็ก ๆ คิดว่ามีบางสิ่งบางอย่างของเจ้าของคนก่อนในวัตถุ?Mister Rogers 'Cardigan ของรายการโทรทัศน์สาธารณะที่ดำเนินมายาวนานที่สุดคือย่าน Mister Rogers' ซึ่งเริ่มออกอากาศในปี 1968 และมีตอนของมันในปี 2544 มันเริ่มต้นด้วยวิธีเดียวกัน: เฟรดโรเจอร์ส“ คุณจะไม่เป็นเพื่อนบ้านของฉันเหรอ”ในขณะที่เขาเปลี่ยนเป็นรองเท้าผ้าใบและคาร์ดิแกนมันเป็นการแสดงของเด็ก ๆ ที่จัดการกับความวิตกกังวลในการเติบโตและรับมือกับปัญหาและแสดงอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดส่งมอบในสูตรที่สงบและเงียบสงบซึ่งไม่เบี่ยงเบนมานานหลายทศวรรษFred Rogers รัฐมนตรีเพรสไบทีเรียนในชีวิตจริงเป็นที่อบอุ่นเงียบสงบและปลอบโยนเด็ก ๆ ของประเทศด้วยเกือบหนึ่งพันตอนมิสเตอร์โรเจอร์สกลายเป็นคนอเมริกันหลายล้านคนเขาได้รับรางวัลและรางวัลมากมายและมีดาวเคราะห์น้อย“ 26858 Misterrogers” ตั้งชื่อตามเขาเมื่อได้รับรางวัลความสำเร็จตลอดชีวิตในปี 1997 Emmys มิสเตอร์โรเจอร์สพาผู้ชมน้ำตาด้วยคำพูดที่ยอมรับได้ง่ายและอ่อนน้อมถ่อมตนในการเสียชีวิตของเขาสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาผ่านมติเป็นเอกฉันท์ผ่านมติ 111 การเคารพมิสเตอร์โรเจอร์สสำหรับ“ การรับใช้ในตำนานของเขาเพื่อการพัฒนาชีวิตของเด็ก ๆ และการอุทิศตนเพื่อกระจายความเมตตาผ่านตัวอย่าง”เมื่อรถเก่าของเขาถูกขโมยและเขานำรายงานของตำรวจมีการข่มขืนสาธารณะเห็นได้ชัดว่ารถถูกส่งกลับไปยังจุดเดียวกันพร้อมกับบันทึกย่อว่า“ ถ้าเรารู้ว่ามันเป็นของคุณเราก็ไม่เคยเอาเลย!”ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ไม่สำคัญผู้คนอยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงผู้ชายคนนั้นเป็นที่รักของคนรุ่นต่อไป

214

กีดขวาง

สัญลักษณ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของมิสเตอร์โรเจอร์สคือคาร์ดิแกนเครื่องหมายการค้าของเขาในช่วงเวลาของอาชีพของเขาจริง ๆ แล้วเขาสวมการถักยี่สิบสี่ครั้งโดยแม่ของเขาหนึ่งใน cardigans เหล่านั้นถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อเมริกันของสถาบันสมิ ธ โซเนียนนั่นคือความเคารพต่อมิสเตอร์โรเจอร์สไม่มีใครแตกต่างจากเฟร็ดเวสต์มากขึ้นในการศึกษาการติดเชื้อเหนือธรรมชาตินักวิจัยต้องการทราบว่าเด็ก ๆ จะพิจารณาคาร์ดิแกนของมิสเตอร์โรเจอร์สเป็นเสื้อผ้าพิเศษที่เต็มไปด้วยความดีของเขา 16 ก่อนพวกเขาแสดงคาร์ดิแกนสองคนที่เหมือนกันและบอกว่าเป็นของมิสเตอร์โรเจอร์สจากนั้นพวกเขาก็แสดงภาพของเด็กอีกคนที่ไม่ทราบว่าคาร์ดิแกนตัวหนึ่งเป็นของชายที่มีชื่อเสียงและพวกเขาถูกถามว่าสวมเสื้อคาร์ดิแกนแต่ละตัวจะทำให้เด็กดูรู้สึกหรือประพฤติตัวแตกต่างกันเด็กที่อายุน้อยที่สุดอายุสี่ถึงสี่ปีไม่คิดว่าการสวมเสื้อคาร์ดิแกนของมิสเตอร์โรเจอร์สจะมีผลกระทบใด ๆแต่เมื่อถูกถามคำถามเดียวกันเด็กอายุหกถึงแปดปีแสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของการแพร่กระจายของเวทมนต์โดยบอกว่าเด็กจะประพฤติตัวแตกต่างและรู้สึกพิเศษมากขึ้นพวกเขายังคิดว่าบางสิ่งบางอย่างของมิสเตอร์โรเจอร์สจะผ่านจากคาร์ดิแกนอย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่น่าทึ่งที่สุดไม่ได้มาจากเด็ก แต่มาจากยี่สิบคนส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหญิงผู้ใหญ่ส่วนใหญ่คิดว่าจะมีผลในการสวมใส่เสื้อคาร์ดิแกนของมิสเตอร์โรเจอร์สในเด็กที่ไม่ทราบว่ามันเป็นของใครผู้ใหญ่สี่คนคิดว่าแก่นแท้ของมิสเตอร์โรเจอร์สอยู่ในเสื้อผ้าแม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการสวมใส่มันเป็นพิเศษสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ามีการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นเมื่อพูดถึงการปนเปื้อนในเชิงบวกซึ่งเป็นผลย้อนกลับของเอฟเฟกต์ Cardigan ของ Fred Westทั้งความดีและความชั่วถูกมองว่าเป็นสาระสำคัญที่จับต้องได้ซึ่งสามารถส่งผ่านรายการเสื้อผ้าและปนเปื้อนพวกเขาและความเชื่อนี้เสริมสร้างความแข็งแกร่งเมื่อเราโตขึ้น

ศักดิ์ศรีหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่ฉันโปรดปรานคือ Prestige.17 มันเป็นเรื่องราวของนักมายากลวิคตอเรียสองคนที่พยายามจะดีกว่าซึ่งกันและกันด้วยภาพลวงตาขั้นสูงสุดที่รู้จักกันในชื่อ "The Transported Man"

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

215

ทั้งรูปแบบที่สมบูรณ์แบบที่นักมายากลถูกขนส่งทันทีจากตู้ไม้หนึ่งไปยังอีกตู้ไม้“ ศักดิ์ศรี” เป็นผลมาจากภาพลวงตาชายสองคนบรรลุผลนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันหนึ่งในนั้นคือ Alfred Borden ใช้หลักการเดียวกันของการทดลองกล่องสำเนาของเราและมีพี่ชายที่ไม่รู้จักของเขาปรากฏตัวในตู้ที่สองในเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ดูเหมือนพี่ชายคนแรกได้รับการขนส่งทันทีนักมายากลคนอื่นคือรูเพิร์ตแองเจียร์ใช้ความมั่งคั่งของเขาในการรับสมัครความฉลาดของนิโคล่าเทสลาลึกลับและลึกลับซึ่งเป็นอัจฉริยะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในชีวิตจริงเพื่อสร้างเครื่องคัดลอกจริงที่ทำซ้ำนักมายากลในตำแหน่งที่สอง 18ภาพยนตร์เทสลาบรรลุสิ่งที่กล่องสำเนาของเราแกล้งทำเป็นทำเท่านั้นแน่นอนว่ามันเป็นงานที่มีความเป็นไปได้ แต่นักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีได้แย้งว่าอาจเป็นไปได้ที่จะส่งผ่านวัตถุโดยถอดรหัสข้อมูลทางกายภาพในสถานที่แห่งหนึ่งและส่งข้อมูลนั้นไปยังอีกด้านหนึ่งสิ่งนี้จะสร้างวัตถุสองเวอร์ชันการทำซ้ำเป็นสิ่งที่ดีและเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต แต่สิ่งที่เกี่ยวกับการคัดลอกคนจริง?เราจะรับมือกับสำเนาของตัวเองได้อย่างไร?ในภาพยนตร์ Rupert Angier แก้ปัญหาด้วยการจมน้ำต้นฉบับทุกครั้งที่เขาทำซ้ำตัวเองฉันคิดว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้มีคนไม่กี่คนที่จะฆ่าตัวตายด้วยความเต็มใจเพื่อให้สำเนาที่เหมือนกันสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในชีวิตที่เหลือถึงกระนั้นศักดิ์ศรีทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับร่างกายและจิตใจที่ซ้ำกันเราไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างง่ายดายว่าถูกคัดลอกอย่างแน่นอนสิ่งนี้เกิดจากความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นของคู่รักที่ฉันอธิบายไว้ในบทที่ 5 สถานะทางกายภาพอาจถูกคัดลอก แต่ไม่ใช่จิตใจในฐานะเด็กเราเข้าใจจิตใจของเราก่อนที่เราจะชื่นชมว่าคนอื่นมีจิตใจที่ไม่เหมือนใครด้วยการพัฒนาเราตระหนักถึงความคิดของเราเองว่าเป็นเอกลักษณ์และสิ่งที่ทำให้เราเป็นอย่างที่เราเป็นความเป็นไปได้ของการทำซ้ำที่แน่นอนของจิตใจของเราเองคือการดูหมิ่นความรู้สึกของตนเองหากเราคิดว่าตัวเองไม่เหมือนใคร - และให้เผชิญหน้ากับมันเราทุกคนทำ - แล้วความเป็นไปได้ที่คนอื่นจะแบ่งปันจิตใจเดียวกันก็หมายความว่าเราไม่ได้มีเอกลักษณ์ของตัวเองอีกต่อไปเราจะเป็นโคลนที่แน่นอนนี่คือเหตุผลที่การมีคู่แฝดที่เหมือนกันซึ่งดูเหมือนกันนั้นค่อนข้างแปลก แต่ในที่สุดก็ไม่ใช่ปัญหาอย่างไรก็ตามการมีฝาแฝดที่มีจิตใจเดียวกันจะเป็นเรามีความสุขที่ได้

216

กีดขวาง

พิจารณาสัตว์ที่เรียบง่ายเช่นเพลี้ยเป็นโคลนเพราะโดยทั่วไปเราไม่ได้มีความคิดที่จะแมลงความแตกต่างเกิดขึ้นกับสัตว์ที่เราคิดว่าอาจมีจิตใจนี่เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากขึ้นและเหตุผลที่การโคลนนิ่งของมนุษย์นั้นน่ารังเกียจมากที่สุดเราตัดสินใจที่จะตรวจสอบต้นกำเนิดของสัญชาตญาณเหล่านี้ด้วยสัตว์มีชีวิตที่เราคัดลอกทันที 19 เราแนะนำเด็กอายุหกขวบให้กับหนูแฮมสเตอร์สัตว์เลี้ยงของเราเราบอกเด็ก ๆ สามเรื่องที่มองไม่เห็นและสามรัฐทางจิตเกี่ยวกับหนูแฮมสเตอร์เราบอกว่าหนูแฮมสเตอร์มีหินอ่อนในท้องของเขามีหัวใจสีฟ้าและมีฟันที่หายไปโปรดทราบว่าเราเลือกคุณสมบัติสามประการที่ไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรงเราทำสิ่งนี้เพราะเราต้องการเปรียบเทียบคุณสมบัติทางกายภาพที่มองไม่เห็นกับสามสภาวะทางจิตซึ่งโดยธรรมชาติของพวกเขามองไม่เห็นผู้อื่นจากนั้นเราเหนี่ยวนำให้เกิดสภาพจิตใจสามแห่งในหนูแฮมสเตอร์เราขอให้เด็ก ๆ จี้หนูแฮมสเตอร์แสดงภาพที่พวกเขาวาดและกระซิบชื่อของพวกเขาในหูของมันเด็กแต่ละคนเข้าใจว่าหนูแฮมสเตอร์จะจดจำเหตุการณ์เหล่านี้แต่ละเหตุการณ์จากนั้นเราวางหนูแฮมสเตอร์ไว้ในเครื่องคัดลอกเมื่อเปิดใช้งานกล่องที่สองมันก็เปิดเพื่อเปิดเผยหนูแฮมสเตอร์ที่เหมือนกันที่สองคำถามที่น่าสนใจคือ: เด็กที่มองไม่เห็นจะคิดว่าถ้ามีในสัตว์ที่สองหากมีในสัตว์ที่สอง?

รูปที่.21: จากนั้นมีสองเห็นได้ชัดว่าบ็อกซ์เครื่องสำเนาซ้ำกัน

หนูแฮมสเตอร์ที่มีชีวิต

ภาพของผู้แต่ง

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

217

หนึ่งในสามของเด็ก ๆ คิดว่าหนูแฮมสเตอร์ตัวที่สองนั้นเหมือนกันอย่างแน่นอนในคุณสมบัติทั้งหมดและหนึ่งในสามคิดว่ามันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงโดยไม่แบ่งปันคุณสมบัติเดียวกันเด็กที่เหลือรายงานว่าในขณะที่คุณสมบัติทางกายภาพที่มองไม่เห็นได้คัดลอก (ฟันที่หายไปหัวใจสีน้ำเงินและหินอ่อนในท้อง) รัฐทางจิตไม่ได้เด็ก ๆ เริ่มที่จะดึงความแตกต่างระหว่างคุณสมบัติทางร่างกายและจิตใจและความเป็นไปได้ของการทำซ้ำเพื่อตรวจสอบเราทำการศึกษาซ้ำด้วยกล้องดิจิตอลที่บันทึกเหตุการณ์เช่นการได้ยินชื่อและดูรูปภาพนอกจากนี้เรายังกล่าวว่ากล้องมีแบตเตอรี่สีน้ำเงินมีหินอ่อนอยู่ข้างในและมีการจับที่หักเมื่อเราผลิตกล้องที่เหมือนกันที่สองจากเครื่องคัดลอกเด็กทุกคนคิดว่าคุณสมบัติทั้งหมดได้รับการทำซ้ำอย่างง่ายดายในทำนองเดียวกันหากหนูแฮมสเตอร์ดั้งเดิมถูก“ ขนส่ง” จากกล่องหนึ่งไปยังอีกกล่องหนึ่งเด็ก ๆ คิดว่าทุกอย่างยังคงไม่บุบสลายการทำซ้ำเป็นปัญหาสิ่งเหล่านี้บอกอะไรเรา?ก่อนอื่นเด็ก ๆ เชื่อว่าเครื่องสามารถคัดลอกวัตถุอย่างซื่อสัตย์ แต่มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริงในกรณีของหนูแฮมสเตอร์ที่มีชีวิตพวกเขาวาดความแตกต่างระหว่างวัตถุที่ไม่มีชีวิตที่ซ้ำกันและสัตว์ที่มีชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กส่วนใหญ่คิดว่าสัตว์ที่คัดลอกจะแตกต่างจากต้นฉบับหากมีการคัดลอกสิ่งใดมันมีแนวโน้มที่จะเป็นสิ่งที่ร่างกายมากกว่าสิ่งที่จิตใจสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าเด็ก ๆ เห็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่เหมือนใครมากกว่าสิ่งประดิษฐ์บนพื้นฐานของคุณสมบัติที่ไม่ใช่ทางกายภาพสิ่งนี้กับการศึกษา quiggle ที่ฉันอธิบายไว้ก่อนหน้านี้ถ้าเราคัดลอกคนจริงล่ะ?ฉันพนันได้เลยว่าเด็กส่วนใหญ่จะไม่ถือว่าสำเนาว่ามีจิตใจที่เหมือนกันหลังจากทั้งหมดคุณจะ?พอลและฉันยังคงพิจารณาว่าเราจะได้รับอนุญาตให้ทำซ้ำแม่ของเด็กหรือไม่ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาครั้งนี้หรือไม่เราคาดการณ์อย่างยิ่งว่าเด็ก ๆ จะไม่ยอมรับแม่ที่ซ้ำกันอย่างง่ายดายว่าเป็นสิ่งทดแทนที่เหมาะสมสำหรับต้นฉบับมากกว่าที่พวกเขาจะยอมรับวัตถุแนบที่คัดลอกมานั่นเป็นเพราะผู้คนถูกมองว่ามีเอกลักษณ์สำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ให้ฉันจบด้วยคำเตือนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราสูญเสียความสามารถในการทำให้โลกมีความจำเป็น

218

กีดขวาง

Capgras syndrome และ liplicants มนุษย์ต่างดาวเมื่อฉันยังเป็นเด็กฉันเคยรื้อของเล่นของฉันเพื่อดูว่าพวกเขาทำงานอย่างไรเป็นสิ่งที่เด็กอยากรู้อยากเห็นหลายคนทำวิธีที่บางสิ่งบางอย่างหยุดลงสามารถให้เบาะแสเกี่ยวกับวิธีการทำงานในสถานที่แรกในทำนองเดียวกันนักประสาทวิทยารู้สึกทึ่งกับการทำงานของจิตใจพวกเขาไม่ได้ไปเกี่ยวกับการรื้อจิตใจ แต่พวกเขาสนใจในใจที่แตกสลายมากวิธีที่จิตใจสลายตัวตามความเสียหายหรือโรคของสมองอาจเป็นวิธีที่ลึกซึ้งอย่างแท้จริงในการทำความเข้าใจการทำงานตามปกติเรารู้ว่าความเสียหายต่อบางส่วนของสมองก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะในใจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่นักจิตวิทยาส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นคู่: พวกเขาคุ้นเคยกับความคิดที่ว่าจิตใจเป็นผลิตภัณฑ์ของสมองหนึ่งในความผิดปกติที่แปลกประหลาดมากขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับการคิดเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของผู้อื่นคือ capgras syndrome 20 ความผิดปกตินี้เป็นรัฐที่หลงผิดซึ่งผู้ประสบภัยมักเชื่อว่าสมาชิกในครอบครัวถูกลักพาตัวและถูกแทนที่ด้วยเลียนแบบที่เหมือนกันโชคดีที่ความผิดปกตินั้นหายากมากมีรายงานเพียงไม่กี่คดีในวรรณคดีความหลงผิดเกี่ยวข้องกับความหวาดระแวงและอาจเป็นอันตรายได้มากผู้ประสบภัยได้รับการยอมรับว่าฆ่า“ imposters”ในกรณีหนึ่งที่รุนแรงผู้ประสบภัยที่คิดว่าพ่อของเขาถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ประหารชีวิตเขามองหาแบตเตอรี่และไมโคร lm ภายในศีรษะ 22 แม้ว่าอาการหลงผิดมักจะเกี่ยวข้องกับสมาชิกในครอบครัวที่มีนัยสำคัญวัตถุเช่นกันผู้ป่วยรายหนึ่งคิดว่าพุดเดิ้ลของเขาถูกแทนที่ด้วยสุนัขที่เหมือนกัน 23 ผู้หญิงอีกคนคิดว่าเสื้อผ้าของเธอถูกแทนที่ด้วยสิ่งของที่เป็นของคนอื่นและจะไม่สวมใส่เพราะเธอกลัวว่าวัตถุจะถ่ายทอดความเจ็บป่วยให้เธอ 23ในกระจกพวกเขามักไม่รู้จักตัวเองสามีคนหนึ่งต้องครอบคลุมทุกพื้นผิวที่อยู่ในบ้านเพราะภรรยาของเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากโรค Capgras และคิดว่ามีผู้หญิงอีกคนออกมาแทนที่เธอและขโมยสามีของเธอ 24 ฉันคิดว่าซินโดรม Capgras เป็นสิ่งที่ผิดเป็นสาระสำคัญภายในผู้คนสัตว์เลี้ยง

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

219

และ Objects.25 มันมักจะเกี่ยวข้องกับคนอื่น ๆ ที่มีความหมายมากขึ้นเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นบุคคลที่เรามีความสัมพันธ์ทางอารมณ์มากที่สุดทฤษฎีหนึ่งสำหรับกลุ่มอาการอธิบายว่าระบบการจดจำของเราสำหรับสิ่งต่าง ๆ ทำงานได้โดยการเชื่อมโยงสิ่งที่มีบางสิ่งบางอย่างกับแท็กอารมณ์ 26 เพื่อให้คุณรู้สึกอบอุ่นเมื่อคุณดูคู่สมรสสุนัขสัตว์เลี้ยงของคุณและแม้แต่รถคันโปรดของคุณเมื่อเราดูคนอื่นที่มีนัยสำคัญเราไม่เพียง แต่จำได้อย่างเห็นได้ชัด แต่รู้สึกว่าพวกเขาเช่นกันเช่นเดียวกับคนปกติผู้ประสบภัย Capgras จำได้ว่าพวกเขาเคยรู้สึกอย่างไรกับคนและสิ่งของเหล่านี้และพวกเขาคาดหวังว่าจะได้รับสัญญาณทางอารมณ์แบบเดียวกันปัญหาใน Capgras syndrome คือแท็กอารมณ์นี้หายไปจากกระบวนการและดังนั้นผู้ประสบภัยจึงเหลือเพียงข้อมูลที่มองเห็นได้ดังนั้นผู้ประสบภัย Capgras จึงไม่สามารถรู้สึกได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นคนเดียวกันสัตว์เลี้ยงและสิ่งต่าง ๆ ที่เขาหรือเธอเคยสัมผัสมาก่อนความเจ็บป่วยคำตอบเชิงตรรกะเพียงอย่างเดียวคือสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่คนสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งของเดียวกันค่อนข้างจะต้องเป็นสำเนาที่เหมือนกันเป็นวิธีเดียวที่ผู้ป่วย Capgras จะเข้าใจประสบการณ์สิ่งนี้นำไปสู่การหลงผิดหวาดระแวงว่ามีการสมรู้ร่วมคิดในการแทนที่สิ่งต่าง ๆ ในโลกCapgras Syndrome เป็นความเจ็บป่วยที่เฉพาะเจาะจงอย่างหนึ่งจากความผิดปกติที่ผู้ป่วยเชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาดูเหมือนความผิดปกติที่แยกจากกันเหล่านี้เผยให้เห็นว่าการมีมุมมองที่สำคัญต่อโลกมีความสำคัญเพียงใดผู้คนคิดว่าโลกเป็นปริศนามันอาจดูปกติ แต่มันขาดความลึกทางอารมณ์ยกตัวอย่างเช่นผู้ที่ทุกข์ทรมานจากกลุ่มอาการของ Fregoli เชื่อว่ามีคนอื่นที่มีลักษณะที่แตกต่างกันในความผิดปกติที่แยกตัวออกมามากขึ้นที่รู้จักกันในชื่อกลุ่มอาการของ Cotard ผู้ป่วยเชื่อว่าพวกเขาจะต้องตายเพราะสิ่งต่าง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเคยรู้สึกโลกดูเหมือนจะไม่เป็นจริงอีกต่อไปกระแทกแดกดันเหตุผลหนึ่งว่าทำไมกลุ่มอาการเหล่านี้หายากมากคือการบาดเจ็บที่สมองไปยังพื้นที่เหล่านั้นที่สร้างความผิดปกติเหล่านี้มักจะเป็นอันตรายถึงชีวิตผู้ที่รอดชีวิตสามารถมีประสบการณ์เกี่ยวกับความเป็นจริงที่บิดเบือนโดยพื้นฐาน“ สิ่งที่อยู่ตรงนั้น” ที่วิลเลียมเจมส์พูดถึงได้หายไปแล้วSuperSense เป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อมโยงนี้ที่เราทุกคนมีประสบการณ์แม้ว่าเราจะไม่ทราบว่ามันมีรูปร่างอย่างไรกับวิธีที่เรามองโลกหากไม่มีมันประสบการณ์จะสูญเสียมิติที่สำคัญ

220

กีดขวาง

อะไรต่อไป?เราจะอธิบายภาพที่เกิดขึ้นใหม่ได้ดีที่สุดที่ฉันได้ร่างไว้ที่นี่ได้อย่างไร?ดังที่เราได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้เด็กเล็กมีความสำคัญในการให้เหตุผลเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตพวกเขาอนุมานพลังงานและคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่ในการใช้ชีวิตตั้งแต่ต้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับการสอนให้คิดแบบนี้อย่างไรก็ตามวัตถุที่ไม่มีชีวิตสามารถใช้คุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ที่จำเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุที่ซาบซึ้งครั้งแรกอาจเป็นสิ่งที่ช่วยเราผ่านการแยกระยะแรกและถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในฐานะทารกวัตถุสิ่งที่แนบมาเหล่านี้อาจบรรเทาเด็กโดยเสนอความคุ้นเคยในแต่ละครั้งที่พวกเขาอยู่คนเดียวเพื่อนอนหลับอย่างไรก็ตามในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเด็กจะติดอยู่กับวัตถุสิ่งที่อาจเริ่มต้นจากการเป็นวัตถุง่าย ๆ ในไม่ช้าก็ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในกรณีของวัตถุสิ่งที่แนบมาราวกับว่ามีคุณสมบัติที่มองไม่เห็นเพิ่มเติมที่ทำให้มันไม่ซ้ำกันบางทีนี่อาจเป็นที่ที่ความรู้สึกของความถูกต้องของเรามาจากเพราะในเวลาเดียวกันเด็ก ๆ เริ่มชื่นชมว่าวัตถุบางอย่างที่บอกว่าเป็นของคนอื่น ๆ ที่มีความสำคัญมีคุณค่าที่แท้จริงเหนือกว่าวัสดุของพวกเขาในการศึกษาของเรามันเป็นช้อนส้มและถ้วยของราชินี แต่อาจเป็นนาฬิกาของพ่อหรือเสื้อผ้าของแม่ฉันคิดว่าสิ่งนี้สมเหตุสมผลจากมุมมองที่จำเป็นทางจิตวิทยาในทำนองเดียวกับที่ความคิดเกี่ยวกับการติดต่อของเด็ก ๆ พัฒนาความเชื่อที่สำคัญของพวกเขาอาจเปลี่ยนจากจุดสนใจของตัวตนที่มีการแปลเป็นคนที่แพร่กระจายที่ใดที่หนึ่งอายุประมาณหกหรือเจ็ดปีเด็ก ๆ เริ่มคิดว่าวัตถุบางอย่างที่เคยเป็นเจ้าของโดยคนอื่น ๆ ที่มีความหมายไม่สามารถใช้คุณสมบัติของบุคคลนั้นได้สิ่งนี้ไม่เพียง แต่อธิบายถึงที่มาของการสะสมของที่ระลึกเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้นทัศนคตินี้อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่และใช้เหตุผลที่สำคัญกับผู้อื่นในโลกแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นต่อความจำเป็นทางจิตวิทยาอาจเป็นผลมาจากเด็ก ๆ ที่พัฒนาความเข้าใจที่ดีขึ้นว่ามันจะเป็นเอกลักษณ์และบุคคลในขณะที่เราพัฒนาเป็นผู้ใหญ่เรามีวิธีที่ซับซ้อนมากขึ้น

ทำไมพนักงานขายเดินทางไปนอนกับตุ๊กตาหมี?

221

คิดถึงคนอื่น ๆ ในขณะที่เราจัดหมวดหมู่อีกหลายประเภทที่มีต่อคนนกพิราบนอกจากนี้อย่างที่เราเห็นในบทที่ 5 เด็ก ๆ มีความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นของความสำคัญของจิตใจในฐานะทรัพย์สินที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลนี่คือเหตุผลที่การทำซ้ำของจิตใจด้วยเครื่องคัดลอกจึงไม่สามารถยอมรับได้วิธีคิดตามธรรมชาติของเราเกี่ยวกับตัวเราและคนอื่น ๆ นำไปสู่การพึ่งพาความเชื่อที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับตัวตนเอกลักษณ์และสิ่งต่าง ๆ ที่สามารถและไม่สามารถเชื่อมต่อเราได้ดังนั้นฉันจะยืนยันว่าพฤติกรรมของเด็กวัยหัดเดินไปยังผ้าห่มที่สกปรกของเขาและความหลงใหลในนักสะสมที่คลั่งไคล้ในการเป็นเจ้าของของที่ระลึกดั้งเดิมทำให้เกิดแนวโน้มของมนุษย์เช่นเดียวกันที่จะเห็นวัตถุที่มีคุณสมบัติที่มองไม่เห็นซึ่งมาจากบุคคลที่มีความหมายโดยการเป็นเจ้าของวัตถุและสัมผัสพวกเขาเราสามารถเชื่อมต่อกับผู้อื่นและนั่นทำให้เรารู้สึกถึงการมีอยู่ของการกระจายเมื่อเวลาผ่านไปและกับผู้อื่นเอฟเฟกต์สุทธิคือเราเชื่อมโยงกันมากขึ้นด้วยความรู้สึกของโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ลึกคุณอาจไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้คุณอาจยืนยันว่าไม่ใช่พวกเราทุกคนที่สร้างความผูกพันทางอารมณ์ให้กับวัตถุหรือแม้แต่รวบรวมทฤษฎีดังกล่าวสามารถนำไปใช้กับมนุษย์ทั้งหมดได้อย่างไร?ฉันจะตอบว่าเช่นเดียวกับบุคลิกภาพของมนุษย์หลายแง่มุมพฤติกรรมและความเชื่อดังกล่าวอาจมีอยู่ในความต่อเนื่องพวกเราบางคนมีแนวโน้มที่จะคิดแบบนี้มากกว่าคนอื่น ๆ แต่เราทุกคนสามารถชื่นชมได้ว่ามีคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่สู่โลกเช่นเดียวกับ Supersense เราทุกคนแตกต่างกันไปในระยะเวลาที่เราพร้อมที่จะเชื่อว่ามีมิติเพิ่มเติมสู่ความเป็นจริงและบางทีความแตกต่างของแต่ละบุคคลเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับวิธีที่สมองของเรามีสายมากเท่ากับวัฒนธรรมที่แตกต่างที่เราเติบโตขึ้นมา Supersense ของเราอาจมีพื้นฐานทางชีวภาพซึ่งฉันอธิบายในบทต่อไป

บทที่เก้า

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

ความเชื่อเหนือธรรมชาติไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผู้คนบอกให้เราคิดแต่ฉันจะยืนยันว่าสมองของเรามีการออกแบบจิตใจที่นำเราไปสู่การอนุมานโครงสร้างและรูปแบบในโลกและเพื่อทำความเข้าใจกับมันโดยการสร้างทฤษฎีที่ใช้งานง่ายทฤษฎีที่ใช้งานง่ายเหล่านี้สร้างความพิเศษฉันคิดว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นของการพัฒนาแม้กระทั่งก่อนที่วัฒนธรรมจะมีความสำคัญในการเรียนรู้ผลของวัฒนธรรมนั้นอาจเกิดขึ้นได้ในภายหลังในการพัฒนาของเด็กในขณะเดียวกันมีบางอย่างในชีววิทยาของเราที่นำเราไปสู่ความเชื่อใช่เราสามารถเชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกเรา แต่เรามักจะเชื่อในสิ่งที่เราคิดว่าอาจเป็นจริงในสถานที่แรกเราจะพิสูจน์บัญชีดังกล่าวได้อย่างไร?คำตอบคือความเชื่อเหนือธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่ถือ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีต้นกำเนิดในวัฒนธรรมในการทำเช่นนั้นเราต้องมองไปข้างหลังเราคุณเคยรู้สึกว่ามีขนที่ยืนขึ้นที่ด้านหลังคอของคุณมีความรู้สึกว่าคุณกำลังถูกจับตามองและหันไปรอบ ๆ ว่ามีคนจ้องมองคุณจริงหรือ?ฉันไม่คิดว่าจะมีคนเดียวบนโลกใบนี้ที่ไม่ได้มีประสบการณ์นี้เป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีประสบการณ์นี้ในตัวเองจะแปลกมากความรู้สึกของการจ้องมองที่มองไม่เห็นนี้ทำให้เกิดความรักและช่วยชีวิตดวงตาของคู่รักได้พบกันในห้องที่แออัดและทหารก็หันไปรอบ ๆ

224

กีดขวาง

เวลาที่จะหลีกเลี่ยงมือปืนศัตรูที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา 1 มันเป็นความสามารถที่เห็นได้ชัดว่ามีค่าการปรับตัวที่ยอดเยี่ยมถ้ามันเป็นจริงผู้คนรายงานว่าพวกเขาสามารถตรวจจับคนที่มองพวกเขาแม้ว่าจะไม่มีทางที่ประสาทสัมผัสตามธรรมชาติของเราสามารถลงทะเบียนสิ่งนี้ได้เราไม่เห็นพวกเขาได้ยินพวกเขาได้กลิ่นพวกเขาลิ้มรสพวกเขาหรือรู้สึกถึงการจ้องมองของพวกเขา แต่ผู้คนดูเหมือนจะรู้ว่าเมื่อพวกเขากำลังดูอยู่ประมาณเก้าในสิบคนมีความสามารถนี้หรืออย่างน้อยพวกเขาก็เชื่อว่าพวกเขาทำหยุดสักครู่และพิจารณาว่าความสามารถที่น่าทึ่งนั้นจะเป็นอย่างไรถ้ามันเป็นเรื่องจริงความรู้สึกของการถูกจ้องมองเป็นตัวอย่างของ supersense ทั่วไปที่เราทุกคนมีประสบการณ์ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะนำไปสู่ความเชื่อที่ว่าการตรวจจับการจ้องมองที่มองไม่เห็นเป็นความสามารถของมนุษย์ตามปกติผู้ใหญ่ที่มีการศึกษาหลายคนที่ควรรู้ดีกว่าไม่ยอมรับว่าความเชื่อดังกล่าวจะเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติถ้าเป็นจริงนี่คือเหตุผลที่การรับรู้การจ้องมองที่มองไม่เห็นนั้นคุ้มค่าที่จะตรวจสอบรายละเอียดเป็นตัวอย่างของความเชื่อที่เกิดขึ้นเองในช่วงของการพัฒนา แต่จากนั้นก็กลายเป็นภูมิปัญญาทั่วไปที่ได้รับการยอมรับเราไม่ได้สอนความเชื่อร่วมกันนี้ถ้าเราไม่สอนความเชื่อของการจ้องมองที่มองไม่เห็นให้กับเด็ก ๆ มันมาจากไหน?เพื่อตอบคำถามนี้มันคุ้มค่าที่จะพิจารณาคำถามที่เกี่ยวข้องวิสัยทัศน์ใช้งานได้จริงอย่างไร?เราจะเห็นวัตถุในโลกได้อย่างไร?มีพลังงานบางอย่างที่ทิ้งดวงตาเมื่อเราจ้องมองอะไรบางอย่างหรือไม่?นักปรัชญาชาวกรีกเพลโตและนักคณิตศาสตร์นักคณิตศาสตร์เชื่อว่าวิสัยทัศน์นั้นเกี่ยวข้องกับ“ พลังงาน” จากดวงตาเช่นเดียวกับการมองเห็นของซูเปอร์แมนของซูเปอร์แมน 2 รังสี 2 ออกจากดวงตาเหมือนลำแสงคบเพลิงส่องแสงถ้ำที่มืดมิดเพลโตยังพูดคุยเกี่ยวกับสาระสำคัญที่ออกจากดวงตาอย่างไรก็ตามเรารู้จักกันมาตั้งแต่อย่างน้อยศตวรรษที่สิบว่าการมองเห็นทำงานโดยแสงที่เข้ามาในดวงตาจากโลกภายนอกในฐานะ "การคบหา" ไม่ใช่วิธีอื่น ๆ รอบ 3 แสงสามารถกลับมาได้จากดวงตาของเราซึ่งอธิบายถึง "สีแดงที่น่ารำคาญEye” คุณได้รับจากการถ่ายภาพ ﬂ ash และรูปลักษณ์ที่น่าขนลุกของดวงตาของแมวที่ติดอยู่ในไฟหน้ารถ 4 อย่างไรก็ตามไม่มีนักวิทยาศาสตร์วิสัยทัศน์ที่ทันสมัยเชื่อว่ามีพลังงานที่เกิดขึ้นและเล็ดลอดออกมาจากดวงตานั่นเป็นเหตุผลที่คุณไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เมื่อไฟห้องปิดอยู่หรือไฟ ﬂ ashlight แตกอย่างใดความรู้ทั่วไปดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อของเราเรา

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

225

อาจเข้าใจว่าแว่นกันแดดปกป้องดวงตาของเราจากแสงที่เป็นอันตรายที่เข้ามา แต่เราก็ยังคิดว่าการมองเห็นการทำงานในทางอื่นคนส่วนใหญ่รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ได้เรียนในทัศนศาสตร์เชื่อว่าวิสัยทัศน์คือการถ่ายโอนสิ่งที่เข้ามาในดวงตาในเวลาเดียวกันกับสิ่งที่ออกจากดวงตา 5 สิ่งนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมความรู้สึกของการจ้องมองที่ดูเหมือนเป็นไปได้หากมีบางสิ่งบางอย่างออกจากดวงตาบางทีเราสามารถตรวจจับได้อย่างไรก็ตามไม่มีกรอบวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันที่สามารถอธิบายความสามารถดังกล่าวได้มันเป็นสิ่งที่เหนือกว่าอย่างแท้จริงกองกำลังที่น่าหลงใหล“ ความหลงใหล” หมายถึงพลังอันน่าหลงใหลของการจ้องมองของผู้อื่นที่เราหลงใหลนักจิตวิเคราะห์ซิกมุนด์ฟรอยด์ใช้คำนี้ในปี 1921 เพื่ออธิบายพลังแห่งความรัก แต่เขาดึงความคิดอย่างหนักจากตำนานคลาสสิกและความเชื่อเหนือธรรมชาติ 6 ตัวอย่างเช่นเมดูซ่าเป็นสัตว์ประหลาดตัวเมียที่สามารถเปลี่ยนผู้ชายให้เป็นหินได้จนถึงทุกวันนี้หลายวัฒนธรรมยังคงมีความเชื่อในพลังอันมุ่งร้ายของ“ ดวงตาชั่วร้าย” 7 นี่คือคำสาปที่ใครบางคนสามารถวางไว้บนคุณได้ง่ายๆเมื่อใดก็ตามที่เขาพูดกับฝูงชนและคิดว่าใครบางคนอาจให้ตาเขาชั่วร้ายเผด็จการฟาสซิสต์อิตาลีเบนิโตมุสโสลินีที่เคยสัมผัสกับลูกอัณฑะของเขาเป็นวิธีการปกป้องตัวเองหากคุณทำสิ่งนี้น่าอายเล็กน้อยหรือไม่ได้มีลูกอัณฑะคู่หนึ่งที่จะสัมผัสเครื่องรางเวทมนตร์ยังคงพร้อมที่จะป้องกันดวงตาที่ชั่วร้ายในประเทศเมดิเตอร์เรเนียนเช่นตุรกีและกรีซ 8 นักเขียนยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาอิตาลีเช่น Petrarch(1304–74) และ Castiglione (1478–1529) อธิบายถึงรูปลักษณ์ของความรัก (Innamoramento) ว่าเป็นการถ่ายโอนอนุภาคจากดวงตาของคนรักเข้าสู่สายตาของคนรักการรวมกันของทฤษฎีที่ไร้เดียงสาของการมองเห็นการทำงานกับสาระสำคัญเพื่ออธิบายความหลงใหลภาษาของเราเต็มไปด้วยตัวอย่างและคำอุปมาอุปมัยที่เปิดเผยว่าเราปฏิบัติต่อการจ้องมองเป็นสิ่งที่ทางกายภาพที่ออกจากดวงตาอย่างไรเราพูดถึงการเจาะดวงตาหรือแลกเปลี่ยนสายตาราวกับว่ามีบางสิ่งที่ผ่านระหว่างผู้คน

226

กีดขวาง

ในช่วงแรก ๆ นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าการขยันหมั่นเพียรเป็นกำลังพลังงานที่วัดได้ซึ่งสามารถศึกษาได้ในห้องปฏิบัติการในบทความที่ตีพิมพ์ใน Lancet ในปี 1921 Charles Russ เขียนว่า: ความจริงที่ว่าการจ้องมองโดยตรงหรือวิสัยทัศน์ของคนหนึ่งในไม่ช้าก็กลายเป็นคนอื่นที่ทนไม่ได้กับคนอื่นแนะนำให้ฉันรู้ว่าอาจมีรังสีหรือรังสีที่ออกมาจากดวงตามนุษย์หากมีรังสีดังกล่าวอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่สบายใจต่อเรตินาของบุคคลอื่นหรือโดยการปะทะกับรังสีของบุคคลอื่นมันเป็นความจริงที่ว่าหลังจากไม่กี่วินาทีวิสัยทัศน์ของหนึ่งหรืออื่น ๆ จะต้องถูกหันไปอย่างน้อยในช่วงเวลาสั้น ๆการสังเกตและประสบการณ์ในชีวิตประจำวันจำนวนมากดูเหมือนจะสนับสนุนความเป็นไปได้ของการดำรงอยู่ของรังสีหรือพลังที่ปล่อยออกมาจากดวงตาของมนุษย์และเพื่อให้ทฤษฎีของฉันได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานการทดลองบางอย่างที่ฉันตัดสินใจลองและสร้างเครื่องมือบางอย่างตั้งอยู่ในการเคลื่อนไหวโดยไม่มีอะไรมากไปกว่าผลกระทบของการมองเห็นของมนุษย์ 10 มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาเกี่ยวกับคนอื่น ๆ ที่ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดและต้องการหันไปเช่นการเห็นใครบางคนเลือกจมูกของเขาหรือเคลียร์รูจมูกของเขา

รูปที่.22: การทำซ้ำของสิทธิบัตรสำหรับเครื่องเพื่อวัดพลังงาน

จากการจ้องมองที่เล็ดลอดออกมาจากสายตามนุษย์ที่นำโดยดร. ชาร์ลส์รัสในปี 1919 ภาพลักษณ์ของผู้เขียน

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

227

แต่ฉันจะไม่ทำผิดพลาดที่จะสมมติว่าเพียงเพราะบุคคลอื่นส่งผลกระทบต่อฉันในทางกายภาพมีพลังงานทางกายภาพในที่ทำงานตรรกะดังกล่าวไม่ได้ห้ามไม่ให้รัสซึ่งจดสิทธิบัตรกล่องที่มีลวดทองแดงตั้งอยู่ในสนามแม่เหล็กเพื่อวัดกำลังที่น่าสนใจนี้ฉันไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับการจำลองแบบของ Russ และดังนั้นเราต้องสรุปว่าส่วนที่เหลือของชุมชนนักวิทยาศาสตร์ได้ละทิ้งการไต่สวนนี้ความรู้สึกของการถูกจ้องมองในปี 1898 Edward Titchener รายงานในวารสารวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงว่านักศึกษาจิตวิทยาระดับปริญญาตรีของฮาร์วาร์ดเก้าในสิบของเขาเชื่อว่าพวกเขามีความรู้สึกของการถูกจ้องมองที่ 11 ฉันทำซ้ำการสำรวจครั้งนี้กับนักเรียนบริสตอลมากกว่าสองร้อยคนหนึ่งร้อยปีต่อมา 12 ถึงความประหลาดใจของฉันนักเรียนจำนวนเดียวกันเห็นพ้องกันว่าเป็นไปได้ที่ผู้คนจะตรวจจับการจ้องมองที่มองไม่เห็นแม้ว่านักเรียนเหล่านี้จะเข้าเรียนในวิสัยทัศน์และรู้ว่าวิสัยทัศน์เป็นกระบวนการ Intromissionพวกเขาควรรู้ว่าความสามารถดังกล่าวเป็นไปไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่สัญชาติญาณของพวกเขาบอกพวกเขาเป็นอย่างอื่นอย่างไรก็ตามเพียงเพราะเราเชื่อว่าเราสามารถรู้สึกได้ว่าการจ้องมองไม่ได้ทำให้มันเป็นจริงสำหรับบันทึกมีการศึกษาที่รายงานหลักฐานที่สำคัญสำหรับความสามารถในการตรวจจับสายตาที่มองไม่เห็นวิธีทั่วไปในการวัดสิ่งนี้คือการมีผู้สังเกตการณ์ยืนอยู่ด้านหลังผู้เข้าร่วมที่ถูกปิดตาจากนั้นจ้องมองผู้เข้าร่วมหรือปิดตาของเขาหรือเธอการศึกษาบางอย่างได้ดำเนินการผ่านลิงค์กล้องโดยมีบุคคลสองคนในห้องแยกต่างหาก(สิ่งนี้จะทำให้คำอธิบายพลังงานของ Russ ไม่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น) การจ้องมองและไม่ได้จ้องมองถูกสลับกันการทดลองซ้ำหลายครั้งและจำนวนการคาดเดาที่ถูกต้องจะถูกเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยทางสถิติ 50 เปอร์เซ็นต์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหากเราไม่มีความสามารถในการตรวจจับเมื่อมีคนจ้องมองเราการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวข้องกับการทดลองกับเด็กสิบแปดพันคนและรายงานว่ามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญสูง 13 มีบางอย่างถูกตรวจพบที่นี่ไม่ได้พิสูจน์ความสามารถเพียงพอหรือไม่

228

กีดขวาง

ในความคิดของฉันการค้นพบที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการศึกษาเหล่านี้ไม่ใช่ความสามารถในการตรวจจับการจ้องมองที่มองไม่เห็น แต่เป็นความสามารถที่น่าทึ่งของสมองในการตรวจจับรูปแบบการศึกษาที่รายงานความรู้สึกที่มีนัยสำคัญของการถูกจ้องมองที่มีแนวโน้มที่จะใช้ลำดับที่อาจไม่สุ่มอย่างแท้จริงสิ่งที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นคือผู้เข้าร่วมที่ถูกปิดตากำลังเรียนรู้ที่จะตรวจจับลำดับที่ไม่สุ่มเหล่านี้ 14 จำตัวอย่างในบทที่ 1 ของการกด“ 1S” และ“ 0S” บนแป้นพิมพ์?มนุษย์ได้รับการปรับให้ตรวจจับรูปแบบของการสลับแม้ว่าเราจะไม่ทราบว่าเรากำลังทำเช่นนั้นดูเหมือนว่าเราจะสามารถตรวจจับรูปแบบของลำดับหากเราได้รับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการทดลองทุกครั้งหากคุณไม่บอกผู้เข้าร่วมว่าพวกเขาจะดำเนินการต่อหลังจากการทดลองแต่ละครั้งเอฟเฟกต์จะหายไปอีกครั้งและการแสดงกลับสู่โอกาส 15 วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างเด็ดขาดว่าความรู้สึกของการถูกจ้องมองไม่เป็นความจริงหรือจะไม่เป็นจริงในอนาคตแต่หลักฐานนั้นอ่อนแอหรือไม่มีอยู่มากจนต้องถือว่าไม่ได้รับการพิสูจน์มีความล้มเหลวมากมายในการทำซ้ำเอฟเฟกต์อย่างน่าเชื่อถือเช่นเดียวกับคำพูดที่ว่า“ การกลืนหนึ่งครั้งไม่ได้ทำให้ฤดูร้อน”มันไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์ที่จะเก็บม้าที่ตายแล้วหากผลที่คุณต้องการปฏิเสธที่จะทำซ้ำอย่างน่าเชื่อถือไม่เพียง แต่นักวิทยาศาสตร์จะต้องมีหลักฐานสำหรับทฤษฎีของพวกเขาเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องละทิ้งพวกเขาเมื่อหลักฐานไม่สามารถยืนหยัดเพื่อตรวจสอบได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทฤษฎีเหล่านั้นจะโค่นล้มทฤษฎีทั่วไปที่จนถึงจุดนั้นมีความน่าเชื่อถือมากเหตุใดจึงควรมีรั่วไหลของเอฟเฟกต์ที่เป็นไปได้บางอย่างคว้างานที่ได้รับการทดสอบและการตรวจสอบอย่างเข้มงวด?ตามคำพูดไป“ การเรียกร้องพิเศษต้องการหลักฐานพิเศษ” 16 แล้วความเชื่อร่วมกันนี้ในความสามารถในการตรวจจับการจ้องมองที่มองไม่เห็นมาจากไหน?การพัฒนาความรู้สึกของการจ้องมองที่มองไม่เห็นฉันคิดว่าความรู้สึกของการถูกจ้องมองเป็นความเชื่อเหนือธรรมชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่มีต้นกำเนิดตามธรรมชาติมากที่สามารถสืบย้อนไปถึงทฤษฎีที่ไร้เดียงสาของการทำงานของวิสัยทัศน์ความรู้สึกพัฒนาไปสู่ความเชื่อเหนือธรรมชาติอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเราปรับตัวเข้ากับภาษาของดวงตาและความรู้สึกเชื่อมโยงที่เพิ่มขึ้นของเราในฐานะผู้ใหญ่

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

229

หากคุณถามเด็ก ๆ ว่าการดูงานอย่างไรพวกเขาตอบว่ามีบางสิ่งที่ทำให้ดวงตาเป็น 17 ตัวอย่างเช่นถ้าคุณแสดงภาพบอลลูนและบุคคลแล้วขอให้เด็กวาด“ เห็น” พวกเขามักจะผลิตลูกศรจากตาไปที่บอลลูนน่าประหลาดใจมากไหม?ท้ายที่สุดเรามองสิ่งต่าง ๆ ในโลกเราเป็นที่มาของการมองดังนั้นการเห็นต้องมาจากผู้สังเกตการณ์เรามองดูโดยการจ้องมองทั่วโลกเพื่อดูสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างกันเราควบคุมว่าเรามองไปที่ใดและประสบการณ์การมองเห็นก็คือมันเกิดขึ้นจากภายในตัวเรา 18 จำได้ว่า numskulls ในหัวของเรานำทางร่างกายของเราและควบคุมดวงตาของเราโดยการขยับพวกเขาไปรอบ ๆ เพื่อดู?เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจว่าทำไมพวกเราส่วนใหญ่คิดว่าการเห็นผลงานนี้มาตั้งแต่อายุยังน้อยความเชื่อที่ไร้เดียงสาดังกล่าวอธิบายถึงความรู้สึกของการจ้องมองหรือไม่?ที่จริงแล้วภาพน่าสนใจกว่ามากหากคุณถามเด็ก ๆ เกี่ยวกับว่าพวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่าพวกเขามักจะรายงานระดับที่ต่ำกว่าผู้ใหญ่มากหรือไม่ 19 ฉันคาดหวังว่าเป็นเพราะเด็กเล็กส่วนใหญ่มีศูนย์กลางที่พวกเขาส่วนใหญ่จะหลงลืมผู้อื่นรอบตัวพวกเขานั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเมื่อเรารู้สึกประหม่ามากขึ้นเกี่ยวกับการถูกจับตามองดังนั้นความรู้สึกของการตรวจจับการจ้องมองที่มองไม่เห็นจะเพิ่มขึ้นจริง ๆ เมื่อเราโตขึ้น!ทำไมผู้ใหญ่มากกว่าเด็กถึงเชื่อว่าพวกเขาสามารถตรวจจับสายตาที่มองไม่เห็น?ท้ายที่สุดแล้วผู้ใหญ่ควรเป็นนักวิทยาศาสตร์และมีเหตุผลมากกว่าเด็กฉันคิดว่าคำอธิบายเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงทางสังคมที่เพิ่มขึ้นของเรากับผู้อื่นความสนใจของเราต่อสายตาของพวกเขาการพัฒนาความเป็นคู่และร่างกายที่เราได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้และการสะสมหลักฐานที่แสดงถึงความเชื่อที่ใช้งานง่ายของเราดวงตามีการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กเผยให้เห็นว่าเรามีความอ่อนไหวต่อการจ้องมองของคนอื่นมากขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น 20 จ้องมองเป็นช่องทางสำคัญของการสื่อสารที่เราให้ความสนใจโดยอัตโนมัติอันที่จริงเราไม่สามารถเพิกเฉยได้นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการสนทนากับคนที่หยุดยั้งหรือมองออกไปซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเรื่องน่ารำคาญมาก: พวกเขาขัดขวางความพยายามของเราในการอ่านความคิดของพวกเขาตามการจ้องมองของพวกเขาดังนั้นจ้องมองจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรา 22 เมื่อมีคนจ้องมองเรามันจะกระตุ้นโดยตรง

230

กีดขวาง

ศูนย์อารมณ์ลึกเข้าไปในสมองของเราการจ้องมองไม่ใช่การกระทำที่ไม่โต้ตอบ แต่เป็นเหตุการณ์ที่มีผลต่อเราทางอารมณ์amygdala และ ventral striatum เป็นโครงสร้างทางอารมณ์ที่ลึกล้ำภายในสมองที่เกิดขึ้นระหว่างการแลกเปลี่ยนทางสังคม 22 พวกเขาให้ความรู้สึกที่เราพบในระหว่างการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมการจ้องมองโดยตรงในระยะไกลคือการรับรู้ถึงผู้คน แต่การจ้องมองอย่างใกล้ชิดโดยตรงสามารถทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจมาก 23 ถ้ามันมาจากคนรักการจ้องมองโดยตรงทำให้หัวใจของคุณปอนด์และปล่อยเนย ﬂ ies ในท้องของคุณหากมาจากคนแปลกหน้าจิตใจของคุณ (เขาต้องการอะไรกับฉัน)นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมไม่มีใครจ้องมองคนอื่น ๆ ในลิฟต์เราชอบที่จะดูเพดานหรือ ﬂ oor มากกว่ากันเราอยู่ใกล้เกินไปเพื่อความสะดวกสบายในทางกลับกันเด็ก ๆ จะต้องได้รับการบอกกล่าวว่าไม่จ้องมองอย่างที่เราเห็นก่อนหน้านี้เด็กทารกมองตาตั้งแต่แรก แต่เมื่ออายุมากขึ้นเราก็จะได้รับการจ้องมองมากขึ้นในขณะที่เราเข้าใกล้ความเป็นผู้ใหญ่เราจำเป็นต้องสามารถหาเพื่อนหรือศัตรูได้ดังนั้นเราจึงเรียนรู้รายละเอียดปลีกย่อยของการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและความหมายของภาพรวมนอกจากนี้เรายังมีความประหม่ามากขึ้นเกี่ยวกับคนอื่น ๆ รอบตัวเราและความต้องการการอนุมัติทางสังคมที่เข้มข้นขึ้นทุกคนที่เคยไปงานปาร์ตี้ของวัยรุ่นไม่สามารถล้มเหลวที่จะสังเกตเห็น ﬂ urry ของการแลกเปลี่ยนสายตาระหว่างสองเพศผู้ใหญ่เหล่านี้กำลังเริ่มดำเนินการในขั้นตอนแรกของความใกล้ชิดและขั้นตอนแรกเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการอ่านภาษาของดวงตา 24 ความเร้าอารมณ์ทางอารมณ์ที่เราพบเมื่อเราถูกจ้องมองเพียงแค่ตอกย้ำความรู้สึกที่เข้าใจง่ายของเราของพลังงาน (ทำไมฉันจะรู้สึกแบบนี้เมื่อเธอจ้องมองฉัน?)ตอนนี้ทำให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่คุณรู้สึกไม่สบายใจกับคนอื่น ๆด้วยทฤษฎีที่ไร้เดียงสานี้เราจึงจำทุกเหตุการณ์ได้อย่างง่ายดายเมื่อเรารู้สึกถึงความรู้สึกไม่สบายที่พิสูจน์แล้วว่าเป็น Justi ﬁ ed แต่เราลืมได้อย่างสะดวกทุกครั้งที่เราทำผิดเช่นเดียวกับทฤษฎีใด ๆ อันนี้มาพร้อมกับอคติเพื่อค้นหาหลักฐานที่แสดงถึงสิ่งที่เราคิดว่าเป็นจริงในสถานที่แรกแนวโน้มนี้ที่จะมองหาหลักฐานที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นอคติมันเป็นเหตุผลที่มีอคติที่เราใช้เมื่อใดก็ตามที่เราตัดสินที่มีความคิดของเราเราไม่ค่อยใช้สิ่งต่าง ๆ ที่มีมูลค่า แต่มองหา

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

231

การพิจารณาถึงสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นจริงในสถานที่แรกสิ่งนี้ถูกนำมาใช้เพื่อผลกระทบการ์ตูนที่ยอดเยี่ยมโดย American Mortgage Company Ameriquest ซึ่งได้ดำเนินการแคมเปญโฆษณาแสดงให้เห็นว่ามันง่ายแค่ไหนที่จะข้ามไปสู่ข้อสรุปที่ไม่ยุติธรรมเมื่อคุณไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดและเมื่อคุณให้เหตุผลตามความคิดของคุณสิ่งที่ฉันชอบคือพ่อที่ให้ลูกสาวและเพื่อนของเธอยกขึ้นเมื่อพวกเขาหยุดซื้อหมากฝรั่งเคี้ยวเขาเรียกเธอกลับไปที่รถเพื่อให้เธอ $ 20 เพื่อซื้อหมากฝรั่งขณะที่เธอโน้มตัวไปทางหน้าต่างเขาพูดว่า“ นี่คือเงิน”ในขณะนั้นรถลาดตระเวนตำรวจดึงขึ้นมา“ เรามาถึงที่นี่แล้ว”กล่าวว่า ﬁ cer เป็นชายชราส่งเงินให้กับเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างชัดเจน“ ฉันเป็นพ่อของเธอ” พ่อของพ่อติดอยู่ในไฟหน้าเหมือนกวางที่ตกใจสโลแกนคือ:“ อย่าตัดสินเร็วเกินไปเราจะไม่”อคติที่ได้รับการเปิดเผยแสดงให้เห็นว่าการตั้งครรภ์นั้นเป็นวิธีที่เราตีความข้อมูลได้อย่างง่ายดายหากคุณคิดว่าคุณสามารถตรวจจับการจ้องมองที่มองไม่เห็นคุณจะจำทุกตัวอย่างที่กำหนดความเชื่อของคุณและลืมไปตลอดเวลาที่คุณคิดผิดในที่สุดความรู้สึกของการถูกจ้องมองที่สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากความผิดพลาดของการให้เหตุผลเชิงสาเหตุ, โพสต์เฉพาะกิจ, ergo propter hoc (หลังจากนี้, เพราะสิ่งนี้), อธิบายก่อนหน้านี้ว่าเป็นพื้นฐานสำหรับการให้เหตุผลไสยศาสตร์ - กล่าวอีกนัยหนึ่งโดยสมมติว่าสาเหตุที่ไหนไม่มีลองนึกภาพสถานการณ์คุณกำลังเดินไปตามถนนและผ่านกลุ่มเยาวชนคุณรู้สึกไม่สบายใจที่พวกเขาจ้องมองคุณคุณหยุดและหันหลังกลับและออกไปว่าคุณพูดถูกแต่ลองพิจารณาลำดับอีกครั้งจากมุมมองของเยาวชนคนหนึ่งคุณกำลังออกไปเที่ยวกับเพื่อนของคุณและผู้ชายคนนี้เดินผ่านมาคุณให้เขาดู แต่คุยกับเพื่อนของคุณต่อไปทันใดนั้นผู้ชายคนนั้นก็หยุดและหันหลังกลับคุณทำงานอะไร?คุณมองย้อนกลับไปที่เขาเพื่อดูว่าทำไมเขาถึงหันหลังกลับกล่าวอีกนัยหนึ่งการเดินไปตามถนนเราอาจคิดว่าเราหันหลังกลับเพราะเรารู้สึกว่าคนอื่นมองเราจากด้านหลัง แต่ในความเป็นจริงพวกเขามองเราเพราะเราหันไปเผชิญหน้ากับพวกเขาในสถานที่แรกเราเป็นคนที่รู้สึกตัวและมีความอ่อนไหวต่อสังคมมากจนเหตุการณ์ประเภทนี้ต้องเกิดขึ้นตลอดเวลาตอนดังกล่าวเสริมความเชื่อของเราที่เราสามารถตรวจจับได้เมื่อเราถูกจับตามอง 25

232

กีดขวาง

แน่นอนว่าฉันอาจจะผิดและผู้คนหลายพันล้านคนจะไม่เห็นด้วยกับฉันท้ายที่สุดพวกเขาทุกคนมีประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับปรากฏการณ์และนั่นเป็นสาเหตุที่ผู้คนเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติแต่เช่นเดียวกับสแควร์ที่มองไม่เห็นที่เราเห็นในบทที่ 1 เพียงเพราะเราทุกคนมีประสบการณ์บางอย่างไม่ได้ทำให้มันเป็นจริงผู้สนับสนุนที่โดดเด่นและกระตือรือร้นที่สุดของความรู้สึกของการถูกจ้องมองคือรูเพิร์ตเชลเดรคผู้เสนอว่าความสามารถนี้ได้นำทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ใหม่ของจิตใจปลดปล่อยที่ขยายออกไปเกินกว่าร่างกายทางกายภาพเพื่อเชื่อมต่อกันฉันถือว่านี่เป็นความคิดที่มาจากความเป็นคู่ของจิตใจและร่างกายที่เราพูดถึงก่อนหน้านี้ แต่ความคิดดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธโดยวิทยาศาสตร์ทั่วไปไม่สะทกสะท้านกับ“ นักวิทยาศาสตร์เฝ้าระวัง” Sheldrake เสนอว่าความรู้สึกของการจ้องมองและด้านอื่น ๆ ของความสามารถเหนือธรรมชาติเช่นกระแสจิตและการรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตก่อนที่พวกเขาจะเกิดขึ้นเป็นหลักฐานสำหรับทฤษฎีใหม่ที่เขาเรียกว่าเสียงก้อง."เขาเสนอว่ามันคล้ายกับตัวอย่างอื่น ๆ ของปรากฏการณ์ eld eld ในธรรมชาติเช่นไฟฟ้าและแม่เหล็ก elds.26 ความคิดของเขาคือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับการสั่นพ้อง morphic จะมาจากฟิสิกส์ควอนตัมซึ่งกฎหมายธรรมชาติที่ควบคุมโลกทางกายภาพมันไม่ได้ใช้อีกต่อไปสิ่งนี้อาจกลายเป็นจริง แต่ในขณะที่ฉันไม่คิดว่าคุณสมบัติการสั่นพ้องของ morphic เป็นปรากฏการณ์ eld eldปัญหาคือในขณะที่ไฟฟ้าและแม่เหล็ก eld eld สามารถวัดได้ง่ายและปฏิบัติตามกฎหมายการกำทอน morphic ยังคงเข้าใจยากและไม่มีกฎหมายที่พิสูจน์ได้ 27 ไม่มีพื้นที่วิทยาศาสตร์อื่น ๆ ที่จะยอมรับหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายชุมชนนักวิทยาศาสตร์มักจะยกเลิกทฤษฎีนี้และหลักฐานอย่างไรก็ตามสิ่งนี้มีความเห็นเพียงเล็กน้อยต่อความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปวิทยาศาสตร์อาจผิดเกี่ยวกับความเป็นจริงของความรู้สึกของการจ้องมอง แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเชื่อของประชาชนในปรากฏการณ์นั้นแข็งแกร่งกว่ามาตรการที่ดีที่สุดที่ได้รับสำหรับการดำรงอยู่จนถึงตอนนี้พี่ใหญ่กำลังเฝ้าดูคุณ!ความรู้สึกของการถูกจ้องมองที่ข้อกังวลร่วมกันเกี่ยวกับการสังเกตและตรวจสอบGeorge Orwell อธิบายถึง para-

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

233

Noid World ในนวนิยายคลาสสิกของเขา 1984 ซึ่งทุกการกระทำและความเชื่อของประชาชนถูกควบคุมโดยความคิดที่ตำรวจดูแลโดยสายตาของพี่ใหญ่ 28 เรามักจะไม่เข้าร่วมอาชญากรรมเมื่อเราถูกจับตามองด้วยเหตุผลที่ชัดเจนเราชอบที่จะตรวจไม่พบนั่นเป็นส่วนหนึ่งของความตื่นเต้นของการขโมยของโดยบุคคลที่ขโมยสิ่งของที่พวกเขาสามารถจ่ายได้อย่างง่ายดายความตื่นเต้นคือรางวัลไม่ใช่วัตถุจริงหากเรากำลังถูกจับตามองเรามักจะปฏิบัติตามกฎทางสังคมผู้คนต่างก็กลายเป็นสังคมที่เปิดเผยและร่วมมือกันมากขึ้นเมื่อพวกเขารู้ว่าพวกเขากำลังสังเกตเห็น 29 คุณเคยรู้สึกว่าผิดพลาดเมื่อคุณทำอะไรผิดพลาดแล้วสงสัยว่ามีคนเห็นคุณทำหรือไม่?ไม่จำเป็นต้องเป็นคนจริงที่เฝ้าดูคุณตัวอย่างเช่นกล่องความซื่อสัตย์ขึ้นอยู่กับคุณธรรมของผู้คนที่จะเป็นเจ้าของและจ่ายเงินบางอย่างหากพวกเขาใช้มันโดยทั่วไปแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นกล่องในห้องพนักงานและคลับเฮ้าส์ที่พึ่งพาสมาชิกเพื่อให้การสนับสนุนอย่างยุติธรรมต่อค่าใช้จ่ายของบางสิ่งบางอย่างมักจะเป็นเครื่องดื่มร้อนโดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะไม่ทำงานได้ดีเว้นแต่จะมีคนดูผู้เข้าร่วมในการศึกษาครั้งหนึ่งนักวิจัยได้โพสต์ดวงตามนุษย์หรือรูปภาพของ ﬂ owers เหนือกล่องความซื่อสัตย์สำหรับกาแฟและชา 30 โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนจ่ายเงินมากขึ้นเกือบสามเท่าในกล่องความซื่อสัตย์ในช่วงสัปดาห์ที่ภาพดวงตาจ้องมองโพสต์เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่มีการนำเสนอภาพของ owers แม้ว่าจะไม่มีความแตกต่างในจำนวนชาหรือกาแฟที่ถูกเทดวงตาทำให้ผู้คนรู้สึกผิดเกี่ยวกับการไม่จ่ายเงินสำหรับเครื่องดื่มของพวกเขา!บางครั้งความคิดของคนที่เฝ้าดูเราจากหลุมฝังศพก็เพียงพอที่จะทำให้เราประพฤติตัวเองตัวอย่างเช่นนักเรียนพบว่าพวกเขามีตัวเลือกในการโกงการสอบคอมพิวเตอร์เมื่อบ่อยครั้งที่คอมพิวเตอร์“ บังเอิญ” ให้คำตอบที่ถูกต้องในความเป็นจริงผู้ทดลองได้ตั้งโปรแกรมไว้โดยเจตนาว่าจะเกิดขึ้นเพราะพวกเขาสนใจจริง ๆ ว่าผู้เข้าร่วมจะโกงโดยใช้ข้อมูลนี้เป็นคำตอบของพวกเขาหรือประพฤติตนอย่างตรงไปตรงมาในการสอบในการทำให้นักเรียนอยู่ในกรอบความคิดที่ถูกต้องผู้ช่วยอย่างไม่ตั้งใจบอกพวกเขาก่อนการทดสอบว่าห้องสอบถูกกล่าวว่าเป็นอดีตนักเรียนที่เสียชีวิตที่นั่นผลสอบ

234

กีดขวาง

แสดงให้เห็นว่านักเรียนที่ได้รับการบอกเล่าเรื่องผีมีโอกาสน้อยกว่าที่จะโกงเมื่อเทียบกับนักเรียนที่ไม่ได้รับเรื่องราวดังกล่าว 31 ความรู้สึกซื่อสัตย์ของเรานั้นถูกตรวจสอบโดยความรู้สึกผิดของเราส่วนหนึ่งของความผิดนั้นมาจากการไม่อนุมัติทางสังคมที่คาดการณ์ไว้เราเชื่อว่าเราจะได้สัมผัสหากเราพบว่ามีการทำลายกฎบางอย่างนักเรียนที่เชื่อว่านักเรียนเก่าอาจอยู่ในห้องสอบมีความเต็มใจที่จะโกงน้อยกว่าทฤษฎีการเดินทางที่รู้สึกผิดนี้ถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายว่าทำไมเราจึงเชื่อมั่นในชีวิตหลังความตายนักจิตวิทยา Jesse Bering คิดว่าความเชื่อในผีและวิญญาณอาจพัฒนาเป็นกลไกที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เราประพฤติตัวเองเมื่อเราคิดว่าเรากำลังถูกจับตามอง 32 ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายโดยความรู้สึกของคนอื่นที่เฝ้าดูเราจากนั้นเรามีแนวโน้มที่จะทำในลักษณะที่เป็นประโยชน์ของกลุ่มในทำนองเดียวกับที่นักเรียนมีโอกาสน้อยที่จะโกงเมื่อเล่าเรื่องผีถ้าเราเชื่อว่าบรรพบุรุษกำลังเฝ้าดูเราเรามีแนวโน้มที่จะปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับของสังคมวิธีคิดเช่นนี้ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มมีแนวโน้มที่จะถูกส่งต่อจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งอย่างที่เราเห็นในบทที่ 5 เกี่ยวกับการอ่านใจโดยสมมติว่าการปรากฏตัวของผู้อื่นอาจเป็นกลยุทธ์วิวัฒนาการที่ดีที่จะมองหาศัตรูที่มีศักยภาพ 33 และถ้าเราเดินสายที่จะรับตัวแทนและวิญญาณในโลกแม้แต่ตัวอย่างที่น้อยที่สุดของรูปแบบที่อาจเป็นใบหน้าหรือดวงตาคู่หนึ่งก็พร้อมที่จะเห็นเช่นนี้การชนใด ๆ ในตอนกลางคืนอาจเป็นอีกคนหนึ่งความมหัศจรรย์ของความบ้าคลั่งที่คิดว่าคนอื่นกำลังเฝ้าดูคุณและพูดถึงคุณเป็นอาการคลาสสิกของความเจ็บป่วยทางจิตโรคจิตไม่น่าแปลกใจที่ความเชื่อเหนือธรรมชาติเป็นคุณลักษณะสำคัญของความผิดปกติทางจิตของความบ้าคลั่งและโรคจิตเภทMania มีลักษณะโดยใช้พลังงานและผลผลิตมากเกินไปเช่นเดียวกับพฤติกรรมทางสังคมที่ไม่เหมาะสมโรคจิตเภทมีรูปแบบที่หลากหลาย แต่โดยทั่วไปแล้วเป็นรัฐที่มีอาการหลงผิดที่ไม่มีเหตุผลและหวาดระแวงและประสบการณ์การบิดเบือนการบิดเบือนความเป็นจริงโดยเฉพาะภาพหลอนหู

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

235

ลักษณะหนึ่งของความผิดปกติของโรคจิตเหล่านี้คือความรู้สึกว่ามีรูปแบบที่สำคัญของเหตุการณ์ในโลกที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้ป่วยวิธีการตรวจจับรูปแบบที่มีความหมายนี้เรียกว่า apophenia ซึ่งหมายถึงแนวโน้มที่ผิดปกติที่จะเห็นการเชื่อมต่อในโลกที่ได้รับการพิจารณาว่าเกี่ยวข้องโดยผู้ป่วย 34 Apophenia ช่วยอธิบายพื้นฐานของอาการทางจิตตัวอย่างเช่นผู้ป่วยโรคจิตที่อยู่ท่ามกลางตอนหวาดระแวงมักรายงานว่ามีการสมรู้ร่วมคิดที่มีศูนย์กลางอยู่ที่พวกเขาพวกเขามั่นใจว่าพวกเขากำลังถูกจับตามองว่าผู้คนกำลังพูดถึงพวกเขาว่าสายโทรศัพท์ของพวกเขาถูกแตะและโดยทั่วไปจะมีการรณรงค์ที่ไม่เป็นมิตรกับพวกเขาสำหรับผู้ประสบภัยความหลงผิดเหล่านี้เป็นเรื่องจริงและเกินกว่าการควบคุมอย่างมีเหตุผลเราทุกคนสามารถรับรู้รูปแบบได้ แต่ผู้ป่วยโรคจิตมีแนวโน้มที่จะทำเช่นนั้นและตีความรูปแบบเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาเป็นการส่วนตัวสิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากการวิจัยที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการรับรู้และอาการของโรคทางจิตเวช 35 แม้แต่ผู้ใหญ่ที่ไม่ได้แสดงอาการจิตที่เต็มไปด้วยโรคจิตที่เรียกว่า "ชายแดน" ที่เรียกว่าความเชื่อเหล่านี้เรียกว่า Magical Idefition และพวกเขาสามารถวัดได้ด้วยการตอบกลับข้อความเช่น:“ บางคนสามารถทำให้ฉันตระหนักถึงพวกเขาเพียงแค่คิดถึงฉัน”“ ฉันคิดว่าฉันสามารถเรียนรู้ที่จะอ่านใจของคนอื่นได้ถ้าฉันต้องการ”“ บางครั้งสิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนจะอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ เมื่อฉันกลับถึงบ้านแม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ที่นั่น”“ ฉันสังเกตเห็นเสียงในบันทึกของฉันที่ไม่ได้อยู่ที่นั่นในเวลาอื่น”“ ฉันมีความรู้สึกชั่วขณะที่สถานที่ของใครบางคนถูกจับได้เหมือนกัน”“ บางครั้งฉันรู้สึกถึงความชั่วร้ายรอบตัวฉันแม้ว่าฉันจะมองไม่เห็น”“ บางครั้งฉันมีความรู้สึกที่ได้รับหรือสูญเสียพลังงานเมื่อบางคนมองมาที่ฉันหรือสัมผัสฉัน”“ บางครั้งฉันทำพิธีกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อป้องกันการลบในเชิงลบ”

236

กีดขวาง

ข้อความเหล่านี้นำมาจากแบบสอบถามความคิดวิเศษที่นักวิจัยใช้ในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเจ็บป่วยทางจิตและ supersense.36 หากคุณได้คะแนนสูงในแบบสอบถามของสามสิบรายการนี้คุณจะชอบโรคจิตไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นโรคจิตหรือจะมีอาการทางจิต แต่คุณอาจมีความเสี่ยงโดยทั่วไปแล้วแง่มุมของธรรมชาติของมนุษย์จะแพร่กระจายไปทั่วประชากรเช่นความสูงเล็กน้อยพวกเราบางคนสูงมากและพวกเราบางคนมีขนาดเล็กมาก แต่พวกเราส่วนใหญ่อยู่ตรงกลางมันเหมือนกันกับกระบวนการคิดพวกเราบางคนฉลาดกว่าคนอื่น ๆบางคนกังวลมากขึ้นคนอื่นมีความหดหู่มากขึ้นการคิดวิเศษนั้นเหมือนกันโรคจิตถือได้ว่าเป็นหนึ่งในช่วงของความเชื่อที่กระจายเราทุกคนสามารถสัมผัสกับตอนของภาวะซึมเศร้า, ความวิตกกังวล, ความหลงผิด, ความหลงใหล, การบังคับ, ความหวาดระแวงและเงื่อนไขทางจิตเวชทุกรูปแบบอย่างไรก็ตามเมื่อตอนเหล่านี้เริ่มครอบงำและควบคุมชีวิตของแต่ละบุคคลพวกเขาจะถูกกล่าวว่าเป็นพยาธิสภาพพวกเขากลายเป็นความเจ็บป่วยที่รบกวนความเป็นอยู่ที่ดีของแต่ละบุคคลรายการจากแบบสอบถามความคิดมหัศจรรย์อย่างชัดเจนทำให้เกิดความเชื่อในการตรวจจับและใช้งานง่าย ๆ ที่ฉันอธิบายตลอดทั้งเล่มโดยปกติเราอาจสร้างความบันเทิงให้กับความคิดเช่นนี้ แต่เราสามารถเพิกเฉยหรือยกเลิกพวกเขาได้อย่างไม่มีเหตุผลหากเรามีความคิดที่ล่วงล้ำออกมาจากสีน้ำเงินมันก็ไม่ได้ทำให้เราตกใจเราสามารถยับยั้งความคิดที่เกิดขึ้นในใจของเราในทางตรงกันข้ามผู้ป่วยจิตเวชไม่สามารถควบคุมกระบวนการคิดเหล่านี้ได้พวกเขาอาจกล่าวถึงความคิดที่มาจากแหล่งอื่น ๆนี่คือเหตุผลที่โรคจิตเภทมักจะคิดว่าความคิดของพวกเขากำลังถูกส่งหรือบุกรุกโดยสัญญาณภายนอกทุกอย่างได้รับความสำคัญพิจารณาตัวอย่างนี้ที่นำมาจากพยาบาลจิตเภทที่อธิบายตอนโรคจิตครั้งแรกของเธอข้อความที่ชัดเจนเผยให้เห็นถึงความรุนแรงในที่ทำงานทุกสิ่งที่“ หมายถึง” บางสิ่งบางอย่างการคิดเชิงสัญลักษณ์แบบนี้ครบถ้วนสมบูรณ์---ฉันมีความรู้สึกว่าทุกอย่างสดใสและสำคัญกว่าสิ่งเร้าที่เข้ามาเกือบจะมากกว่าที่ฉันสามารถทนได้มีการเชื่อมต่อกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีความบังเอิญฉันรู้สึกสร้างสรรค์อย่างมาก 37

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

237

Supersense นั้นโดดเด่นด้วยความเชื่อและประสบการณ์ที่นำเราไปสู่การอนุมานโครงสร้างที่ซ่อนอยู่รูปแบบพลังงานและมิติสู่ความเป็นจริงเราเห็นว่าตัวเองขยายออกไปเกินกว่าร่างกายของเราและเชื่อมโยงกันด้วยความเป็นหนึ่งเดียวที่มองไม่เห็นของจักรวาลหากไม่มีการควบคุมการยับยั้งที่เพียงพอเราจะถูกครอบงำโดย Supersense ของเราเราจะหยุดความคิดเหล่านี้ได้อย่างไร?โดปามีน: ผู้ส่งสัญญาณเหนือธรรมชาติของสมอง?ในหนังสือเล่มนี้ฉันได้โต้เถียงกันว่า Supersense เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของสมองมนุษย์อย่างไรก็ตามเราทุกคนแตกต่างกันไปตามที่เราพบกับความรุนแรงหากไม่ใช่วัฒนธรรมที่สามารถอธิบายความแตกต่างของแต่ละบุคคลในวิธีที่เราตีความโลกจะต้องมีบางสิ่งในชีววิทยาของเราที่สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ณ จุดนี้ฉันขอโทษนักวิทยาศาสตร์สมองทั่วโลกสำหรับภาพที่เรียบง่ายเกินไปที่ฉันกำลังจะวาดสมองทำงานเป็นชุดของเซลล์ที่เชื่อมต่อกันในเครือข่ายเพื่อประมวลผลข้อมูลที่เข้ามาตีความข้อมูลนั้นแล้วเก็บไว้เป็นความรู้งานต่าง ๆ เหล่านี้มีความซับซ้อนมากกว่าสองสามประโยคที่สามารถอธิบายได้ แต่พวกเขาทั้งหมดขึ้นอยู่กับเครือข่ายของเซลล์ที่เชื่อมต่อที่สื่อสารซึ่งกันและกันผ่านกิจกรรมทางเคมีไฟฟ้านาทีสิ่งนี้สามารถทำได้โดยสารสื่อประสาทที่สร้างระบบการส่งสัญญาณของสมองโดปามีนเป็นสารเคมีสารเคมีชนิดหนึ่งในขณะที่นักประสาทวิทยาอ่าน Montague กล่าวว่า“ ระบบโดปามีนถูกแย่งชิงโดยยาเสพติดทุกชนิดที่ถูกทำร้ายถูกทำลายโดยโรคพาร์คินสันและถูกรบกวนจากความเจ็บป่วยทางจิตในรูปแบบต่าง ๆ ” 38 ยารักษาโรคจิตกิจกรรมของระบบโดปามีนในขณะที่การบริหารโดปามีนให้กับผู้ป่วยของพาร์กินสันซึ่งมีการผลิตโดปามีนที่บกพร่องแล้วสามารถกระตุ้นให้เกิดภาพหลอนและประสบการณ์เหนือธรรมชาติตัวอย่างเช่นในการศึกษาหนึ่งภาพหลอนที่พบบ่อยที่สุดคือความรู้สึกของคนอื่นในห้อง 39 การใช้ยาผิดกฎหมายเช่นยาบ้าและโคเคนสามารถนำไปสู่ประสบการณ์เหนือธรรมชาติ

238

กีดขวาง

และเดาว่าอะไร?พวกเขาส่งผลกระทบต่อระบบโดปามีนด้วยเหตุผลเหล่านี้โดปามีนจึงเป็นแหล่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่พยายามทำความเข้าใจกับความสูงหากมีปืนสูบบุหรี่สำหรับพื้นฐานทางชีวภาพของ supersense ดูเหมือนว่าจะถูกจับโดยมือของโดปามีน 40 40 นักประสาทวิทยา Peter Brugger ได้เสนอว่า Apophenia แสดงถึงกิจกรรมที่ผิดปกติของระบบโดปามีนที่ผิดปกติความบังเอิญในโลกและเห็นรูปแบบที่พวกเราที่เหลือพลาด 41 ความคิดก็คือโดปามีนทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกรองกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโดปามีนมากเกินไปในสมองและทุกรูปแบบและการรับรู้ที่สำคัญน้อยเกินไปและไม่มีการตรวจพบหากคุณทำคะแนนสูงในระดับความคิดวิเศษที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้คุณมีแนวโน้มที่จะตรวจจับรูปแบบและลำดับมากกว่าผู้ที่ทำคะแนนต่ำกล่าวอีกนัยหนึ่งผู้คลางแคลงและผู้เชื่อไม่เพียง แต่แตกต่างกันในระดับสูง แต่ยังรวมถึงวิธีที่พวกเขารับรู้โลกผู้คลางแคลงและผู้เชื่ออาจแตกต่างกันในกิจกรรมของระบบโดปามีนตัวอย่างเช่นลองนึกภาพการดูทีวีของคุณเมื่อไม่เสียบเสาอากาศหิมะที่คลุมเครือบนหน้าจอเป็นเหมือนเสียงรบกวนหากคุณต้องใส่ภาพหน้าจาง ๆ ของใบหน้าที่มีพื้นหลังเช่นนี้ผู้เชื่อจะมีแนวโน้มที่จะพูดว่าใบหน้ามีอยู่เมื่อเทียบกับผู้คลางแคลงซึ่งต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบหน้าผู้คลางแคลงมักปฏิเสธการมีอยู่ของเป้าหมายเมื่ออยู่ที่นั่นจริงๆนั่นเป็นเพราะผู้คลางแคลงและผู้เชื่อมีเกณฑ์ที่แตกต่างกัน 42 เพื่อทดสอบสิ่งนี้ Brugger และเพื่อนร่วมงานของเขาขอให้ผู้คลางแคลงและผู้เชื่อตรวจจับคำและใบหน้าที่นำเสนอบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ท่ามกลางเสียงรบกวนมากมายจากนั้นนักวิจัยได้บริหารยาเลวาโดปาเพื่อเพิ่มระดับโดปามีนในทั้งสองกลุ่มตอนนี้ผู้คลางแคลงเห็นรูปแบบ แต่ผู้เชื่อนั้นอนุรักษ์นิยมมากขึ้นโดปามีนเปลี่ยนการตั้งค่าบน ﬁ lter สำหรับผู้ที่อยู่ในสองกลุ่มนี้การเปลี่ยนระดับของสารสื่อประสาทได้เปลี่ยนแปลงการรับรู้ของผู้เข้าร่วมแต่ละคน 43 การวิจัยเกี่ยวกับกลไกสมองของ supersense นั้นน่าสนใจ แต่แทบจะไม่น่าแปลกใจเลยเรารู้ว่าความเป็นจริงสามารถบิดเบือนได้ง่ายโดยการเปลี่ยนเคมีสมองยาหลอนประสาททำให้เกิดรัฐแฟนตาซีซึ่งประสบการณ์เหนือธรรมชาติทุกประเภทสามารถเกิดขึ้นได้นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสารเปลี่ยนความคิดและ

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

239

พิธีกรรมมีความสำคัญต่อพิธีทางศาสนาไม่ว่าจะผ่านพืชที่มีพิษหรือความปลาบปลื้มใจที่เกิดจากความมึนงงการเปลี่ยนแปลงสมองจะเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงของความเป็นจริงอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมความคลั่งไคล้โรคจิตมักเชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์แนวโน้มที่จะแสวงหาและรับรู้รูปแบบที่พวกเราที่เหลือไม่เห็นอะไรเลยอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสรรค์ศิลปินนักเขียนนักแต่งเพลงและนักวิทยาศาสตร์ที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดในโลกมีความสัมพันธ์กับช่วงเวลาแห่งความบ้าคลั่งและหลายคนมีอาการจิตที่เต็มไปด้วยโรคจิตการแสดงรายการบางส่วนก็เหมือนกับการรวบรวมใครในโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์: Van Gogh, Beethoven, Byron, Dickens, Coleridge, Hemingway, Keats, Twain, Woolf และแม้แต่ Newtonความคิดสร้างสรรค์อาจเป็นประโยชน์ของการเพิ่มขึ้น แต่บางครั้งราคาที่เราจ่ายคือความเจ็บป่วยทางจิตที่อาจเกิดขึ้นอย่างไรก็ตามเราไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยทางจิตเวชเพื่อสมมติว่า Supersense ดำเนินการในโลกค่อนข้างการตรวจจับรูปแบบและการเชื่อมต่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปกติ แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะเพิกเฉยต่อรูปแบบและการเชื่อมต่อที่อาจไม่มีอยู่จริงการคิดเหนือธรรมชาติอาจรบกวนความสามารถของเราในการดำเนินการอย่างมีเหตุผลเช่นเมื่อเราสมมติว่ามีหรือกิจกรรมของเหตุการณ์ที่มองไม่เห็นในโลกเมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นจริงๆเพื่อเอาชนะปัญหานี้เราต้องใช้รูปแบบการควบคุมจิตใจการควบคุมความคิดของ Supersense อาจเป็นผลมาจากจิตใจที่ออกแบบมาเพื่ออนุมานโครงสร้างที่มองไม่เห็นในโลก แต่ไม่ใช่พวกเราทุกคนที่ยอมจำนนต่อความคิดที่ว่าเหนือธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องจริงพวกเราหลายคนสามารถเพิกเฉยต่อการใช้เหตุผลที่เข้าใจง่ายนี่จะเป็นอย่างไร?พิจารณาปรากฏการณ์บางส่วนที่ระบุไว้ในหนังสือเล่มนี้อีกครั้งเหตุใดเด็กจึงค้นหาวัตถุที่ตกลงมาซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยตรงทำไมเด็ก ๆ ถึงมีปัญหาในการทำความเข้าใจว่าสิ่งที่ดูมีชีวิตชีวานั้นไม่ได้เป็นเช่นนั้น?เหตุใดทฤษฎีที่ใช้งานง่ายของเด็ก ๆ เกี่ยวกับวิธีการทำงานของการมองเห็นที่แตกต่างกันทำไมเราไม่เพิกเฉยต่อการจ้องมองของคนอื่นทำไมความเข้าใจผิดที่เข้าใจง่ายแบบเด็ก ๆ จึงอยู่เฉยๆในผู้ใหญ่เท่านั้นที่จะปรากฏขึ้นอีกครั้งในชีวิตในภายหลัง?ทำไมเราถึงทำ

240

กีดขวาง

ไม่สนใจความคิดโง่ ๆ ?เหตุใดผู้ป่วยโรคจิตจึงตรวจพบรูปแบบที่มีนัยสำคัญทุกรูปแบบในโลก?ในสถานการณ์ทั้งหมดเหล่านี้มีบางอย่างเกี่ยวกับวิธีที่จิตใจจัดระเบียบและควบคุมสิ่งที่เราทำและคิดเราต้องการการจัดการจิตใจเพื่อหยุดยั้งตัวเองติดอยู่ในกิจวัตรและความคิดนักวิทยาศาสตร์ที่สนใจในการทำความเข้าใจว่าจิตใจทำงานอย่างไรมีความสนใจมากขึ้นในการพัฒนาส่วนหน้าของสมองในแง่ของขนาดที่แท้จริงส่วนด้านหน้าของสมองมีการขยายตัวอย่างมหาศาลในเผ่าพันธุ์มนุษย์สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมหน้าผากของเราถึงใหญ่กว่ามากเมื่อเทียบกับบิชอพอื่น ๆ และกะโหลกซากดึกดำบรรพ์ prehominidซึ่งแตกต่างจากลูกพี่ลูกน้องสัตว์ที่ใกล้เคียงที่สุดของเราเราโดดเด่นในความสามารถในการวางแผนและประสานงานพฤติกรรมและความคิดในวิธีที่ปรับตัวได้เราสามารถคาดการณ์เหตุการณ์และจินตนาการได้สมองหน้าผากของเราเป็นสิ่งที่พวกเขาเป็นเราสามารถเอาชนะลิงอื่น ๆ ลิงและมนุษย์ยุคหินได้ที่หินกระดาษและกรรไกร 4444 ภูมิภาคหนึ่งของกลีบหน้าผากเป็นจุดสนใจหลักที่น่าสนใจ: เยื่อหุ้มสมองด้านหลังด้านหลังหรือ DLPC.DLPC มีบทบาทสำคัญในการควบคุมชุดการดำเนินงานที่เรียกว่าฟังก์ชั่นผู้บริหารของสมองซึ่งรวมถึง: 1. หน่วยความจำในการทำงาน: ความสามารถในการเก็บความคิดชั่วคราวในใจคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตและจัดลำดับลำดับที่สอดคล้องกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 3. การยับยั้ง: ความสามารถในการเพิกเฉยต่อความคิดและการกระทำที่ไม่เกี่ยวข้องหรือการกระทำที่ไม่เกี่ยวข้อง 4. การประเมินผล: ความสามารถในการชั่งน้ำหนักความคิดและการกระทำในแง่ของเป้าหมายที่ต้องการ.46 ช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยยึดติดกับข้อมูลในร้านค้าหน่วยความจำชั่วคราวคุณใช้หน่วยความจำที่ใช้งานได้ทุกครั้งที่คุณต้องจดจำหมายเลขโทรศัพท์ใหม่หรือชื่อของใครบางคนในงานปาร์ตี้ข้อมูลในหน่วยความจำการทำงานเป็นเพียง brie ﬂ y ที่จัดขึ้นในร้านเป็นร้านค้าที่เปราะบางและ จำกัดนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะจดจำหมายเลขโทรศัพท์ที่ยาวมากเว้นแต่คุณจะซ้อมพวกเขาด้วยการทำซ้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

241

หน่วยความจำในการทำงานเป็นเหมือนด้านหลังชั่วคราวของซองจดหมายที่เราใช้เมื่อเราต้องการทราบบางสิ่งบางอย่าง brie ﬂ yการวางแผนคือวิธีที่คุณบรรลุเป้าหมายช่วยให้คุณจินตนาการและสร้างแบบจำลองทางจิตเพื่อเล่นสถานการณ์ต่าง ๆ ล่วงหน้าตัวอย่างเช่นลองพิจารณาผู้ช่วยเสริมสมองนี้: คุณมีสุนัขจิ้งจอกไก่และถุงข้าวโพดเพื่อขนส่งข้ามแม่น้ำ แต่คุณมีพื้นที่เพียงพอในเรือสำหรับหนึ่งรายการในการเดินทางแต่ละครั้งคุณขนส่งทั้งสามข้ามแม่น้ำโดยไม่สูญเสียสิ่งของใด ๆ ได้อย่างไร?จำไว้ว่าสุนัขจิ้งจอกกินไก่และไก่กินข้าวโพดดังนั้นคุณจึงไม่สามารถทิ้งคู่เหล่านี้ไว้ได้เพียงอย่างเดียวในธนาคารในการแก้ปัญหานี้คุณต้องวางแผน 47 คุณสามารถจินตนาการถึงผลที่ตามมาจากการเดินทางครั้งแรกการเดินทางครั้งที่สองและอื่น ๆ จนกว่าคุณจะแก้ปัญหาหากคุณไม่ทราบคำตอบของคำตอบนี้ก็ต้องเอาไก่ไปมาข้ามแม่น้ำมากกว่าหนึ่งครั้งการยับยั้งเป็นการดำเนินการที่สำคัญอีกประการหนึ่งของ DLPCเราต้องการการยับยั้งเพื่อยกเลิกความคิดและการกระทำที่ไม่เหมาะสมตัวอย่างเช่นพูดออกมาอย่างรวดเร็วสีของหมึก - สีดำสีขาวหรือสีเทา - สำหรับคำต่อไปนี้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 48

คำว่าคำว่าคำว่าคำนี้น่าจะค่อนข้างง่ายมาทำให้ง่ายขึ้น

สีขาวดำสีดำสีขาวสีขาวสีเทาโอเคคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วพยายามพูดสีของคำในรายการถัดไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

สีดำขาวดำสีขาวขาวดำคุณทำผิดพลาดหรือไม่?อาจจะไม่ แต่ฉันพนันได้เลยว่าคุณมีปัญหาและช้าลงมากการกระทำของการอ่านทำให้เกิดแรงกระตุ้นให้พูดคำว่าอ่าน แต่ถ้าคำว่ามีคำตอบที่ถูกต้องการตอบสนองนั้นจะต้องถูกละเว้นเพื่อที่จะได้

242

กีดขวาง

ระบุสีในทางกลับกันการตั้งชื่อสีจะไม่ถูกเรียกโดยอัตโนมัติโดยการอ่านดังนั้นการพูดคำว่าจะต้องถูกระงับหรือยับยั้งเพื่อให้การตอบสนองที่ถูกต้องนี่คือเหตุผลที่การยับยั้งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการวางแผนและควบคุมพฤติกรรม: ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความคิดและการกระทำที่บรรลุเป้าหมายของคุณในที่สุดเพื่อให้ได้ประโยชน์จากฟังก์ชั่นผู้บริหารทั้งหมดนี้เราจำเป็นต้องประเมินประสิทธิภาพของเราอย่างที่เราเห็นก่อนหน้านี้พฤติกรรมการปรับตัวสามารถช่วยให้เราเรียนรู้จากความสำเร็จและความผิดพลาดในอดีตโปรดจำไว้ว่าผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายด้านหน้าของ Damasio ในบทที่ 2 ที่ไม่สามารถเล่นเกมการพนันได้สำเร็จหรือไม่?พวกเขาขาดการประเมินที่จำเป็นของกฎที่ซ่อนอยู่ซึ่งควบคุมผลตอบแทนระบบที่เรียนรู้จากอดีตและช่วยให้เราตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตรวมถึง DLPCหนึ่งในระบบสารสื่อประสาทหลักของ DLPC คือ--ถูกต้องเลย .--โดปามีนทั้งหมดนี้อาจสะดวกและเรียบง่ายเกินไปและอาจเป็นความเชื่อมโยงของฉันในการเชื่อมต่อในที่ทำงาน แต่ดูเหมือนจะมีรูปแบบที่สอดคล้องกันเกิดขึ้นตอนนี้เราคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของสมองใน DLPC มีความหมายที่สำคัญสำหรับการพัฒนาเด็กและความก้าวหน้าในการให้เหตุผล 49 การควบคุมพฤติกรรมความคิดการใช้เหตุผลและการตัดสินใจ-โดยย่อในทุกแง่มุมของสติปัญญาที่สูงกว่าที่มนุษย์มีอยู่ในฟังก์ชั่นผู้บริหารของ DLPCในขณะที่เราพัฒนาเป็นผู้ใหญ่เราจะควบคุมการกระตุ้นได้มากขึ้นและต้องใช้กิจกรรมของ DLPCตัวอย่างเช่นคุณจำวัตถุที่ตกลงมาได้หรือไม่?ใดที่ตกลงมาเร็วกว่าวัตถุหนักหรือที่เบากว่า?เราคิดอย่างสังหรณ์ใจว่าวัตถุที่หนักกว่าควรจะลดลงเร็วขึ้นและประหลาดใจถ้าพวกเขาไม่เมื่อผู้ใหญ่เรียนรู้ว่าความเชื่อนี้ผิดการวัดสมองของพวกเขาในขณะที่พวกเขาคิดเกี่ยวกับปัญหาเปิดเผยว่า DLPC ของพวกเขาทำงานอยู่ 50 เมื่อผู้ใหญ่มีเหตุผลเกี่ยวกับปัญหาของลินดาจากบทที่ 3 และพิจารณาว่าเธอมีแนวโน้มที่จะเป็นคนงานธนาคารหรือเป็นสตรีนิยม DLPC ของพวกเขาพยายามที่จะระงับแนวโน้มที่จะไปสำหรับคำตอบที่เข้าใจง่ายที่สุด 51 แม้ว่าพวกเขาจะให้คำตอบที่ถูกต้องทฤษฎีไร้เดียงสาเด็กเก่ายังคงทำงานอยู่และต้องถูกระงับความคิดที่ไม่ดีจะไม่หายไปพวกเขาแขวนอยู่และต้องถูกเพิกเฉย!

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

243

อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับฟังก์ชั่นมากมายของร่างกายมนุษย์มีการลดลงของฟังก์ชั่นผู้บริหารที่ลดลงสู่วัยชราปริศนาความคิดที่เป็นที่นิยมจำนวนมากเช่น Sudoku หรือ FAD ปัจจุบันสำหรับเกมคอมพิวเตอร์“ ฝึกสมอง” แตะความสามารถ DLPCเมื่อพวกเขาอ้างว่าพวกเขาสามารถวัดว่าสมองของคุณอายุเท่าไหร่พวกเขาทำสิ่งนี้โดยการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของคุณกับงานที่ขึ้นอยู่กับ DLPC กับช่วงปกติที่คาดหวังสำหรับผู้ที่มีอายุต่างกันนั่นเป็นเพราะฟังก์ชั่น DLPC เปลี่ยนไปตามอายุผลที่ตามมาอย่างหนึ่งของการสูญเสียการควบคุม DLPC ในผู้ใหญ่คือการย้อนกลับกลับไปทำงานและคิดเหมือนเด็กเล็กเมื่อใดก็ตามที่ระบบนี้มีความบกพร่องผ่านการแก่ชราความเสียหายหรือโรคความสามารถในการจดจำยับยั้งวางแผนและประเมินผลจะถูกบุกรุกเราลืมสิ่งต่างๆเราทุกคนรู้จักญาติผู้สูงอายุที่ดูเหมือนจะอายทางสังคมในการขาดการควบคุมการวางแผนการเดินทางกลายเป็นงานที่น่าเบื่อเราอาจสูญเสียความสามารถในการตัดสินอย่างมีเหตุผลมีความสมดุลและทิ้งเงินมรดกทั้งหมดของเราไว้ที่“ ทนายความที่ดีที่เคยเป็นประโยชน์มาก่อน”วัยชราไม่รับประกันภูมิปัญญาโรคที่โหดร้ายที่สุดสำหรับพวกเราทุกคนที่เข้าสู่วัยชราอาจมีสไลด์ที่ทำลายล้างและก้าวหน้ามากขึ้นในการลดลงเมื่อเราสูญเสียฟังก์ชั่น DLPCโรคอัลไซเมอร์มักถือว่าเป็นโรคที่โหดร้ายที่สุดการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพเป็นแง่มุมที่น่าวิตกที่สุดของการเจ็บป่วยคนที่คุณใช้ชีวิตของคุณรู้และรักกลายเป็นคนแปลกหน้าอย่างสมบูรณ์ที่ต้องการความสนใจและการดูแลเด็กเล็กอัลไซเมอร์เป็นความผิดปกติของระบบประสาทซึ่งหมายความว่าส่วนใหญ่จะทำลายฟังก์ชั่นที่สูงกว่าที่ควบคุมพฤติกรรมและการคิดมันเริ่มต้นด้วยการขาดงานจากนั้นก็มีการระเบิดอย่างรุนแรงและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมสามารถแจ้งเตือนสมาชิกในครอบครัวว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ถูกต้องปัญหาเกี่ยวกับการวินิจฉัยการโจมตีของอัลไซเมอร์คือเมื่อเรามีอายุมากขึ้นเราทุกคนต่างก็เปลี่ยนบุคลิกภาพของเราเราสามารถหลงลืมไม่ถูกห้ามไม่พอใจและอื่น ๆ แต่อัลไซเมอร์ถอดชิ้นส่วนบุคคลในระดับที่เขาหรือเธอกลายเป็นครอบครัวและเพื่อน ๆ

244

กีดขวาง

เมื่อเร็ว ๆ นี้การวิจัยเกี่ยวกับอัลไซเมอร์ได้ให้หลักฐานที่ไม่คาดคิดสำหรับ Supersenseก่อนที่ผู้ใหญ่ที่มีอาการอัลไซเมอร์จะได้รับการลดลงอย่างมากพวกเขาแสดงสัญญาณว่าจิตใจไม่เคยละทิ้งวิธีการให้เหตุผลที่เป็นเด็กอย่างแท้จริง 52 ตัวอย่างเช่นเมื่อถูกถามว่า“ ทำไมมีต้นไม้?”“ ทำไมดวงอาทิตย์ถึงสดใส”หรือ“ ทำไมมีฝนตก?”ผู้ป่วยให้คำตอบเช่นเดียวกับเด็กเล็กพวกเขาบอกว่าต้นไม้มีไว้สำหรับที่ร่มดวงอาทิตย์สว่างขึ้นเพื่อให้เราเห็นและฝนก็มีไว้สำหรับการดื่มและเติบโตพวกเขากลับไปที่ความคิดทาง teleological ของเด็กอายุเจ็ดขวบที่เราเห็นในบทที่ 5 พวกเขายังกลายเป็นนักเคลื่อนไหวอีกครั้งเนื่องจากชีวิตที่ไม่มีชีวิตเช่นดวงอาทิตย์ไม่ใช่กรณีที่พวกเขาลืมทุกสิ่งที่พวกเขารู้ 53 แต่ข้อผิดพลาดที่พวกเขาทำทฤษฎีที่ใช้งานง่ายของเด็กภาวะสมองเสื่อมแสดงให้เห็นว่าการคิดที่เข้าใจง่ายไม่ได้ถูกทอดทิ้ง แต่ถูกระงับโดยศูนย์สมองที่สูงขึ้นเมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่เมื่อความสามารถในการยับยั้งหายไปทฤษฎีที่ใช้งานง่ายจะปรากฏขึ้นอีกครั้งการอยู่ในนักจิตวิทยาสองคนได้สรุปว่ามีระบบที่แตกต่างกันอย่างน้อยสองระบบเมื่อพูดถึงการคิดและการใช้เหตุผล 54 ระบบหนึ่งเชื่อว่าจะมีวิวัฒนาการโบราณในแง่ของการพัฒนามนุษย์มันถูกเรียกว่าใช้งานง่ายเป็นธรรมชาติอัตโนมัติฮิวริสติกและโดยนัยเป็นระบบที่เราคิดว่าทำงานในเด็กเล็กก่อนที่จะถึงวัยเรียนระบบที่สองเป็นระบบที่เชื่อกันว่าล่าสุดในวิวัฒนาการของมนุษย์อนุญาตให้ใช้เหตุผลเชิงตรรกะ แต่ถูก จำกัด โดยฟังก์ชั่นผู้บริหารต้องใช้หน่วยความจำในการทำงานการวางแผนการยับยั้งและการประเมินผลระบบการให้เหตุผลครั้งที่สองนี้เรียกว่าแนวคิดเชิงตรรกะการวิเคราะห์เชิงเหตุผลการไตร่ตรองโดยเจตนา-ความตั้งใจและชัดเจนมันเกิดขึ้นในภายหลังในการพัฒนาและเป็นรากฐานของความสามารถของเด็กในการดำเนินการแก้ปัญหาเชิงตรรกะและมีเหตุผลเมื่อเราให้เหตุผลเกี่ยวกับโลกที่ใช้ระบบทั้งสองนี้บางครั้งพวกเขาอาจทำงานร่วมกันได้Supersense ที่เราพบในขณะที่ผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่เหลืออยู่ของระบบการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายของเด็กที่เกิดขึ้นอย่างไม่ถูกต้องพร้อมคำอธิบายที่ไม่ได้เป็นแบบจำลองที่มีเหตุผลของโลก

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

245

บางคนอาจคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะมีความเชื่อมั่นและความเชื่อในอาถรรพณ์นั้นขาดกระบวนการคิดที่มีเหตุผล แต่นั่นจะง่ายเกินไปการศึกษาพบว่าทั้งสองระบบการคิดที่ใช้งานง่ายและมีเหตุผลอยู่ร่วมกันในบุคคลเดียวกันมีสองวิธีที่แตกต่างกันในการตีความโลกในความเป็นจริงเมื่อเราวัดการพึ่งพาสัญชาตญาณไม่พบความสัมพันธ์กับข่าวกรองคนที่ใช้งานง่ายไม่โง่มากขึ้น 55 พวกเขามีแนวโน้มที่จะเชื่อเหนือธรรมชาติมากขึ้นการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าอารมณ์เป็นปัจจัยสำคัญในการก่อให้เกิดความเชื่อเหนือธรรมชาติในผู้ที่ให้คะแนนสูงกว่ามาตรการของสัญชาตญาณ 56 ตัวอย่างเช่นความสุขผู้ใหญ่ที่ใช้งานง่ายมีแนวโน้มที่จะนั่งห่างจากคนที่พวกเขาเชื่อว่ามีการปนเปื้อนอีกครั้งการปนเปื้อนทางจิตวิทยาที่เราอธิบายไว้ในบทที่ 7 พวกเขายังสามารถโยนปาเป้าที่รูปภาพของทารกได้น้อยลงมาตรการนี้อีกครั้งกฎวิเศษที่เห็นอกเห็นใจของความคล้ายคลึงกันโดยที่วัตถุที่มีลักษณะคล้ายกันเชื่อกันว่าแบ่งปันการเชื่อมต่อที่มีมนต์ขลังแม้ว่าบุคคลอาจไม่ได้ตระหนักถึงกระบวนการคิดที่เป็นแนวทางในพฤติกรรมดังกล่าว แต่ผลกระทบเหล่านี้เผยให้เห็นความคิดที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการใช้เหตุผลทางเวทย์มนตร์ที่เห็นอกเห็นใจSupersense อยู่ที่ด้านหลังของจิตใจของเราในการใช้พฤติกรรมและความคิดของเราและอารมณ์ของเราอาจมีบทบาทสำคัญสิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมบุคคลที่มีเหตุผลและมีการศึกษาสูงอย่างสมบูรณ์แบบยังสามารถรักษาความเชื่อเหนือธรรมชาติได้Marjaana Lindeman ที่มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิเพิ่งทดสอบรูปแบบความเชื่อและเหตุผลและบทบาทของทฤษฎีที่ไร้เดียงสาที่ไร้เดียงสา 57 เธอได้ตรวจสอบการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายก่อนอื่นเธอถามพวกเขาเกี่ยวกับความเชื่อเหนือธรรมชาติทั้งทางฆราวาสและศาสนาจากนั้นเธอก็ประเมินความเข้าใจผิดที่เข้าใจง่ายเธอถามคำถามเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวแบบอนิเมชั่นการใช้เหตุผลทาง teleological มานุษยวิทยาความสำคัญและความสับสนในแนวความคิดหลักที่พวกเขามีเกี่ยวกับแง่มุมทางกายภาพชีวภาพและจิตวิทยาของโลก - ทุกประเภทของพื้นที่ที่เด็ก ๆ มีเหตุผลเกี่ยวกับตัวเองซึ่งบางครั้งนำไปสู่ความเข้าใจผิดเธอถามคำถามเช่น“ เมื่อฤดูร้อนอบอุ่น ﬂ owers อยากจะบานไหม?”หรือ“ เฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ รู้อะไรเกี่ยวกับอดีตหรือไม่”ในที่สุดเธอก็ถามพวกเขาว่าพวกเขาคิดแบบไหน

246

กีดขวาง

ที่ต้องการ-ปฏิกิริยาลำไส้ที่ใช้งานง่ายหรือการใช้เหตุผลเชิงวิเคราะห์ที่คิดออกมาเป็นอย่างดีเมื่อเธอเปรียบเทียบผู้ใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากกับผู้ที่สงสัยมากขึ้น Lindeman พบว่าผู้เชื่อมีแนวโน้มที่จะใช้คุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมของหมวดหมู่แนวคิดหนึ่งไปยังอีกประเภทหนึ่งตัวอย่างเช่นพวกเขามีแนวโน้มที่จะบอกว่าเก้าอี้เก่ารู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับอดีต (แสดงถึงทรัพย์สินทางจิตของวัตถุที่ไม่มีชีวิต) หรือความคิดอาจถูกถ่ายโอนไปยังผู้อื่น (แสดงถึงคุณสมบัติทางกายภาพของสภาพจิตใจ)พวกเขามีความหลากหลายทาง teleologically และมีแนวโน้มที่จะสร้างความเกลียดชังเช่นเดียวกับมานุษยวิทยาพวกเขายังมีความสำคัญมากขึ้นและมีความรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ เชื่อมโยงกันในโลกพวกเขาได้รับการศึกษาน้อยลงหรือไม่?ไม่ได้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทำคะแนนได้สูงเท่ากับนักเรียนที่สงสัยเกี่ยวกับมาตรการอื่น ๆ ของเหตุผลความมีเหตุผลและความเชื่อเหนือธรรมชาติสามารถอยู่ร่วมกันในบุคคลเดียวกันนักเรียนเหล่านี้เป็นซูเปอร์ไบรท์ที่ชอบหรือมีแนวโน้มที่จะพึ่งพาวิธีคิดที่ใช้งานง่ายฟินแลนด์อาจมีหนึ่งในอัตราที่สูงที่สุดของความต่ำช้าในโลก แต่การศึกษาครั้งใหญ่ของนักเรียนผู้ใหญ่พิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่มีการศึกษาไม่ได้แบ่งออกเป็นผู้ที่มีความรุนแรงและผู้ที่ไม่มีใครเมื่อผู้คนพึ่งพาการตอบสนองที่รวดเร็วและไม่ได้เรียนรู้พวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้ supersense ของพวกเขาและเป็นสิ่งที่ถูกกระตุ้นอย่างง่ายดายในพวกเราส่วนใหญ่อะไรต่อไป?ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กฉันพูดตอนเป็นเด็กฉันเข้าใจว่าเป็นเด็กฉันคิดว่าเป็นเด็ก แต่เมื่อฉันกลายเป็นผู้ชายฉันก็เอาสิ่งที่เป็นเด็ก- โครินธ์ 13:11

ตลอดหนังสือเล่มนี้ฉันได้โต้เถียงว่าความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติเป็นผลมาจากกระบวนการให้เหตุผลเกี่ยวกับคุณสมบัติและเหตุการณ์ตามธรรมชาติในโลกของเราซึ่งรวมถึงการออกแบบจิตใจสำหรับการตรวจจับรูปแบบและโครงสร้างที่อนุมานซึ่งอาจไม่มีทฤษฎีที่ไร้เดียงสาของเราเป็นพื้นฐานของความเชื่อเหนือธรรมชาติของเราและวัฒนธรรมและประสบการณ์เพียงแค่ทำงานเพื่อเสริมสร้างสิ่งที่เราถือไว้อย่างถูกต้องนี่คือเหตุผลที่ความรู้สึกของการจ้องมองเป็นแบบจำลองที่น่าสนใจสำหรับ

ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

247

ต้นกำเนิดและการพัฒนาของอภินิหารเด็ก ๆ ไม่ได้บอกว่ามนุษย์สามารถตรวจจับสายตาที่มองไม่เห็นในความเป็นจริงมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขารายงานว่าพวกเขาสามารถทำได้อย่างไรก็ตามเด็กเล็กและผู้ใหญ่หลายคนคิดว่าวิสัยทัศน์ทำงานได้โดยบางสิ่งบางอย่างออกจากดวงตาดังนั้นเมื่อพวกเขาประสบกับตอนที่ดูเหมือนจะตรวจจับสายตาที่มองไม่เห็นความเชื่อนี้ก็ปรากฏขึ้นตามธรรมชาติว่าเป็นความสามารถที่ไม่มีข้อสงสัยมันไม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติโดยคนส่วนใหญ่เด็ก ๆ ไม่ได้รับคำสั่งให้คิดแบบนี้โมเดลนี้แสดงให้เห็นว่าการรวมกันของทฤษฎีที่ใช้งานง่ายการตรวจจับรูปแบบและการสนับสนุนในที่สุดจากวัฒนธรรมก่อให้เกิดความเชื่อเหนือธรรมชาติสากลฉันคิดว่าบางสิ่งที่คล้ายกันมากอาจเกิดขึ้นสำหรับความเชื่อเหนือธรรมชาติอื่น ๆความคิดเกี่ยวกับการปนเปื้อนทางจิตวิทยาที่เราตรวจสอบในบทก่อนหน้านี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากความจำเป็นทางจิตวิทยาซึ่งมีรากฐานมาจากการใช้เหตุผลทางชีวภาพที่ไร้เดียงสาของเราอีกครั้งวิธีคิดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราสอนลูก ๆ ของเราความเป็นคู่ที่ใช้งานง่ายและความคิดที่ว่าจิตใจสามารถอยู่ได้อย่างอิสระจากร่างกายเป็นอีกเรื่องหนึ่งวิธีการคิดทั้งหมดเหล่านี้ทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและยังเหนือธรรมชาติในคำอธิบายของโลกดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้บางคนแย้งว่าการเหนือธรรมชาติของผู้ใหญ่เป็นผลมาจากการปลูกฝังทางศาสนาของลูก ๆ ของเราอย่างไรก็ตามฉันหวังว่าฉันจะเชื่อมั่นในคุณว่าความเชื่อเหนือธรรมชาติทางโลกที่เราได้ตรวจสอบตลอดทั้งเล่มนี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากศาสนาสิ่งสำคัญที่สุดคือความเชื่อบางอย่างยังคงอยู่เฉยๆในขณะที่คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการเติบโตเหนือธรรมชาติสิ่งนี้เกิดขึ้นแม้ในผู้ใหญ่ที่มีการศึกษาสูงเราทุกคนสามารถสร้างความบันเทิงให้กับความเชื่อที่แปลกประหลาดและยอดเยี่ยมเกี่ยวกับโลกเราอาจนำสิ่งที่เป็นเด็กออกไปตามที่โครินธ์แนะนำ แต่เราไม่เคยกำจัดพวกเขาทั้งหมดการศึกษาสามารถให้ความเข้าใจใหม่แก่เราและแม้กระทั่งความก้าวหน้าไปสู่มุมมองทางวิทยาศาสตร์ แต่การพัฒนาความทุกข์ความเสียหายและโรคแสดงให้เห็นว่าเราเก็บโครงกระดูกมากมายไว้ในตู้เสื้อผ้าจิตของเราหากความเข้าใจผิดเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับความเข้าใจของเราเกี่ยวกับคุณสมบัติและขีด จำกัด ของโลกวัสดุโลกที่มีชีวิตและโลกจิตมีโอกาสที่ดีที่พวกเขาสามารถสร้างพื้นฐานของความเชื่อเหนือธรรมชาติของผู้ใหญ่

248

กีดขวาง

ในขณะที่เด็ก ๆ ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกแห่งความเป็นจริงพวกเขาควรก้าวหน้าไปสู่มุมมองทางวิทยาศาสตร์ที่มากขึ้นของโลกเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นผู้ใหญ่ส่วนใหญ่มีความเชื่อเหนือธรรมชาติSupersense ยังคงอยู่ในช่วงและดำเนินการในชีวิตของเรามันอาจทำให้เรารู้สึกถึงการควบคุมพฤติกรรมของเราอย่างที่เราเห็นในบทเปิดการกระทำหลายอย่างของเราไม่ว่าเราจะหลีกเลี่ยงคาร์ดิแกนทำลายบ้านสัมผัสผ้าห่มหรือมีส่วนร่วมในพิธีกรรมการสอบให้วิธีการทางจิตวิทยาในการจัดการกับสิ่งต่าง ๆหากปราศจากความเชื่อเหล่านี้เราอาจรู้สึกอ่อนแอเราอาจไม่ได้ตระหนักว่า Supersense อยู่ในชีวิตของเราและยังทำอย่างชัดเจนดังนั้นเราสามารถพัฒนาออกจากความไร้เหตุผลได้หรือไม่?เหตุใดวิธีการดูโลกจึงยังคงดำเนินต่อไปในยุคของเหตุผลนี้?ในที่สุดเผ่าพันธุ์มนุษย์จะสมเหตุสมผลหรือไม่?ฉันไม่เชื่อเช่นนั้นมีปริศนาชิ้นหนึ่งที่ฉันได้รับการบอกกล่าวตลอดทั้งเล่มที่ต้องได้รับการพิจารณามันเคลื่อนไหวเกินกว่าคำถามของต้นกำเนิดและถามว่า: พวกเขามีประโยชน์ใด ๆ จากการมีส่วนร่วมหรือไม่?ท้ายที่สุดถ้าวิทยาศาสตร์มีศักยภาพที่จะยกระดับเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปสู่ระดับความสำเร็จใหม่ทำไมเรายังคงยอมแพ้ต่อความรุนแรง?ส่วนหนึ่งของคำตอบคือมันอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะฉันหวังว่าตอนนี้คุณจะขอบคุณอีกเหตุผลหนึ่งคือ Supersense ทำให้ความสามารถของเราเป็นไปได้ที่จะได้สัมผัสกับการเชื่อมต่อในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นซึ่งอาจจำเป็นสำหรับมนุษย์ในฐานะสัตว์สังคมแม้ว่ามนุษย์จะมีความสามารถในการให้เหตุผลและตัดสิน แต่ฉันคิดว่าเราจะถือว่าบางสิ่งในชีวิตไม่ได้ลดลงในการวิเคราะห์เหตุผลนั่นเป็นเพราะสังคมต้องการการคิดเหนือธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบความเชื่อที่ถือสมาชิกของกลุ่มร่วมกันโดยค่านิยมอันศักดิ์สิทธิ์ในหน้าเว็บฉันจะอธิบายว่า supersense นี้เป็นเหตุผลที่ใช้งานง่ายสำหรับค่าศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกมัดสังคมของเราเข้าด้วยกัน

บทที่สิบ

คุณจะปล่อยให้ภรรยาของคุณนอนกับ Robert Redford หรือไม่?

ในหนังสือเล่มนี้ฉันได้เสนอว่ามนุษย์ถูกบังคับให้เข้าใจธรรมชาติของโลกรอบตัวพวกเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิธีที่สมองของเราพยายามทำความเข้าใจประสบการณ์ของเรากระบวนการนี้เริ่มต้นตั้งแต่เด็กก่อนที่วัฒนธรรมจะเริ่มบอกเด็ก ๆ ว่าต้องคิดอย่างไรระหว่างทางเด็ก ๆ มีความเชื่อเกี่ยวกับโลกทั้งหมดรวมถึงเด็กที่จะต้องเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติถ้าเป็นจริงความคิดเหล่านี้นอกเหนือไปจากกฎหมายธรรมชาติที่เราเข้าใจอยู่ในปัจจุบันและด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นจิตใจที่ถูกปลดออกจากร่างกายซึ่งเป็นสาระสำคัญที่ประเสริฐซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของผู้คนสถานที่และสิ่งต่าง ๆ หรือความคิดที่ว่าผู้คนทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยพลังงานที่จับต้องได้และรูปแบบที่ซ่อนอยู่คิดถึงโลกเรายังคงอยู่ในความเชื่อเหล่านี้แม้จะไม่มีหลักฐานที่น่าสนใจว่าปรากฏการณ์ที่เราคิดว่ามีอยู่จริงในความเป็นจริงวัฒนธรรมอาจกระตุ้นความเชื่อเหล่านี้ด้วยจินตนาการและความคิด แต่พวกเขาเผาไหม้อย่างสดใสในสถานที่แรกเพราะความชอบตามธรรมชาติของเราที่จะสมมติว่า "มีบางสิ่งที่นั่น" ตามที่วิลเลียมเจมส์กล่าวไว้วัฒนธรรมเพียงแค่ใช้ความเชื่อเหล่านี้และให้ความหมายและเนื้อหาหากเราหลงทางเราจะกำจัดสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่?มนุษยชาติจะพัฒนาเป็นสายพันธุ์ที่สดใสที่ใช้ตรรกะ

250

กีดขวาง

อารมณ์และสัญชาตญาณเหนือกว่าและสูงกว่า?ดูเหมือนว่าไม่น่าเป็นไปได้ด้วยเหตุผลหลายประการเหตุผลแรกที่ฉันได้รับความเจ็บปวดในการใช้แรงงานตลอดทั้งเล่มก็คือว่า Supersense เป็นส่วนหนึ่งและพัสดุของการออกแบบจิตใจของเราและถูกฝังลึกลงไปในแบบที่เราให้เหตุผลเราอาจมีความสามารถในการวิเคราะห์เชิงตรรกะและการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่าย แต่สิ่งหนึ่งช้าและน่าเบื่อในขณะที่อีกอย่างรวดเร็วและรุนแรงสัญชาตญาณไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถเพิกเฉยได้อย่างง่ายดายและถึงแม้ว่าเราสามารถเรียนรู้ที่จะคิดในวิธีการวิเคราะห์เชิงเหตุผลการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันในการตัดสินใจของเราเพราะมันง่ายมากปกปิดและรวดเร็วเมื่อคนขับรถแท็กซี่ถามคาร์ลเซแกนผู้ล่วงลับไปแล้วนักจักรวาลวิทยาสำหรับการตอบสนองของเขาต่อคำถามว่ายูเอฟโอเป็นจริงหรือไม่เซแกนตอบว่าเขาพยายามที่จะไม่คิดกับท้องของเขาสำหรับพวกเราที่เหลือการควบคุมดังกล่าวมักจะขาดเพราะเรายอมจำนนต่อการใช้เหตุผลที่ไร้เดียงสาที่ไร้เดียงสามันไม่ถูกต้องเสมอไป แต่เราต้องจำไว้ว่ามันให้บริการเราได้ดีในอดีตมิฉะนั้นในฐานะสปีชีส์เราจะไม่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อเล่าเรื่องSupersense มาจากระบบการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายของเราและเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งหน้าของเราสิ่งนี้นำฉันไปสู่อีกเหตุผลที่สำคัญกว่าว่าทำไมเราถึงส่งเสริมความเป็นจริงฉันคิดว่า Supersense จะยังคงมีอยู่แม้ในยุคปัจจุบันเพราะมันทำให้ความมุ่งมั่นของเราเป็นไปได้ที่จะมีความคิดที่ว่ามีค่าศักดิ์สิทธิ์ในโลกของเราบางสิ่งบางอย่างศักดิ์สิทธิ์เมื่อสมาชิกของสังคมถือว่ามันเกินกว่าคุณค่าทางการเงินใด ๆให้ฉันยกตัวอย่างให้คุณชีวิตสามารถเต็มไปด้วยการตัดสินใจที่แตกต่างกันคนที่บริหารโรงพยาบาลต้องเผชิญกับทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายอย่างต่อเนื่องลองนึกภาพว่าคุณเป็นผู้ดูแลโรงพยาบาลและคุณมีเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐที่สามารถใช้ในการผ่าตัดปลูกถ่ายตับช่วยชีวิตเด็กหรือเพื่อลดหนี้ของโรงพยาบาลคุณจะทำอะไร?สำหรับคนส่วนใหญ่นี่จะเป็น noBrainer - แน่นอนว่าเราต้องช่วยเด็กนักจิตวิทยาเศรษฐกิจ Philip Tetlock ได้แสดงให้เห็นว่าผู้คนตกใจเมื่อพวกเขาได้ยินว่าผู้ดูแลระบบจะตัดสินใจที่จะเป็นประโยชน์ต่อโรงพยาบาลแม้ว่าเด็กจำนวนมากจะได้รับในระยะยาวจากการวางแผนทางการเงินที่ชาญฉลาด 1หากผู้ดูแลโรงพยาบาลตัดสินใจที่จะช่วยเด็ก แต่ใช้เวลานานในการตัดสินใจบางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณไม่ควร

คุณจะปล่อยให้ภรรยาของคุณนอนกับ Robert Redford หรือไม่?

251

ต้องคิดเกี่ยวกับพวกเขาคุณไม่สามารถวางราคาไว้ได้ในทำนองเดียวกันหากตัวเลือกจะต้องทำระหว่างการออมเด็กหนึ่งในสองการตัดสินใจนี้จะต้องใช้เวลานานตัวเลือกไม่ควรทำอย่างรวดเร็วภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ทนไม่ได้นี้ได้กลายเป็นที่รู้จักในนาม“ Sophie's Choice” หลังจากนวนิยายของ William Styron เกี่ยวกับแม่ชาวยิวที่ถูกบังคับให้ตัดสินใจว่าลูกสองคนของเธอจะตายในห้องแก๊ส Auschwitz และจะอยู่รอดได้ 2 เธอเลือกที่จะปล่อยให้ลูกชายของเธอมีชีวิตอยู่และลูกสาวของเธอตายเรารู้สึกอย่างสังหรณ์ใจว่าบางสิ่งถูกต้องและบางสิ่งบางอย่างผิดปกติการตัดสินใจบางอย่างควรเกิดขึ้นทันทีในขณะที่คนอื่นต้องทนทุกข์ทรมานการตัดสินใจสามารถหลอกหลอนเราได้แม้ว่าจะไม่มีการไม่แน่ใจทุกตัวเลือกมีป้ายราคาหากเราสนใจที่จะพิจารณามูลค่าที่สัมพันธ์กันไม่มีอาหารกลางวันฟรีดังนั้นในขณะที่เราอาจโกรธแค้นและขุ่นเคืองเกี่ยวกับตัวเลือกและการตัดสินใจบางอย่างความเป็นจริงก็คือทุกสิ่งสามารถลดลงไปสู่การวิเคราะห์ต้นทุนอย่างไรก็ตามการวิเคราะห์ค่าใช้จ่าย-ค่าใช้จ่ายคือวัสดุการวิเคราะห์นักวิทยาศาสตร์ความเย็นและเหตุผลนี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ประพฤติตนและเมื่อเราได้ยินว่าผู้คนคิดและเหตุผลเช่นนี้เราก็ขุ่นเคืองเมื่อตัวละครของ Robert Redford เสนอเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐให้นอนกับภรรยาของ Woody Harrelson รับบทโดย Demi Moore ผู้ชมภาพยนตร์รู้ว่ามันเป็นข้อเสนอที่ไม่เหมาะสมมันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจทางศีลธรรมดีกว่าที่เธอควรจะมีเรื่องมากกว่าทำเพื่อเงินหากคุณรักใครสักคนไม่ควรเข้าร่วมการเจรจาแม้ว่าเขาจะดูเหมือน Robert Redford!ในทำนองเดียวกันเมื่อเราได้ยินว่าผู้คนสามารถสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าอาศัยอยู่ในบ้านแห่งการฆาตกรรมหรือเก็บของที่ระลึกของนาซีเรารู้สึกเบื่อหน่ายเรารู้สึกว่ามันทางร่างกายแม้ว่าการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายอาจเปิดเผยปฏิกิริยาของเราที่จะไม่สมดุลกับค่าใช้จ่ายที่แท้จริง แต่เราก็ยังรู้สึกถึงความชั่วร้ายทางศีลธรรมและการละเมิดค่านิยมของสังคมนี่เป็นเพราะมนุษย์เป็นสายพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์เราปฏิบัติต่อสถานที่ศักดิ์สิทธิ์วัตถุศักดิ์สิทธิ์และชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าคุณค่าเชิงพาณิชย์ค่าที่วางไว้ในแต่ละนั้นขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจ แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละอย่างอาจเป็น“ ล้ำค่า” อย่างแท้จริงทางเลือกคือยอมรับว่าทุกอย่างมีราคาปัญหาเกี่ยวกับวิธีการที่ขับเคลื่อนด้วยตลาดในการตัดสินใจคือมันบ่อนทำลายการทำงานร่วมกันของกลุ่มซึ่ง

252

กีดขวาง

ถูกผูกไว้ด้วยกันโดยค่าศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ร่วมกันหากเราคิดว่าสิ่งใดและทุกคนสามารถซื้อได้การรวมกันนี้เป็นชิ้นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์นี้สูญเสียมูลค่าที่ไม่ใช่ทางการเงินพิเศษของพวกเขาด้วยเหตุผลนี้ค่าศักดิ์สิทธิ์บางอย่างจะต้องมีอยู่ซึ่งไม่สามารถวัดได้โดยการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลทุกสังคมต้องการสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องห้ามและไม่สามารถลดการแลกเปลี่ยนและการเปรียบเทียบได้ผู้คนไม่ได้ลงนามในกฎเหล่านี้อย่างชัดเจน แต่เราเข้าใจว่าในฐานะสมาชิกของกลุ่มสังคมเราคาดว่าจะมีส่วนร่วมในค่านิยมที่เป็นส่วนรวมเดียวกันนี่คือชิ้นส่วนของปริศนาบางสิ่งบางอย่างกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?นี่คือที่ที่ Supersense เข้ามาในตัวของมันเองสังคมสามารถบอกเราได้ว่าอะไรคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่จะต้องมีประสบการณ์ในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางสิ่งบางอย่างต้องกลายเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติมันจะต้องมากกว่าทางโลกมันจะต้องมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครและไม่สามารถถูกแทนที่ได้การตรวจสอบคุณสมบัติดังกล่าวต้องใช้ความคิดที่ออกแบบมาเพื่อรับรู้คุณสมบัติที่ซ่อนอยู่หากสิ่งที่สามารถคัดลอก, ซ้ำ, เสียหาย, โคลน, ปลอม, เปลี่ยน, แทนที่หรือทดแทนก็จะไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปเพื่อให้ได้ความเชื่อนี้เราต้องอนุมานว่ามีมิติเหนือธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในโลกอันศักดิ์สิทธิ์ของเราและด้วยความคิดนี้มาถึงคุณสมบัติเหนือธรรมชาติของความเชื่อมโยงและความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเราต้องการสิ่งเหล่านี้เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมเราถึงให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีค่าตามวัตถุประสงค์กระแทกแดกดันมันเป็น supersense ที่ช่วยให้เราสามารถพิสูจน์คุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์ของเราความไร้เหตุผลทำให้ความเชื่อของเรามีเหตุผลเพราะความเชื่อเหล่านี้ยึดมั่นในสังคมด้วยกันและในที่สุดก็ .--ในหนังสือเล่มนี้ฉันได้ร่างเรื่องราวว่าเราทุกคนต่างแบ่งปันกันอย่างไรในฐานะสมาชิกของสายพันธุ์ทางสังคมที่สูงสามารถเกิดขึ้นได้วัฒนธรรมและศาสนาเพียงแค่ใช้ประโยชน์จากความชอบของเราที่จะอนุมานมิติที่ซ่อนอยู่กับความเป็นจริงเราได้ค้นพบว่ากลไกการใช้เหตุผลที่พัฒนาขึ้นตามธรรมชาติของเราบังคับให้เราทำความเข้าใจกับโลกโดยการค้นหารูปแบบโครงสร้างและกลไกเราได้ทำสิ่งนี้อย่างสังหรณ์ใจตั้งแต่ต้นนานก่อนที่การศึกษาจะถูกคิดค้นการคิดเหนือธรรมชาติเป็นเพียงผลกระทบตามธรรมชาติของความล้มเหลวในการจับคู่สัญชาติญาณของเรากับความเป็นจริงที่แท้จริงของโลกยิ่งไปกว่านั้นสิ่งเหล่านี้

คุณจะปล่อยให้ภรรยาของคุณนอนกับ Robert Redford หรือไม่?

253

ความเข้าใจผิดไม่จำเป็นต้องทิ้งตลอดชีวิตของเราแม้ในฐานะผู้ใหญ่เราก็สามารถมีแบบจำลองที่มีเหตุผลของโลกพร้อมกันพร้อมกับแนวคิดที่ใช้งานง่ายของเราในช่วงวัยเด็กเรากลายเป็นสมาชิกที่เข้าร่วมของกลุ่มสังคมในฐานะเด็กเล็กเราอาจเป็นจุดสนใจของความสนใจของพ่อแม่ แต่เมื่อเราเติบโตเราต้องเรียนรู้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์เราต้องเรียนรู้ที่จะเจรจาต่อรองโลกสังคมที่มีความสนใจในการแข่งขันเราต้องเรียนรู้ที่จะเป็นสมาชิกของเผ่าที่แบ่งปันคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้เราได้ตระหนักถึงตัวเองมากขึ้นในฐานะบุคคลที่ไม่เหมือนใครด้วยจิตใจที่ไม่เหมือนใครที่ฝังอยู่ในสังคมของบุคคลและจิตใจที่ไม่เหมือนใครอื่น ๆเราเป็นทั้งบุคคลและกลุ่มเราเห็นว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่แตกต่างจากกลุ่มอื่น ๆความเชื่อนี้เกิดขึ้นจากความรู้สึกของเราว่ากลุ่มของเรามีคุณสมบัติซ่อนเร้นซึ่งแตกต่างจากคุณสมบัติที่มองไม่เห็นของกลุ่มอื่น ๆเราอ่านและจัดการกับผู้อื่นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายส่วนบุคคลของเรา แต่เรายังแสวงหาการเชื่อมต่อทางอารมณ์ที่ผู้อื่นจัดเตรียมไว้ด้วยเราต้องการโทเท็มและวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกมัดเราเข้าด้วยกันสำหรับหลาย ๆ คนศาสนาให้กรอบงานเหล่านี้ แต่สำหรับพวกเราที่เหลือมันอาจเป็นความครอบครองส่วนตัวผ้าห่มที่สกปรก, มรดกตกทอดของครอบครัว, ภาพวาดที่มีชื่อเสียง, รูปปั้นที่สวยงาม, อนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์, ที่ระลึกของผู้พลีชีพหรือกลับไปที่สถานที่ที่เราเกิดค่าศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของเราถ่ายทอดความรู้สึกร่วมกันของความเชื่อมโยงที่เข้าร่วมกับเราและบรรพบุรุษของเราด้วยวิธีนี้เรากำลังขยายตัวเองไปยังมนุษยชาติที่เหลือจากอดีตจนถึงปัจจุบันเราอาจสามารถเข้าใจโลกภายนอกผ่านการวิเคราะห์ต้นทุนเชิงตรรกะ แต่ภายในเราแต่ละคนนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หากเราคิดว่าหุ้นส่วนคู่สมรสคนรักเพื่อนพันธมิตรหรือเพื่อนมนุษย์ไม่ได้แบ่งปันคุณค่าอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เราจะไม่เชื่อใจพวกเขาและเราไม่สามารถรักพวกเขาได้เราจะเห็นว่าพวกเขาแตกต่างจากเราโดยพื้นฐานและแม้กระทั่งมนุษย์น้อยลงเมื่อผู้คนเลือกที่จะสวมเสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าพวกเขากำลังละเมิดค่าศักดิ์สิทธิ์ของเราและความเหนือกว่าของเรา

บทส่งท้าย

แปดเดือนที่ผ่านมาเมื่อฉันไปเยือนกลอสเตอร์ฉันค้นพบว่าอาคารทุกหลังที่เกี่ยวข้องกับความชั่วร้ายไม่ได้อยู่ที่พื้นบ้านหลังแรกของ Fred West ใน Gloucester ที่ 25 Midland Road ข้ามสวนสาธารณะที่สวยงามจากถนน Cromwell ยังคงยืนอยู่ในปัจจุบันยังไงก็ตามสถานที่ให้บริการนี้ได้หลบหนีความสนใจของประชาชนเมื่อมุ่งเน้นไปที่ถนนครอมเวลล์ที่ Midland Road ร่างที่แยกชิ้นส่วนของลูกติดลูกติดอายุแปดขวบของเขาถูกพบฝังอยู่ในห้องใต้ดินฉันไม่รู้บ้านหลังนี้จนกระทั่งนิคเจ้าของบ้านบอกฉันว่าแม้จะเป็นคนที่สมเหตุสมผล แต่เขาก็รู้สึกว่า "มีอะไรบางอย่าง" เมื่อเขาไปเยี่ยมสถานที่ให้บริการเพื่อซื้อมันในปี 1996 แม้จะมีราคาเพียงเศษเสี้ยวเพียงเศษเสี้ยวค่าที่แท้จริงนิคปฏิเสธเขาคิดว่าเขาจะมีปัญหาในการเช่าเมื่อปรากฎว่านี่ไม่ใช่ปัญหาในเมืองอย่างกลอสเตอร์เป็นพื้นที่ที่ถูกกีดกันซึ่งมีแรงงานข้ามชาติจำนวนมากต้องการที่พักราคาไม่แพงเสมอในวันที่แปลกประหลาดในเดือนเมษายนฉันเดินข้ามสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยผู้คนที่อาบแดดตัวเองข้ามถนนสายหลักที่วุ่นวายและพบสถานที่ให้บริการ semidetached ในสิ่งที่เห็นได้ชัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของเมืองMunchi สาววัยรุ่นนั่งอยู่บนบันไดของบ้านอ่านหนังสือฉันถ่ายภาพบ้านอย่างสุขุมซึ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดและประหม่า แต่ฉันต้องถาม Munchi เกี่ยวกับการอยู่ที่นั่นดังนั้นฉันจึงเข้าหาและพยายามอย่างไม่แน่นอนที่จะพูดคุยฉันสามารถเป็นคนที่น่าอึดอัดใจในช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่ฉันต้องรู้ว่าเธอเคยมีประสบการณ์อะไรผิดปกติในบ้านหรือไม่ลองนึกภาพว่าเป็นเด็กสาววัยรุ่นที่ผ่อนคลายด้วยหนังสือเล่มหนึ่งในวันที่อากาศร้อนและได้รับการทาบทามจากชายวัยกลางคนสวมแจ็คเก็ตหนังที่ไม่เหมาะสมและถามคำถามแปลก ๆเธอดูประหม่าและบอกว่าเธออาศัยอยู่กับลูกพี่ลูกน้องของเธอ

256

กีดขวาง

ไดอาน่าเธอเป็นคนที่ถามMunchi หายตัวไปข้างในและกลับมาในเวลาต่อมากับไดอาน่าหญิงชราที่มองฉันด้วยความสงสัยเท่ากันฉันถามอีกครั้งพยายามที่จะผ่อนคลายที่สุดเท่าที่จะทำได้“ คุณสังเกตเห็นอะไรแปลก ๆ ตั้งแต่คุณอาศัยอยู่ในบ้านหรือไม่”ไดอาน่าเปิดกว้างมากขึ้นเธอบอกว่าเธอเห็นสิ่งต่าง ๆ ออกจากมุมตาของเธอในห้องนั่งเล่นฉันไม่รู้ว่าฉันคาดหวังอะไรเป็นคำถามชั้นนำในสถานที่แรกฉันถามว่าพวกเขารู้ว่าเฟร็ดเวสต์เป็นใครทั้งคู่ดูว่างเปล่าและส่ายหัวสำหรับตัวอย่างสั้น ๆ ฉันถูกล่อลวงให้บอกประวัติบ้านของพวกเขายี่สิบปีที่ผ่านมาสื่อของโลกมุ่งเน้นไปที่เฟร็ดและโรสแมรี่เวสต์ผู้คนตกใจและเบื่อหน่ายอย่างไรเมื่อรายละเอียดของการฆาตกรรมที่น่าสยดสยองของหญิงสาวและลูกสาวสองคนกลายเป็นที่รู้จักการบอกพวกเขาว่าประวัติศาสตร์นี้จะไม่มีการแสดงความสามารถกับคาร์ดิแกนเพื่อให้ประเด็นMunchi และ Diana อาศัยอยู่กับอดีตจริงๆการตอบสนองต่อข่าวนี้จะเป็นของแท้ แต่ทำลายล้างฉันจะทำอย่างไร?พวกเขาบอกว่าความไม่รู้นั้นมีความสุขและการละทิ้งสิ่งนั้นนั้นโหดร้ายและไม่จำเป็นดังนั้นฉันจึงขอบคุณ Munchi และ Diana สำหรับเวลาของพวกเขาและทิ้งพวกเขาไว้โดยศาสตราจารย์แปลก ๆเมื่อถึงเวลาที่คำพูดเหล่านี้อยู่ในการพิมพ์ฉันคาดหวังว่า Munchi และ Diana จะเดินหน้าต่อไปและผู้เช่าที่ไม่สงสัยอื่น ๆ จะอาศัยอยู่ที่ 25 Midland Roadแต่ถ้าไม่ Munchi และ Diana ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณ แต่ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าสำหรับคุณที่จะไม่รู้จักไม่มีสาระสำคัญของความชั่วร้ายในบ้านของคุณเป็นเพียงสิ่งที่จิตใจของเราสร้างขึ้นแต่การรู้ว่าไม่ได้ทำให้รู้สึกสบายใจที่จะอยู่ในบ้านของฆาตกรนั่นเป็นเพราะเราเป็นสายพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์บา ธ , อังกฤษคริสต์มาส 2550

กิตติกรรมประกาศ

ความคิดหลายอย่างที่ฉันนำเสนอนั้นอยู่บนพื้นฐานของการวิจัยทางวิชาการ แต่พวกเขาได้รับการทดสอบทางถนนในการบรรยายสาธารณะและการชุมนุมอย่างไม่เป็นทางการขึ้นและลงในสหราชอาณาจักรเมื่อคุณต้องการพูดคุยในแบบที่คนส่วนใหญ่สามารถเข้าใจได้มันจะบังคับให้คุณตัดการไล่ล่าเพื่อหยุด waf ﬂ ing และเข้าสู่หัวใจของเรื่องนักวิชาการได้รับการฝึกฝนให้รับรู้จุดอ่อน แต่ในการทำเช่นนั้นเราสามารถหมกมุ่นอยู่กับการป้องกันความเสี่ยงในการเดิมพันของเรามีคุณสมบัติในการยืนยันและระมัดระวังในการตีความของเรานั่นเป็นเหตุผลที่การเขียนหนังสือเช่นนี้อาจทำให้เกิดความกังวลทางวิชาการโชคดีที่ฉันได้รับความช่วยเหลือระหว่างทางฉันเป็นหนี้บุญคุณเพื่อนร่วมงานนักเรียนเพื่อนและครอบครัวที่ได้อ่านเวอร์ชันต่าง ๆ ให้คำแนะนำและสนับสนุนให้ฉันรู้สึกกังวลน้อยลงเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ตามลำดับตัวอักษรฉันขอขอบคุณ Sara Baker, Paul Bloom, Peter Brugger, Zoltan Dienes, Katy Donnelly, Alison Dunlop, Shiri Einav, Margaret Evans, Norman Freeman, Susan GelmanHilary และ Peter Hodgson, Loyale Hood, Ross Hood, Marjaana Lindeman, Neil Macrae, Peter Millican, Steven Pinker, Paul Rozin, Reba Rosenberg, Ali Smith, Elaine Snell, Arno Van Voorst และ Alice Wilsonฉันขอบคุณตัวแทนของฉัน Andrew Stuart ทุกคนที่ Harperone โดยเฉพาะ Eric Brandt และ Laura Lee Mattinglyฉันอยากจะขอบคุณทุกคนที่ทำงานในศูนย์พัฒนาความรู้ความเข้าใจของบริสตอลที่สนับสนุนฉันในโครงการนี้วิทยานิพนธ์ที่ฉันนำเสนอในหนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งที่ฉันพัฒนาตลอดวิถีชีวิตการศึกษาระดับมืออาชีพของฉันอย่างไรก็ตามมันกลับมามีชีวิตจริงหลังจากมาถึงมหาวิทยาลัยบริสตอลซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและบำรุงเลี้ยง

258

กีดขวาง

ในการทำงานฉันไม่สามารถรักษาโปรแกรมการวิจัยของฉันได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในสหราชอาณาจักรที่ให้ทุนแก่งานของฉันฉันขอขอบคุณสภาวิจัยเศรษฐกิจและสังคมสภาวิจัยทางการแพทย์, Leverhulme Trust และมูลนิธิEsmée Fairbairnฉันอุทิศหนังสือเล่มนี้ให้กับสาว ๆ ของฉัน

หมายเหตุแหล่งที่มา

อารัมภบท

1. Sean Coughlan“ จะเกิดอะไรขึ้นกับ Houses of Horror?”, BBC News, 5 เมษายน 2004, มีให้ที่: http://news.bbc.co.uk/1/hi/ นิตยสาร/3593137.stm2. แม้ว่าสมาคมนายหน้าแห่งชาติในสหรัฐอเมริกาต้องการให้สมาชิกเปิดเผยปัจจัยทางกายภาพทั้งหมดที่อาจส่งผลกระทบต่อความปรารถนาของบ้าน แต่ก็ไม่มีฉันทามติเมื่อมาถึงปัจจัยทางจิตวิทยาที่อาจทำให้บ้าน3. มีรายงานหลายฉบับเกี่ยวกับความปลอดภัยรอบ ๆ การรื้อถอนดู“ Soham Murder House ถูกทำลาย” BBC News, 3 เมษายน 2004, มีให้ที่: http://news.bbc.co.uk/1/low/england/ Cambridgeshire/3595801.stm;และโทนี่ทอมป์สัน“ เมื่อวันหยุดพักบ้านของฮันท์ลีย์กลายเป็นฝุ่นและซากปรักหักพัง” ผู้พิทักษ์วันที่ 4 เมษายน 2547 มีอยู่ที่: http://observer.guardian.co.uk/uk_news/ Story/0, 1185348, 00.html4. นักออกแบบชุดแต่งงานของ Princess Diana, David และ Elizabeth Emanuel กำลังขาย - สำหรับ $ 2,000 - หนังสือที่มีชุดแต่งงานที่เธอสวมใส่ในระหว่าง ﬁ ttings;มีให้บริการจาก http://www.adressfordiana.com5. คำว่า "เครื่องราง" (จาก Latin Facticious สำหรับ "Arti ﬁ cial") ได้รับการประกาศเกียรติคุณจาก Charles de Brosses ในปี 1757 เพื่ออ้างถึงวัตถุที่เชื่อโดยเผ่าแอฟริกาตะวันตกที่มีอำนาจเหนือธรรมชาติ6. James Randi กล่าวถึงการแสดงความสามารถของคาร์ดิแกนและบอกผู้อ่านเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขากับที่ระลึกของพี่ชายAndréที่: http://www.randi.org/ jr/2006-09/092206bad.html7. Panfest เป็นเทศกาลนอกรีตในทุ่งหญ้าในอัลเบอร์ตาประเทศแคนาดาที่จัดขึ้นในช่วง Lammas ในเดือนสิงหาคม8. รองเท้าไสยศาสตร์ของ Tony Blair ได้รับการรายงานใน The Times Online ที่ http://www.timesonline.co.uk/tol/news/politics/the_blair_years/ article1969242.ece 9. J. Curlแมคเคนเป็นช่องทางของเขาที่มีต่อการแข่งขันปี 2008รักษาความหลากหลายของเครื่องรางของขลังให้ปัดเป่าชัยชนะในระบอบประชาธิปไตยThe Washington Times, 16 เมษายน 2551

260

กีดขวาง

10. ฉันเป็นหนี้บุญคุณ Steven Pinker ผู้แนะนำให้ฉันรู้จักงานของ Philip Tetlock เกี่ยวกับค่านิยมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ความคิดในหัวของฉันมีความรู้สึกเหนือธรรมชาติทำให้ความเชื่อนั้นทรงพลังมาก11. http://www.happynews.com/news/5132008/fans-long-ashesscattered-sporting-sites.htm บทที่หนึ่ง: John McEnroe และ David Beckham แบ่งปันความลับอะไร?

1. P. le Loyer, บทนำสู่ IIII Livres de Specters, OU, Apparitions et Visions d’Espirits, Anges, et Demons se monstrans sensiblement aux hommes, 2nd ed. แปลโดย Zachery Jones (British Library, 1605)2. www.ted.com/talks/view/id/223. D. Clarke“ ประสบการณ์และเหตุผลอื่น ๆ ที่ได้รับเพื่อความเชื่อและการไม่เชื่อในปรากฏการณ์อาถรรพณ์และศาสนา” วารสารสมาคมเพื่อการวิจัยทางจิต 60 (1995): 371–844. ความน่าจะเป็นนี้ขึ้นอยู่กับคนสองคนที่แบ่งปันวันเกิดในทางกลับกันหากคุณถูกถามว่ามีกี่คนที่จะต้องอยู่ในงานปาร์ตี้เพื่อให้คุณได้พบกับคนที่แบ่งปันวันเกิดของคุณในครึ่งหนึ่งของปาร์ตี้ที่คุณเข้าร่วมจำนวนที่ดูเหมือนจะสูงอย่างไม่มีเหตุผลที่ 253 พวกคุณไม่มั่นใจในการตรวจสอบเหล่านี้Ian Stewart, The Magical Maze: มองโลกผ่านสายตาคณิตศาสตร์ (Weidenfeld & Nicholson, 1997)Peter Milligan จาก Oxford University บอกฉันเกี่ยวกับตัวอย่างฟุตบอล5. M. Plimmer และ B. King, Beyond Concidence (Icon Books, 2005), p.4. 6. W. James, ความหลากหลายของประสบการณ์ทางศาสนา (หนังสือพื้นฐาน, 1902), p.58. 7. W. James, ความหลากหลายของประสบการณ์ทางศาสนา (หนังสือพื้นฐาน, 1902), p.510. 8. S. Vyse, เชื่อในเวทมนตร์: จิตวิทยาแห่งไสยศาสตร์ (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 1997)60. 9. วันหยุดคริสเตียนจำนวนมากเช่นคริสต์มาสและอีสเตอร์รวมองค์ประกอบจากพิธีกรรมก่อนหน้านี้ตัวอย่างเช่นบันทึกเทศกาลคริสต์มาสสามารถย้อนกลับไปยังเทศกาล Pagan Norse ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพและผลผลิตมิสเซิลโทยังใช้ในพิธีกรรมของนอร์สและเชื่อมโยงกับความอุดมสมบูรณ์โดยความคล้ายคลึงของเนื้อหาของผลไม้กับน้ำอสุจิ10. R. Dawkins, Unweving the Rainbow (Penguin Books, 2006), p.36. 11. N. Chomsky, โครงสร้างทางไวยากรณ์ (Mouton, 1957), p.15. 12. นักฟิสิกส์โนเบล Richard Feynman เคยตั้งข้อสังเกตว่าเขาพบว่ามันง่ายกว่าที่จะถ่ายภาพเทวดาที่มองไม่เห็นมากกว่ารังสีแสง;ยกมาใน

หมายเหตุแหล่งที่มา

261

A. Lightman, ความรู้สึกลึกลับ: วิทยาศาสตร์และจิตวิญญาณมนุษย์ (หนังสือโบราณ, 2005):“ ฟิสิกส์ได้วิ่งเข้าไปในดินแดนที่ร่างกายของเราไม่สามารถไปได้” (หน้า 63)13. วลีนี้ได้รับการประกาศเกียรติคุณโดยนักจิตวิทยา Leda Cosmides และ John Tooby ใน“ ต้นกำเนิดของ Domain Speci ﬁ city: วิวัฒนาการขององค์กรการทำงาน” ในการทำแผนที่จิตใจ: เฉพาะเมืองในการรับรู้และวัฒนธรรมแก้ไขโดย L. A. Hirschfeldสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, 1994)14. Neurophysiologist Rudiger von der Heydt จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins แสดงให้เห็นถึงการปรากฏตัวของ "เซลล์ปลายทาง" ในพื้นที่ภาพของสมองที่เปิดใช้งานโดยรูปแบบดังกล่าวราวกับว่ารูปทรงของภาพลวงตาอยู่ที่นั่นจริงๆ15. H. Ghim,“ หลักฐานการรับรู้องค์กรในทารก: การรับรู้รูปทรงอัตนัยของทารกอายุน้อย” พฤติกรรมและการพัฒนาของทารก 13 (1990): 221–4816. เว็บไซต์สำหรับ World Rock Paper Secissors Society สามารถดูได้ที่ http://www.worldrps.com17. A. D. Baddeley,“ ความสามารถในการสร้างข้อมูลโดยการสุ่ม,” วารสารจิตวิทยาการทดลองรายไตรมาส 18 (1966): 119–2918. A. M. Leslie,“ ความต่อเนื่องของ spatiotemporal และการรับรู้ของเวรกรรมในทารก,” การรับรู้ 13 (1984): 287–30519. จากกีฬาทั้งหมดเทนนิสดูเหมือนจะสร้างส่วนแบ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพิธีกรรมไสยศาสตร์ทั้งในทั้งชายและหญิงเช่นเดียวกับ John McEnroe, Martina Hingis ก็ไม่เคยก้าวเข้ามาระหว่างคะแนนMarat Sa ﬁ n เดินทางไปด้วย“ ดวงตาที่ชั่วร้าย” ที่น้องสาวของเขามอบให้เขาเพื่อช่วยปัดจ้องมองร้ายGoran Ivanisevic ตามระบบการปกครองที่เข้มงวด: กินที่โต๊ะเดียวกันของร้านอาหารเดียวกันและสั่งงานฉลองซุปซุป, แกะและไอศกรีมกับซอสช็อคโกแลต20. The Young Ones, Episode No.12 (“ ฤดูร้อนวันหยุด”), ออกอากาศครั้งแรก 19 มิถุนายน 1984 โดย BBC2กำกับการแสดงโดยเจฟฟ์โพสเนอร์และเขียนโดยเบ็นเอลตัน, Rik Mayall และ Lise Mayer21. ทิมเลิฟจอยสัมภาษณ์เดวิดเบ็คแฮมออกอากาศใน ITV1 ของสหราชอาณาจักร 2549 22. อี. เจ. แลงเกอร์,“ ภาพลวงตาของการควบคุม,” วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 32 (1975): 311–2823. G. Keinan“ ผลกระทบของความเครียดและความปรารถนาในการควบคุมพฤติกรรมไสยศาสตร์” บุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม Bulletin 28, (2002): 102–824. T. V. Salomons, T. Johnstone, M. Backonja และ R. J. Davidson,“ การรับรู้การควบคุมปรับการตอบสนองต่อความเจ็บปวดของระบบประสาท,” วารสารประสาทวิทยาศาสตร์ 24 (2004): 7199–7203

262

กีดขวาง

25. E. Pronin, D. M. Wegner, K. McCarthy, และ S. Rodriguez,“ พลังเวทย์มนตร์ทุกวัน: บทบาทของสาเหตุทางจิตที่ชัดเจนในการประเมินค่าสูงเกินไปของส่วนบุคคลใน ﬂ uence,” วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 91 (2549): 218–31.26. ตำนานในเมืองที่มีชื่อเสียงอีกประการหนึ่งคือกาลิเลโอทิ้งปืนใหญ่ที่มีน้ำหนักแตกต่างกันจากหอเอนเอียงของปิซาเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะลงจอดในเวลาเดียวกันในความเป็นจริงคนอื่น ๆ เช่น Simon Stevin วิศวกรของเฟลมิชได้ตีพิมพ์ผลการทดลองในปี ค.ศ. 1586 เกี่ยวกับน้ำหนักที่ลดลงก่อนที่กาลิเลโอจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์วิชาคณิตศาสตร์ที่ปิซาในปี 1612 27. A. B. Champagne, L. E. Klopferปัจจัยในการเรียนรู้กลศาสตร์คลาสสิก” วารสารฟิสิกส์อเมริกัน 48 (1980): 1074–79บทที่สอง: คุณสามารถใส่เสื้อคาร์ดิแกนของนักฆ่าได้หรือไม่?

1. Elli Leadbeater“ Woolly Ruse ก่อให้เกิดความไร้เหตุผล” 4 กันยายน 2549 ข่าวบีบีซีมีอยู่ที่: http://news.bbc.co.uk/1/hi/sci/ tech/5314164.stm2. M. Van Vugt และ C. M. Hart“ อัตลักษณ์ทางสังคมเป็นกาวสังคม: ต้นกำเนิดของความภักดีของกลุ่ม” วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 86 (2004): 585–983. G. Le Bon, ฝูงชน: การศึกษาความคิดที่เป็นที่นิยม (1896; พิมพ์ซ้ำ, Ernst Benn Ltd./Transaction Publishers, 1995), p.148. 4. N. Ambady และ R. Rosenthal,“ ชิ้นบาง ๆ ของพฤติกรรมการแสดงออกเป็นตัวทำนายผลที่ตามมาระหว่างบุคคล: การวิเคราะห์อภิมาน,” แถลงการณ์ทางจิตวิทยา 111 (1992): 256–74;N. Ambady และ R. Rosenthal,“ ครึ่งนาที: การทำนายการประเมินครูจากพฤติกรรมอวัจนภาษาบาง ๆ และความน่าดึงดูดใจทางกายภาพ” วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 64 (1993): 431–415. A. Damasio, ข้อผิดพลาดของ Descartes (Vintage Books, 1994)6. D. C. Fowles“ แบบจำลองความเร้าอารมณ์ทั้งสาม: ผลกระทบสำหรับทฤษฎีการเรียนรู้สองปัจจัยของ Fray สำหรับอัตราการเต้นของหัวใจกิจกรรมอิเล็กโทรดและโรคจิต” Psychophysiology 17 (1980): 87–1047. P. Rozin, M. Markwith, และ C. Nemeroff,“ ความเชื่อในการติดเชื้อที่มีมนต์ขลังและความกลัวของโรคเอดส์,” วารสารจิตวิทยาสังคมประยุกต์ 22 (1992): 1081–928. เทศกาล Del Burro หรือ Festival of the Donkey จัดขึ้นในเดือนมีนาคมในเมือง San Antero ใกล้ Cordova ทางตอนเหนือของโคลัมเบีย9. A. Silverman“ Sexton ยอมรับการฆ่า Atsuko Ikeda 2,000 ครั้ง29 กรกฎาคม 2549”Winooski ตำรวจแถลงข่าว: www.winooskipolice .com/press%20release/sexton.htm

หมายเหตุแหล่งที่มา

263

10. C. Zhong และ K. Liljenquist,“ ล้างบาปของคุณออกไป: คุณธรรมและการทำความสะอาดทางกายภาพที่ถูกคุกคาม” วิทยาศาสตร์ 313 (2006): 1451–5211. The Exorcist กำกับโดย William Friedkin (Hoya Productions, 1973)12. R. Wiseman, Quirkology: วิทยาศาสตร์ที่อยากรู้อยากเห็นของชีวิตประจำวัน (Macmillan, 2007)13. มีให้จากองค์กร Gallup, Princeton, N.J: http: // www.gallup.comบทที่สาม: ใครเป็นผู้สร้างความคิดสร้างสรรค์?

1. A. Forbes และ T. R. Crowder“ ปัญหาของ Franco-Cantabrian บทคัดย่อสัญญาณ: วาระการประชุมใหม่” โบราณคดีโลก 10 (1979): 350–662. D. Lewis-Williams, จิตใจในถ้ำ: จิตสำนึกและต้นกำเนิดของศิลปะ (Thames & Hudson, 2004)3. Gallup Poll, พฤษภาคม 2550 มีให้บริการจากองค์กร Gallup, Princeton, N, J. , http://www.gallup.com4. Richard Black,“ สหรัฐอเมริกาอนุมัติโคลนนิ่งสัตว์เป็นอาหาร” ข่าวบีบีซีมีอยู่ที่: http://news.bbc.co.uk/1/hi/sci/tech/7190305.StmPew Charitable Trusts ในสหรัฐอเมริกา (http: //www.pewtrusts. org) ได้ทำการสำรวจจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจกับโอกาสของผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์โคลน5. N. Humphrey, Leaps of Faith: วิทยาศาสตร์, ปาฏิหาริย์, และการค้นหาการปลอบใจเหนือธรรมชาติ (Springer, 1999), p.8. 6. T. Hobbes, Leviathan (1651; พิมพ์ซ้ำ, W. W. Norton, 1996)7. การสัมภาษณ์ครั้งนี้มีให้ที่ BBC Radio 4,“ วิทยาศาสตร์: โลกวัสดุ,” http://www.bbc.co.uk/radio4/science/thematerialworld _20060921.shtmlฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์คนหนึ่งคือนีลตูร็อคที่สนใจทฤษฎีของฉันอย่างมาก8. R. Dawkins, The God Delusion (Bantam Press, 2006), p.36. 9. J. Barrett ทำไมทุกคนถึงเชื่อในพระเจ้า?(Altamira Press, 2004)10. R. Baillargeon, J. DeVos และ M. Graber,“ หน่วยความจำที่ตั้งในทารกอายุแปดเดือนในงาน AB ที่ไม่ใช่การค้นหา: หลักฐานเพิ่มเติม” การพัฒนาความรู้ความเข้าใจ 4 (1989): 345–6711. J. Connellan, S. Baron-Cohen, S. Wheelwright, A. Batki และ J. Ahluwalia“ ความแตกต่างทางเพศในการรับรู้ทางสังคมของทารกแรกเกิดของมนุษย์” พฤติกรรมและการพัฒนาของทารก 23 (2000): 113–1812. G. Huntley-Fenner, S. Carey และ A. Solimando“ วัตถุเป็นบุคคล แต่สิ่งต่าง ๆ ไม่นับ: การรับรู้ถึงความแข็งแกร่งและการรับรู้

264

กีดขวาง

การทำงานร่วมกันในการเป็นตัวแทนของทารกในกลุ่มเล็ก ๆ ของหน่วยงานที่แตกต่างกัน” ความรู้ความเข้าใจ 85 (2002): 203–2113. R. Baillargeon, A. Needham, และ J. DeVos,“ การพัฒนาสัญชาตญาณของทารกเกี่ยวกับการสนับสนุน,” การพัฒนาและการเลี้ยงดูในช่วงต้น 1 (1992): 69–7814. A. Shtulman และ S. Carey,“ ไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปไม่ได้?วิธีการที่เด็กมีเหตุผลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของเหตุการณ์พิเศษ” การพัฒนาเด็ก 78 (2007): 1015–3215. D. C. Dennett, ทำลายคาถา: ศาสนาเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ (Allen Lane, 2005)16. A. Tversky และ D. Kahneman,“ การขยายกับการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่าย: การเข้าใจผิดในการตัดสินความน่าจะเป็น” การทบทวนจิตวิทยา 90 (1983): 293–31517. สำหรับรายละเอียดของการสำรวจโปรดดูที่สัตววิทยาสมาคมแห่งลอนดอน“ โรค Phobias ของประเทศเปิดเผย” 27 ตุลาคม 2548 มีอยู่ที่: http: // www.zsl.org/info/media/press-releases/null,1780Pr.html18. J. B. Watson และ R. Raynor,“ ปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่มีเงื่อนไข,” วารสารจิตวิทยาการทดลอง 3 (1920): 1–1419. M. E. P. Seligman,“ phobias และความพร้อม,” การบำบัดพฤติกรรม 2 (1971): 307–20ในการตรวจสอบข้อมูลการทดลองทั้งหมด Rich McNally ได้สรุปว่าในขณะที่หลายแง่มุมของทฤษฎีของ Seligman นั้นเป็นที่น่าสงสัยการยืนยันที่ไม่อาจปฏิเสธได้อย่างหนึ่งของเขาคือ“ โรคกลัวส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามของการวิวัฒนาการR. McNally,“ การเตรียมพร้อมและโรคกลัว: การทบทวน,” Bulletin จิตวิทยา 101 (1987): 283–30320. S. Atran ในเทพเจ้าเราไว้วางใจ: ภูมิทัศน์วิวัฒนาการของศาสนา (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 2002)21. P. Boyer, ศาสนาอธิบาย: สัญชาตญาณของมนุษย์ที่เทพเจ้าแฟชั่นวิญญาณและบรรพบุรุษ (William Heinemann, 2001)22. R. Dawkins, ช่างซ่อมนาฬิกาคนตาบอด (Penguin Books, 1986), p.316. 23. L. Rozenblit และ F. C. Keil,“ ข้อ จำกัด ที่เข้าใจผิดของวิทยาศาสตร์พื้นบ้าน: ภาพลวงตาของความลึกอธิบาย,” วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ 26 (2002): 521–6224. H. Spencer, หลักการชีววิทยา (Williams & Norgate, 1864)25. E. M. Evans,“ การเปลี่ยนแปลงแนวคิดและชีววิทยาวิวัฒนาการ: การวิเคราะห์การพัฒนา,” ในคู่มือการวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแนวคิด, แก้ไขโดย S. Vosniadou (Taylor & Francis Group, 2008)26. แนวปะการังส่วนใหญ่เปลี่ยนเพศในบางจุดในชีวิตของพวกเขาและในความเป็นจริงคนที่ไม่ได้อยู่ในชนกลุ่มน้อย (ที่มา: แอรอนไรซ์, วิทยาลัยเดวิดสัน)

หมายเหตุแหล่งที่มา

265

27. ตัวอ่อนของมนุษย์เริ่มต้นจากการเป็นเพศหญิงและในกรณีที่ไม่มีโครโมโซม Y ยังคงพัฒนาเป็นเพศหญิงต่อไป28. Cladistics เป็นวิทยาศาสตร์ของการทำแผนที่รหัสพันธุกรรมเปรียบเทียบของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเพื่อติดตามต้นไม้แห่งชีวิตสำหรับการแนะนำที่เข้าถึงได้อ่าน S. Jones เกือบจะเหมือนปลาวาฬ (Doubleday, 1999)29. สำหรับทรัพยากรเว็บที่กว้างขวางเกี่ยวกับตำนานการสร้างลอง“ Magic Tails” มีอยู่ที่: www.magictails.com/creationlinks.html30. E. M. Evans,“ การเกิดขึ้นของความเชื่อเกี่ยวกับต้นกำเนิดของสายพันธุ์ในเด็กวัยเรียน,” Merrill-Palmer ไตรมาส: วารสารจิตวิทยาการพัฒนา 46 (2000): 221–5431. อ้างถึงใน Dawkins, The God Delusion, p.102. 32. Carnegie Commission, การสำรวจแห่งชาติของการศึกษาระดับอุดมศึกษา: การศึกษาของคณะ (McGraw-Hill, 1969)33. หลังจากการฟื้นตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ของเขา Dennett ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่สวดอ้อนวอนให้เขา:“ ขอบคุณฉันขอบคุณ แต่คุณก็มีแพะด้วยหรือไม่”;ดู www.edge.org/3rd_culture/dennett06/dennett06_index.html34. E. H. Ecklund และ C. P. Scheitle,“ ศาสนาในหมู่นักวิทยาศาสตร์วิชาการ: ความแตกต่าง, สาขาวิชาและข้อมูลประชากร,” ปัญหาสังคม 54 (2007): 289–30735. ม.ค. วอลช์รายงานโทรทัศน์อาถรรพณ์ (กลุ่มวิเคราะห์ผู้บริโภค, 2002)36. S. Harris, จุดจบของศรัทธา: ศาสนา, ความหวาดกลัวและอนาคตของเหตุผล (W. W. Norton, 2004)37. Meera Nanda เป็นหนึ่งในนักวิจารณ์ที่มีคารมคมคายของ Sam Harris;ดู“ การซื้อขายศรัทธาเพื่อจิตวิญญาณ: ความลึกลับของแซมแฮร์ริส” โพสต์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2549, http://www.sacw.net/ ฟรี/การซื้อขาย%20faith%20 สำหรับ 20spirituality_%20html38. Dennett ทำลายคาถา p21. 39. P. Zuckerman,“ Atheism: อัตราและรูปแบบร่วมสมัย,” ใน Cambridge Companion to Atheism, แก้ไขโดย M. Martin (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, 2005)40. E. H. Lenneberg ฐานรากทางชีวภาพของภาษา (Wiley, 1967)41. D. S. Lundsay, P. C. Jack, และ M. A. Christian,“ การรับรู้อื่น ๆ ,” วารสารจิตวิทยาประยุกต์ 76 (1991): 587–8942. หลังจากเพียงประมาณสิบสองชั่วโมงของการสัมผัสกับใบหน้าของแม่ของพวกเขาทารกแรกเกิดแสดงความพึงพอใจต่อใบหน้าของเธอเมื่อเทียบกับคุณแม่คนอื่น ๆI. W. R. Bushnell,“ ต้นกำเนิดของการรับรู้ใบหน้า” ในการพัฒนาของประสาทสัมผัสมอเตอร์และความรู้ความเข้าใจ

266

กีดขวาง

ความสามารถในวัยเด็กตอนต้น: จากการรับรู้ถึงการรับรู้แก้ไขโดย F. Simion และ G. Butterworth(Psychology Press/Hove, 1998)43. D. J. Kelly, P. C. Quinn, A. M. Slater, K. Lee, L. Ge, และ O. Pascalis,“ ผลการแข่งขันอื่น ๆ พัฒนาขึ้นในช่วงวัยเด็ก” วิทยาศาสตร์จิตวิทยา 18 (2007): 1084–8944. การสัมภาษณ์กับ Peter และ Christopher Hitchens สามารถดูได้ที่ http://www.bbc.co.uk/radio4/today/listenagain/ram/ วันนี้ 4_20070619.ram45. T. J. Bouchard Jr. , M. McGue, D. Lykken และ A. Tellegen,“ ศาสนาที่แท้จริงและภายนอก: พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมใน ﬂ uences และบุคลิกภาพมีความสัมพันธ์กัน” Twin Research 2 (1999): 88–9846. K. M. Kirk, L. J. Eaves, และ N. G. Martin,“ การทุจริตตนเองเป็นตัวชี้วัดจิตวิญญาณในตัวอย่างของฝาแฝดชาวออสเตรเลียที่มีอายุมากกว่า” Twin Research 2 (1999): 81–87;L. B. Koenig, M. McGue, R. F. Krueger และ T. J. Bouchard Jr. ,“ พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมใน ﬂ uences เกี่ยวกับศาสนา: การค้นพบสำหรับการจัดอันดับย้อนหลังและการจัดอันดับศาสนาในปัจจุบัน” วารสารบุคลิกภาพ 73 (2005): 471–8847. D. Hamer, The God Gene: ความเชื่อนั้นเดินสายเข้าไปในยีนของเราอย่างไร (Doubleday, 2004)48. A. Newberg, E. D’Aquili และ V. Rause ทำไมพระเจ้าจะไม่หายไป: วิทยาศาสตร์สมองและชีววิทยาแห่งความเชื่อ (Ballantine Books, 2001)49. Isaac Bashevis Singer อ้างถึงโดย Stefan Kanfer ใน“ เมืองสัญญาของ Isaac Singer,” City Journal, ฤดูร้อน, 1997, http: //www.city-journal .org/html/7_3_urbanities-isaac.html50. M. Hutson,“ การคิดวิเศษ: แม้แต่ผู้คลางแคลงฮาร์ดคอร์ก็ไม่สามารถช่วยได้ แต่พบความเห็นอกเห็นใจในโครงสร้างของจักรวาล” จิตวิทยาวันนี้ (มีนาคม-เมษายน 2551)ฉันส่งอีเมล Lori Blanc และเธอรายงานรายงานในสื่อมวลชน51. D. Gilbert สะดุดกับความสุข (HarperCollins, 2006)บทที่สี่: การเบ่งบานเด็กทารกที่คึกคัก

1. W. James, หลักการของจิตวิทยา (1890; พิมพ์ซ้ำ, สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, 2526)2. ดูเพิ่มเติม J. B. Watson, พฤติกรรมนิยม, rev.เอ็ด(สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชิคาโก 2473)3. A. Jolly, มรดกของลูซี่: เพศและความฉลาดในวิวัฒนาการของมนุษย์ (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, 1999)4. ฉันเป็นหนี้บุญคุณนักประสาทวิทยาเซทรักการพิจารณาว่ามีการเปิดใช้งานใหม่ของเด็กทารกที่เกิดขึ้นใหม่หลังจากความเสียหายของสมอง

หมายเหตุแหล่งที่มา

267

5. J. Atkinson, B. Hood, J. Wattam-Bell, S. Anker, และ J. Triblebank,“ การพัฒนาการเลือกปฏิบัติในวัยเด็ก” การรับรู้ 17 (1988), 587–956. A. J. Decasper และ M. J. Spence,“ การพูดก่อนคลอดของมารดาในการรับรู้ของทารกแรกเกิดของเสียงพูด” พฤติกรรมและการพัฒนาของทารก 9 (1986): 133–507. P. G. Hepper,“ การติดยาเสพติดของทารกในครรภ์”,” The Lancet (11 มิถุนายน 1988): 1347–488. V. Reddy“ เล่นกับความคาดหวังของผู้อื่น: การล้อเล่นและล้อเล่นในปีแรก” ในทฤษฎีธรรมชาติของจิตใจแก้ไขโดย A. Whiten (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 1991)9. F. J. Zimmerman, D. A. Christakis, และ A. N. Meltzoff,“ สมาคมระหว่างการดูสื่อและการพัฒนาภาษาในเด็กอายุต่ำกว่าสองปี” วารสารกุมารเวชศาสตร์ (ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์, 7 สิงหาคม 2550)บริษัท วอลต์ดิสนีย์เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยวอชิงตันซึ่งดำเนินการศึกษาได้ถอนเงินข่าวประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยวอชิงตันยืนอยู่หลังการแถลงข่าวhttp://www.washington.edu/alumni/uwnews/ links/200709/videos.html 10. “ Mozart Effect” เป็นข้อเรียกร้องที่ได้รับความนิยมจาก Don Campbell ในปี 1997 หนังสือ The Mozart Effectร่างกายเสริมสร้างจิตใจและปลดล็อกจิตวิญญาณที่สร้างสรรค์ที่การฟังดนตรีคลาสสิกเพิ่มไอคิวของคุณนั่นคืออำนาจของการอ้างสิทธิ์ที่ขัดแย้งกันนี้ว่า Zell Miller ผู้ว่าการรัฐจอร์เจียประกาศว่างบประมาณของรัฐที่เสนอของเขาจะรวม $ 105,000 ต่อปีเพื่อให้เด็กทุกคนที่เกิดในจอร์เจียด้วยเทปหรือซีดีดนตรีคลาสสิกเพื่อให้ประเด็นของเขามิลเลอร์เล่นสมาชิกสภานิติบัญญัติบางคนของ "Ode to Joy" ของ Beethoven บนเครื่องบันทึกเทปและถามว่า“ ตอนนี้คุณไม่รู้สึกฉลาดขึ้นเหรอ?”11. Wimmer Ferguson Infant Stim-Mobile เป็นของเล่นสีดำและสีขาวที่ได้พบเข้าไปในบ้านหลายแห่งรวมถึงของเราหลักการที่อยู่เบื้องหลังนั้นถูกต้องในช่วงเดือนแรกของชีวิตเด็กทารกจะถูกดึงดูดไปยังคุณสมบัติที่มีความคมชัดสูงในโลกภาพ แต่คุณสมบัติเหล่านั้นไม่จำเป็นต้องเป็นขาวดำพื้นที่ของความสว่างและความมืดใด ๆ ดึงดูดความสนใจของพวกเขาเช่นแสงเหนือศีรษะม่านสีเข้มกับหน้าต่างที่มีแสงแดดหรือเส้นผมของคุณถ้าคุณเป็นสีน้ำตาลเมื่อฉันทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาภาพคุณแม่สีน้ำตาลหลายคนเคยถามฉันว่าทำไมทารกแรกเกิดของพวกเขาไม่เคยมองพวกเขาตรงตา12. J. T. Bruer, ตำนานของสามปีแรก: ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการพัฒนาสมองในช่วงต้นและการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Free Press, 1999)

268

กีดขวาง

13. “ การศึกษาเผยให้เห็น: ทารกโง่” หัวหอม (1999) มีอยู่ที่: http://www.onion.demon.co.uk/theonion/other/babies/stupidbabies .htmตรวจสอบเด็กทารกที่น่ารักมาก ๆ ที่สนุก14. “ เด็กทารกฉลาดกว่าที่คุณคิด” ชีวิต (กรกฎาคม 2536)15. Minsky อ้างถึงใน Sherry Turkle, ชีวิตบนหน้าจอ: อัตลักษณ์ในยุคของอินเทอร์เน็ต (Simon & Schuster, 1997), p.137:“ จิตใจเป็นเครื่องเนื้อ”16. เรื่องราวสามารถพบได้ทั่วอินเทอร์เน็ต แต่ฉันเชื่อว่าการพิจารณาที่สมเหตุสมผลที่สุดของหัวข้อนี้สามารถพบได้ใน J. Hutchins“ วิสกี้นั้นมองไม่เห็น: หรือตำนานที่ต่อเนื่องของ MT,” MT News International 11 (1995), 17–1817. J. Locke, เรียงความเกี่ยวกับความเข้าใจของมนุษย์ (1690; พิมพ์ซ้ำ, E. P. Dutton, 1947)18. R. Descartes, การทำสมาธิในปรัชญาแรก, แปลโดย J. Veitch (1647; พิมพ์ซ้ำ, Prometheus Books, 1901);I. Kant, คำวิจารณ์ของเหตุผลบริสุทธิ์แปลโดย N. K. Smith (1781; พิมพ์ซ้ำ, St. Martin’s Press, 1965)19. E. S. Spelke,“ หลักการของการรับรู้วัตถุ,” วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ 14 (1990): 29–5620. J. B. Watson, พฤติกรรมนิยม (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชิคาโก, 1930), p.104. 21. B. F. Skinner,“ ไสยศาสตร์ใน Pigeon,” วารสารจิตวิทยาการทดลอง 38 (1948): 168–7222. เปลเด็กถูกเปรียบกับ“ กล่องสกินเนอร์” ที่สกินเนอร์ได้พัฒนาขึ้นสำหรับการศึกษาทดลองเกี่ยวกับผลกระทบของผลตอบแทนต่อพฤติกรรมสัตว์L. Slater, เปิดกล่องสกินเนอร์: การทดลองทางจิตวิทยาที่ยอดเยี่ยมของศตวรรษที่ยี่สิบ (Bill Daniels Co. , 2004)23. ในบทความวารสารวารสารหญิง (ตุลาคม 2488) สกินเนอร์อธิบายถึงประโยชน์ของการเลี้ยงดูเด็กในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้ทารกต้องสวมผ้าอ้อมเขาตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรมและสุขภาพดูเหมือนจะเจริญเติบโตใน Air-Cupการประเมินแบบสอบถามอิสระโดย John M. Gray ส่งไปยังคู่รัก 73 คู่ที่เลี้ยงดูเด็กทารก 130 คนในการเรียกร้องที่น่าทึ่งของ Skinnerทั้งหมด แต่คู่รักสามคู่นี้อธิบายว่าอุปกรณ์เป็น“ วิเศษ”หลังจากการเปิดกล่องของ Skinner Deborah Skinner เขียนคำตอบที่น่ารังเกียจต่อหนังสือเล่มนี้“ ฉันไม่ใช่หนูแล็บ” ผู้พิทักษ์วันที่ 12 มีนาคม 2547 24. H. การ์ดเนอร์วิทยาศาสตร์ใหม่ของจิตใจ: ประวัติความเป็นมาของการปฏิวัติทางปัญญา (หนังสือพื้นฐาน, 1985)

หมายเหตุแหล่งที่มา

269

25. สถานการณ์นี้เป็นปัญหาทางปรัชญาที่อธิบายว่า“ สมองในภาษีมูลค่าเพิ่ม” โดย Hilary Putnam ในบทที่ 1 ของเหตุผลความจริงและประวัติศาสตร์ (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, 1982), หน้า 1–2126. C. von Hofsten,“ การพัฒนาของการเข้าถึงที่มีไกด์ด้วยสายตา: ขั้นตอนวิธีการ,” วารสารการศึกษาการเคลื่อนไหวของมนุษย์ 5 (1979): 160–7827. J. Piaget, การสร้างความเป็นจริงในเด็ก (หนังสือพื้นฐาน, 1954)28. มีการศึกษาทารกหลายร้อยครั้งตามหลักการของกลอุบายเวทย์มนตร์ แต่สิ่งที่โด่งดังที่สุดอาจเป็นหนึ่งในครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับบล็อกที่เป็นของแข็งที่ดูเหมือนจะผ่านวัตถุที่เป็นของแข็งอื่นR. Baillargeon, E. S. Spelke และ S. Wasserman,“ ความคงทนของวัตถุในทารกอายุห้าเดือน” ความรู้ความเข้าใจ 20 (1985), 191–20829. K. Wynn,“ การเพิ่มและการลบโดยทารกของมนุษย์,” ธรรมชาติ 358 (1992): 749–5030. E. S. Spelke,“ ความรู้หลัก,” นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน 55 (2000): 1233–4331. D. Poulon-Dubois,“ ความแตกต่างของทารก” ระหว่างวัตถุเคลื่อนไหวและวัตถุที่ไม่มีชีวิต: ต้นกำเนิดของจิตวิทยาไร้เดียงสา” ในการรับรู้ทางสังคมในช่วงต้น: การทำความเข้าใจผู้อื่นในเดือนแรกของชีวิตแก้ไขโดย P. Rochat (Erlbaum, 1999)32. A. L. Woodward,“ ทารกเข้ารหัสวัตถุเป้าหมายของการเข้าถึงของนักแสดง,” Cognition 69 (1998): 1–34;ดูเพิ่มเติม V. Kuhlmeier, K. Wynn และ P. Bloom,“ การระบุแหล่งที่มาของรัฐที่มีการจัดการโดยทารกอายุสิบสองเดือน” วิทยาศาสตร์จิตวิทยา 14 (2003): 402–833. A. Karmiloff-Smith, Beyond Modularity: มุมมองการพัฒนาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ (MIT Press, 1992)34. G. L. Murphy และ D. L. Medin,“ บทบาทของทฤษฎีในการเชื่อมโยงแนวคิด,” การทบทวนทางจิตวิทยา 3 (1985): 289–31635. A. Karmiloff-Smith, B. Inhelder,“ ถ้าคุณต้องการก้าวไปข้างหน้าได้รับทฤษฎี” ความรู้ความเข้าใจ 23 (1975): 95–14736. B. M. Hood,“ กฎแรงโน้มถ่วงสำหรับเด็กสองถึงสี่ปี?”การพัฒนาความรู้ความเข้าใจ 10 (1995): 577–9837. M. Tomonaga, T. Imura, Y. Mizuno, และ M. Tanaka,“ อคติแรงโน้มถ่วงในลิงชิมแปนซีเด็กและผู้ใหญ่–21;ดูเพิ่มเติม B. Osthaus, A. M. Slater และ S. E. G. Lea,“ สุนัขสามารถต่อต้านแรงโน้มถ่วงได้หรือไม่?การเปรียบเทียบกับเด็กทารกและเจ้าคณะที่ไม่ใช่มนุษย์” วิทยาศาสตร์การพัฒนา 6 (2003): 489–97

270

กีดขวาง

38. I. K. Kim และ E. S. Spelke,“ การรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของแรงโน้มถ่วงและความเฉื่อยต่อการเคลื่อนไหวของวัตถุ” วิทยาศาสตร์การพัฒนา 2 (1999): 339–6239. M. K. Kaiser, D. R. Prof ﬁ tt และ M. McCloskey“ การพัฒนาความเชื่อเกี่ยวกับวัตถุที่ตกลงมา” การรับรู้และจิตวิทยา 38 (1985): 533–3940. M. McCloskey, A. Washburn และ L. Felch,“ ฟิสิกส์ที่ใช้งานง่าย: ความเชื่อตรงลงและต้นกำเนิด” วารสารจิตวิทยาการทดลอง: การเรียนรู้, ความทรงจำและความรู้ความเข้าใจ 9 (1983): 636–4941. J. Piaget ความคิดของเด็ก ๆ ในโลก (Routledge & Kegan Paul, 1929)42. D. Kelemen,“ ขอบเขตของการคิดทาง teleological ในเด็กก่อนวัยเรียน,” ความรู้ความเข้าใจ 70 (1999): 241–7243. D. Kelemen“ เด็ก ๆ เป็น“ ผู้นับถือที่ใช้งานง่าย” หรือไม่”วิทยาศาสตร์จิตวิทยา 15 (2004): 295–30144. J. Piaget ความคิดของเด็ก ๆ ในโลก (Routledge & Kegan Paul, 1929)45. D. Hume, ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของศาสนา (1757, พิมพ์ซ้ำ Clarendon Press, 1976)46. J. D. Woolley,“ คิดเกี่ยวกับแฟนตาซี: เด็ก ๆ เป็นนักคิดและผู้ศรัทธาที่แตกต่างจากผู้ใหญ่หรือไม่”การพัฒนาเด็ก 68 (1997): 991–1011;J. D. Woolley และ K. E. Phelps“ การใช้เหตุผลเชิงปฏิบัติของเด็กเล็กเกี่ยวกับจินตนาการ” วารสารจิตวิทยาการพัฒนาของอังกฤษ 12 (1994): 53–6747. C. N. Johnson และ P. L. Harris,“ Magic: พิเศษ แต่ไม่ได้รับการยกเว้น” วารสารจิตวิทยาการพัฒนาของอังกฤษ 12 (1994): 35–5148. E. V. Subbotsky,“ คำอธิบายของเหตุการณ์ที่ผิดปกติ: การตัดสินเชิงสาเหตุที่เป็นปรากฎการณ์ในเด็กและผู้ใหญ่” วารสารจิตวิทยาการพัฒนาของอังกฤษ 15 (1997): 13–3649. J.Haidt, F. Bjorkland และ S. Murphy,“ Moral Dumbfounding: เมื่อสัญชาตญาณไม่พบเหตุผล” การศึกษาที่ไม่ได้เผยแพร่ (10 สิงหาคม 2000)50. “ กฎข้อที่สามของคล๊าร์ค” ใน A. C. Clarke, Pro ﬁ les of the Future: การไต่สวนถึงขอบเขตของความเป็นไปได้ (Harper & Row, 1962)51. M. Mead,“ การสอบสวนความคิดของเด็กดั้งเดิมที่มีการอ้างอิงพิเศษเกี่ยวกับความเกลียดชัง” วารสารสถาบันมานุษยวิทยารอยัล 62 (2475): 173–9052. G. Bennett, ประเพณีแห่งความเชื่อ: ผู้หญิง, นิทานพื้นบ้านและสิ่งเหนือธรรมชาติในวันนี้ (Pelican Books, 1987)

หมายเหตุแหล่งที่มา

271

53. J. Pole, N. Berenson, D. Sass, D. Young, และ T. Blass,“ การเดินใต้บันได: การทดลองภาคสนามเกี่ยวกับพฤติกรรมทางไสยศาสตร์” บุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม Bulletin 1 (1974): 10–12.54. J. M. Bering,“ จิตวิทยาพื้นบ้านของวิญญาณ,” พฤติกรรมและวิทยาศาสตร์สมอง 29 (2006): 453–9855. จอห์นสันและแฮร์ริส“ เวทมนตร์: พิเศษ แต่ไม่ได้ถูกกีดกัน”วารสารจิตวิทยาการพัฒนาของอังกฤษ 12 (1994): 35–51 56. E. V. Subbotsky,“ การคิดเหตุผลและการคิดเวทย์มนตร์ในเด็กก่อนวัยเรียน: พื้นที่และเวลา,” วารสารจิตวิทยาการพัฒนาของอังกฤษ 12 (1994): 97–10857. I. Opie และ P. Opie, ตำนานและภาษาของเด็กนักเรียน (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 1959), p.210. 58. N. Humphrey, จิตสำนึกฟื้นคืนชีพ (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 1984)บทที่ห้า: ใจอ่าน 101

1. S. Baron-Cohen ความแตกต่างที่สำคัญ: ความจริงเกี่ยวกับสมองชายและหญิง (หนังสือพื้นฐาน, 2005)2. D. J. Povinelli และ T. J. Eddy“ สิ่งที่ชิมแปนซีหนุ่มรู้เกี่ยวกับการมองเห็น” เอกสารของสมาคมเพื่อการวิจัยในการพัฒนาเด็ก 61, no.2, หมายเลขอนุกรม247 (1996)3. K. Lorenz,“ ส่วนและพัสดุในสังคมและสังคมมนุษย์” ในการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมสัตว์และมนุษย์, ฉบับที่2 แก้ไขโดย K. Lorenz (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 2514)4. S. Goldberg, S. L. Blumberg, และ A. Kriger,“ มีประจำเดือนและความสนใจในทารก: ชีวภาพและสังคมใน ﬂ uences,” การพัฒนาเด็ก 53 (1982): 1544–505. M. H. Johnson, S. Dziurawiec, H. Ellis และ J. Morton,“ การติดตามพิเศษของทารกแรกเกิด” สำหรับสิ่งเร้าที่เหมือนใบหน้าและการลดลงที่ตามมา” ความรู้ความเข้าใจ 40 (1991): 1–196. M. H. Johnson,“ การประทับและการพัฒนาของการจดจำใบหน้า: จาก Chick to Man,” ทิศทางปัจจุบันในวิทยาศาสตร์จิตวิทยา 1 (1992): 52–557. N. Kanwisher, J. McDermott และ M. Chun,“ พื้นที่ใบหน้า Fusiform: โมดูลในเยื่อหุ้มสมอง extrastriate ของมนุษย์เชี่ยวชาญสำหรับการรับรู้ของใบหน้า,” วารสารประสาทวิทยาศาสตร์ 17 (1997): 4302–11ที่จริงแล้วตอนนี้มีข้อพิพาทบางอย่างว่าพื้นที่นั้นเป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงไปยังใบหน้าหรือประเภทพิเศษของวัตถุที่รู้จักกันดีเนื่องจากใบหน้าเป็นวัตถุที่หลากหลายที่สุดที่เราพบสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าพื้นที่อาจพัฒนาเป็นหลักสำหรับใบหน้า

272

กีดขวาง

8. O. Sacks คนที่เข้าใจผิดว่าภรรยาของเขาเป็นหมวก (Pan Books, 1998)9. J. R. Harding,“ กรณีของ Scrotum ผีสิง” วารสารของราชสมาคมการแพทย์ 89 (1996): 600. 10. S. Guthrie, เผชิญหน้ากับเมฆ: ทฤษฎีศาสนาใหม่ (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 1993).11. “ Toast Virgin Mary ’ดึง $ 28,000,” ข่าวบีบีซี, 23 พฤศจิกายน 2547, มีให้ที่: http://news.bbc.co.uk/1/hi/world/ Americas/4034787.stm“ ผู้หญิงเห็นใบหน้าของพระเยซูในภาพถ่ายอัลตร้าซาวด์,” wkyc.com, 11 เมษายน 2548, มีให้ที่: http: // www.wkyc.com/news/news_fullstory.asp?id=3315612. Z. Wang และ W. Z. Aragona,“ กฎระเบียบทางประสาทวิทยาของพันธะคู่ใน Prairie Voles,” สรีรวิทยาและพฤติกรรม 83 (2004): 319–2813. G. Johansson“ การรับรู้ทางสายตาของการเคลื่อนไหวทางชีวภาพและแบบจำลองสำหรับการวิเคราะห์” การรับรู้และจิตวิทยา 14 (1973): 201–1114. B. I. Bertenthal,“ การรับรู้ของการเคลื่อนไหวทางชีวกลศาสตร์โดยทารก: ภาพที่แท้จริงและข้อ จำกัด ตามความรู้” ในการประชุมสัมมนา Carnegie เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ: การรับรู้ด้วยสายตาและความรู้ความเข้าใจในวัยเด็ก, แก้ไขโดย C. Granrud (Erlbaum, 1993)15. S. Johnson, V. Slaughter และ S. Carey“ ทารกจะจ้องมองใคร?ความผิดพลาดของการจ้องมองในการติดตามในสิบสองเดือน,” วิทยาศาสตร์การพัฒนา 1 (1998): 233–3816. ตัวอย่างนี้มาจาก A. N. Meltzoff และ R. Brooks,“ Eyes Wide Shut: ความสำคัญของดวงตาในการจ้องมองของทารกและทำความเข้าใจกับจิตใจอื่น ๆ ” ในการจ้องมองต่อไปนี้: การพัฒนาและความสำคัญของมันแก้ไขโดย R. Flom, K. Leeและ D. Muir (Erlbaum, 2007)17. B. M. Hood, J. D. Willen, และ J. Driver,“ ดวงตาของผู้ใหญ่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของความสนใจทางสายตาในทารกของมนุษย์” วิทยาศาสตร์จิตวิทยา 9 (1998): 131–3418. ความรุนแรงของทารกแรกเกิดนั้นประมาณหนึ่งในยี่สิบของผู้ใหญ่และจะเป็นระดับของการตาบอดทางกฎหมาย19. T. Farroni, G. Csibra, F. Simion และ M. H. Johnson,“ การตรวจจับสายตาในมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิด” การดำเนินการของ National Academy of Sciences 99 (2002): 9602–520. S. M. J. Hains และ D. W. Muir,“ ผลกระทบของการกระตุ้นการเกิดขึ้นในการปฏิสัมพันธ์ระหว่างทารกและผู้ใหญ่” พฤติกรรมและการพัฒนาของทารก 19 (1996): 49–6121. M. Scaife และ J. Bruner,“ ความสามารถในการให้ความสนใจในการมองเห็นร่วมกันในทารก,” ธรรมชาติ 253 (1975): 265–66

หมายเหตุแหล่งที่มา

273

22. Danny Povinelli ไม่เชื่อดู Povinelli และ Eddy“ ลิงชิมแปนซีหนุ่มผู้รู้เรื่องการเห็น” 23. บาร์บาร่า Smuts“ มีเพื่อนอะไร” ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกัน) (1987): 36–4424. V. Kuhlmeier, K. Wynn และ P. Bloom,“ การระบุแหล่งที่มาของรัฐที่มีการจัดการโดยอายุสิบสองเดือน” วิทยาศาสตร์จิตวิทยา 14 (2003): 402–825. J. K. Hamlin, K. Wynn และ P. Bloom,“ การประเมินผลทางสังคมโดย Preverbal Infants,” Nature 450 (2007): 557–5926. D. C. Dennett,“ ระบบโดยเจตนา,” วารสารปรัชญา 68 (1971): 87–10627. D. C. Dennett, Breaking the Spell: ศาสนาเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ (Penguin Allen Lane, 2006)28. P. Bloom, Descartes ’Baby (Basic Books, 2004)29. B. Libet,“ ความคิดริเริ่มสมองที่หมดสติและบทบาทของความตั้งใจในการกระทำโดยสมัครใจ” พฤติกรรมและวิทยาศาสตร์สมอง 8 (1985): 529–6630. S. Pinker, The Blank Slate: การปฏิเสธที่ทันสมัยของธรรมชาติของมนุษย์ (Viking Adult, 2002), p.43. 31. เดส์การ์ตมาถึงข้อสรุปนี้เพราะต่อมไพเนียลดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในโครงสร้างเดียวในสมองที่ไม่ได้ทำซ้ำหรือจัดระเบียบในสองครึ่งในความเป็นจริงมันคือ32. V. A. Ramachandran และ S. Blakeslee, Phantoms ในสมอง: การตรวจสอบความลึกลับของจิตใจมนุษย์ (William Morrow, 1998)33. D. M. Wegner ภาพลวงตาของจิตสำนึก (MIT Press, 2002)34. C. N. Johnson และ H. M. Wellman“ แนวคิดการพัฒนาของเด็ก ๆ เกี่ยวกับจิตใจและสมอง” การพัฒนาเด็ก 53 (1982): 222–3435. Robocop กำกับโดย Paul Verhoeven (Orion Pictures, 1987)36. Blade Runner กำกับโดย Ridley Scott (Blade Runner Productions, 1982)37. L. J. Rips, S. Blok และ G. Newman,“ การติดตามตัวตนของวัตถุ,” การทบทวนทางจิตวิทยา 113 (2006): 1–3038. V. Slaughter“ ความเข้าใจของเด็กเล็กเรื่องความตาย” นักจิตวิทยาชาวออสเตรเลีย 40 (2005): 179–8639. J. M. Bering และ D. F. Bjorkland“ การเกิดขึ้นตามธรรมชาติของการให้เหตุผลเกี่ยวกับชีวิตหลังความตายเป็นความสม่ำเสมอในการพัฒนา” จิตวิทยาการพัฒนา 40 (2004): 217–33

274

กีดขวาง

40. J. M. Bering,“ แนวคิดที่เข้าใจง่ายของจิตใจของตัวแทนที่ตายแล้ว: รากฐานทางธรรมชาติของความเชื่อหลังความตายเป็นขอบเขตปรากฏการณ์วิทยา” วารสารความรู้ความเข้าใจและวัฒนธรรม 2 (2002): 263–30841. V. Slaughter และ M. Lyons,“ การเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและความตายในวัยเด็ก,” จิตวิทยาความรู้ความเข้าใจ 46 (2002), 1–3042. J. M. Bering, C. Hernández-Blasi และ D. F. Bjorkland,“ การพัฒนาความเชื่อของ 'Afterlife' ในเด็กที่มีการศึกษาทางโลกและศาสนา,” วารสารจิตวิทยาการพัฒนาของอังกฤษ 23 (2005): 587–60743. J. M. Bering,“ จิตวิทยาพื้นบ้านของวิญญาณ,” พฤติกรรมและวิทยาศาสตร์สมอง 29 (2006): 453–98บทที่หก: อุบัติเหตุประหลาด

1. โจเซฟเมอร์ริกเป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่า“ จอห์นเมอร์ริก” เนื่องจากความผิดพลาดที่เกิดจากการตีพิมพ์บันทึกความทรงจำของแพทย์เซอร์เฟรดเดอริกเทรฟส์2. Aloa เด็กชาย Alligator คือ William Smith ที่เกิดที่ Raleigh, North Carolina ในปี 1908 เขาเป็นลูกคนสุดท้ายของเด็กแปดคนที่เจ็ดน้องสาวของเขาเวอร์จิเนียของเขาก็เกิดมาพร้อมกับสภาพผิวเดียวกันAloa ถูกแพทย์หลายคนเห็นสภาพของเขาเพื่อความหวาดกลัวที่แม่ของเขาได้รับการให้กำเนิดน้องสาวของเขาเขามักจะเกิดมาพร้อมกับ ichthyosis ซึ่งเป็นโรคผิวหนังที่สืบทอดมาทางพันธุกรรม3. กรณีแรกของชายที่มีสองอวัยวะเพศชาย (Diphallia) ได้รับการรายงานโดย Johannes Jacob Wecker ในปี 1609 Diphallia ได้รับการประเมินว่าจะเกิดขึ้นในประมาณ 1 ใน 5.5 ล้านเกิดชายในสหรัฐอเมริกา;ดู K. K. Sharma, R. Jain, S. K. Jain และ A. Purohit,“ Diphallus ที่ซ่อนเร้น: รายงานผู้ป่วยและทบทวนวรรณกรรม” วารสารสมาคมศัลยแพทย์กุมารเวชแห่งอินเดีย 5 (2000): 18–214. S. Carey, การเปลี่ยนแปลงแนวคิดในวัยเด็ก (Bradford Books of MIT Press, 1985)5. S. A. Gelman, The Essential Child: ต้นกำเนิดของความสำคัญในความคิดในชีวิตประจำวัน (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 2003)6. K. Inagaki และ G. Hatano,“ สาเหตุที่สำคัญในชีววิทยาที่ไร้เดียงสาของเด็กเล็ก” แนวโน้มในวิทยาศาสตร์การเรียนรู้ 8 (2004): 356–627. Sir Hans Adolf Krebs ได้รับรางวัลโนเบลในปี 1953 เพื่อระบุปฏิกิริยาทางเคมีเมแทบอลิซึมที่ผลิตพลังงานในเซลล์8. J. Lovelock, Gaia: รูปลักษณ์ใหม่ที่ Life on Earth (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 1979)

หมายเหตุแหล่งที่มา

275

9. G. L. Murphey และ D. L. Medin,“ บทบาทของทฤษฎีในการเชื่อมโยงแนวคิด,” การทบทวนทางจิตวิทยา 92 (1985): 289–31610. J. M. Mandler, ฐานรากของจิตใจ (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 2004)11. P. C. Quinn และ P. D. Eimas,“ การรับรู้ชี้นำที่อนุญาตให้มีการแยกความแตกต่างของสัตว์ชนิดสัตว์โดยทารก” วารสารจิตวิทยาเด็กทดลอง 63 (1996): 189–21112. S. Carey“ แหล่งที่มาของการเปลี่ยนแปลงแนวคิด”ใน E. K. Scholnick, K. Nelson, S. A. Gelman และ P. H. Miller (Eds.) แนวคิดการพัฒนา: มรดกของ Piaget Mahwah, NJ: Erlbaum (1999): 293–32613. S. Carey,“ ความแตกต่างทางแนวคิดระหว่างเด็กและผู้ใหญ่,” จิตใจและภาษา 3 (1988): 167–8114. ตัวอย่างเช่นแสงในช่วงอินฟราเรดและอัลตราไวโอเลตอยู่เกินขอบเขตของระบบภาพมนุษย์ในทำนองเดียวกันมนุษย์สามารถได้ยินเสียงเฉพาะในช่วง 20-29,000 เฮิร์ตซ์15. การบุกรุกของ The Body Snatchers กำกับโดย Don Siegel (Walter Wanger Productions, 1956)16. D. L. Medin และ A. Ortony,“ ความจำเป็นทางจิตวิทยา,” ในความคล้ายคลึงกันและการใช้เหตุผลแบบอะนาล็อก, แก้ไขโดย S. Vosniadou และ A. Ortony (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, 1989)17. การรวบรวมที่ดีที่สุดและเข้าถึงได้มากที่สุดคือ S. A. Gelman, The Essential Child: ต้นกำเนิดของความสำคัญในความคิดในชีวิตประจำวัน (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 2003)18. S. A. Gelman และ H. M. Wellman,“ Insides and Essences: ความเข้าใจในช่วงต้นของผู้ที่ไม่ชัดเจน,” ความรู้ความเข้าใจ 38 (1991): 213–4419. L. A. Hirschfeld“ เด็ก ๆ มีทฤษฎีการแข่งขันหรือไม่”, ความรู้ความเข้าใจ 54 (1995): 209–5220. S. A. Gelman และ E. M. Markman,“ หมวดหมู่และการเหนี่ยวนำในเด็กเล็ก,” ความรู้ความเข้าใจ 23 (1986): 183–20921. F. Keil, แนวคิด, ชนิดและการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ (Bradford Books, 1989)22. J. H. Flavell, E. R. Flavell และ F. L. Green,“ การพัฒนาความแตกต่างที่ปรากฏในความเป็นจริง” จิตวิทยาความรู้ความเข้าใจ 15 (1983): 95–12023. G. E. Newman และ F. C. Keil,““ Essence อยู่ที่ไหน”: การพัฒนาความเชื่อของเด็กเกี่ยวกับคุณสมบัติภายใน” (การพัฒนาเด็กในสื่อ)24. อันที่จริงแล้วความคิดคือการไม่กินมันฝรั่งเลยค่อนข้างศาสตราจารย์ Tony Trewavas จากสถาบันวิทยาศาสตร์พืชโมเลกุลของเอดินเบอระ

276

กีดขวาง

พัฒนามันฝรั่งดัดแปลงพันธุกรรมเป็นโรงงานเครื่องหมายที่สามารถใช้ในการตรวจสอบการเพาะปลูกโดยรวมเพียงแค่หว่านพืชสองสามต้นใน eld eld เกษตรกรจะสามารถควบคุมการรดน้ำและปรับปรุงผลผลิตของมันฝรั่งปกติ25. H. Bagis, D. Aktoprakligil, H. O. Mercan, N. Yurusev, G. Turget, S. Sekman, S. Arat, และ S. Cetin,“ การส่งผ่านที่มั่นคง) ยีนในหนูพันธุ์ดัดแปรพันธุกรรมและการจัดเก็บอุณหภูมิของรังไข่และอัณฑะในการดัดแปลงพันธุกรรม” การทำซ้ำโมเลกุลและการพัฒนา 73 (2549): 1404–1126. แมลงวันกำกับโดย David Cronenberg (Brooks ﬁ lms, 1986)27. P. Savolainen, Y. Zhang, J. Luo, J. Lundeberg, และ T. Leitner,“ หลักฐานทางพันธุกรรมสำหรับต้นกำเนิดของสุนัขในเอเชียตะวันออกของสุนัขในบ้าน,” วิทยาศาสตร์ 298 (2002): 1610–1328. เซลล์ต้นกำเนิดมีสองรูปแบบคือตัวอ่อนและผู้ใหญ่การบำบัดเซลล์ต้นกำเนิดจากผู้ใหญ่นั้นค่อนข้างไม่มีข้อโต้แย้งและถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายปีในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในทางตรงกันข้ามเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนของมนุษย์อาจมีความสามารถในการรักษาแบบปฏิรูปเพื่อความหลากหลายของสภาพเซลล์ที่เสียหายและเป็นโรค แต่เนื่องจากพวกเขาเกี่ยวข้องกับการทำลายตัวอ่อนการวิจัยและการปฏิบัติยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากและถูกแบนในหลายประเทศ29. การศึกษาต้นฉบับที่ตีพิมพ์โดย Joseph Vacanti และเพื่อนร่วมงานของเขาในการผ่าตัดพลาสติกและการสร้างใหม่ในปี 1997 ทำให้เกิดพายุแห่งความชั่วร้ายและการโต้เถียงที่สับสนในปีพ. ศ. 2542 โครงการจุดเปลี่ยนกลุ่มวิศวกรรมต่อต้านพันธุกรรมได้นำโฆษณาออกมาในนิวยอร์กไทมส์แสดงภาพของเมาส์ด้วยคำบรรยายภาพที่ทำให้เข้าใจผิด“ นี่เป็นภาพที่แท้จริงของเมาส์ดัดแปลงพันธุกรรมที่มีหูมนุษย์อยู่ด้านหลัง”เมาส์ไม่ได้ดัดแปลงพันธุกรรมและไม่มีเซลล์มนุษย์ที่ฝังอยู่ในนั้นในความเป็นจริง bioframe ทำจากกระดูกอ่อนวัว30. ความเชื่อในกองกำลังและพลังงานที่สำคัญพบได้ในปรัชญาตะวันออกส่วนใหญ่สำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับความคิดแบบตะวันตกของลัทธินิยมนิยมดู E. Mayr การเติบโตของความคิดทางชีวภาพ (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 2525)31. M. Roach, หกฟุตเหนือ: การผจญภัยในชีวิตหลังความตาย (Cannongate, 2007)32. D. MacDougall“ สมมติฐานเกี่ยวกับสารวิญญาณพร้อมกับหลักฐานการทดลองเกี่ยวกับการมีอยู่ของสารดังกล่าว” ยาอเมริกัน 4 (2450): 240–4333. K. Inagaki และ G. Hatano เด็กเล็กคิดไร้เดียงสาเกี่ยวกับโลกชีวภาพ (Psychology Press, 2002)34. V. Slaughter และ M. Lyons,“ การเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตและความตายในวัยเด็ก,” จิตวิทยาความรู้ความเข้าใจ 43 (2003): 1–30

หมายเหตุแหล่งที่มา

277

35. “ แก่นสาร” ในฐานะคำที่รอดชีวิตในปัจจุบันในฟิสิกส์เชิงทฤษฎีสมัยใหม่เป็นชื่อของพลังงานมืดสมมุติที่เชื่อว่าจะอธิบายถึงพลังงานที่จำเป็นในการอธิบายการขยายตัวของจักรวาลที่รู้จักอย่างต่อเนื่อง36. สำหรับการแนะนำที่สามารถเข้าถึงได้เกี่ยวกับห่วงโซ่ที่ยิ่งใหญ่ของการเป็นอยู่และการเกิดขึ้นของวิธีการทางวิทยาศาสตร์จากยุคของการเล่นแร่แปรธาตุฉันแนะนำเจเฮนรี่ความรู้คือพลัง: เวทมนตร์รัฐบาลและวิสัยทัศน์สันทรายเป็นแรงบันดาลใจให้ฟรานซิสเบคอนเป็นแรงบันดาลใจให้ฟรานซิสเบคอนสร้างวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ (ไอคอนหนังสือ, 2002)37. B. Woolley, Herbalist: Nicholas Culpeper และการต่อสู้เพื่อเสรีภาพทางการแพทย์ (HarperCollins, 2004)38. Coco de Mer เป็นสมาชิกที่ได้รับความคุ้มครองที่หายากของสายพันธุ์ปาล์มที่เติบโตเฉพาะในหมู่เกาะเซเชลส์มันเคยคิดว่าจะคล้ายกับก้นของผู้หญิงซึ่งมีการเรียกร้องในหนึ่งในชื่อพฤกษศาสตร์เก่าของมันคือ Lodoicea Callipyge ซึ่ง Callipyge มาจากกรีกสำหรับ "ตะโกนที่สวยงาม"39. ดู Andrew Harding“ Emporium อวัยวะเพศชายของปักกิ่ง” ข่าวบีบีซี 23 กันยายน 2549 มีอยู่ที่: http://news.bbc.co.uk/1/hi/ โปรแกรม/from_our_own_correspondent/5371500.stm40. Tony Tysome,“ การเพิ่มขึ้นของแอปพลิเคชันสำหรับวิชา 'อ่อน' แพนเนื่องจากหลักสูตรดั้งเดิมสูญเสีย” Times Higher Education Supplement, 27 กรกฎาคม 2550 มีวางจำหน่ายที่ http://www.timeshighereducation.co.uk/ Story.asp?StoryCode = 209755 & SectionCode = 26 41. Meirion Jones,“ Malaria คำแนะนำมีความเสี่ยงต่อชีวิต, '” ข่าว BBC, 13 กรกฎาคม 2549, มีให้ที่: http://news.bbc.co.uk/1/hi/programmes/ Newsnight/517812222222222222222222222222222222222222222222222222222222222.stm.42. M. Sans-Corrales, E. Pujol-Ribera, J. Gené-Badia, M. I. Pasarínrua, B. Iglesias-Pérezและ J. Casajuana-Brunet,“ คุณลักษณะเวชศาสตร์ครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจสุขภาพและค่าใช้จ่าย”การปฏิบัติของครอบครัว 23 (2549): 308–1643. P. Rozin, L. Millman และ C. Nemeroff,“ การดำเนินการตามกฎหมายของความเห็นอกเห็นใจเวทมนตร์ในความขยะแขยงและโดเมนอื่น ๆ ” วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 50 (1986): 703–1244. B. Wicker, C. Keysers, J. Plailly, J. P. Royet, V. Gallese, และ G. Rizzolatti,“ เราทั้งคู่เบื่อหน่ายใน Insula ของฉัน: พื้นฐานของระบบประสาททั่วไปของการมองเห็นและรู้สึกเบื่อหน่าย” Neuron 40 (2003 (2003): 655–6445. C. Nemeroff และ P. Rozin,“ แนวคิดการติดต่อในการคิดผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา: การส่งเชื้อโรคและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลใน ﬂ uence,” Ethos 22 (1994): 158–86

278

กีดขวาง

46. M. Mauss ทฤษฎีเวทมนตร์ทั่วไปแปลโดย R. Brain (1902; พิมพ์ซ้ำ W. W. Norton, 1972)47. P. Rozin และ A. Fallon“ การเข้าซื้อกิจการของความชอบและไม่ชอบอาหาร” ในอเมริกากินอะไร?การประชุมวิชาการ (สำนักพิมพ์แห่งชาติ, 1986), มีให้ที่: http://www.nap.edu/ openbook/0309036356/html/58.html48. L. R. Kass,“ ภูมิปัญญาแห่งการต่อต้าน,” สาธารณรัฐใหม่ (2 มิถุนายน 1997): 17–2649. J. Haidt, S. H. Koller และ M. G. Dias,“ ผลกระทบ, วัฒนธรรมและศีลธรรมหรือผิดที่จะกินสุนัขของคุณ?”วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 65 (1993): 613–2850. J. Haidt,“ สุนัขอารมณ์และหางที่มีเหตุผล: วิธีการทางสังคมในการตัดสินทางศีลธรรม,” การทบทวนทางจิตวิทยา 108 (2001): 814–34บทที่เจ็ด: คุณจะได้รับการปลูกถ่ายหัวใจจากฆาตกรอย่างเต็มใจหรือไม่?

1. S. Schachter และ J. E. Singer,“ ความรู้ความเข้าใจ, สังคมและปัจจัยทางสรีรวิทยาของสภาวะอารมณ์,” การทบทวนทางจิตวิทยา 69 (1962): 379–992. D. G. Dutton และ A. P. Aron“ หลักฐานบางอย่างสำหรับการดึงดูดทางเพศที่เพิ่มขึ้นภายใต้เงื่อนไขของความวิตกกังวลสูง” วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 30 (1974): 510–173. “ วรรณะ” หมายถึงวรรณะที่ต่ำที่สุดในสังคมที่แตกต่างกันหลายแห่งรวมถึง“ Baekjeong” (เกาหลี),“ Burakumin” (ญี่ปุ่น),“ Khadem” (เยเมน) และวรรณะที่คล้ายกันในหลายประเทศในแอฟริกาแม้ว่าประเทศตะวันตกอาจละทิ้งการแยกทางสังคม แต่การเตรียมที่นั่งในรูปแบบของการขนส่งสาธารณะและในความบันเทิงสาธารณะยังคงรักษามรดกของการรักษาระยะห่างทางกายภาพระหว่างชนชั้นสูงและชั้นล่าง4. D. Rothbart และ T. Barlett,“ การออกอากาศทางวิทยุของรวันดาและการวางตำแหน่ง Hutu/ Tutsi,” ในการควบคุมและทฤษฎีการวางตำแหน่ง, แก้ไขโดย F. M. Moghaddam และ R. Harré (Springer, 2007)5. R. T. McNally, Dracula เป็นผู้หญิง: ในการค้นหาเลือดของทรานซิลวาเนีย (McGraw-Hill, 1987)สำหรับการโต้แย้งทฤษฎีนี้ดู E. Miller, Dracula: Sense and Nonsense (Parkstone Press, 2000)6. T. Thorne, Countess Dracula: ชีวิตและเวลาของเลือดเลือด, Elisabeth Báthory (Bloomsbury, 1997)7. Peta Bee,“ อันตรายตามธรรมชาติ?”, The Times, 16 กรกฎาคม 2550, มีให้ที่: http://www.timesonline.co.uk/tol/life_and_style/health/features/ article2073171.ece

หมายเหตุแหล่งที่มา

279

8. “ ถามฮิวจ์” ที่เว็บไซต์ River Cottage: http: // www .rivercottage.net/Askhugh9. “ เธอเป็นคู่แฝดของเธอเอง” AbcNews, 15 สิงหาคม 2549, มีให้ที่: http://abcnews.go.com/primetime/story?id=231569310. C. Ainsworth,“ The Stranger Inside,” นักวิทยาศาสตร์ใหม่ 180 (2003): 34. 11. N. Yu, M. S. Kruskall, J. J. Yunis, J. H. M. Knoll, L. Uhl, S. Alosco, M. Ohashi, O.Clavijo, Z. Husain และ E. J. Yunis,“ การคลอดบุตรที่เป็นข้อโต้แย้งซึ่งนำไปสู่การระบุตัวตนของ chimerism tetragametic,” วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ 346 (2002): 1545–5212. ว. วชิรอาเรนส์ตำนานการกินมนุษย์: มานุษยวิทยาและมานุษยวิทยา (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด 2522);ดูเพิ่มเติมที่ G. Obeyesekere, Cannibal Talk: ตำนานการกินมนุษย์และความศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์ในทะเลใต้ (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย, 2005)สำหรับการโต้แย้งดู T. White, Cannibalism ก่อนประวัติศาสตร์ที่ Mancos 5MTUMR-2346 (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน, 1992)13. Carlton Gajdusek ได้รับรางวัลโนเบลปี 1976 สำหรับการแพทย์เพื่อการค้นพบรูปแบบโรคพรีออน Kuru ในเผ่า Fore14. R. L. Klitzman, M. Alpers, และ D. C. Gajdusek,“ ระยะเวลาการฟักตัวตามธรรมชาติของ Kuru และตอนของการส่งผ่านในสามกลุ่มของผู้ป่วย” Neuroepidemiology 3 (1984): 3–2015. R. A. Marlar, B. L. Leonard, B. R. Billman, P. M. Lambert, และ J. E. Marlar,“ หลักฐานทางชีวเคมีของการกินเนื้อมนุษย์ที่ไซต์ Puebloan ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในรัฐเวสเทิร์นโคโลราโด” ธรรมชาติ 407 (2000): 74–7816. มีเหตุผลที่แตกต่างกันสำหรับการกินเนื้อสัตว์และการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องการตีความเหล่านี้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการสัมภาษณ์กับสมาชิกเผ่าที่รอดชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติที่กินคนมักจะผิดกฎหมายมาตั้งแต่ทศวรรษ 1960สำหรับบัญชีของ Wari of South America และ Funerary Cannibalism อ่าน Beth Corkin ความเศร้าโศกที่บริโภค: การกินเนื้อสัตว์ความเห็นอกเห็นใจในสังคมอเมซอน (มหาวิทยาลัยเท็กซัส, 2001)การปฏิบัติของ Melanesian Kukukukus ได้รับการบันทึกไว้ใน Jens Bjerre ซึ่งเป็นมนุษย์คนสุดท้าย (Michael Joseph, 1956)17. ลุคฮาร์ดิง“ เหยื่อของมนุษย์กินคนเห็นด้วยที่จะกิน” ผู้พิทักษ์ 4 ธันวาคม 2546 มีอยู่ที่: http: //www.guardian .co.uk/เยอรมนี/บทความ/0,2763,1099477,00htmlการถอดเสียงของการพิจารณาคดีมีอยู่ใน G. Stampf“ สัมภาษณ์ MIT EINEM KANNIBALEN” Gebundene Ausgabe (2007)18. “ สัมภาษณ์กับคนกินเนื้อ” RDF Media/Stampfwerk Coproduction สำหรับห้า (2007)19. ฉันเจอคดีของ Gammons ใน“ ความช่วยเหลือ!ฉันกลายเป็นภรรยาของฉัน” Daily Mail, 9 พฤศจิกายน 2549, มีให้ที่: http: //

280

กีดขวาง

www.dailymail.co.uk/pages/live/femail/article.html?in_article_ id = 415584 & in_page_id = 1879ฉันได้พูดทางโทรศัพท์กับเอียนซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีที่รายงานในกระดาษ20. Y. ผู้ตรวจการ, I. Kutz, และ D. David,“ หัวใจของบุคคลอื่น: การคิดเวทมนตร์และเหตุผลในการปรับตัวทางจิตวิทยากับการปลูกถ่ายหัวใจ” วารสารจิตเวชศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง 41 (2004): 161–7321. C. Sylvia และ W. Novak, การเปลี่ยนแปลงของหัวใจ: memoir (สำนักพิมพ์แกรนด์เซ็นทรัล, 1998)22. J. V. McConnell,“ การถ่ายโอนความทรงจำผ่านการกินเนื้อสัตว์ใน planarians,” วารสาร Neurophysiology 3 (1962): 42–4823. G. Ungar, L. Galvan และ R. H. Clark,“ การถ่ายโอนสารเคมีของความกลัวที่เรียนรู้,” ธรรมชาติ 217 (1968): 1259–6124. B. Frank, D. G. Stein, และ J. Rosen,“ การถ่ายโอนความทรงจำ Interanimal”: ผลลัพธ์จาก hom*ogenates สมองและตับ,” วิทยาศาสตร์ 169 (1970): 399–40225. P. P. Pearsall รหัสของหัวใจ (Broadway, 1999)26. C. Dyer,“ วัยรุ่นอังกฤษได้รับการปลูกถ่ายหัวใจกับความประสงค์ของเธอ” วารสารการแพทย์ของอังกฤษ 319, no.7204 (1999): 209. 27. M. A. Sanner,“ ความรู้สึกและความคิดของผู้คนเกี่ยวกับการได้รับการปลูกถ่ายต้นกำเนิดที่แตกต่างกัน: คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตายเอกลักษณ์และชายแดนธรรมชาติ” การปลูกถ่ายทางคลินิก 15 (2001): 19–27;M. A. Sanner,“ การแลกเปลี่ยนอะไหล่หรือกลายเป็นคนใหม่?ทัศนคติของผู้คนที่มีต่อการรับและบริจาคอวัยวะ” เวชศาสตร์สังคมศาสตร์ 52 (2001): 1491–99;M. A. Sanner“ การให้และรับ - กับใครและจากใคร?ทัศนคติของผู้คนที่มีต่อการปลูกถ่ายอวัยวะและเนื้อเยื่อจากแหล่งต่าง ๆ ” การปลูกถ่ายทางคลินิก 12 (1998): 515–22;M. A. Sanner“ การใช้ชีวิตกับอวัยวะของคนแปลกหน้า: มุมมองของผู้รับสาธารณะและผู้รับการปลูกถ่าย” พงศาวดารของการปลูกถ่าย 10 (2005): 9–1228. B. M. Hood, K. Donnelly และ A. Byers,“ การติดเชื้อทางศีลธรรมและการปลูกถ่ายอวัยวะ” กระดาษที่ไม่ได้เผยแพร่29. “ กฎใหม่เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ” BBCNews, 22 กุมภาพันธ์ 2000, มีให้ที่: http://news.bbc.co.uk/1/hi/health/651270.stm30. R. M. Veatch, จริยธรรมการปลูกถ่าย (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์, 2000)31. M. Sanner,“ แนวคิดของผู้รับการปลูกถ่ายของปรากฏการณ์สำคัญสามประการในการปลูกถ่าย: การบริจาคอวัยวะ, ผู้บริจาคอวัยวะและการปลูกถ่ายอวัยวะ” การปลูกถ่ายคลินิก 17 (2003): 391–40032. Barbarella กำกับโดย Roger Vadim (Dino de Laurentiis Cinematogra ﬁ ca, 1968)

หมายเหตุแหล่งที่มา

281

33. ตามที่รายงานเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2551 http://edition.cnn.com/2008/world/ ยุโรป/06/04/cathedral.sex/index.html 34. M. Earl-Taylor“ HIV/AIDS, Virgin Cure และการข่มขืนทารก,” วิทยาศาสตร์ในแอฟริกา (เมษายน 2545), มีให้ที่: http: // www .scienceinafrica.co.za/2002/เมษายน/Virgin.htm35. G. J. Pitcher และ D. M. Bowley,“ การข่มขืนทารกในแอฟริกาใต้,” The Lancet 359 (2002): 274–7536. C. H. Legare และ S. A. Gelman,“ Bewitchment, Biology หรือทั้งสองอย่าง: การอยู่ร่วมกันของกรอบการอธิบายธรรมชาติและเหนือธรรมชาติในการพัฒนา” วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ (ในสื่อ)37. C. Mackay, อาการหลงผิดที่เป็นที่นิยมและความบ้าคลั่งของฝูงชน (1841; พิมพ์ซ้ำ, เวิร์ดสเวิร์ ธ , 1995)38. L. R. Alton, อาชีพที่แปลกประหลาดของ John R. Brinkley (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคนตักกี้, 2002)39. http://www.time.com/time/magazine/article/0,9171,727231,00.html 40. R. V. Short,“ ชาวปารีสจับเอชไอวีจากต่อมลิงหรือไม่” จดหมายถึงธรรมชาติ 398 (1999): 659. 41. บัญชีของการประหารชีวิตนี้มาจากบันทึกความทรงจำของนักบวชฟิลิปเฮนรี่ (1631–96)อย่างไรก็ตามไม่มีบัญชีอื่นที่กล่าวถึงการตอบสนองของฝูงชนนี้42. ดูเว็บไซต์ AULD SOD Export Company Ltd. ที่: http://89.234.45.183/index.htm43. ดู“ เกี่ยวกับ Claridge’s” ที่: http://www.claridges.co.uk/about_ Claridges/ประวัติบทที่แปด: ทำไมพนักงานขายเดินทางถึงนอนกับตุ๊กตาหมี?

1. Pamela Wiggins,“ Celebrity Collectibles อันดับแปดและผู้รวบรวมพวกเขา” มีให้ที่: About.com, http://antiques.about.com/od/ showntell/tp/aa012807.htm2. B. N. Frazier, S. A. Gelman, A. Wilson และ B. M. Hood,“ Picasso Paintings, Moon Rocks และเนื้อเพลง Beatle ที่เขียนด้วยลายมือ: การประเมินของผู้ใหญ่ของวัตถุที่แท้จริง” วารสารวัฒนธรรมและความรู้ความเข้าใจ (ในสื่อ)3. Mariusz Lodkowski,“ การต่อสู้กับกระเป๋าเดินทางจาก Auschwitz,” Sunday Times, 13 สิงหาคม 2549, มีให้ที่: http: //www.timesonline .co.uk/tol/News/World/article607646.ece4. พระราชบัญญัติการคุ้มครองและการส่งตัวกลับประเทศอเมริกันพื้นเมืองของปี 1990 (NAGPRA) ปกป้องสถานที่ฝังศพของชนพื้นเมืองอเมริกันและยัง

282

กีดขวาง

ช่วยให้ชาวอเมริกันพื้นเมืองสามารถยึดซากศพของบรรพบุรุษที่จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์และสถาบันวิทยาศาสตร์อื่น ๆ5. ถ้ำ Lascaux ถูกค้นพบในปี 1940 แต่ในปี 1955 คาร์บอนไดออกไซด์ของผู้เข้าชมได้ทำลายภาพวาดอย่างเห็นได้ชัดและดังนั้นจึงปิดให้สาธารณชนในปี 1963 ในปี 1983 Lascaux II การสร้างใหม่เปิดสองร้อยเมตรจากถ้ำจริง6. F. Wynne, ฉันเป็น Vermeer: Forger ที่ฉ้อโกงพวกนาซี (Bloomsbury, 2006)7. Chris Gray,“ Bloody Hell: ปวดหัวสำหรับ Saatchi เป็นงานศิลปะที่ได้รับรางวัลละลายน้ำแข็ง,” อิสระ, 4 กรกฎาคม 2545, มีให้ที่: http: // news. interependent.co.uk/uk/this_britain/article182737.ece8. Jenny Booth และ Nico Hines“ เราสามารถบันทึก sark cutty หลังจาก Blaze, พูดว่าเจ้าของเรือ” The Times, 21 พฤษภาคม 2007, มีให้ที่: http://www.timesonline.co.uk/tol/news/สหราชอาณาจักร/บทความ 1817806.ece9. D. G. Hall,“ ความต่อเนื่องและการคงอยู่ของวัตถุ,” จิตวิทยาความรู้ความเข้าใจ 37 (1998): 28–5910. Nicholas Wade“ ร่างกายของคุณอายุน้อยกว่าที่คุณคิด” New York Times, สิงหาคม, 2, 2005, มีให้ที่: http: //www.nytimes .com/2005/08/02/วิทยาศาสตร์/02cell.html?Pagewanted = 1 & _r = 111. “ Big Girls Don't Cry” เนื้อเพลงและดนตรีโดย Fergie และ Toby Gad (A&M Records, 2007)12. M. Hobra,“ ความชุกของวัตถุเปลี่ยนผ่านในเด็กเล็กในโตเกียวและนิวยอร์ก,” วารสารสุขภาพจิตทารก, 24, (2003): 174–19113. การแถลงข่าว Travelodge, 13 มีนาคม 2550, มีให้ที่: http: // www.travelodge.co.uk/press/article.php?id=22214. L. M. Krauss, ฟิสิกส์ของ“ Star Trek” (Harpercollins, 1996)15. B. M. Hood และ P. Bloom,“ เด็ก ๆ ชอบบุคคลบางคนมากกว่าซ้ำซ้อนที่สมบูรณ์แบบ” ความรู้ความเข้าใจ (2008): 455-46216. C. N. Johnson และ M. G. Jacobs,“ Enchanted Objects: การเชื่อมต่อเชิงบวกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ ” โปสเตอร์และการนำเสนอในการประชุมสัมมนา“ ความคิดของเด็กเกี่ยวกับความเป็นจริงทางเลือก” (C. Johnson, เก้าอี้), การประชุมสองปีของสังคมสำหรับการวิจัยในการพัฒนาเด็กมินนิอาโปลิสมินน์ 19 เมษายน 2544 17. ศักดิ์ศรีกำกับโดยคริสโตเฟอร์โนแลน (Newmarket Productions, 2006)18. Nikola Tesla (1856–1943) เป็นชาวเซอร์เบียที่รับผิดชอบในการประดิษฐ์กระแสไฟฟ้าสลับกัน

หมายเหตุแหล่งที่มา

283

19. B. M. Hood และ P. Bloom,“ เด็ก ๆ คิดว่าการทำซ้ำร่างกายก็ทำซ้ำจิตใจด้วยหรือไม่” กระดาษที่ไม่ได้เผยแพร่20. J. Capgras และ J. Reboul-Lachaux,“ L’Illusion des Soles Dans Un Delire Systematise Chronique,” Bulletin de Society Clinique de Medicine Mentale 11 (1923): 6–1621. G. Blount,“ ความเป็นอันตรายของผู้ป่วยที่มีอาการ Capgras,” Nebraska Medical Journal 71 (1986): 207. 22. V. A. A. Ramachandran และ S. Blakeslee, Phantoms ในสมอง: ตรวจสอบความลึกลับของจิตใจมนุษย์ (William Morrow2541)23. A. Ghaffari-Nejad และ K. Toofani,“ รายงานของ Capgras Syndrome ด้วยความเชื่อในการแทนที่วัตถุที่ไม่มีชีวิตในผู้ป่วยที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคลมชักคุณยาย” จดหมายเหตุของการแพทย์อิหร่าน 8 (2005): 141–4324. T. Feinberg, Egos ที่เปลี่ยนแปลง: สมองสร้างตัวเองอย่างไร (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 2000)25. อาร์. ที. เอเบดและว. วชิรดี. บ.บ. ,“ ความหลงผิด Misidenti ของวัตถุที่ไม่มีชีวิตที่คุ้นเคย: ตัวแปรที่หายากของโรค Capgras,” วารสารจิตเวชศาสตร์อังกฤษ 157 (1990): 915–1726. H. D. Ellis และ M. B. Lewis,“ Capgras Delusion: หน้าต่างเกี่ยวกับการจดจำใบหน้า” แนวโน้มในวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ 5 (2001): 149–56บทที่เก้า: ชีววิทยาแห่งความเชื่อ

1. ตัวอย่างนี้นำมาจาก R. Sheldrake ความรู้สึกของการจ้องมองที่: และด้านอื่น ๆ ของจิตใจที่ขยาย (ARROW BOOKS, 2004)2. C. G. Gross“ ไฟที่มาจากดวงตา” นักประสาทวิทยา 5 (1999): 58–643. การค้นพบนี้เป็นครั้งแรกที่มีการทดลองโดยนักวิชาการอาหรับ Alhazen ผู้คิดค้นกล้องรูเข็มและอธิบายว่าทำไมภาพกลับด้านเนื่องจากเลนส์ของแสงเข้าตา4. ตาสีแดงเกิดจากการสะท้อนของเส้นเลือดที่ครอบคลุมพื้นผิวด้านหลังของดวงตาพื้นผิวที่ไวต่อแสงด้านหลังของดวงตาที่รู้จักกันในชื่อเรตินานั้นถูกจัดระเบียบกลับไปด้านหน้าโดยมีแสงต้องผ่านเลือดก่อนที่จะไปถึงตัวรับแสง5. G. A. Winer, J. E. Cottrell, V. Gregg, J. S. Fournier และ L. A. Bica,“ การรับรู้ทางสายตาที่เข้าใจผิดโดยพื้นฐาน: ความเชื่อของผู้ใหญ่ในการปล่อยภาพ” นักจิตวิทยาอเมริกัน 57 (2002): 417–246. S. Freud, จิตวิทยากลุ่มและการวิเคราะห์อัตตา (1921; พิมพ์ซ้ำ, W. W. Norton, 1975)

284

กีดขวาง

7. T. Depoorter“ Madame Lamort และ Ultimate Medusa Experience,” ภาพและการบรรยาย: นิตยสารออนไลน์ของการบรรยายภาพ, ฉบับที่ 5:“ The Uncanny” (มกราคม 2003), มีให้ที่: http: // www.imageandnarrativebe/uncanny/treesdepoorter.htm“ เป็นที่น่าสังเกตว่าในตำนานโบราณของเมดูซ่าในเวอร์ชั่นต่าง ๆ บางครั้งก็เป็นภาพของเธอ - เธอ 'จ้องมอง' โดยผู้ชมในขณะที่ในบางครั้งมันก็เป็นจ้องมองของเมดูซ่าเธอผู้ชมที่ petri”8. ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ผู้ที่ได้รับการตั้งชื่ออย่างเหมาะสมในการลงโทษที่สามของศาลในกรุงโรมตัดสินว่าเป็นความผิดทางอาญาสำหรับคนอิตาลีที่จะสัมผัสอวัยวะเพศของพวกเขาในที่สาธารณะการห้ามไม่เพียง แต่ใช้กับ Crotchscratching ที่น่าเบื่อหน่าย แต่ยังรวมถึงการฝึกซ้อมที่เชื่อโชคลางเพื่อป้องกันความชั่วร้ายดู John Hooper“ สัมผัสความเป็นส่วนตัวของคุณในส่วนตัวศาลบอกคนอิตาลี” ผู้พิทักษ์ 28 กุมภาพันธ์ 2551 มีอยู่ที่: http: // www.guardian.co.uk/world/2008/feb/27/italy19. B. Castiglione หนังสือของข้าราชบริพารแปลโดย C. Singleton (1528; พิมพ์ซ้ำหนังสือ Anchor, 1959)10. C. Russ,“ เครื่องมือที่ถูกตั้งค่าโดยการมองเห็นหรือโดยอยู่ใกล้กับร่างกายมนุษย์” The Lancet 201 (1921): 222–3411. E. B. Titchener“ ความรู้สึกของการจ้องมอง” วิทยาศาสตร์ (ซีรีส์ใหม่) 308 (1898): 23. 12. สิ่งนี้มาจากการศึกษาที่ไม่ได้เผยแพร่ฉันได้ดำเนินการกับนักเรียนปีแรก 219 คนที่เรียนหลักสูตรการรับรู้และวิสัยทัศน์ที่มหาวิทยาลัยบริสตอลนอกเหนือจากการใช้แบบสอบถามมาตรฐานที่วัดความเชื่ออาถรรพณ์ (T. M. Randall,“ สินค้าคงคลังสั้นอาถรรพณ์” การรับรู้และทักษะยนต์ 84 [1997]: 1265–66) พวกเขาถูกขอให้ให้คะแนนคำแถลงว่า“ ผู้คนสามารถบอกได้ว่าเมื่อใดพวกเขากำลังถูกจับตามองแม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นว่าใครกำลังดูพวกเขา” ในระดับ 1 (ความขัดแย้งที่รุนแรง) ถึง 6 (ข้อตกลงที่แข็งแกร่ง)มีเพียง 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับการจัดอันดับ“ ความขัดแย้งที่รุนแรง” และ 9 เปอร์เซ็นต์ได้รับการจัดอันดับ“ ไม่เห็นด้วย”ส่วนที่เหลือของนักเรียนเห็นด้วยกับคำแถลงนี้ในระดับหนึ่งแม้ว่าในฐานะกลุ่มพวกเขาได้คะแนนต่ำกว่าตัวอย่างขนาดใหญ่อื่น ๆ สำหรับความเชื่ออาถรรพณ์13. ตัวอย่างนี้นำมาจาก R. Sheldrake ความรู้สึกของการจ้องมองที่: และด้านอื่น ๆ ของ Mind Extended P178. 14. P. Brugger และ K. I. Taylor,“ ESP: การรับรู้ที่เกินความจำเป็นหรือผลของความน่าจะเป็นแบบอัตนัย?”, วารสารการศึกษาจิตสำนึก 10 (2003): 221–4615. J. Colwell, S. Schröder, และ D. Sladen,“ ความสามารถในการตรวจจับการจ้องมองที่มองไม่เห็น: การทบทวนวรรณกรรมและการทดสอบเชิงประจักษ์” วารสารจิตวิทยาอังกฤษ 91 (2000): 71–85

หมายเหตุแหล่งที่มา

285

16. วลีนี้มาจาก Carl Sagan แม้ว่าเขาจะถอดความคำแถลงที่ทำโดย David Humeสำหรับการอภิปรายดูที่ M. Pigliucci“ การเรียกร้องพิเศษต้องใช้หลักฐานพิเศษหรือไม่” ผู้สอบถามที่สงสัย (มีนาคม - เมษายน 2548)17. J. H. Flavell“ การพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการมองเห็น” ในการคิดและการมองเห็น: อภิปัญญาภาพในผู้ใหญ่และเด็กแก้ไขโดย D. T. Levin (MIT Press, 2004)18. A. A. Di Sessa,“ สู่ญาณวิทยาของฟิสิกส์,” ความรู้ความเข้าใจและการสอน 10 (1993): 105–22519. J. E. Cottrell และ G. A. Winer,“ การพัฒนาในการทำความเข้าใจการรับรู้: การลดลงของความเชื่อการรับรู้นอกใจ,” จิตวิทยาการพัฒนา 30 (1994): 218–2820. S. Einav และ B. M. Hood,“ การใช้มิติของการจ้องมองเด็ก ๆ เพื่ออนุมาน” จิตวิทยาการพัฒนา 42 (2006): 142–5221. S. Baron-Cohen, Mindblindness (MIT Press, 1995)22. R. B. Adams, H. L. Gordon, A. A. Baird, N. Ambady และ R. E. Kleck,“ ผลของการจ้องมองต่อ Amygdala ความไวต่อความโกรธและความกลัว” วิทยาศาสตร์ 300 (2003): 1536 23. K. Nichols และ B. Champness,“ Eye Gaze and the GSR,” วารสารจิตวิทยาสังคมทดลอง 7 (1971): 623–2624. M. Argle และ M. Cook, จ้องมองและจ้องมองร่วมกัน (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, 1976)25. Titchener คำอธิบายนี้เป็นคำอธิบาย“ ความรู้สึกของการจ้องมอง”26. R. Sheldrake, วิทยาศาสตร์ใหม่ของชีวิต: สมมติฐานของการสั่นพ้อง morphic (Park Street Press, 1981)27. ตามทฤษฎีของ Sheldrake ระบบใด ๆ รวมถึงจิตใจสามารถถือว่ามีรูปร่างหรือการกำหนดค่าที่เฉพาะเจาะจง“ morphic” หมายถึงรูปร่างการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของระบบใดระบบหนึ่งส่งผลกระทบต่อรูปร่างรวมของระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนี่คือส่วนกำทอนของทฤษฎีระบบที่ตามมาสะท้อนกับระบบอื่น ๆ ทำให้ข้อมูลสามารถเดินทางข้ามอวกาศและเวลาได้เอฟเฟกต์นั้นแข็งแกร่งขึ้นระบบที่เกี่ยวข้องมากขึ้นและยิ่งระบบในอนาคตมีความคล้ายคลึงกันมากขึ้นเท่านั้นคือระบบที่สร้าง eld eldในปี 1989 นักจิตวิทยาการทดลอง Zoltan Dienes ดำเนินการวิจัยเพื่อตรวจสอบการสั่นพ้องของ morphic โดยการทดสอบด้วยการดูระยะไกลของการทำซ้ำการทำซ้ำในการทำซ้ำการทำซ้ำผู้คนตอบสนองอย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นด้วยการนำเสนอซ้ำ ๆเขาต้องการที่จะรู้ว่าผู้คนที่ได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับงานการจดจำคำในกลุ่มคนที่แตกต่างกันผ่านผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางความคิดในขั้นต้นเขาพบว่ามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญน่าเสียดายที่เมื่อเขาวิ่ง

286

กีดขวาง

การศึกษาอีกสองครั้งไม่มีผลDienes อธิบายในรายละเอียดทางคณิตศาสตร์ว่าทำไมทฤษฎีบางอย่างควรได้รับการทดสอบและทำไมคนอื่นไม่ควรที่สำคัญกว่านั้นเขาอธิบายถึงความสำคัญและความแตกต่างของการสร้างความจริงในหนังสือเล่มใหม่ของเขาการทำความเข้าใจจิตวิทยาเป็นวิทยาศาสตร์: บทนำสู่วิทยาศาสตร์และการอนุมานทางสถิติ (Palgrave MacMillan, 2008)28. G. Orwell, สิบเก้าแปดสิบสี่: นวนิยาย (Secker & Warburg, 1949)29. M. Milinski, D. Semmann และ H. J. Krambeck,“ ชื่อเสียงช่วยแก้ปัญหา 'โศกนาฏกรรมของคอมมอนส์' 'ธรรมชาติ 415 (2002): 424–2630. M. Bateson, D. Nettle และ G. Roberts,“ ตัวชี้นำการถูกเฝ้าดูเพิ่มความร่วมมือในการตั้งค่าในโลกแห่งความเป็นจริง” จดหมายชีววิทยา 2 (2006): 412–1431. J. M. Bering, K. A. McLeod และ T. K. Shackelford“ การใช้เหตุผลเกี่ยวกับตัวแทนที่ตายแล้วเผยให้เห็นแนวโน้มการปรับตัวที่เป็นไปได้” ธรรมชาติของมนุษย์ 16 (2005): 360–8132. J. M. Bering,“ จิตวิทยาพื้นบ้านของวิญญาณ,” พฤติกรรมและวิทยาศาสตร์สมอง 29 (2006): 453–9833. S. Guthrie, Faces in the Clouds: ทฤษฎีใหม่ของศาสนา (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 1993)34. K. Conrad, Die Beginnende โรคจิตเภท: Versuch Einer Gestaltanalyse des Wahns (Thieme, 1958)35. T. C. Manschreck, B. A. Maher, J. J. Milavetz, D. Ames, C. C. Weisstein, และ M. L. Schneyer,“ Priming Semantic Priming ในผู้ป่วยจิตเภทที่ไม่เป็นระเบียบ” การวิจัยโรคจิตเภท 1 (1988): 61–6636. M. Eckblad และ L. J. Chapman,“ ความคิดมหัศจรรย์ในฐานะตัวบ่งชี้ของ schizotypy,” วารสารการให้คำปรึกษาและจิตวิทยาคลินิก 51 (1983): 215–2537. B. E. Brundage,“ บัญชีคนแรก: สิ่งที่ฉันอยากรู้ แต่กลัวที่จะถาม” Schizophrenia Bulletin 9 (1983): 583–85, 584. 38. R. Montague ทำไมต้องเลือกหนังสือเล่มนี้?เราตัดสินใจอย่างไร (Dutton, 2007)39. G. Fénelon, F. Mahieux, R. Huon, และ M. Ziégler,“ ภาพหลอนในโรคพาร์กินสัน,” สมอง 123 (2000): 733–4540. R. King, J. D. Barchas และ B. A. Huberman,“ พฤติกรรมวุ่นวายในโดปามีน neurodynamics,” การดำเนินการของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 81 (1984): 1244–47;ดูเพิ่มเติมที่ A. Shaner,“ อาการหลงผิด, การปรับอากาศทางไสยศาสตร์และ neurodynamics โดปามีนที่วุ่นวาย,” สมมติฐานทางการแพทย์ 52 (1999): 119–23

หมายเหตุแหล่งที่มา

287

41. P. Brugger,“ จากสมองผีสิงถึงวิทยาศาสตร์ผีสิง: มุมมองทางประสาทวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความคิดเกี่ยวกับอาถรรพณ์และ pseudoscienti,” ในการหลอกหลอนและนักโปโล: มุมมองสหสาขาวิชาชีพแก้ไขโดย J. Houran และ R. Lange (McFarland & Co. , 2001)).42. S. Blackmore และ T. Troscianko,“ ความเชื่อในอาถรรพณ์: การตัดสินความน่าจะเป็น, การควบคุมภาพลวงตาและโอกาสการเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน,” วารสารจิตวิทยาของอังกฤษ 76 (1985): 459–46843. P. Krummenacher, P. Brugger, M. Fathi, และ C. Mohr,“ โดปามีน, ความคิดอาถรรพณ์และการตรวจจับสิ่งเร้าที่มีความหมาย” กระดาษนำเสนอที่ Zentrum Fur Neurowissenschaften, Zurich (2002)44. มันยังคงเป็นเรื่องของข้อพิพาทว่า Neanderthals มีกลีบหน้าผากที่ได้รับการพัฒนาค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับคนสมัยใหม่หรือไม่ในแง่ของขนาดมันเป็นไปได้ว่า Neanderthal frontal lobes นั้นใหญ่มาก [ดู H.J. Jerison,“ วิวัฒนาการของกลีบหน้าผาก” ในกลีบหน้าผากของมนุษย์: ฟังก์ชั่นและความผิดปกติ, ฉบับที่ 2, แก้ไขโดย B. L. Miller และ J. L. Cummings (Guilford Press, 2007)]อย่างไรก็ตามคนอื่น ๆ ยืนยันว่าขนาดไม่เพียงพอและกลีบหน้าของพวกเขาไม่สนับสนุนการปฏิบัติการทางจิตเดียวกัน [เช่นE. Massad และ A. F. Rocha,“ meme-gene coevolution และคณิตศาสตร์เกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ” ในความก้าวหน้าในตรรกะ, สติปัญญาและหุ่นยนต์, แก้ไขโดย J. M. Abe และ J. J. Da Silva Filho (IOS Press, 2002)]45. P. Goldman-Rakic,“ ความทรงจำในการทำงานและจิตใจ” ในใจและสมอง: การอ่านจากนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (W. H. Freeman & Co. , 1993)46. A. Baddeley, หน่วยความจำในการทำงาน (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, 1986)47. J. Emick และ M. Welsh,“ ความสัมพันธ์ระหว่างความคิดในการปฏิบัติงานอย่างเป็นทางการและฟังก์ชั่นผู้บริหารที่วัดโดยหอคอยแห่งฮานอยได้รับการพิจารณา” การเรียนรู้และความแตกต่างของแต่ละบุคคล 15 (2005): 177–8848. J. R. Stroop,“ การศึกษาการแทรกแซงในปฏิกิริยาทางวาจาต่อเนื่อง,” วารสารจิตวิทยาการทดลอง 18 (1935): 643–62การทดสอบนี้มักจะทำด้วยคำที่พิมพ์ด้วยสีที่แตกต่างกัน แต่ผู้เผยแพร่ของฉันเตือนฉันว่าค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เพียงไม่กี่คำไม่สามารถเป็นเพียงแค่ justi ed edโชคดีสำหรับฉัน Steve Pinker อาจพบปัญหาเดียวกันในหนังสือเล่มล่าสุดของเขาเรื่องความคิด (2007, p. 332) ซึ่งเขายังอธิบายถึงผลกระทบของ Stroopฉันใช้วิธีแก้ปัญหาของเขาในการเอาชนะการใช้หมึกสีเพื่อให้ได้การสาธิตเดียวกัน49. A. Diamond, การพัฒนาและฐานประสาทของฟังก์ชั่นการรับรู้ที่สูงขึ้น (นิวยอร์ก Academy of Sciences, 1990)50. K. Dunbar, J. Fugelsang และ C. Stein,“ ทฤษฎีไร้เดียงสาหายไปหรือไม่?”ในการคิดด้วยข้อมูล: การประชุมวิชาการ Carnegie สามสิบสามเรื่องเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจแก้ไขโดย M. Lovett และ P. Shah (Erlbaum ในสื่อ)

288

กีดขวาง

51. ในความเป็นจริงมันเป็นเยื่อหุ้มสมองส่วนหน้าด้านหลังด้านหลังที่ถูกต้องซึ่งมีการใช้งานเมื่อผู้ใหญ่กำลังปราบปรามการกระตุ้นให้ตอบสนองด้วยการตอบสนองที่ใช้งานง่ายWim de Neys, Oshin Vartanian, Vinod Goel (2008) ฉลาดกว่าที่เราคิด: เมื่อสมองของเราตรวจพบว่าเรามีอคติวิทยาศาสตร์จิตวิทยา 19 (5), 483–489 52. T. Lombrozo, D. Kelemen และ D. Zaitchik,“ คำอธิบายทาง teleological ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์,” วิทยาศาสตร์จิตวิทยา 18 (2007): 999–100653. D. Zaitchik และ G. Solomon,“ ความคิดแบบเคลื่อนไหวในผู้สูงอายุและในผู้ป่วยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์” ประสาทวิทยาทางปัญญา (ในสื่อ)54. J. S. B. T. Evans,“ ในสองความคิด: บัญชีกระบวนการคู่ของการให้เหตุผล,” แนวโน้มในวิทยาศาสตร์การเรียนรู้ 7 (2003): 454–5955. S. Epstein, R. Pacini, V. Denes-Raj, และ H. Heier,“ ความแตกต่างในรูปแบบการคิดที่ใช้งานง่ายและมีเหตุผลเชิงวิเคราะห์” วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 71 (1996): 390–40556. L. A. King, C. M. Burton, J. A. Hicks และ S. M. Drigotas,“ Ghosts, UFOS และ Magic: ผลกระทบเชิงบวกและระบบประสบการณ์” วารสารบุคลิกภาพและจิตวิทยาสังคม 92 (2007): 905–1957. M. Lindeman และ K. Aarnio,“ เชื่อโชคลาง, เวทมนตร์, และความเชื่ออาถรรพณ์: แบบจำลองเชิงบูรณาการ,” วารสารการวิจัยในบุคลิกภาพ 41 (2007): 731–44;M. Lindeman และ M. Saher,“ Vitalism, Purpose, และ Superstition,” วารสารจิตวิทยาอังกฤษ 98, no.1 (2007): 33–44;M. Lindeman และ K. Aarnio,“ ความเชื่ออาถรรพณ์: มิติและความสัมพันธ์ทางจิตวิทยา,” วารสารบุคลิกภาพยุโรป 20 (2549): 585–602บทที่สิบ: คุณจะปล่อยให้ภรรยาของคุณนอนกับ Robert Redford หรือไม่?

1. P. E. Tetlock,“ คิดว่าคิดไม่ถึง: ค่าศักดิ์สิทธิ์และความรู้ความเข้าใจต้องห้าม” แนวโน้มในวิทยาศาสตร์การเรียนรู้ 7 (2003): 320–242. W. Styron, Sophie's Choice (Random House, 1979)

ดัชนี

การอ้างอิงหน้าตามด้วย ﬁ g ระบุภาพประกอบหรือภาพถ่ายการกระทำ: เด็ก ๆ ที่มาจากที่มาของ 128;เจตจำนงเสรีและ 67, 121–27;Samaritan ที่ดี, 117–18ดูพฤติกรรม;พฤติกรรมทางศีลธรรม;Rituals Afterlife: ความเชื่อของเด็กเกี่ยวกับ 130–32;ทฤษฎีการเดินทางผิดเกี่ยวกับความเชื่อใน, 234. ดูการทดลอง“ Air-Crip” ความตาย, 84 allchemy, 155 Alexandra แห่งกรีซ, เจ้าหญิง, 194 Allen, Woody, 16“ Aloa, The Alligator Boy,” 136, 137157–59 โรคอัลไซเมอร์, 148, 243–44 สมาคมการแพทย์อเมริกัน, 189 การใช้เหตุผลเชิงวิเคราะห์, 244–46 Anasazi, 177 สัตว์: การทดลองหน่วยความจำโทรศัพท์มือถือ, 181–82;ความเชื่อของคริสเตียนเกี่ยวกับการขาดวิญญาณใน 151;ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใน 58–60;พันธุวิศวกรรมของ, 146–50;“ ห่วงโซ่อันยิ่งใหญ่ของการเป็น” ของพระเจ้ารวมถึง 153–55;การทดลอง“ ข้อผิดพลาดแรงโน้มถ่วง” และ 95;กฎหมายการบริโภคอาหารของชาวยิวเกี่ยวกับ“ มลทิน” 139–40;การอ่านใจโดย, 117;การทดลองปรับอากาศของ Pavlov ด้วย 82–83;การจัดประเภทอนุกรมวิธาน

จาก 140–41ดูเพิ่มเติมที่แนวคิดทางชีวภาพสัญลักษณ์สัตว์:“ Lion-Man” (Hohlenstein-Stadel), 40 คือ;ศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์, 39–41 animism, 97, 244 มานุษยวิทยา, 98–99 ทัศนคติต่อต้านศาสนา: ของผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า, 64;การเติบโตของร่วมสมัย, 55–56 apophenia, 235“ สาเหตุทางจิตที่ชัดเจน” ความเชื่อ, 18 อริสโตเติล, 145 ศิลปะ: ความถูกต้องและปัญหาความคิดริเริ่มของ, 203, 205–7, 220;ความสำคัญทางจิตวิทยาในร่วมสมัย, 203–6 ศิลปะการปลอมแปลง, 203 การเรียนรู้การเชื่อมโยง: การโจมตีความคิดของ, 84–86;กลไกการปรับสภาพของ 82–83 ผู้ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้า: ทัศนคติต่อต้านศาสนาของ, 64;เปรียบเทียบประเทศต้นกำเนิดของ 64–65;การตรวจสอบอคติทางชีวภาพของ 23 พิธีกรรมกีฬา, 14–15 Atran, Scott, 54, 55 รายการสิ่งที่แนบมา: การทดลองซ้ำกัน, 211–13;ปฏิกิริยาทางอารมณ์ต่อ บริษัท ส่งออก SOD 208–11

290

กีดขวาง

Auschwitz, 201–2, 251 ความถูกต้อง: พื้นฐานทางอารมณ์ของความรู้สึก, 220;การใช้เหตุผลที่สำคัญและ 206–7;Provenance ใช้ในการพิสูจน์, 203;ของ“ Quiggle” ของแซม 207–8: การวิเคราะห์โลกธรรมชาติโดย, 91–92;การแสดงออกทางสีหน้าและ 109 –10;ชาวสะมาเรียที่ดี 118;จับ re ﬂ ex ของ, 75 คือ 76, 87–88;“ Magic Tricks” ความสนใจโดย 88–90;“ ออกจากสายตาออกไปจากใจ” ความรู้สึกของความเป็นจริงโดย 86–87, 88;กฎสำหรับการถอดรหัสความเป็นจริงโดย 89–90;การทดลอง“ Shapka” กับ 114–15;ความเข้าใจเกี่ยวกับชีววิทยาโดย 141–43ดูเด็ก ๆทารกแรกเกิด“ ทารกฉลาดกว่าที่คุณคิด” (นิตยสารชีวิต), 80“ Baby Einstein” (บริษัท วอลต์ดิสนีย์), 78 Barbarella (ﬁ lm), 184 Baron-Cohen, Simon, 108, 199 Barrett, Justin, 47 Bartlett, Sir Fredrick, 86 Báthory, Countess Erzsebet (Elisabeth), 171–72 Beckham, David, 16 พฤติกรรม: กลไกการปรับสภาพของ, 82–83;คุณธรรม, 117–22;ครอบงำ, 15–16, 52;มองไม่เห็นหรือจ้องมอง, 224, 227–29, 232–34ดูเพิ่มเติมที่การกระทำ;พฤติกรรมนิยมของพิธีกรรม: วิธีการเรียนรู้แบบเชื่อมโยงของ 83–86;การโจมตีของ Chomsky, 85, 86 ความเชื่อ: ชีวิตหลังความตาย, 130–32, 234;“ สาเหตุทางจิตที่ชัดเจน” 18;จินตนาการของเด็ก ๆ 5–6, 48;การใช้เหตุผลแบบคู่และ 244–46;ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อ 102–4;กลุ่มรวมผ่านสามัญ 164–65;การใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายสร้างความรู้ที่นำไปสู่ 7–8

33–36, 46–55, 73–76, 246–48;อภิปรัชญา, 139;ความหวาดกลัว, 51–54;ดินศักดิ์สิทธิ์, 193–94;Taboo, 162–63, 252;มองไม่เห็นจ้อง, 224;วิสัยทัศน์, 224–25ดูความเชื่อทางศาสนา;ความเชื่อเหนือธรรมชาติ Bering, Jesse, 234 bestial*ty, 29 Big Brother's Watching, 232–34“ Big Girls Don't Cry” (Fergie), 208 Bigotry, 183 แนวคิดทางชีวภาพ: การก่อสร้างในวัยเด็ก, 138–39;ความสำคัญของเด็ก ๆ ที่คิดเกี่ยวกับ 145–46;ความเข้าใจในวัยเด็กของ 141–43;สาระสำคัญของชีวิต, 143–45;ประหลาดเป็นความผิดปกติ, 135–38, 174–76;พันธุวิศวกรรมผลักดันขอบเขตของ 146–50;หมวดสัตว์โคเชอร์, 139–40;กำลังอยู่ของ 138–39;อนุกรมวิธาน AS, 140–41ดูประสบการณ์สัตว์ที่แปลกประหลาด, 1-4 Blade Runner (ﬁ lm), 129 Blanc, Lori, 69“ Blankie” (ผ้าห่มรักษาความปลอดภัย), 209 คำอุปมาอุปมัยบนพื้นผิวว่างเปล่า 81–82, 86–87 Bloom, Paul, 121, 125211 Bouchard, Thomas, 66 Boyer, Pascal, 54, 55 Brain: amygdala และโครงสร้าง striatum หน้าท้องของ, 230;DLPC (เยื่อหุ้มสมองด้านหลังด้านข้างด้านข้าง) ของ, 240–43;ระบบโดปามีนของ 237–39;สภาพแวดล้อมและการเดินสายของ, 65;จิตวิทยาวิวัฒนาการเกี่ยวกับการพัฒนาของ, 9;กลีบหน้าผากของ, 27, 76, 240;ใจที่สร้างขึ้นผ่าน, 132–33;ใจเป็นระบบปฏิบัติการของ 81–82;ตามธรรมชาติของ, 74–76;จังหวะตามธรรมชาติถูกตัดสินโดย, 12;การทดลองเกี่ยวกับโรคลมชักของ Pen eld eld

ดัชนี

บน, 125;Supersense เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของ, 237, 239;พื้นที่เยื่อหุ้มสมองที่มองเห็นได้ของ 10–11ดู Brandes Design Mind, Bernd, 178–79 Bransgrove, Shirl, 200 Bransgrove, Steve, 197–201 Breaking the Spell (Dennett), 49 Brinkley, John R. , 188–89 คือคณะกรรมาธิการการกระจายเสียงของอังกฤษ, 162–63 Brown-Séquard, Charles Édouard, 189–90 Brugger, Peter, 238 Burke, Pat, 193 Bush, George W. , 162 Buzan, Deborah Skinner, 85 Byron, Lord, 171“ Camillagate”Naomi, 109 Cannibalism: การอภิปรายทางวิชาการ, 176–77;กรณีของ Armin Meiwes, 178–79;ของ Countess Báthory, 172;เหตุผลในการฝึกซ้อม, 177–78 การทดลองหนอนกินเนื้อ, 181 Capgras Syndrome, 218–19 Carey, Susan, 142 Carnegie Commission Study (1969), 62“ กรณีของถุงอัณฑะผีสิง” (ฮาร์ดิง), 110, 111แมวในหมวก (Seuss), 77 ข้อผิดพลาดการใช้เหตุผลเชิงสาเหตุ, 231 ความทรงจำของเซลล์, 179–84 ชาแนลหมายเลข 5, 143 ชาร์ลส์ที่ 1, กษัตริย์ (อังกฤษ), 191 ชาร์ลส์, เจ้าชาย (อังกฤษ), 185 เคมีระหว่างผู้คน, 112–13

291

Chesterton, G. K. , 63–64 การข่มขืนเด็ก, เด็ก 186 คน:“ สาเหตุทางจิตที่ชัดเจน” ความเชื่อของ 18;การอุทธรณ์ของสิ่งมีชีวิตถึง 61–62, 98;คัดลอกการทดลองทำซ้ำของเครื่องด้วย, 211–13, 216 คือ - 17;ความตายตามที่เข้าใจโดย 130–32;คู่ของ, 127–28;ความคิดที่สำคัญของ 145–46;ความเชื่อแฟนตาซีของ 5–6, 48;ความงุนงงของ, 7;ในฐานะนักมายากลที่ใช้งานง่ายด้วยความเข้าใจผิดความเป็นจริง 96–104;การใช้เหตุผลเชิงเหตุผลที่เข้าใจง่ายกระบวนการโดย, 7–8, 33–36, 46–55, 73–76, 246–48;ทฤษฎีที่ใช้งานง่ายใช้โดย 90–100;การพัฒนาภาษาของ 85–86;พลังชีวิตที่เข้าใจโดย 152–53;การออกแบบจิตใจใน 18–19, 99–100;ความเชื่อทางศาสนาของครอบครัวที่รับเลี้ยงโดย 103–4;ผ้าห่มรักษาความปลอดภัยและรายการแนบของ 208–13;พฤติกรรมการจ้องมองโดย 230. ดูทารก;ทารกแรกเกิด“ Chi” (พลังชีวิต), 139 Chimera, 175–76 Medicine, 156–57 Chomsky, Noam, 8, 85, 86 Lamentalmentalism ของคริสเตียน: การสร้างและบทบาทของ 56–57;การเติบโตทางการเมืองใน ﬂ uence ของ, 56 Churchill, Winston, 194 Cigarrest, 158 Civet Cat Musk, 143 Clarke, Arthur C. , 101 Clear, Rosie, 173 Coco de Mer Nut, 156 คือ 15799, 220;ปัญหาที่มาและความถูกต้องของ 203, 206–8, 220;ทฤษฎีของ Steve Bransgrove ในปี 199;Steve Vee Bransgrove

292

กีดขวาง

การรวบรวมของที่ระลึก (ต่อ) ของสะสม (frome) สำหรับ, 200 คือ;ค่าสัญลักษณ์ที่แนบมากับ, 201–3 การสื่อสาร: การทดลองการรู้จำเสียงพูดของเครื่องซีไอเอด้วย, 80–81;จ้องมองเป็นรูปแบบของ 229–32ดูการใช้เหตุผลเชิงตรรกะแนวความคิดภาษา, 244–46 กลไกการปรับสภาพ: การทดลองของ Pavlov, 82–83;องค์ประกอบการเสริมแรงและการลงโทษของ 83–86 ความเอนเอียงการตอบสนองการปนเปื้อน 230–31: วัฒนธรรมใน ﬂ uence บน, 160–62, 163–64;Essentialism และ, 169–70;การไล่ผีและ 32, 185;ตัวอย่างการแสดงผาดโผนคาร์ดิแกนของ Killer, 21–22, 27–28, 29, 101, 160, 163, 170;Macbeth Effect และ, 31, 185;การล้างมือด้วยมือเป็น 52;“ ครั้งหนึ่งในการติดต่อมักจะติดต่อ” หลักการของ 161–62;ในฐานะที่เป็นปัญหาการปลูกถ่ายอวัยวะ 183–84;คำอธิบายการสัมผัสทางกายภาพของ 30–31;พฤติกรรมพิธีกรรมโดยไม่สนใจปกติ 68–69;การวิจัยของ Rosin เกี่ยวกับ 28, 29;มีเพศสัมพันธ์ 185–87;คำอธิบายความสอดคล้องทางสังคมของ 30;ถึงตอนเย็นทีวีโดยสาธารณะ 173–74;ภูมิปัญญาแห่งความเกลียดชังและ 162–64ดูเพิ่มเติมที่การแพร่กระจายของเวทมนตร์;ผลการเชื่อมต่อทางสังคมของการเล่าเรื่อง, 55 การควบคุมภาพลวงตา, การทดลองของเครื่องคัดลอก 15–16ดูการทำซ้ำ Corinthians 13:11, 246 Cotard's Syndrome, 219 Creationism: ดึงดูดเด็ก ๆ ของ 61–62, 98;เป็นต้นกำเนิดในจิตใจมนุษย์ 60–62;การยอมรับอย่างกว้างขวางของตำนานการสร้าง 56–57, 7, 61 ความคิดสร้างสรรค์, 239

โรค Creutzfeldt-Jakob, 177 คำวิจารณ์ของเหตุผลบริสุทธิ์ (Kant), 73 วัฒนธรรม: ความเชื่อที่มาและแพร่กระจายผ่าน, 47–48;การตอบสนองการปนเปื้อนและใน ﬂ uence, 160–62, 163–64;ต้นกำเนิดของความคิดเหนือธรรมชาติของ 7–8;พิธีกรรมผ่านไป, 6;แรงดึงดูดทางเพศใน ﬂ uenced, 186;ความคิดเหนือธรรมชาติที่ฝังอยู่ใน, 6–7, 63–64, 71. ดูเพิ่มเติมที่ Society Cutty Sark (Clipper Clipper ในศตวรรษที่ 19), 206 Cutty Sark Trust, 206 Damasio, Antonio, 26, 27, 126 Damasio, Hanna, 26, 27 Darwin, Charles, 57, 58 Darwinism, 57–60, 62 Dawkins, Richard, 7, 46–47, 57, 58, 71 ความตาย: ความเข้าใจในวัยเด็กของ 130–32;เข้าใจว่าเป็นพลังชีวิตที่ออกเดินทาง 151–52ดูเพิ่มเติมที่การตัดสินใจของชีวิตหลังความตาย: การวิเคราะห์ต้นทุน-ค่าใช้จ่าย, 251;บทบาทคู่ใน 124–25;เจตจำนงเสรีและ 123–24;เชื้อเพลิงโดยอารมณ์ 194–95;การทำงานร่วมกันของกลุ่มถูกทำลายโดยตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย 251–52;“ The Numskulls” (การ์ตูน) ตัวอย่างของ, 122–23 ed, 125, 127, 168, 229;“ ทางเลือกของโซฟี” 251 การใช้เหตุผลอย่างมีสติปัญญาโดยเจตนา, 244–46 ภาวะสมองเสื่อม, 243–44 Dennett, Dan: เปรียบเทียบศาสนากับไวรัส, 49;ใน“ ท่าทางโดยเจตนา” 118;การเข้าร่วมการบริการทางศาสนาโดย 62–63;ใน“ Supers” กับผู้เชื่อ“ Brights”, 64–65 Descartes ’Baby (Bloom), 121 Descartes, René, 124

ดัชนี

ไดอาน่า, เจ้าหญิง (อังกฤษ), 2, 199 ความรังเกียจ, 28–29 ความผิดปกติที่แยกออกจากกัน, 218–19 DLPC (เยื่อหุ้มสมองด้านหลังด้านข้างด้านหลัง), 240–43 DNA: ความทรงจำของเซลล์ของการปลูกถ่าย, 179–84;Chimera และแบ่งปัน, 175–76;การปฏิสนธิของมนุษย์และการเรียกเก็บเงินของตัวอ่อนช่วยให้การวิจัยเกี่ยวกับ, 148;การจี้ซาร์ส, 156–57“ หลักคำสอนเรื่องลายเซ็น”, 155 Dokic, Jelena, 15 ระบบโดปามีน, 237–39 Dracula, Vlad (“ Vlad the Impaler”), 170–71 Dualism: เด็ก, 127–28;บทบาทการตัดสินใจของ 124–2 25;จิตใจร่างกาย, 121, 124–25, 126–27, 132–33, 152 แบบจำลองคู่ของการใช้เหตุผล, 244–46 การทำซ้ำ: การทดลองรายการแนบบน, 211–13;ผลกระทบที่สำคัญของ 215–17;การทดลองหนูแฮมสเตอร์, 216 คือ - 17;การรักษา Prestige (ﬁ lm) ของการขาย 214–15 eBay“ วิญญาณ”, 101 Einstein, Albert, 22 ภาพเด็ก Einsteinian, 76–80“ élan Vital” (พลังชีวิต), 139, 150“ The Elephant Man,” 136 Elginหินอ่อน, 202 Elizabeth II, Queen (England), 212, 213 Emin, Tracy, 204 ปฏิกิริยาทางอารมณ์: สมอง amygdala/ventral striatum โครงสร้างและ 230;การตัดสินใจเป็นเชื้อเพลิงโดย 194–95;น่ารังเกียจเช่นเดียวกับ, 28–29;เพื่อทำซ้ำ 211–13;ไปยัง Cardigan Stunt ของ Killer, 21–22, 27–28,

293

29;เสี่ยง 27–28;การวิจัยของ Rozin เกี่ยวกับความชั่วร้ายและ 28, 29;เพื่อความปลอดภัยผ้าห่มและรายการแนบ 208–11 คือ;ค้นหาคนอื่น ๆ 253;เพศและที่เกี่ยวข้อง, 184–87;การเผชิญหน้าทางสังคมที่เกิดขึ้น 167–70 จุดจบของศรัทธา (แฮร์ริส), 64 ความคิดมวลฟุตบอลอังกฤษ, 24 สภาพแวดล้อม: ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าและใน ﬂ uence ของ, 65–67;การปรับสภาพโดยการเชื่อมโยงเหตุการณ์ใน 82–86;ผลกระทบต่อความเชื่อโดย 102–4;การศึกษาคู่ใน ﬂ uence ของ, 66–67;การเดินสายของสมองและการทดลองด้วยโรคลมชัก 65 ครั้ง, 125 สาระสำคัญของชีวิต, 143–45ดูเพิ่มเติมที่สำคัญกับพลังชีวิต: ผลกระทบทางชีวภาพของ, 176;คนกินเนื้อ, 176–79;ความทรงจำของเซลล์และ, 179–84;การคิดที่สำคัญของเด็ก ๆ 145–46;การตอบสนองการปนเปื้อนและ 169–70;บริบทศิลปะร่วมสมัยของ 203–6;การทำซ้ำและความหมายของ 215–17;การจัดการทางพันธุกรรมในบริบทของ 146–50;จิตวิทยา, 139, 143–44, 145;เพศ, 184–87 ตำนานเยาวชนนิรันดร์, 172–74 ยูคลิด, 224 อีแวนส์, มาร์กาเร็ต, 61“ ดวงตาชั่วร้าย,” 225 วัตถุชั่วร้าย: การตอบสนองการปนเปื้อน, 21–32;การไล่ผีของ 32 จิตวิทยาวิวัฒนาการ, 9–10 ทฤษฎีวิวัฒนาการ, 57–60, 62 พิธีกรรมผี, 32, 185 การใช้เหตุผลที่ชัดเจน, 244–46 ใบหน้าในคลาวด์ (Guthrie), 111 ใบหน้า/การแสดงออกทางสีหน้า, 109 G -12ดูที่จ้องด้วย

294

กีดขวาง

Fairchild, Lydia, 174–75 การทดลองลูกกระสุนปืนล้มลง, ความเชื่อแฟนตาซี 19 คน, 5–6, 48 Fearnley-Whittingstall, Hugh, 173–74 Fellows of Royal Society, คดีคนงานธนาคารหญิง 62 คน, Robert, 154 The Fly (ﬁ lm), 147 Medicine, 155 Fonda, Jane, 184 Foods: Magical, 155;รูปทรงลึงค์, 155–56 ฟอร์ด, แฮร์ริสัน, 16 ฟาวน์เทนของตำนานเยาวชน, 172–74 โรงงานฟอกซ์โกลอฟ (ดิจิตอล), 155 ฟรานซิสแห่งอัสซีซี, เซนต์, 192 Freaks/Freak Show, 135–38, 174–76ความเชื่อใน, 67, 121;การตัดสินใจและ 123–24;Mindbody Dualism และ, 121, 124–25, 126–27, 132–33, 152;ประสบการณ์ด้านจิตใจของ 126. ดูพฤติกรรมทางศีลธรรมของ Fregoli Syndrome, 219 Freud, Sigmund, 225 Lobes Frontal, 27, 76, 240“ Gaia” ทฤษฎีนิเวศวิทยา, 138 Gallup Poll (2005), 34–35, 42–43, 64, 64, 64, 64, 64, 64, 64, 102 การตอบสนองของผิวหนังกัลวานิก, 26–27 Gammons, Ian, 179–80, 181, 184 Gammons, Lynda, 179, 181, 184 Gaze: Big Brother's, 232–34;การสื่อสารผ่าน, 229–32;ความหลงใหลในอีก 225–27;แห่งความรัก (Innamoramento), 225;เครื่องจักรสำหรับการวัดพลังงาน 226 คือ;พลังทางสังคมของ, 115–17;มองไม่เห็น, 224,

227–29, 232–34ดูเพิ่มเติมที่ใบหน้า/ การแสดงออกทางสีหน้าความแตกต่างทางเพศ: ในการอ่านใจ, 108;ในผ้าห่มรักษาความปลอดภัยและรายการสิ่งที่แนบมา 210 พันธุวิศวกรรม, 146–50 จิตวิทยา Gestalt, การรับรู้รูปแบบ, 10-11, 86 ความเชื่อผี, 234 Gilbert, Dan, 69–70 Gonad Treatment, 188–91 The God Delusion (Dawkins), 46–47 พระเจ้าไม่ได้ยอดเยี่ยม (Hitchens), 66 แนวคิด "ห่วงโซ่อันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า", 153–55 "ห่วงโซ่อันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า" (แผนภาพ Fludd), 154 –55 Goldenpalace.com, 112 Good Samaritan, 117–18 GRASP Re ﬂ ex, 75 eng, 76, 87–88“ ข้อผิดพลาดแรงโน้มถ่วง”, 94 –96 พิธีกรรมการทักทาย, 68 Gregory, Richard, 11 กลุ่ม: การขัดเกลาทางสังคมของเด็กเข้าสู่สังคม 253;ความเชื่อร่วมกันรวมกัน 164–65;การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยตลาดทำลายการทำงานร่วมกันของ 251–52;“ กาวสังคม” จาก 23–25ดูการเชื่อมต่อทางสังคม The Guardian, 85 ความผิด, 233–34 ทฤษฎีการเดินทางผิด, 234 Guolizhuang (ร้านอาหารปักกิ่ง), 155–56“ ความรู้สึกของลำไส้” 25–29 Guthrie, Stewart, 111 Hahnemann, Samuel, 157 Haidt, Jonathan, 163ภาพหลอน: โดปามีนเหนี่ยวนำ, 237–39;โรคจิตเภทและการได้ยิน 234

ดัชนี

Hamer, Dean, 66–67 การทดลองทำซ้ำของแฮมสเตอร์, 216 –17 Hanks, ทอม, 198 Harding, J. R. , 110 Harrelson, Woody, 251 Harris, Sam, 64“ Henry” เครื่องดูดฝุ่น66, 67 Hitchens, Peter, 65–66, 67 HIV/AIDS Pandemic, 186–87 Hoffman, Albert, 31 Hohlenstein-Stadel“ Lion-Man,” 40 –41 Holism, 139 Holocaust (สงครามโลกครั้งที่สอง), 201–2-2, 251 น้ำศักดิ์สิทธิ์, 192–93 Homeopathy, 157–59 hom*o Psychologicus, 104–5 hom*o Sapiens, 104, 108 Honesty, 233–34 Hongi (พิธีกรรมทักทายชาวเมารี), 68 Hood, Kim, 1, 37, 51 เรื่องสยองขวัญCountess Báthory, 171–72;เรื่องราวของ Dracula, 170–71 Hughes, Howard, 52 การปฏิสนธิของมนุษย์และตัวอ่อน (สหราชอาณาจักร), 148 Hume, David, 99, 111 Humphrey, Nick, 104 Hurricane Katrina, 69 Hussein, Saddam: Capgras Syndrome และ Delusional, 218–19;ฝาแฝดที่เหมือนกันและไม่เหมือนใคร 215–16;ผ่านใจ 128–30

295

“ ถ้าคุณต้องการก้าวไปข้างหน้ารับทฤษฎี” (Karmiloff-Smith และ Inhelder), 92–93 ภาพ: Einsteinian Baby, 76–80;ศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์, 39–41ดูสัญลักษณ์“ Imagine” (Lennon), 69 วัตถุที่ไม่มีชีวิต: คุณสมบัติที่ไม่ซ้ำกันที่จำเป็นโดย 220–21;ความชั่วร้าย 21–32;ทฤษฎีที่ใช้งานง่ายใช้ในการเข้าใจ 90–92;การทดลองใช้กลวิธีมายากล, 88–90;กฎสำหรับการถอดรหัสความเป็นจริงของ 90;เป็นผ้าห่มรักษาความปลอดภัยและรายการแนบ 208–13;เกมยี่สิบคำถามบน 91. ดูสิ่งมีชีวิตด้วยความเป็นจริงการร่วมประเวณีระหว่างพี่น้อง, 162–63 ข้อเสนออนาจาร (ﬁ lm), 251 Inhelder, Barbel, 92“ ท่าทางโดยเจตนา,” 118–20 สภาคองเกรสระหว่างประเทศของศัลยแพทย์ในลอนดอน, 190 การใช้เหตุผลที่ใช้งานง่าย: ความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับ, 33–36;ความเชื่อที่พัฒนาขึ้นผ่านความรู้ที่เกิดขึ้นโดย 7–8, 33–36, 46–55, 73–76, 246–48;ความสับสนเนื่องจาก 176;การตอบสนองการปนเปื้อนเป็น 21–31;ภาวะสมองเสื่อมเป็นหลักฐานของ 243–44;คำอธิบายของ 25–29;การตรวจสอบความสามารถในการเพิกเฉย 239–43;เป็นดินที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการสร้างสรรค์ 60–61;งานวิจัยของ Marjaana Lindeman เกี่ยวกับ 245–46 ดูทฤษฎีที่ใช้งานง่ายด้วยเหตุผล: ใช้โดยทารกเพื่อทำความเข้าใจโลกธรรมชาติ, 90–92;ความเข้าใจผิดความเป็นจริงของเด็กเนื่องจากพวกเขา 96– 100;การทดลอง“ ข้อผิดพลาดแรงโน้มถ่วง” และ 94 –96;Supersense สร้างขึ้นผ่าน, 223;การใช้เด็กเล็ก 92–96 การบุกรุกของร่างกาย snatchers (ﬁ lm), 144 สงครามอิรัก (1991), 17

296

กีดขวาง

“ สิ่งสกปรกของไอริช,” 193 Jacobsen, Tommy“ Twinkle Toes,” 197 Jagger, Mick, 112 James, William, 4–5, 20, 74, 219, 249 Jenkins, Alan, 193 กฎหมายการบริโภคอาหารของชาวยิว, 139–40 Kaniza ﬁ gure10 ถ้า 11 Kant, Immanuel, 73 Karmiloff-Smith, Annette, 92 Kass, Leon, 162 Keegan, Karen, 175 Kennedy, John F. , 69“ Ki” (พลังชีวิต)–28, 29, 101, 160, 163, 170 กษัตริย์, ไบรอัน, 4 กษัตริย์, มาร์ตินลูเทอร์จูเนียร์, 69 ความรู้: ความเชื่อจากการใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายและ 7–8, 33–36, 46–55, 73–76, 246, 246, 246–48;คำอุปมาอุปมัยของ Blankslate, 80–82, 86–87;ความก้าวหน้าที่ทันสมัยในทางวิทยาศาสตร์, 42 Kopi Luwak (กาแฟรสเลิศ), 28, 143 Krebbs, Indi-Mo, 173 Krebs ของ Krebs, 138, 139, 150, 151 Kukukukus Tribe (Papua New Guinea), 177–78 Kuruวารสารบ้านของสุภาพสตรี, 84 เลดี้นั่งอยู่ที่ Vestral (Vermeer), 203 Lagrone, Libra, 69 The Lancet (Russ), 226 ภาษา: CIA Machine View Recognition Experiments ด้วย 80–81;คำอธิบายโดยใช้

ชำระบัญชี 167;กฎหมายที่มองไม่เห็นการควบคุมองค์กรของ 85–86ดูเพิ่มเติมที่การสื่อสาร Lascaux Caves (ภูมิภาค Dordogne), 202–3 "Mouse" ของ Laurel ต้องการโปสเตอร์, 209 –10 กฎหมายของ in nitesimals, 157 กฎหมายของสิ่งที่คล้ายกัน, 157 Le Bon, Gustav, 24 le Horeer, Pierre, 2 Lennon, John, John, John, John, John, John, John, John, John, John, John69 Levi-Leleu, Michel, 201–2 Levi-Leleu, Pierre, 201, 202 Leviticus 11: 4–8, 140 Lewis-Williams, David, 37, 39 Force: ความเชื่อโบราณของ 138–39, 150;ความเข้าใจของเด็ก 152–53;ความตายเมื่อไม่มี 151–52;ความเชื่อ“ ห่วงโซ่อันยิ่งใหญ่” ของพระเจ้าในวันที่ 153–55;ความเชื่อของกรีกเกี่ยวกับความสำคัญ, 153. ดูนิตยสาร Vitalism Life, 80 ระบบ Limbic, 26 Linda กรณีคนงานธนาคาร, 50 – 51, 242 Linderman, Marjaana, 245 Linus (ตัวละคร Peanuts), 209“ Lion-Man” (Hohlenstein-Stadel), 40 คือ - 41“ Little Albert” การทดลอง, 52, 53–54, 80, 181 Livett, Chris, 206 สิ่งมีชีวิต: ความเข้าใจในวัยเด็กปฐมวัย, 141–43;สาระสำคัญของชีวิตใน 143–45;พลังชีวิตของ 138–39, 150–53ดูเพิ่มเติมที่วัตถุที่ไม่มีชีวิตล็อค, จอห์น, 81, 86 โรงเรียนแพทย์เขตร้อนลอนดอน, 159 รักเคมี, 112–13 Love Gaze (Innamoramento), 225

ดัชนี

Lovelock, James, 138 Macbeth Effect, 31, 185 McConnell, James, 181, 182 MacDougall, Duncan, 151 McEnroe, John, 15 McNally, Raymond, 171 Magical Contagion: วัตถุชั่วร้าย, 21–32;Cardigan ของ Mister Rogers และ, 214 ดูการตอบสนองการปนเปื้อนแบบสอบถามความคิดวิเศษ, 235–37 การคิดเวทย์มนตร์: ความเชื่อในวัยเด็ก, 100–101;ผลกระทบทางวัฒนธรรมต่อ 101–2;วิวัฒนาการจากวัยเด็กสู่ผู้ใหญ่ 102–4;มรดกธรรมชาติบำบัดสมัยใหม่ของ 157–59;ความเจ็บป่วยทางจิตโรคจิตและ, 234–37 Magic Johnson, 100, 115 การทดลองกลอุบายเวทย์มนตร์, 88–90 Malham, Gareth, 101“ Mana” (พลังชีวิต), 139 Mandrake Roots, 155 Mania Disorder, 234, 239 Marlar, Richard, 177สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์, 85 ความคิดมวล, 24 เมทริกซ์ (ﬁ lm), 86–87, 144 แมทเธียสที่สอง, ราชา, 172 การรักษาทางการแพทย์: Gonads แพะ, 188–91;ผลของยาหลอกและ 158–59;“ อาวุธ Salve,” 187–88 ยา: จีน, 156–57;“ หลักคำสอนของลายเซ็น” ใน Folk, 155;Homeopathy ที่ทันสมัย, 157–59 Medusa, 225 Meegeren, Han Van, 203 Meiwes, Armin, 178–79 Memorabiliaดูการสะสมของที่ระลึก

297

ความทรงจำ: โรคอัลไซเมอร์และ 148, 243–44;กระบวนการทำงาน, 240–42 ความเจ็บป่วยทางจิต, 234–37 Merrick, Joseph (“ The Elephant Man”), 136 การเปลี่ยนแปลง (Kafka), 129 ความเชื่ออภิปรัชญา, 139 ใจ: เป็น“ กล่องดำ” 83;สร้างโดยสมอง 132–33;ตัวตนผ่าน, 128–30;ในฐานะที่เป็นระบบปฏิบัติการของสมอง 81–82 ความเป็นคู่ของร่างกายร่างกาย, 121, 124–25, 126–27, 132–33, 152 จิตใจในถ้ำ (Lewiswilliams), 37, 39 การออกแบบจิตใจ: คำอธิบายของ, 9;การพัฒนาในเด็ก, 18–19, 99–100;ทุนการศึกษาก่อนวันที่ 99;จิตวิทยาวิวัฒนาการและ, 9–10;ประสบการณ์สมัยใหม่กับ 41–46;รูปแบบของการจัดระเบียบอินพุตและ 10–14;ตัวอย่างศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ของ 37–41ดูการอ่านใจสมอง: โดยสัตว์, 117;การแสดงออกทางสีหน้าเป็นจุดเริ่มต้นของ 109 G - 12;จ้องมองและ, 115–17;ความแตกต่างทางเพศใน 108;ในฐานะที่เป็นทักษะที่ใช้งานง่าย 108–9 Minsky, Marvin, 80 รูปแบบที่หายไปสแควร์, 10 –11 ย่าน Mister Rogers (รายการทีวี), 213–14 Montague, อ่าน, 237 Moore, Demi, 251 พฤติกรรมทางศีลธรรม: คู่และ 121– 121–22;“ ท่าทางโดยเจตนา” สำหรับ, 118–20;ต้นกำเนิดของ Samaritan ที่ดี, 117–18ดูเพิ่มเติมที่การกระทำ;ฟรี“ โมโร” อีกครั้ง (การตอบสนองที่น่าตกใจ), 75–76 เสียงสะท้อนของ Morphic, 232“ โมเสก” เงื่อนไข, 136, 176

298

กีดขวาง

มอส, เคท, เมาส์ 109 เมาส์ที่มี bioframe ฝัง, การเคลื่อนไหว 149 –50: การทดลอง“ Shapka” ด้วย, 114–15;การเชื่อมต่อทางสังคมและ, 113–14 มุสโสลินี, เบนิโต, 225 เตียงของฉัน (เอมิน), 204 วัตถุศักดิ์สิทธิ์อเมริกันพื้นเมือง, ทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติ 202, 57–60, 62 ธรรมชาติ (วารสาร), 191 เพื่อนบ้าน (สบู่ออสเตรเลีย), 77 Neil the Hippie(คนหนุ่มสาว), 15 คนแรกเกิด: คำอุปมาอุปมัยที่ว่างเปล่าของ, 81–82, 86–87;การตรวจสอบ“ ยอดเยี่ยม” 76–80;การแสดงออกทางสีหน้าและ 109 –10;จับ re ﬂ ex ของ, 75 คือ 76, 87–88;re ﬂ exes ของ 74–76;โลกที่มีประสบการณ์โดย 74. ดูทารก;เด็กวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์, 175 กฎหมายการเคลื่อนไหววัตถุของนิวตัน, 19 NHS (บริการสุขภาพแห่งชาติ) [สหราชอาณาจักร], 158 ถ้ำ Niaux (Pyrenees ฝรั่งเศส): คำอธิบาย, 37–38, 203;จิตใจในถ้ำที่มีความหมายพบใน 39–41;Salon Noir (ห้องโถงนิทรรศการสีดำ) ของ, 38–39 Nicorette, 158 9/11, 56 1984 (Orwell), 233 Nipplewort (Lapsana Communis), 155“ The Numskulls” (การ์ตูน), 122–225, 125, 127, 168, 168, 168, 168, 168, 229 พฤติกรรมที่ครอบงำ: การล้างมือการล้างมือเป็น, 52;พิธีกรรม AS, 15-16 Obsessive-Compulsive Disorder, 16 The Of ﬁ ce (รายการทีวี), 174 Oklahoma City Bombing Site, 69 เกมโอลิมปิกซิดนีย์ (2000), 136, 136

Onassis, Jackie Kennedy, 199“ ครั้งหนึ่งในการติดต่อ, การติดต่อเสมอ” หลักการของ, 161–62 หัวหอม (สิ่งพิมพ์), 80 นิ้วหัวแม่มือที่ต่อต้านได้, 144 ผู้ป่วยการปลูกถ่ายอวัยวะ: ความทรงจำของเซลล์, 179–84;การติดต่อการเหยียดเชื้อชาติและความดื้อรั้นและความคิดริเริ่ม 182–84: พื้นฐานทางอารมณ์ของความรู้สึกของ 220;การเปลี่ยนที่เหมือนกันกับ, 205–6;ปัญหาสัดส่วนของ 206–7;Provenance ใช้ในการพิสูจน์, 203;ของ“ Quiggle,” 207–8 Orwell, George, 232–33“ ออกจากสายตาออกไปจากใจ” ความเป็นจริง, 86–87, 88 oxytocin, 112 Paracelsus, 187 รูปแบบ: Apophenia ตรวจจับความหมาย 235;กระบวนการสร้างสรรค์และความสามารถในการรับรู้ 239;ของเหตุการณ์ 11–14;Gestalt Psychology เกี่ยวกับการจัดระเบียบของ, 10–11, 86;Missing-Square, 10 –11ดูเพิ่มเติมที่ความเป็นจริง Pavlov, Ivan, 82 ถั่วลิสง (การ์ตูนแถบ), 209 Pen ﬁ eld, Wilder, 125 การประหัตประหาร, 235 Peter II, King (Yugoslavia), 193–94 Petrarch, 225 Pfeiffer, Michelle, 16phobias: การกำหนดของ, 51–52;การทดลอง“ Little Albert”, 52;ต้นกำเนิดและการพัฒนา, 52–54;ทฤษฎีการเตรียมความพร้อมของ, 54 Piaget, ฌอง, 86, 88, 97, 101 Pilewort (น้อยกว่า Celandine), 155 Pinker, Steven, 9, 124 Placebo Effect, 158–59

ดัชนี

พืช:“ หลักคำสอนของลายเซ็น” ในการแพทย์, 155;รูปทรงลึงค์, 155 เพลโต, 143–44, 224 Plimmer, Martin, 4 Plutarch, 206–7 Polidori, John William, 171 Post Hoc, Ergo Propter Hoc (หลังจากนี้เพราะสิ่งนี้) 231 ศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์(ภูมิภาค Dordogne), 202–3;“ Lion-Man” (Hohlensteinstadel), 40–41;จิตใจในถ้ำบนสัญลักษณ์และภาพของ 39–41;ของถ้ำ Niaux (Pyrenees ฝรั่งเศส), 37–39, 203;“ วีนัส” ﬁ gurines, 41 ทฤษฎีการเตรียมความพร้อมของ phobias, 54 The Prestige (ﬁ lm), 214–15“ การหลั่งพลังจิต,” 82 จิตวิทยา: โรงเรียนพฤติกรรมนิยม, 82–86;Essentialism, 139, 143–44, 146–50;Gestalt, 10–11, 86–87 ความเจ็บป่วยทางจิตโรคจิต, 234–37 การลงโทษและการเสริมแรง, 83–86 Quinn, Marc, 204“ Quintessence,” 153 Quirkology (Wiseman), 32 Racism, 183 Rand, James, IX การคิดอย่างมีเหตุผล245, 250 Raynor, Rosalie, 52, 54, ความเป็นจริง 75 คือ: ความเอนเอียงของอคติ, 230–31;ความคิดสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงกับความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงของ 239;ความผิดปกติที่แยกออกจากกันบิดเบือน 218–19;รูปแบบในอุดมคติของ Essentialism แนวทาง 139, 143–44;ทฤษฎีที่ใช้งานง่ายใช้ในการเข้าใจ 90–92;“ Magic Tricks” ความสนใจและ 88–90;

299

“ ออกจากสายตาออกไปจากใจ” ความรู้สึกของ 86–87, 88;กฎตามด้วยทารกที่จะถอดรหัส 89–90;การคิดเหนือธรรมชาติที่จะอธิบาย, 96–105, 252–53ดูวัตถุที่ไม่มีชีวิต;รูปแบบการใช้เหตุผล: Supersense และ Dual Model ของ, 244–46;สองประเภทที่แตกต่างกัน 244. ดูการใช้เหตุผลอย่างชาญฉลาด Redford, Robert, 251 Regina Apostolorum (วาติกัน), 32 การเสริมแรงและการลงโทษ, 83–86 ศาสนา: คริสเตียนกรรไบฟันดาเมนทัลลิสท์, 56–57;การเชื่อมต่อระหว่างสิ่งเหนือธรรมชาติและ 20;การลงโทษของ Dawkin ในวันที่ 7, 46–47;เป็นรูปแบบของการเหนือธรรมชาติ, 68;ทับซ้อนกันระหว่างวิทยาศาสตร์เหนือธรรมชาติและ 46 ความเชื่อทางศาสนา: การยอมรับวัยรุ่นของครอบครัว, 103–4;Afterlife, 130–32, 234;เมื่อเทียบกับไวรัสและปรสิต 49;การสร้าง, 56–57, 60–62, 98;ตรวจสอบต้นกำเนิดและการแพร่กระจายของ 46–55;“ ห่วงโซ่แห่งการเป็นอย่างยิ่งของพระเจ้า” 153–55;ของนักวิทยาศาสตร์, 62–64;ยีน VMAT2 เชื่อมโยงกับบุคคลที่มี 66–67ดูความเชื่อ;ค่าศักดิ์สิทธิ์;ความเชื่อเหนือธรรมชาติความเชื่อเหนือธรรมชาติ: คำอธิบายของ 42;น้ำศักดิ์สิทธิ์, 192–93;ฆราวาสกับ, 42–43 สมอง“ สัตว์เลื้อยคลาน”, 26 มติ 111, 213 ความเสี่ยง, 26–27 พิธีกรรม: กีฬา, 14–15;การปฏิบัติทางวัฒนธรรมของ 6;หลักฐานของทุกวัน 68–70;การไล่ผี, 32, 185;Hongi (พิธีกรรมอวยพรชาวเมารี), 68;ภาพลวงตาของการควบคุมเสริมโดย 16–18;ให้ภาพลวงตาของการควบคุม, 15–16;การทดลองของสกินเนอร์กับนกและ 83–84;เหนือธรรมชาติ

300

กีดขวาง

พิธีกรรม (ต่อ) พื้นฐานความเชื่อของ 16–18ดูเพิ่มเติมที่การกระทำ;พฤติกรรม;ความเชื่อเหนือธรรมชาติการ์ตูนนักวิ่งถนน, 95 RoboCop (ﬁ lm), 128 Rogers, Fred, 213–14“ Royal Touch” ความเชื่อ, 191–92 Rozin, Paul, 28, 29, 160 Russ, Charles, 226, 227 Ryder, Winona, 160Saatchi, Charles, 204, 205 ดินศักดิ์สิทธิ์, 193–94 ค่าศักดิ์สิทธิ์: การคำนวณส่วนบุคคลและส่วนบุคคลของ 251;ความเชื่อมโยงทางสังคมที่ถ่ายทอดผ่าน, 191–94, 253 ดูความเชื่อทางศาสนา;ความเชื่อเหนือธรรมชาติ Sagan, Carl, 250 Salon Noir (Niaux Cave Black Exhibition Hall), 38–39“ Quiggle” ของ Sam, 207–8 Sanner, Margareta, 183–84 Sars236 วิทยาศาสตร์: การจัดการทางชีวภาพผ่านทางพันธุกรรม, 146–50;ความก้าวหน้าที่ทันสมัยใน 42;ปรากฏการณ์เรโซแนนซ์ Morphic ที่สนับสนุนโดย 232;ทับซ้อนระหว่างศาสนา, เหนือธรรมชาติ, และ 46;ความกลัวสาธารณะ 43–45;ความเชื่อเหนือธรรมชาติทางโลกและวิทยาศาสตร์ 42–46 (วารสาร), 227 นักวิทยาศาสตร์, ความเชื่อทางศาสนา, 62–64 การทดลอง Monkey Scopes (1925), 57 ลักษณะทางเพศรอง, 190 ความเชื่อเหนือธรรมชาติทางโลก: Gallup Poll (2005) ON, 42–43;ศาสนากับ 42

ผ้าห่มรักษาความปลอดภัย: การทดลองทำซ้ำ, 211–13;ความสำคัญทางอารมณ์ของ, 208–11 คือยีน sel ﬁ sh (Dawkins), 58 Self (Quinn), 204 –5 Seligman, Martin, 54 11 กันยายน, 56 Seuss, Dr. , 77 Sex and the City (รายการทีวี), 117 ฮอร์โมนเพศหญิงเพศ 117การรักษา, 189–91 Sexton, Jacob, 31 แหล่งท่องเที่ยวทางเพศ:“ เคมี” ของ, 113;วัฒนธรรมใน ﬂ uences บน, 186;การทดลองเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ 168: การตอบสนองการปนเปื้อนต่อ, 185–87;อันตรายจากการใช้เหตุผลเหนือธรรมชาติเกี่ยวกับ, 186–87;การตอบสนองที่จำเป็นต่อการทดลอง 184–87“ Shapka”, 114–15 เชลลีย์, แมรี่, 171 เชอร์เมอร์, ไมเคิล, 3 ศูนย์อนุสรณ์ Shoah (ปารีส), 202 Similia, Similibus Curantur (กฎหมายของคล้ายกัน), 157 Sinatra, Frank, 113 นักร้อง, Isaac Bashevis, 67 Skinner, B. F. , 83–85 Skinner, Deborah, 84–85“ Slinky,” 114 Smuts, Barbara, 116 Snake Phobias, 54 การเชื่อมต่อทางสังคม: ผ่านความทรงจำของเซลล์, 179–84;องค์ประกอบทางเคมีของ 112–13;จ้องมองใบหน้าและ 115–17;การตัดสินตามสี 167;ค่าศักดิ์สิทธิ์ที่ถ่ายทอดความรู้สึกของ 191–94, 253;การมีเพศสัมพันธ์และ, 184–87;องค์ประกอบเวลาและการเคลื่อนไหวของ 113–15;ทริกเกอร์อารมณ์

ดัชนี

การตอบสนองต่อ, 168–70ดูการตอบสนองการปนเปื้อนกลุ่ม“ กาวสังคม”: การกำหนดและหน้าที่ของ 23–24;เป็นฮิวริสติกสำหรับการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น 24–25;ความคิดมวลชนและ 24 สังคม: การขัดเกลาทางสังคมของเด็กเข้ามา, 253;ความเชื่อร่วมกันรวมกัน 164–65;การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยตลาด, 251–52;กาวสังคมของ 23–25ดูเพิ่มเติมที่ Culture Society of Homeopathy (สหราชอาณาจักร), 159“ บางสิ่งบางอย่าง” ความจริง: ต้นกำเนิดของ, 37–41;Universal Believe in, 4–5“ ทางเลือกของโซฟี,” 251 วิญญาณ: สัตว์ที่เชื่อว่าไม่มี 151;ความเชื่อใน, 151;การขาย eBay, 101 Spelke, Liz, 89 Spencer, Herbert, 58 ความเชื่อวิญญาณ, 234 พฤติกรรมการจ้องมองดูการตอบสนองที่น่าตกใจที่มองไม่เห็น (“ โมโร” อีกครั้ง), 75–76 ก้าวอีกครั้ง, 74–75 สตีฟวีแรนด์บรานโกรฟของสะสม (Frome), 200 stoker, Bram, 170 การเล่าเรื่องเอฟเฟกต์, 55 สปีรอน, วิลเลียม, 251–101 การดูดกลับมา, 74 เหนือธรรมชาติ: ประสบการณ์ที่แปลกประหลาดเชื่อว่าการพิสูจน์ของ 1–4;การเชื่อมต่อระหว่างศาสนาและ 20;เอฟเฟกต์ความคมชัดของเรื่องราวใน, 55;ทับซ้อนกันระหว่างวิทยาศาสตร์ศาสนาและ 46 ความเชื่อเหนือธรรมชาติ: มานุษยวิทยา AS, 98–99;วัฒนธรรมเป็นรากของ 6–7, 63–64, 71;การใช้เหตุผลแบบคู่และ

301

244–46;หลักฐานของทุกวัน 68–70;Gallup Poll (2005) ON, 34–35, 42–43, 64, 102;ทฤษฎีการเดินทางผิดเกี่ยวกับผี 234;การใช้เหตุผลที่ใช้งานง่ายความรู้และ 7–8, 33–36, 46–55, 73–76, 246–48;ความคิดมหัศจรรย์ของ 100–104, 157–59, 234–37;ความน่าเชื่อถือของ 8–9;ความจริงอธิบายผ่าน 96–105, 252–53;ศาสนาเป็นรูปแบบของ 68;ศาสนากับฆราวาส, 42–43;พิธีกรรมขึ้นอยู่กับ 16–18;ดินศักดิ์สิทธิ์และ, 193–94;“ Supers” กับ“ Brights” ผู้เชื่อของ 64–65ดูความเชื่อ;ความเชื่อทางศาสนา;พิธีกรรม;Sacred Value Supersense: ความเชื่อและประสบการณ์การจำแนกลักษณะ 237;ผลประโยชน์ของ 248, 249–53;ประสบการณ์ทั่วไปของ 223–25;การใช้เหตุผลแบบคู่และ 244–46;ทฤษฎีที่ใช้งานง่ายการสร้าง, 223;เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติของสมองมนุษย์ 237, 239;ความผิดปกติทางจิตเวชเชื่อมต่อกับ 235–37;การวิจัยเกี่ยวกับกลไกสมองของ, 238–39 ซิลเวีย, แคลร์, 180–81 symbiosis, 138, 139 สัญลักษณ์: เปียโนของเลนนอน, 69;ของ Cardigan ของ Mister Rogers, 213–14;สัตว์ศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์, 39–41;ของผ้าห่มรักษาความปลอดภัยและรายการแนบ 208–11 คือดูภาพความเชื่อข้อห้าม, 162–63, 252 เทเรซา, แม่, 32 เทสลา, นิโคล่า, 215 เททล็อค, ฟิลิป, 250 เรือของ Thensus, 206–7 เท่า, 190 Titchener, Edward, 227

302

กีดขวาง

Top Ten Factoids, 32–33 Townsend, Jamie, 174 ผู้ป่วยปลูกถ่าย: ความทรงจำของเซลล์, 179–84;การติดต่อการเหยียดเชื้อชาติและปัญหาความดื้อรั้นและ, 182–84“ The Transported Man” ภาพลวงตา, 214–15 รากขมิ้น, 155 Turner Art Prize (1999), 204 TV Dinners (รายการทีวี), 173“ 20Q” (อิเล็กทรอนิกส์มือเกมที่จัดขึ้น), 91 ยี่สิบคำถามเกม, 91 Twins: ดูดซับ, 174–76;อัตลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของการศึกษาคู่แฝด 215–16, 66–67, 174 สถาบันการศึกษาพัฒนาเด็กของ UCLA (ﬁ ctional), 79–80 สัตว์“ ไม่สะอาด”, 139–40 ไวยากรณ์สากล, 85–86 Gaze ที่ไม่ได้รับ, 232–34;การพัฒนาความรู้สึกของ, 228–29;Power of the, 224, 227–28 สหรัฐอเมริกากรมวิชาการเกษตร, 43 สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา, 62 Vadim, Roger, 184 Vampire Myth, 170–72 Vauvenargues, Marquis de, 90“ Venus”Vibes,” 25–29“ Virgin Cure” Myth, 186

ไซต์การถ่ายภาพเวอร์จิเนียเทค, 69 ความเชื่อในการมองเห็น, 224–25 ความสำคัญ: ความเชื่อโบราณของ, 138–39, 150;แอปพลิเคชันของแพทย์ Goat Gonad ที่ 188–91ดูเพิ่มเติมพลังชีวิตที่สำคัญชีวิต, 138“ Vlad the Impaler,” 170–71 VMAT2 ยีน, 66–67 Voronoff, Serge, 190–91 Vyse, Stuart, 6 Waco, 69 Walsh, Stella, 135–36 Walt Disney Company78 Wari Tribe (อเมริกาใต้), 177“ การสนทนาน้ำเย็นน้ำ,” 32–33 วัตสัน, จอห์น, 52, 53–54, 75 คือ 80, 83, 181 การรักษาด้วยอาวุธ Salve, 187–88 Wegner, Dan, 18, 18,126 เวสต์, เฟร็ด, 22, 23, 27, 28, 29, 30“ เพื่อนมีเพื่ออะไร”(Smuts), 116“ ภูมิปัญญาแห่งการต่อต้าน” (Kass), 162 Wiseman, Richard, 32 ความทรงจำในการทำงาน, 240–42 การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สงครามโลกครั้งที่สอง, 201–2, 251 ขบวนการศิลปะอังกฤษหนุ่ม (1990s), 204 เด็ก (BBC Broadcast), 15 Young, Pamela, 210–11 ound, Rabbi Roderick, 210, 211 Zoological Society of London Survey (2005), 51

เกี่ยวกับผู้เขียน Bruce M. Hood เป็นประธานศูนย์พัฒนาความรู้ความเข้าใจในภาควิชาจิตวิทยาการทดลองที่มหาวิทยาลัยบริสตอลเขาเป็นนักวิจัยที่เคมบริดจ์และเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มาเยี่ยมที่ MIT และศาสตราจารย์ที่ฮาร์วาร์ดฮูดได้รับรางวัลมากมายสำหรับงานของเขาในการพัฒนาเด็กและประสาทวิทยาศาสตร์เยี่ยมชมผู้เขียนออนไลน์ได้ที่ www.brucemhood.comเยี่ยมชม www.authortracker.com สำหรับข้อมูลพิเศษเกี่ยวกับผู้แต่ง HarperCollins ที่คุณชื่นชอบ

เครดิตที่ออกแบบโดย Sharon Vanloozenoord

ลิขสิทธิ์ Supersense: ทำไมเราถึงเชื่อในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อลิขสิทธิ์© 2009 โดย Bruce Hoodสงวนลิขสิทธิ์ภายใต้อนุสัญญาลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศและ Panamericanโดยการชำระค่าธรรมเนียมที่จำเป็นคุณได้รับสิทธิ์ที่ไม่ได้มีสิทธิ์และไม่สามารถถ่ายโอนได้ในการเข้าถึงและอ่านข้อความของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้บนหน้าจอไม่มีส่วนหนึ่งของข้อความนี้ที่จะถูกทำซ้ำส่ง, โหลด, decompiled, reverse, reverseed หรือจัดเก็บในหรือนำเข้าสู่การจัดเก็บข้อมูลและระบบดึงข้อมูลใด ๆ ในรูปแบบใด ๆ หรือโดยวิธีการใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องจักรคิดค้นโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก HarperCollins e-booksAdobe Acrobat ebook Reader กุมภาพันธ์ 2009 ISBN 978-0-06-186794-1 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1

เกี่ยวกับสำนักพิมพ์ออสเตรเลีย HarperCollins สำนักพิมพ์ (ออสเตรเลีย) Pty. Ltd. 25 Ryde Road (PO Box 321) Pymble, NSW 2073, ออสเตรเลีย http://www.harpercollinsebooks.com.au Canada Harpercollins, ON, M5R, 3L2, แคนาดา http://www.harpercollinsebooks.ca นิวซีแลนด์ Harpercollinspublishers (นิวซีแลนด์) จำกัด P.O.กล่อง 1 โอ๊คแลนด์นิวซีแลนด์ http://www.harpercollins.co.nz สหราชอาณาจักร Harpercollins สำนักพิมพ์ Ltd. 77-85 Fulham Palace Road London, W6 8JB, UK http://www.harpercollinsebooks.co.Inc. 10 East 53rd Street New York, NY 10022 http://www.harpercollinsebooks.com

Supersense: ทำไมเราถึงเชื่อในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ - ดาวน์โหลดฟรี PDF (2024)